ตอนที่แล้วตอนที่ 3 กระทิงบ้าอาโมรี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 อย่ายอมแพ้!

ตอนที่ 4 เหตุการณ์ไม่คาดคิด


การโจมตีที่ดุดันของถังเทียนรวดเร็วขึ้นขณะที่อกของเขาร้อนเหมือนถูกไฟแผดเผาทุกท่วงท่าเคลื่อนไหวของเขาดูเรียบง่าย หลังจากฝึกฝนเพลงยุทธขั้นพื้นฐานมาเป็นร้อยเป็นพันครั้ง ท่วงท่าทั้งหมดกลับเคลื่อนไหวไปตามสัญชาตญาณของถังเทียน

มือของเขาขยับเคลื่อนไหวได้เร็วกว่าที่สมองของเขาจะสั่งการเสียอีก

เป๊าะ เป๊าะ เป๊าะ

สายตาของอาโมรี่ลุกโชนด้วยความหลงใหล เขารู้ได้ชัดว่าความเร็วของถังเทียนยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุด

ไม่มีข้อกังขาใดๆ แน่แท้ เขาคือคนแซ่ถังผู้มีพื้นฐานสมบูรณ์แบบ

ในทันทีนั้น ความเร็วของถังเทียนก็ถึงขีดจำกัดตามทฤษฎีของวิทยายุทธขั้นพื้นฐาน ความเร็วนั้นรวดเร็วมากเสียจนปรากฏเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ทับซ้อนกันในอากาศที่เบาบาง

ภาพติดตาภาพแล้วภาพเล่าทับซ้อนเหมือนน้ำท่วมไหลบ่าใส่อาโมรี่

อาโมรี่ตื่นเต้นเหมือนกับว่าสิ่งที่เขาเห็นด้วยสองตาตนนั้นไม่สามารถอธิบายได้

เขาไม่ได้สนใจถังเทียนเพราะเขารู้สึกเบื่อหน่าย  แต่ตั้งแต่แรกที่พวกเขาพบกัน เขาจะรู้สึกสมใจทุกครั้งที่พวกเขาประมือกัน อาโมรี่ได้รับประโยชน์มากมายหลังจากที่ได้ประมือกันในแต่ละครั้ง

ไม่มีผู้ใดสนใจในวิทยายุทธขั้นพื้นฐาน ก็เหมือนกับคนอื่นๆ อาโมรี่ไม่ได้สนใจวิทยายุทธขั้นพื้นฐานจนกระทั่งได้พบกับถังเทียน

ทุกคนรู้ว่าการฝึกฝนพลังภายในจะสำคัญกว่าการฝึกฝนวิทยายุทธภายนอก แต่วิชาต่อสู้ในระดับที่สูงก็ยังสำคัญมากกว่าวิทยายุทธในระดับต่ำ

ตราบใดที่พวกเขายังฝึกฝีมือผ่านการใช้บัตรวิญญาณการเรียนรู้วิชาการต่อสู้ก็เป็นเรื่องง่าย การคร่ำเคร่งอยู่กับวิชาต่อสู้ระดับต่ำเป็นเรื่องที่เสียเวลา อาโมรี่กำลังฝึกฝนวิทยายุทธสายธาตุดินขั้นที่สามดาบทลายศิลา

ครั้งที่เขาได้พบถังเทียน เขารู้สึกพอใจมาก อาโมรี่ใช้วิทยายุทธขั้นพื้นฐานซ้อมมือกับถังเทียน และเขาก็แพ้ตามคาด

เป็นครั้งแรกที่อาโมรี่พ่ายแพ้ย่อยยับ เขาไม่เคยถูกกระหน่ำอย่างหนักมาก่อน แม้แต่ตอนที่สู้กับยอดฝีมืออย่างเหลียงชิวในสถาบันเหมิ่งโซ่ว

หลังจากที่เขากลับไป เขาพบความจริงอย่างหนึ่งก็คืออาการคอขวดหรือชะงักงันในการฝึกฝนของเขาที่เป็นมานานมีสัญญาณคลายตัวอาโมรี่ดีใจจนเนื้อเต้น แม้จะมีบางอย่างที่น่าสงสัย แต่เขาก็เริ่มไตร่ตรองหาสาเหตุ

ทั้งนี้เพราะการทำลายอุปสรรคคอขวดนั้นสำคัญต่อเขา

สองวันต่อมา เขาก็เข้าใจได้ในที่สุด การซ้อมมือกับถังเทียนคือเหตุผลที่ทำให้อาการคอขวดของเขาคลายตัวได้อย่างคาดไม่ถึง

