ตอนที่ 6 ดาวกางเขนใต้
ตัวเลขที่แผ่นป้ายทองแดงขึ้นถึงหนึ่งล้านประตูดาวกางเขนใต้ก็เปิดออก
เป็นเหมือนกับว่าเขาอยู่ในท่ามกลางจักรวาลที่เต็มไปด้วยแม่น้ำดวงดาวระยิบระยับ เหมือนกับกรวดทรายในแม่น้ำ มีดวงดาวนับไม่ถ้วน ทันใดนั้น มีประกายแสงลอยออกจากแม่น้ำ (ในป้ายทองแดง) ตรงเข้าหาถังเทียน ประกายแสงขยายตัวใหญ่ขึ้น ขณะที่มาถึงตัวของเขา
จากนั้นเขาตระหนักได้ว่าประกายแสงนี้ก็คือดาวสี่ดวง
ดาวสี่ดวงลอยมาอยู่ต่อหน้าของเขาได้สร้างการเชื่อมต่อ ปรากฏเป็นรูปกางเขนที่ไม่ธรรมดา รอบๆ กางเขนมีแสงสว่าง รัศมีแสงสว่างฉายก่อตัวเป็นรูปประตูบานหนึ่ง และกางเขนนั้นเชื่อมต่อกับประตู
“ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและความขยันหมั่นเพียรดาวกางเขนใต้มีความหมายถึงประตูแห่งความพากเพียรฝึกฝนอย่างหนัก”
ด้านล่างของกางเขนมีอักษรเรืองแสงสิบหกตัวปรากฏอยู่ที่ประตู
“นี่คือความลับของแผ่นป้ายทองแดงหรือ?” ถังเทียนพึมพำ เขาจ้องกางเขนที่เรืองแสงด้วยความงุนงง
หลังจากผ่านไปห้าปี ในที่สุดเขาก็ทำลายรหัสของแผ่นป้ายทองแดงได้
แต่ สิ่งนั้นคืออะไรกันแน่?
เมื่อจ้องมองอย่างว่างเปล่าที่กางเขจนตรงประตูอยู่ครึ่งค่อนวันถังเทียนก็ไม่พบเงื่อนงำว่าเจ้าสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับอะไร
ทันใดนั้นเองเงาสีเทาหม่นรูปมนุษย์ร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากประตู
เป็นมนุษย์สีเทาที่ดูเหมือนถังเทียน
“เฮ้, แกเป็นใครกัน?” ถังเทียนพยายามถาม
เหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยิน บุรุษร่างสีเทาเริ่มการฝึกวิทยายุทธขั้นพื้นฐาน วิชาหมัดมวยพื้นฐาน, วิชาฝ่ามือพื้นฐาน, วิชาตัวเบาพื้นฐาน,
วิชาอาวุธลับพื้นฐานและวิชากระบี่พื้นฐาน ถังเทียนรู้สึกแปลก เหมือนกับว่าเขากำลังฝึกอยู่ในกระจกเงา
โดยทั่วไปกระบวนท่าพื้นฐานจะมีไม่มาก กระบวนท่าเหล่านั้นใช้เวลาฝึกฝนไม่นานและจนกระทั่งท่าสุดท้าย เมื่อถังเทียนคิดว่าจบการฝึกแล้ว มือซ้ายของบุรุษร่างเทาปล่อยเสียงออกมาดังเป๊าะ ขณะที่เขาใช้วิชาหมัดพื้นฐานในท่วงท่าดึงและก้าวเท้าอย่างฉับพลันรวดเร็วเขากระโดดและพลิกตัวกลางอากาศแล้วตวัดหมัดกลับอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเมื่อเขาต่อสู้เมื่อวานนี้ ตอนนี้พอเขาได้เห็นตัวเอง เขาสามารถรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอำมหิตที่ผ่านเข้ามา
เป็นท่วงท่าเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยม!