อาโมรี่ไม่มั่นใจเต็มร้อย ดังนั้นเขาจึงวิ่งมาที่สถาบันแอนดรูว์เพื่อซ้อมมือกับถังเทียนอีกครั้ง แล้วก็โดนเล่นงานเจ็บตัวอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การสู้กันครั้งนี้ช่วยยืนยันข้อสันนิษฐานของเขา การซ้อมมือกับถังเทียนครั้งนี้ทำให้อาการคอขวดของเขาคลายตัวออกได้อย่างแน่นอน

อาโมรี่เป็นคนประเภทดันทุรัง ตั้งแต่ตอนแรกก็ตามถังเทียนและท้าต่อยตี อย่างไรก็ตามครั้งนี้จะต่างจากในอดีตที่เขาไปตามหาถังเทียนที่บ้านแต่กลับมาตามหาเขาที่สถาบันแอนดรูว์แทน

หลังจากต่อยตีกันหลายครั้งหลายครา อาโมรี่ก็พบเหตุที่ทำให้อาการคอขวดของเขาคลายตัว เป็นเพราะวิทยายุทธขั้นพื้นฐานนั่นเอง! เขาแน่ใจว่ายิ่งทำความคุ้นเคยกับวิทยายุทธขั้นฐานมากเท่าใดพลังของวิชาผ่าปฐพีก็มากขึ้นเท่านั้น

อาโมรี่ทำลายอาการคอขวดได้สำเร็จโดยไม่รู้ตัวแต่เขาไม่เคยหยุดตามหาถังเทียนมาซ้อมมือเลย

เขามีพลังที่น่ากลัวมากกว่าและว่ากันในแง่ของวิชาต่อสู้ ถังเทียนไม่ใช่คู่มือของเขา วิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานไม่ใช่เรื่องยากสำหรับอาโมรี่  เขาไม่ใส่ใจถึงมันด้วยซ้ำ  แต่หลังจากประลองกันผ่านมาสองสามครั้ง พื้นฐานวิทยายุทธของอาโมรี่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด

เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เขาจะเอาชนะถังเทียนไม่ได้

เขาไม่อาจเอาชนะได้เลยสักครั้ง

เจ้าบ้าถังเทียนใช้วิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานกดหัวเขาไว้ได้ตลอด

อาโมรี่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาคือยอดฝีมือของสถาบันเหมิ่งโซ่วแต่ไม่สามารถเอาชนะนักเรียนของสถาบันแอนดรูว์ที่มีระดับต่ำกว่าได้ ถ้าเรื่องเช่นนี้ได้ยินถึงหูคนอื่น จะเป็นเรื่องขายหน้าขนาดไหน ทุกคนรู้วิธีใช้วิทยายุทธขั้นพื้นฐาน ยิ่งกว่านั้น เขายังใช้เวลามากมายกับมัน  แต่เขายังคงแพ้ได้ยังไงกัน?

ส่วนถังเทียนไม่ได้คิดมากขนาดนั้น ในสายตาของเขา อาโมรี่ทำตัวไร้ประโยชน์ แม้ว่าเขาจะดูเหมือนกระทิง แต่ก็ชอบทำตัวเหมือนแมลงวันสร้างความรำคาญให้กับเขา

สิ่งที่ไม่น่าให้อภัยมากยิ่งกว่าก็คือเจ้าวัวบัดซบนี้พยายามจะตีกระทบเชียนฮุ่ย

เขาจึงระเบิดอารมณ์โกรธที่มิอาจควบคุมได้ออกมา

แน่นอนว่า อาโมรี่ก็เตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว ไม่ว่าถังเทียนจะโจมตีดุดันเพียงใดก็ตาม อาโมรี่ก็ยืนหยัดอยู่ได้ เห็นได้ชัดว่า อาโมรี่ใช้เวลากับวิทยายุทธพื้นฐานมากขึ้น ดังนั้นมาตรฐานของเขาจึงแทบคล้ายกับถังเทียน

เพื่อเข้าสู่การฝึกฝนระดับสูง ผู้ฝึกต้องเริ่มต้นที่วิชาต่อสู้ระดับต่ำก่อน นี่ไม่ใช่เรื่องยาก นี่เองเป็นสาเหตุให้ถังเทียนถูกเยาะเย้ยเนื่องจากฝึกวิทยายุทธพื้นฐานมาถึงห้าปี

ทั้งสองตกอยู่ในสภาพยันกันไปมา

ทั้งสองคนมีคุณสมบัติที่โดดเด่น เรี่ยวแรงของอาโมรี่เป็นเหมือนมือขวาของเขา ขณะที่ถังเทียนมีความเร็วและท่วงท่าที่สง่างามเป็นจุดแข็งแกร่งของเขา

พลังโจมตีของถังเทียนค่อยๆ หลุดพ้นจากการควบคุมของเขา และเข้าสู่สภาวะที่แปลกประหลาด

ความจริงการโจมตีของเขาจะว่องไวกว่าความคิดของเขาเสียอีก

นี่เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนพบกับสภาวะดังกล่าว ตามธรรมดาแล้ว เขาคงจะประหลาดใจ แต่ตอนนี้ เขาหลุดออกจากสภาวะของเขาและลืมตัว

ถังเทียนถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว เขากำลังใช้ความเร็วในระดับที่ตรวจสอบไม่ได้

อาโมรี่สามารถรู้สึกได้ถึงแรงกดดัน

สิ่งแรกที่เข้ามาในใจของเขาคือ ตะลึง นี่เป็นไปไม่ได้

นี่มันขีดจำกัดอะไรกัน? เป็นไปไม่ได้ที่คนจะทำลายขีดจำกัดได้ ตามทฤษฎี ขีดจำกัดเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะได้

เว้นแต่ถังเทียนได้ฝึกฝนวิชาพลังทางจิตขั้นที่สามและเพิ่มศักยภาพของเขา จากนั้นมันอาจช่วยให้เขาเอาชนะเหนือขีดจำกัดของวิทยายุทธได้

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายประมือกันมานับครั้งไม่ถ้วน เขาเข้าใจถังเทียน เขาต้องฝึกฝนทักษะยุทธระดับสอง เพาะบ่มลมปราณและเขาค่อนข้างจะเชี่ยวชาญมากขึ้น

ขณะที่อาโมรี่แบ่งแยกสมาธิไปชั่ววินาที นัยน์ตาของถังเทียนแว่บเป็นประกาย ร่างกายที่มีโครงสร้างใหญ่กลายเป็นเหมือนแมวปราดเปรียว  เขาตั้งหลักกับพื้นมั่นและไล่ตามตามอาโมรี่

อาโมรี่ตะลึงใช้มือซ้ายคว้าจับโดยไม่รู้ตัว

มือซ้ายของถังเทียนปะทะกับมือซ้ายของอาโมรี่และด้วยเคล็ดวิชาหมุนวน ของการต่อสู้พื้นฐาน เขาใช้พลังนี้เพื่อที่ร่างกายของเขาจะเคลื่อนไหวได้ไหลลื่นเหมือนปลา นอกจากนี้เขายังมีการเคลื่อนเท้าที่รวดเร็ว เขาสำเร็จท่าสามย่างก้าวสลายที่เป็นวิชาตัวเบาขั้นพื้นฐาน “ย่างเท้าสลาย”

เขามาปรากฏตัวที่ด้านซ้ายของอาโมรี่เหมือนกับภูตพราย บิดตัวและปล่อยหมัดขวา

“ตาย!”

สิ้นเสียงตวาด พลังที่ส่งผ่านเอวเข้าสู่ข้อมือ เขาใช้ประโยชน์จากกายท่อนบนขว้างหมัดออกไป

หมัดนี้ปล่อยออกมาเร็วมาก

เหมือนกับดาวตก

อาโมรี่ตกใจเอนตัวไปทางด้านขวา

หมัดของถังเทียนพุ่งโค้งปะทะเข้าไหล่ซ้ายของอาโมรี่

พลังที่รุนแรงถูกปล่อยออกมา และอาโมรี่ถึงกับสีหน้าเปลี่ยน ไม่ทันเสียแล้วเขาปลิวไปตามแรงหมัด

ปัง!

อาโมรี่กระแทกกับพื้นและกลิ้งหลุนๆ ไปเหมือนกระสอบทรายไกลอย่างน้อย 7 - 8 เมตรก่อนจะหยุดนิ่ง

สนามฝึกฝนเต็มไปด้วยบรรยากาศเงียบเหมือนป่าช้า และทุกคนล้วนมีสีหน้าตกใจกันหมด

ท่ายืน ก้าวย่างที่งามสง่าและหมัดที่ทรงพลังของเขา  ถังเทียนอยู่ต่อหน้าไม่ห่างจากพวกเขา อาโมรี่นอนอยู่กับพื้น เป็นภาพที่แปลกประหลาดมาก

นี่....นี่... นี่มัน...