ถังเทียนคิดว่าบางท่าก็ช้าแต่รุนแรงอย่างคาดไม่ถึง
จงทำความเข้าใจวิธีสังหารของวิชาหมัดพื้นฐาน : หมัดย้อนทวนสังหาร
แถวตัวอักษรสีแดงลอยอยู่เหนือหน้าผากของบุรุษร่างเทา
ถังเทียนตื่นเต้นยิ่งขึ้นและโพล่งออกมา “เคล็ดสังหาร...”
เคล็ดสังหาร!
ท่าที่เขาเผลอใช้โดยบังเอิญก็คือกระบวนท่าสังหาร!
ถังเทียนตกตะลึง
การอยู่ที่สถาบันแอนดรูว์มาห้าปี ทำให้เขาไม่เคยคิดเลยว่าเคล็ดสังหารคืออะไร
ทุกๆ ท่าสังหารจำเป็นต้องเชี่ยวชาญในวิทยายุทธที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีด้วยพลังที่สูงส่งกว่าวิชาขั้นพื้นฐานมาก กล่าวโดยทั่วไปพลังของเคล็ดสังหารของวิทยายุทธมีพลังเทียบเท่ากับวิชาต่อสู้ระดับสูงขั้นที่หนึ่ง แต่กลับใช้พลังน้อยกว่ากันมาก
ดังนั้นสำหรับยอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญเคล็ดวิชาสังหาร ก็คือเป้าหมายที่ทุกคนต้องการไปให้ถึง
ในทางทฤษฎีมีความเป็นไปได้ที่จะใช้วิชาต่อสู้ใดๆ ก็ได้สร้างเทคนิคสังหาร แต่ในความเป็นจริงมีวิทยายุทธมากหลายที่ไม่มีเทคนิคสังหาร เพื่อจะปลุกเร้าเทคนิคสังหาร ผู้ฝึกต้องทำร้ายเข้มงวดตนเองและจะต้องเข้าใจและต้องเป็นอันหนึ่งเดียวกับวิทยายุทธที่มากหลาย ส่วนใหญ่โชคชะตาเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกต้องการ
ชื่อเคล็ดสังหารอาจฟังดูน่าประทับใจ แต่ถังเทียนรู้ว่ายังฟังดูอ่อนไปบ้าง ผู้คนไม่ค่อยเสียเวลากับวิทยายุทธระดับต่ำ และไม่จำเป็นต้องพูดถึงวิทยายุทธขั้นพื้นฐาน
บัตรพลังวิญญาณจะเพิ่มความเร็วในการเรียนรู้วิทยายุทธระดับใหม่ๆและมีแต่ผู้ร่ำรวยมั่งคั่งจึงจะสามารถใช้ได้ในการฝึกวิชาพลังภายในได้มากครั้งขึ้น
ด้วยระดับความแข็งแกร่งที่เพียงพอจะทำให้ผู้ฝึกใช้บัตรพลังวิญญาณระดับดีเยี่ยมกว่าและนี่เองจะอำนวยประโยชน์ให้ได้ฝึกวิทยายุทธระดับสูงขึ้น
ทันทีที่บุรุษร่างเทาจบกระบวนท่าสุดท้ายเขากลายเป็นเหมือนหุ่นกลและหยุดการเคลื่อนไหว
ริมฝีปากของถังเทียนกระตุกขณะที่เขามีแนวโน้มที่คิดว่าพวกเขาทั้งสองมีความสามารถที่เหมือนกัน
เหมือนกับจะได้ยินความคิดของเขาบุรุษร่างเทาสั่นขึ้นมา เพียงก้าวเดียวเขาก็ข้ามประตูแสงดาวกางเขนใต้
นี่คือ...
ถังเทียนประหลาดใจกับฉากภาพที่เหมือนจริง ภายในวินาทีเดียวบุรุษร่างเทาก็เดินออกมาจากประตู
บุรุษร่างเทาเงยศีรษะขึ้นใช้สายตาคมกริบมองไปรอบๆ
หือ?
เหมือนกับสัตว์ป่าพร้อมด้วยสัญชาตญาณสัตว์ป่าถังเทียนรู้สึกถึงความเป็นปรปักษ์อย่างฉับพลันจากบุรุษร่างเทา ผมหลังหัวเขาลุกชันทันที เขาบิดเอวอย่างรวดเร็วปรับท่าเท้ามั่นคงหันไปเผชิญกับคู่ต่อสู้ มือทั้งสองตั้งท่าพร้อมต่อสู้
บุรุษร่างเทาที่อยู่ต่อหน้าเขาก็ตั้งท่าเหมือนกับเขา
ถังเทียนผ่านการต่อสู้มาแล้วหลายครั้งก็เข้าใจได้ทันทีว่าเขาไม่สามารถหลบหนีการต่อสู้ครั้งนี้ได้
เขาหรี่ตาโดยไม่มีความเสียใจแม้แต่น้อย กลับรู้สึกดีใจ นี่ชัดเจนมาก เขาคิดว่าบุรุษร่างสีเทานี้คือกุญแจไขความลับแผ่นป้ายทองแดง ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือเอาชนะบุรุษร่างสีเทาเพื่อรับเอาความลับนั้น
เข้ามาเลย พ่อหนุ่ม!
ฉันรอวันนี้มาห้าปีแล้ว!
ถังเทียนเลียริมฝีปากใช้พลังส่วนขาเหมือนกับว่าเขาเป็นเสือดาว เขากระโจนเข้าหาบุรุษร่างเทาไวราวกับประกายไฟ
บุรุษร่างเทาก็ทำอย่างเดียวกัน
ทั้งสองคนอยู่ไม่ห่างกันนัก
หมัดปะทะหมัด
แรงปะทะที่รุนแรงส่งผ่านออกมาจากพลังหมัด ถังเทียนยังคงยืนนิ่งเขาเบิกตาโพลงด้วยความประหลาดใจ พลังหมัดช่างรุนแรงมาก
เขาสู้กับอาโมรี่มาสองครั้งแล้วและดูเหมือนหมัดขว้างของอาโมรี่จะมีพลังหนักหน่วงรุนแรง แต่หมัดนี้กลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิงหมัดที่ใช้ออกโดยบุรุษร่างเทานั้นเต็มไปด้วยแรงปะทุของพลัง
ความถี่ของการปะทะหมัดและลูกเตะของทั้งสองน่าทึ่งผิดธรรมดา เสียงแรงกระแทก ท่ามวยหมัดและเท้าที่ระดมใส่กันราวกับห่าฝนที่รุนแรง
วิชาหมัดมวยพื้นฐาน,เพลงกระบี่พื้นฐาน, อาวุธลับพื้นฐาน, วิชาตัวเบาพื้นฐานและพลังฝ่ามือขั้นพื้นฐาน
ความถี่ในการเอาวิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานทั้งห้ามาใช้นั้นน่าประทับใจ พวกเขานำมาใช้ต่อสู้ทั้งรุกและรับอย่างดุเดือด
พอสิบรอบต่อมาถังเทียนก็ยังเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้นับเป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยถูกเล่นงานย่ำแย่มาก่อน แต่เมื่อเป็นวิชาต่อสู้พื้นฐานทั้งห้านี้ เขามิได้ด้อยกว่าใคร
นี่คือการแข่งขันที่แท้จริงสำหรับเขา
บุรุษร่างเทาให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาด เหมือนกับถังเทียนกำลังต่อสู้กับตนเอง ทุกครั้งที่เขาจู่โจม บุรุษร่างเทาก็ทำท่าคล้ายกัน แม้ว่าถังเทียนพยายามใช้วิธีโจมตีที่แหกกฎเกณฑ์ แต่บุรุษร่างเทาก็หลบเลี่ยงการโจมตีได้ทั้งหมด
ถังเทียนถึงกับท้อแท้
เขามีเหตุผลสนับสนุนที่ดีว่าทำไมเขาถึงเก่งในการต่อสู้ก็คือประการแรก เขามีคุณสมบัติที่โดดเด่นประกอบกับฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานมาเป็นเวลานานและร่างกายของเขามีสัดส่วนที่ดีต่อการฝึกฝน ทั้งความสามารถไหวพริบตอบโต้และการเคลื่อนไหวดีกว่าคนทั่วไปมาก เทียบกับอาโมรี่ผู้มีร่างกายล่ำสันน่ากลัวพลังของถังเทียนเป็นรองแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ในแง่ความคล่องแคล่ว ปฏิกิริยาโต้ตอบ เขาเหนือกว่า
วิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานแทบไม่ต้องใช้พลังที่แท้จริง ส่วนใหญ่จะพึ่งพากำลังกายภายนอกเสียมากกว่า
ประการต่อมาวิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานของเขาได้รับการขัดเกลาครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าวิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานจะเป็นวิชาขั้นต่ำที่สุดและมีพลังน้อยมากประกอบด้วยท่วงท่าที่เรียบง่ายและรวดเร็วเนื่องจากเขาคุ้นเคยกับการฝึกวิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานมากขึ้น ใช้เวลาโจมตีได้น้อยมากด้วยเงื่อนไขร่างกายที่ได้เปรียบของถังเทียน จึงทำให้เขามีพละกำลังมาก
นอกจากนี้ แม้ถังเทียนอาจดูเหมือนเป็นคนง่ายๆ แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาสู้ เขาจะเหี้ยมหาญจริงจังประสบการณ์ในชีวิตประจำวันบางครั้งก็ทำให้เขาบาดเจ็บ แต่นักเรียนพวกนั้นผู้ที่ยังไม่ผ่านการต่อสู้สักครั้งพากันถอยหนีอย่างขลาดเขลา
เหตุผลทั้งหลายแหล่เหล่านี้ทำให้เขาเป็นจอมป่าเถื่อนอยู่ในสถาบันแอนดรูว์แม้กระนั้นเขาก็ยังถือว่าไม่มีอะไรเลยเมื่อมาเผชิญหน้ากับบุรุษร่างเทา ในแง่ของความแข็งแกร่งและความเร็วบุรุษร่างเทามิได้ด้อยกว่าถังเทียนเลย ความคุ้นเคยกับวิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานก็บริบูรณ์เช่นกัน และในแง่ของความเหี้ยมหาญ บุรุษร่างเทาไม่รู้จักความเมื่อยล้า ความเจ็บปวดและแข็งแกร่งมากกว่าถังเทียน
เงาร่างทั้งสองสัมผัสปะทะกันในชั่ววินาทีจากนั้นก็แยกกันอีก แล้วบุกใส่กันเองอย่างต่อเนื่อง ความเร็วในการโจมตีของทั้งสองนั้นรวดเร็วมาก บางทีก็สู้ในพื้นที่ปิดเล็กๆ จากนั้นก็ไปอีกที่พวกเขากลับมาอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งและระดมหมัดเพื่อโค่นล้มอีกฝ่าย และด้วยท่าสกัดที่รวดเร็วอย่างน่าประหลาด ทั้งสองเคลื่อนไหวรวดเร็วเหมือนเงา
ถังเทียนคำรามด้วยความโกรธ เขาโจมตีและเตะตัดอย่างต่อเนื่อง
แฮก.. แฮก... แฮก
ถังเทียนหอบและถลึงตาใส่บุรุษร่างเทาและระงับอารมณ์ที่จะปล่อยหมัดใส่เขาขณะที่ทั้งเจ็บทั้งชาที่สำคัญที่สุดก็คือการสู้ครั้งนี้สิ้นเปลืองพลังมากเกิน เขาสามารถรู้สึกได้ถึงพลังที่เขาปล่อยออกไป แต่บุรุษร่างเทาไม่มีท่าทีเหนื่อยล้า
เขาถือโอกาสช่วงปะทะหมัดเมื่อครู่นี้เขาดึงตัวเองถอยห่างจากบุรุษร่างเทาและถือโอกาสพักหายใจ
เขาควรจะสู้กับเจ้านี่อย่างไรดี?
คำถามเกี่ยวกับสิ่งที่บุรุษร่างเทานี้มีได้ถูกย้อนกลับมาในใจของถังเทียน ตอนนี้เขามีคำถามเดียวในใจ ทำอย่างไรถึงจะเอาชนะเจ้าบัดซบนี่ได้
บุรุษร่างเทาไม่ได้โจมตี แต่กลับจ้องมองถังเทียนอย่างเย็นชา บุรุษร่างเทาไม่มีท่าทีเหนื่อยล้า ไม่มีบาดแผลใดๆ เขาเหมือนกับจะอยู่ยงคงกระพัน
จะเอาชนะเขาให้ได้
ตราบใดที่เขาพ่ายแพ้ ความลับของแผ่นป้ายทองแดงจะถูกเปิดเผย
ราวกับว่ามีเสียงโหยหวนในใจเขาถังเทียนกำหมัดและชูเหนือหัว สายตาของเขากลายเป็นแหลมคม
ใช้เวลาห้าปีตลอดเวลาห้าปี ห้าปีที่ยากลำบากมาตลอดเพื่อความลับที่อยู่ในแผ่นป้ายทองแดง
ความลับที่อยู่ต่อหน้าเขา... ตราบใดที่เขาเอาชนะบุรุษร่างเทาได้
เหมือนกับว่าเขารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในถังเทียน บุรุษร่างเทาตั้งท่าป้องกัน
เอาชนะเขาให้ได้
ถังเทียนคลายหมัดตนเองเล็กน้อยและกำหมัดแน่นเกือบทันที โดยไม่มีการเตือนเขาขยับเท้าและพุ่งเข้าใส่บุรุษร่างเทาราวกับสายฟ้า
บุรุษร่างเทารู้ดีจึงไม่กลัวค่อยต้านรับเขาอย่างใจเย็น
หมัดปะทะกับหมัด
ทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อสู้ประมือกันอีกคราไม่ต้องใช้ทักษะมากมายนัก ทั้งสองสู้กันอย่างคล่องแคล่วและตรงไปตรงมาความเร็วปะทะกับความเร็ว ถังเทียนเปลี่ยนแปลงสภาพจิตใจเขา เขาเริ่มบุกใส่อีกราวกับว่าเพิ่งได้รับพลังมาใหม่
ความเร็วปะทะความเร็ว หมัดปะทะหมัด นัยน์ตาของบุรุษหนุ่มมีเปลวไฟลุกโชน
ทันใดนั้น เปลวเพลิงหรี่ลง
เคล็ดสังหาร – หมัดย้อนทวนสังหาร
ถังเทียนอยู่ในกลางอากาศบิดพลิกตัวอยู่ในตำแหน่งที่แปลกประหลาดตวาดลั่นขณะระเบิดพลังที่กักเก็บอยู่ในหมัดออกไป
ขณะเดียวกันบุรุษร่างเท่าก็กระโดดในท่าเดียวกัน และปล่อยหมัดย้อนทวนออกไปเหมือนกัน
หมัดที่ทรงพลังทั้งสองฝ่ายส่งเสียงดังหวีดหวิวเหมือนกับดาวตกปะทะกันในทันใด
พอแน่ใจว่า... เขาคิดเหมือนกับเราแน่...
ถังเทียนยิ้มมุมปากอย่างลี้ลับทันที เหมือนกับว่าเขามีแผนเป็นมั่นเหมาะ
เป็นอย่างนี้จริงๆด้วย....
หมัดของทั้งสองฝ่ายปะทะกันเหมือนแต่ก่อน ทันใดนั้นถังเทียนเบนหมัดของเขาและแบฝ่ามือรับหมัดของบุรุษร่างเทา ผ่อนกำลังแขนขวาและรวบหมัดของบุรุษร่างเทาไว้
ทั้งสองฝ่ายรวดเร็วมากขณะใช้แรงหนุนดันไปข้างหน้าด้วยการเคลื่อนไหวอย่างนั้นเองทำให้พวกเขาทั้งสองสูญเสียสมดุลลอยขึ้นในอากาศ
ถังเทียนเตรียมตัวพร้อมแล้วแม้ว่าเขาสูญเสียสมดุล เขาไม่คลายมือที่จับแขนบุรุษร่างเทาแน่น ทันใดนั้นเขาปล่อยพลังจากเอวเต็มที่
ถังเทียนใช้ร่างของเขาเป็นแกนหมุนยกตัวบุรุษร่างเทาขึ้นเหนือหัวเหมือนกระสอบทราย
“ฮะฮะฮะฮะ!”
ถังเทียนแสดงสีหน้าที่น่ากลัวและคำรามเหมือนสัตว์ป่าเกร็งพลังทั้งหมดไว้ที่ร่างผ่านไปถึงมือแล้วทุ่มบุรุษร่างเทาลงพื้นอย่างดุดัน
บึ้ม!
พื้นสั่นสะเทือนและผงฝุ่นฟุ้งกระจาย
ขณะยังลอยอยู่ในอากาศถังเทียนยืมกำลังจากการใช้พลังแขนเพื่อพยุงตัวเขาไว้ เขาจ้องมองลงมารู้ตัวว่าตนเองได้เปรียบและเริ่มร่วงลงมาบนพื้น ถังเทียนไม่ทันได้คิดอะไร ปล่อยพลังจากฝ่ามือยืมแรงร่วงจากแรงโน้มถ่วงโลกงอข้อศอกจนดูเหมือนขวานเล่มหนึ่งและกระทุ้งข้อศอกเข้าที่ท้องของบุรุษร่างเทาอย่างรุนแรง
บุรุษร่างเทาตัวงอจากแรงกระแทกจนดูเหมือนกุ้งตัวหนึ่ง
ความเข้าใจเคล็ดสังหาร – หักศอกสังหาร
แววตาที่ลุกโชนของถังเทียนทำให้เขาไม่ทันสังเกตถ้อยคำที่ปรากฏอยู่บนประตู เขาไม่อยากจะเลิกสู้ในทันทีและหันไปเผชิญหน้ากับบุรุษร่างเทาต้องการจะสู้ต่ออีก
ปัง!
บุรุษร่างเทาที่อยู่บนพื้นจู่ๆก็กลายเป็นฝุ่นหมอกและจางหายไป
เอ๊ะ?
ถังเทียนหมดอารมณ์ต่อสู้แต่ก็ยังตรวจดูพื้นที่ทั้งหมด เขามีเนื้อตัวเปรอะเปื้อนฝุ่นมองหาอยู่ครึ่งค่อนวัน แต่บุรุษร่างเทาก็ยังไม่กลับมา ขณะที่เปลวเพลิงในดวงตาเขาค่อยๆ มอดลงเขากลับไปที่ประตูแสงดาวกางเขนใต้เพื่อมองหาบุรุษร่างเทา แต่บุรุษร่างเทากลับมายืนอยู่ข้างในเหมือนกับรูปปั้นโดยไม่มีการขยับเลยสักนิ้วเดียว
“บังอาจท้าทายฉันเหรอ, ฉันจะโยนแกกลับเข้าไปในประตูและอัดให้เละ” ถังเทียนตบบุรุษร่างเทาอย่างฉุนเฉียว
ยามนี้เองดาวกางเขนที่ลอยอยู่ในอากาศก็ค่อยๆ แยกเปิดออกเหมือนกับประตู