เสียงซุบซิบแว่วมา

ถังเทียนแค่คิดว่าโลกช่างสงบเหลือเกิน ถึงขนาดได้ยินเสียงซุบซิบและเสียงลมหายใจ จิตสำนึกของเขาค่อยๆ กลับมารวมตัว ในที่สุดถังเทียนก็รู้สึกตัว

เสียงดังรอบตัวทำให้เขาอึ้งไปชั่วขณะเหมือนคนหูหนวก

“เฮ... เฮ... เฮ....”

“โอว..พระเจ้า! พระเจ้าช่วย! สวรรค์!”

“ข้าตาฝาดหรือเปล่า? ข้าต้องตาฝาดแน่ๆ...”

“ถัง... เทียน.... เฮ้... เฮ้...”

….

อาโมรี่พยายามลุกขึ้นยืน ขณะที่ใบหน้ามีแววงุนงงสับสน แขนเขาไม่มีความรู้สึกเหมือนกับว่ามันชามากหรืออาจจะหักก็ได้

เป็นไปได้อย่างไร? เขาทำลายขีดจำกัดของตนเองได้ยังไง?

“ถังเทียน!” อาโมรี่มองดูถังเทียนอย่างคลั่งไคล้ และขึ้นเสียง “มาเถอะ มาเข้าร่วมสถาบันเหมิ่งโซ่วของฉัน  นายมันอัจฉริยะชัดๆ นายไม่ควรจะเสียเวลาอยู่ที่นี่! มาเข้าสถาบันเหมิ่งโซ่วเถอะ คนแซ่ถังผู้มีพื้นฐานสมบูรณ์แบบ นายจะต้องโด่งดังแน่นอน!”

“เหลวไหล!” ถังเทียนเบิกตากว้าง แต่ไม่ขยับสักนิดและด่าว่า “เจ้าวัวบ้า!นายพยายามหลอกฉันให้ไปเข้าสถาบันเหมิ่งโซ่วหักๆ พังๆ จากนั้นก็นั้นก็ย้อนกลับมาแย่งชิงเชียนฮุ่ยน่ะสิ อย่าฝันหวานไปเลยฉันมองเห็นแผนการนายแล้ว”

“ถังเทียน!ผู้หญิงจะมีค่าอะไร! ในฐานะที่เป็นลูกผู้ชาย  สิ่งที่สำคัญก็คือค้นหาตัวเองตามวิถีเต๋า!  มาเถอะ, มาที่สถาบันเหมิ่งโซ่วสองเราจะร่วมมือกันค้นหาวิถีวิทยายุทธใหม่ นี่จะน่าตื่นเต้นเพียงไหน...”  อาโมรี่ยังไม่ยอมท้อเขาเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น

“เฮอะ!” ถังเทียนไม่ยอมขยับและพูดอย่างเหยียดหยามว่า “เจ้างี่เง่านี่ ยังกล้าใช้แผนต่ำแบบนี้กับฉัน นายไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”

“ถังเทียน!นายแน่ใจได้เลยว่าฉันไม่ยอมแพ้แน่!” อาโมรี่คำรามด้วยสายตาเกรี้ยวกราด

“เออ, เจ้าวัวโง่! ขอเตือนนายเลยนะ ถ้านายยังมีความคิดไม่ดีกับเชียนฮุ่ย, ฉันจะลุยนายจนกว่านายจะกลายเป็นลูกชิ้นเนื้อวัว” ถังเทียนเตือนเขาอย่างรังเกียจ

“นายมันก็เป็นผู้ชายไม่เอาไหนล่ะวะ”

อาโมรี่จ้องถังเทียนอยู่นาน ก่อนที่จะหันกายจากไป

“เดี๋ยวก่อน!” จู่ๆ ถังเทียนก็ตะโกนขึ้น

อาโมรี่หยุดเดินหันหน้ามาด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด“จอมยุทธถังผู้สมบูรณ์แบบ ฉันรู้ดีนายมีเรื่องวิทยายุทธอยู่เต็มหัวใจและไม่ยินดีจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข มาร่วมสานต่อวิชาต่อสู้ร่วมกับฉันเถอะ..”

“เฮ้ย, ช่วยฉันสักนิดเถอะ” ถังเทียนยังอยู่ในท่าที่สง่างามไม่ขยับสักนิดและแค่นเสียงเย็นชา “ช่วยบิดเอวฉันให้หน่อย เส้นมันยึด ตอนนี้เจ็บเป็นบ้าเลย  สงสัยคงเจ็บไปอีกสองสามวัน...”

อาโมรี่เหงื่อตก

※※※※※※※※※※※※※

ขณะที่ถังเทียนกับอาโมรี่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดบรรยากาศในห้องครูใหญ่ดูน่ากลัว

“ผมละตกใจที่รู้ว่าโรงเรียนของคุณยังมีนักเรียนกากเดนอย่างนั้นอยู่อีก” ชายวัยกลางคนจมูกแดงควงแขนข้างขวาตะโกนอย่างเดือดดาล “ผมนึกไม่ถึงเลย!ตระกูลผมสนับสนุนการเงินให้กับสถาบันแอนดรูว์มาตั้งแต่ยุคปู่ของผมในแต่ละปีพวกเขาให้เงินสนับสนุน แต่กลับต้องมาพบเรื่องสะเทือนใจกลับมาอย่างนี้ กล้าดียังไงถึงได้รับนักเรียนสวะที่นิสัยต่ำทรามน่ารังเกียจอย่างนั้น เขาอยู่ในสถาบันแห่งนี้มาห้าปีเต็ม อย่าบอกผมนะว่าสถาบันแอนดรูว์ตกต่ำขนาดนี้ คุณเป็นอาจารย์ใหญ่ คุณต้องรับผิดชอบเต็มที่”

ด้านข้างบุรุษวัยกลางคนเป็นเด็กที่ใบหน้าบวมปูดยืนอยู่เขาดูเหมือนจะเป็นคนหยิ่งยโส เขาคือนักเรียนที่ถังเทียนลงมือสั่งสอนที่ทางเข้าสถาบัน ถังเทียนไม่รู้ว่าเด็กคนที่เขาลงมือสั่งสอนนั้นเป็นลูกหลานตระกูลโจวชื่อว่าโจวเผิง

ตระกูลโจวเป็นตระกูลที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ในเมืองซิงฟง พวกเขาเกี่ยวข้องกับเมืองซิงฟงมานานร้อยปีแล้วและยังมีสายสัมพันธ์ไปทุกที่  ขณะที่บุตรชายของเจ้าบ้านตระกูลโจวกำลังจะเดินเข้าประตูโรงเรียนเขาถูกใครบางคนซ้อมเกือบตาย นี่ทำให้ตระกูลโจวถูกชาวเมืองซิงฟงหัวเราะเยาะได้

คุณชายตระกูลโจวสามารถเอาเปรียบสาวๆคนใดในประเทศก็ได้ อาจเป็นจอมบงการทำกับคนอื่นเหมือนตัวหนอน แต่ต้องไม่ถูกคนอื่นทำให้ขายหน้า

เจ้าบ้านตระกูลโจวโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างเห็นได้ชัด เดิมทีเขานำลูกชายมาเข้าที่สถาบันแอนดรูว์ ก็เพราะที่นี่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของตระกูลโจว ไม่ว่าตระกูลใดก็ต้องการฝึกลูกชายตนให้เติบโตเป็นช่วงเวลาของการลงทุนในประวัติศาสตร์ตระกูลโจวร้อยปี ได้บริจาคให้กับสถาบันแอนดรูว์ไม่เคยขาด

อาจารย์ใหญ่ยังคงยิ้มประจบประแจงเต็มหน้าตลอดเวลา แม้จะมีน้ำลายของบุรุษวัยกลางคนเปรอะอยู่บนใบหน้าก็ตาม แต่เขาไม่กล้าล่วงเกินบ่อเงินบ่อทองที่อยู่ต่อหน้าเขา ถ้าจู่ๆ โรงเรียนต้องสูญเสียรายได้ไป เขาก็คงถูกปลดออกจากตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ในเวลาไม่นาน

หลังจากด่าว่านานเกือบชั่วโมงในที่สุดบุรุษกลางคนก็หยุด เขาใจเย็นลงแล้วและพูดกับอาจารย์ใหญ่ว่า “ไม่ว่ายังไงก็ตาม ลูกชายผมเกือบถูกฆ่าตายในสถาบันที่ตระกูลโจวให้ทุนสนับสนุน จริงไหม?  นี่เป็นการพยายามฆ่าชัดๆ ผมยอมรับเรื่องเช่นนี้ไม่ได้ ตระกูลโจวก็ยอมไม่ได้เช่นกัน คุณต้องอธิบายเรื่องนี้ให้ตระกูลโจว”

หลังจากเขาพูดเช่นนั้นออกมาโดยไม่มองหน้าอาจารย์ใหญ่ บุรุษวัยกลางคนก็หมุนตัวพาโจวเผิงออกไป

อาจารย์ใหญ่สีหน้าหม่นหมองและตะโกนลั่น “เอาตัวถังเทียนมาที่นี่!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด