ตอนที่ 21 มาใช้ชีวิตคนกลางคืนด้วยกัน
ในค่ำวันต่อมา เป้าหมายเย่ว์หยางคือ นักสู้ชั้นวีรบุรุษขั้นกลาง ระดับ 3 นามเถี่ยขวง
เจ้าผู้นี้เป็นหัวหน้าของหยานฉือ ที่ถูกต้นดอกหนามกินไปเมื่อคืนก่อน นักรบรับจ้างกลุ่มสัตว์อำมหิตเป็นหนึ่งในสามสุดยอดนักล่าชั่วร้ายในเมืองไป๋ฉือ
แม้ว่าเขาจะมีระดับนักสู้อยู่ในชั้น “วีรบุรุษ” ฉายาของเถี่ยขวง เกราะสัตว์ร้าย ผ่านการทำชั่วมาหลายอย่างในเมืองไป๋ฉือมาแล้ว รวมทั้งกดขี่ข่มเหงคนอ่อนแอ ข่มขู่และกรรโชกทรัพย์ เจ้าคนชั่วผู้นี้ยังคงฆ่าคนบริสุทธิ์มามากมาย และตอนนี้ถูกตั้งค่าหัวโดยครอบครัวไม่กว่า 12 ครอบครัวร่วมกันล่าล้างแค้น
เพราะว่าเขาเป็นลูกหลานจากตระกูลที่มีชื่อเสียงในอาณาจักรต้าเซี่ย เถี่ยขวงมีพลังอำนาจและการปกป้องที่แข็งแกร่งของตระกูลคอยหนุนเขา ก๊วนนักฆ่าจากเมืองไป๋ฉือไม่กล้าแตะต้องเขา และนี่เองยิ่งเพิ่มความอวดดีของเขาขึ้นไปอีก ยิ่งไปกว่านั้นนางบำเรอคนโปรดของเจ้าเมืองไป๋ฉือ ยังได้รับการแนะนำและเสนอตัวโดยเถี่ยขวง เจ้ามืองถูกนางบำเรอนางนี้ออดอ้อนออเซาะตั้งแต่ตื่นนอน เพราะเหตุนั้นจึงไม่มีผู้ใดกล้ายุ่งกับเถี่ยขวงเพราะภารกิจครั้งแรกของเย่ว์หยางราบรื่นดีมาก ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย เขาจึงตัดสินใจว่าคืนนี้ต้องพยายามทำอะไรสักอย่างที่ท้าทายเพิ่มอีกนิด เขาตัดสินใจพยายามก่อกวนสร้างความอับอายให้เถี่ยขวงที่ไม่มีคนอื่นกล้าแตะต้อง
เถี่ยขวงไม่ใช่นักสู้ระดับเดียวกับหยานฉือที่เป็นนักสู้ชั้นผู้กล้าระดับ 2 เถี่ยขวงเป็นนักสู้ชั้นวีรบุรุษขั้นกลางระดับ 3
ในแผ่นดินมังกรทะยาน ทุกคน ต่อให้เป็นองค์ชายหรือองค์หญิง ก็ต้องเรียกว่าเด็กหัดใหม่ ถ้าพวกเขาอยู่แค่ระดับ 1
ทันทีที่พวกเขาขึ้นถึงระดับ 2 พวกจะกลายเป็นนักสู้ชั้นผู้กล้า ถ้าพวกเขาก้าวหน้าไปถึงระดับ 3 อย่างนั้นพวกเขาจะเป็นนักสู้ชั้นวีรบุรุษ (สตรี)
ระดับ 3 ชั้นวีรบุรุษนี้เป็นเส้นแบ่งที่แท้จริงระหว่างนักรบแห่งแผ่นดินมังกรทะยาน ถ้านักรบไม่สามารถไต่เต้าระดับมาถึงชั้นวีรบุรุษตลอดไป อย่างนั้นเขาจะถูกตราหน้าว่าฝีมือปานกลาง สมควรออกไปเป็นทหารเลวทั้งชีวิต ในทางตรงข้าม คนที่ขึ้นมาถึงชั้นวีรบุรุษ พวกเขาจะเป็นนักสู้ที่มีชื่อเสียงเหนือนักรบทั่่วไปมากมาย
แม้ว่านักสู้ระดับ 3 ชั้นวีรบุรุษดูผิวเผินภายนอกอาจเป็นระดับที่ไม่สูง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ง่ายที่จะไปถึงระดับนั้นได้
นักรบคนใดที่ต้องการจะขึ้นสู่ชั้นวีรบุรุษ ไม่ใช่แค่ต้องมีความแข็งแกร่งเพียงพอ แต่ต้องประสบความสำเร็จในการเสี่ยงตาย จากนั้นทางอาณาจักรจะให้รางวัลนักรบเป็นเหรียญตราของวีรบุรุษ อย่างนี้นักสู้ถึงจะได้ยกระดับเป็นชั้นวีรบุรุษที่ทุกคนชื่นชม
ถ้าเป็นระดับ 1 ชั้นผู้เริ่มฝึก ต้องอาศัยโชคอย่างมากเขาถึงจะมีโอกาสเอาชนะนักสู้ระดับสูง ชั้นผู้กล้าได้
อย่างไรก็ตาม ไม่เคยได้ยินเลยว่านักสู้ชั้นผู้กล้าระดับ 2 คิดจะเอาชนะนักสู้ชั้นวีรบุรุษระดับ 3 นั่นเป็นเพราะชั้นวีรบุรุษระดับ 3 เป็นก้าวแรกเพื่อเป็นนักสู้ในระดับสูง
ท่านจะถูกเรียกว่านักสู้ระดับสูงได้ หลังจากยกระดับไปอยู่ระดับ 3 ชั้นวีรบุรุษ
แน่นอนว่า ระดับ 3 ชั้นวีรบุรุษ ถือว่าแข็งแกร่งในสายตาของคนธรรมดา
ในสายตานักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิด นักรบที่ระดับต่ำกว่า 6 ชั้นผู้แก่กล้า ทั้งหมดก็คือแมลง ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยอ้างถึง
เมื่อเทียบนักสู้ระดับชั้นปราณก่อกำเนิดจากแผ่นดินมังกรทะยานผู้ใช้เวลาหลายร้อยปีถึงจะมีความชำนาญลึกซึ้งได้ เย่ว์หยางแทบจะไม่ทันได้ฝึกทักษะที่ลึกซึ้งขณะที่เป็นนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิด ก็ยังห่างไกลกันมาก อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังเป็นนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดอยู่ดี
เถี่ยขวง มีฉายาว่าเกราะสัตว์ร้ายเป็นคนที่มีชื่อเสียงอย่างมากเป็นนักรบรับจ้างของเมืองไป๋ฉือ และมันคงน่าตลกเมื่อเทียบกับเขาผู้เป็นนักรบรับจ้างธรรมดา อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาทรมานจากลมปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ ปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยาง ก็คงจะบาดเจ็บอย่างหนัก นี่คือความแตกต่างระดับนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิด กับนักสู้ระดับชั้นธรรมดา อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางไม่มีเจตนาจะใช้กระบี่ไร้ลักษณ์ปราณก่อกำเนิดฆ่าเถี่ยขวง เขาต้องการจับเป็นเถี่ยขวง เพื่อที่ว่าจะได้ไปร่วมเป็นสหายของหยานฉือที่กลายเป็นเหยื่อดอกหนามไปแล้ว
แม้ว่าความแข็งแกร่งของต้นดอกหนามเพิ่มขึ้นมาหลังจากได้กินหยานฉือนักสู้ระดับ 2 โชคไม่ดีที่ยังไม่พอเลื่อนระดับหรือมีพัฒนาการได้
แม้หลังจากกินคนทั้งเป็นแล้ว มันก็ยังไม่ได้ยกระดับเป็นชั้นทองแดง
ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยกระดับไปเป็นราชินีบุปผามงกุฎทอง สัตว์อสูรร่างมนุษย์ในตำนาน
โชคดีที่แผ่นดินมังกรทะยานมีคนร้ายไม่ขาดสาย
เย่ว์หยางไม่มีทางกังวลเรื่องการหาปุ๋ยให้ดอกหนามเลย
ทั้งแผ่นดินมังกรทะยาน เฉพาะเมืองไป๋ฉือก็มีรายชื่อที่ต้องล่ามากกว่า 100 คน เขาคงนึกวาดภาพออกว่าจะมีปุ๋ยสำรองไว้มากขนาดไหน การได้เป็นนักล่าเงินรางวัลทำให้เขาหาประสบการณ์การต่อสู้ได้ เพิ่มระดับให้ต้นดอกหนามและหารายได้จำนวนหนึ่ง ใครเล่าจะปฏิเสธผลประโยชน์ที่ดีอย่างนั้นเล่า?
เย่ว์หยางไปที่โรงเตี๊ยมตะวันออก แต่หลังจากมองดูรอบๆ เขาหาหญิงสาวที่มีอกขนาดลูกฟุตบอลไม่เจอ
อย่างไรก็ตาม เขายังพอหาแม่นางที่มีอกขนาดผลมะละกอได้บ้าง
เขาแทบไม่ทันได้กวักมือเรียก เหล่าสาวๆ อกมะละกอก็ล้อมรอบเขาอย่างประหลาดใจว่า “คุณชายมองหาเรื่องสนุกหรือคะ?
ท่านอยากจะเล่นอะไรดี? ต้องการ 2 หรือ 3 คนคะ?”
“ดูแคลนข้าเหรอ? นายน้อยผู้นี้ขอเหมาพวกจ้าทุกคนเลย” เย่ว์หยางโยนเหรียญเงินออกมากำมือหนึ่ง จนแม่นางทั้งหลายตาโตหันมามองเขา แม่นางอกมะละกอ 2-3 คนกรี๊ดกร๊าดเมื่อมองเห็นเงิน นอกจากคว้าเงินที่ตกด้วยเร็วราวกับขโมยฉกแล้ว พวกนางเริ่มล้อมเย่ว์หยางจนตกอยู่ท่ามกลางทะเลเต้านม จนแทบทำให้เขาสำลักตาย
พอเห็นดังนั้น เย่ว์หยางก็ออกไปทางประตูพร้อมด้วยสาวๆ อกโต บุรุษทุกคนในโรงเตี๊ยมต่างก็อิจฉาในวาสนาของเจ้าโจรน้อยกันทั้งนั้น
สนุกดีไหม?
ก็ไม่เลว
ขณะเดียวกัน พวกเขาชักจะกังวลถึงตัวโจรน้อยเสียแล้ว พวกเขานึกในใจว่า สหายน้อยผู้นี้จะถูกแม่นางเหล่านี้สูบความเป็นชายจนแห้งเหือดไหมนะ?”
เหล่าบุรุษในโรงเตี๊ยมเริ่มหัวเราะกันลั่น ถ้าเป็นอย่างนั้น พนักงานทำความสะอาดบางทีคงต้องแซะโครงกระดูกน้อยๆ ของเขาไปโยนทิ้งในวันถัดไปแน่ แม้ว่าเจ้าโจรน้อยจะรอดศึกนี้ไปได้ แต่บางทีเขาคงลุกออกจากเตียงไม่ได้อย่างน้อยก็คงเป็นเดือน
สำหรับฝีมือสูบพลังของพวกแม่นางอกมะละกอนั้น พวกนางทุกคนมีประสบการณ์ช่ำชองทั้งนั้น แค่ทนหนึ่งในแม่นางเหล่านั้นให้ได้ยังเป็นเรื่องเต็มกลืน นี่ปล่อยให้พวกนางรุมล้อมทั้งกลุ่ม
ถ้าแม่นางทั้งหลายรุมเร้าเขามาจากทุกด้าน เขาจะไม่มีทางเลือก ได้แต่เฉียดไปที่ประตูแห่งความตายแน่
ที่มุมโรงเตี๊ยม นางโจรน้อยตาสุกใสที่ช่วยเย่ว์หยางกรอกใบสมัครเมื่อคืนก่อน นั่งอยู่เงียบๆ พอสายตานางเห็นเย่ว์หยางระริกระรี้อยู่ในท่ามกลางทะเลเต้านมสาว นางถึงกับถ่มน้ำลายด้วยอาการเหยียดหยาม
อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น ทุกคนเห็นเจ้าโจรน้อย (ที่นึกว่าตายแล้ว) เดินกลับเข้ามา ก่อนที่พวกเขาจะจิบเหล้าหมดแก้วเสียอีก
ไม่มีทาง?
ไวปานนั้นเชียวหรือ?
เขามีฝีมือปานเทพเจ้าเชียวหรือ?
แม้ว่าเจ้าโจรนี้จะปล่อยพลังความเป็นชายได้เร็ว แต่นี่ก็ยังเร็วเกินไป
ถ้าเขาเสร็จเร็วขนาดนั้น ทำไมถึงต้องการสาวๆ หลายคนด้วย? คนเดียวไม่พอหรือ?
“น้องชาย! เจ้าทันได้ถอดกางเกงหรือเปล่า?” หนึ่งในบุรุษพวกนั้นถามอย่างสงสัย ขณะที่คนอื่นๆ ตะโกนเสียงดัง “เจ้าน่ะฟุ่มเฟือยมากไปแล้ว ถ้าเจ้าทำด้วยตัวเองไม่ไหว น่าจะขอให้เราช่วย! เรายินดีจะช่วยเจ้า, น้องชาย เจ้าไม่คิดว่าใช้เงินแบบนี้สิ้นเปลืองเปล่าไม่ใช่หรือ?
“พี่ชายที่รักทุกท่าน! ข้าแค่เป็นธุระช่วยคนเรียกแม่นางเหล่านั้น ข้าจะไปมีส่วนร่วมในงานฉลองดังกล่าวได้ยังไง?” เย่ว์หยางหัวเราะคิกคักขณะตอบ
“ถุย!” ทุกคนหุบปากตัวเองทันที
พวกเขานึกว่า เป็นคุณชายผู้ร่ำรวยและอิจฉาเขาอยู่ตั้งนาน คิดไม่ถึงว่าเป็นแค่เด็กติดต่องานเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พวกเขานึกได้ ก็จะตระหนักได้ว่า อย่างนี้ค่อยสมเหตุสมผล ถ้าเจ้าตัวเล็กนี่มีเงินจริงๆ ก็คงเป็นเรื่องแปลก ที่เขาใช้เงินฉลองกับสาวๆ เหล่านี้อย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
เย่ว์หยางรู้วิธีเอาชนะใจคน จึงหยิบเงินออกมา 2 เหรียญเงินโยนลงบนโต๊ะประกาศเสียงดังว่า “ได้พบทุกท่านในวันนี้ ถือเป็นวาสนา ฉะนั้นข้าจะใช้เงินค่านายหน้าที่ได้รับในคืนนี้เลี้ยงเหล้าพี่น้องทุกคน ขณะเดียวกัน เรามาร่วมกันแช่งให้เจ้าบัดซบนั่นให้หลั่งความเป็นชายจนแห้งตายไปเลย….”
ทุกคนยิ้มสะใจกับคำพูดเหล่านี้
ทุกคนคิดว่าโจรน้อยผู้นี้กลอกกลิ้งไหวพริบดี
เนื่องจากเย่ว์หยางเป็นคนเลี้ยงเหล้า พวกเขาจึงไม่นึกถือสา ยกแก้วดื่มฉลองกัน
นางโจรตาวาวนั่งแค่นเสียงอยู่ภายในมุมหนึ่ง นางไม่ได้พยายามถือวิสาสะกับผู้หญิงที่แต่งกายเย้ายวนคอยบริการเสริฟเหล้า
ทันใดนั้น เย่ว์โผล่มานั่งอยู่ที่โต๊ะตรงข้ามนาง หัวเราะพลางกล่าวว่า “พี่ชาย! ข้ารู้ว่าจะหาเจ้าเจอที่นี่ ทุกอย่างเป็นยังไงบ้าง? แม่นางที่ยั่วยวนคนนั้น นางสวยไม่เบาเลยใช่ไหม? ไม่ต้องอายหรอกน่า, คนอ่อนประสบการณ์อย่างเจ้าควรเรียนรู้ให้มากไว้ ยิ่งกว่านั้น นี่เป็นวิธีก่อความสัมพันธ์ของมนุษย์ ขงจื๊อกล่าวไว้ว่า ความอยากและความหื่นเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เจ้าเห็นไหมว่าคำพูดเหล่านี้ ยิ่งใหญ่แค่ไหน?
“…” นางโจรนัยตาโตกรอกนัยตาครุ่นคิดถึงคำของเขา ทั้งที่ความจริงแล้วนางอยากเตะเจ้าสุนัขหื่นผู้นี้แทบตาย
“พี่ชาย! ข้าคงจะมองเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรไม่ได้หรอกนะ เราจะจองห้องพักค้างคืน ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไรก็ตาม เจ้าต้องสละความบริสุทธิ์คืนนี้ ถ้าเจ้าไม่มีเงิน ไม่ต้องห่วง ข้าเป็นเจ้ามือเอง” เย่ว์หยางตบไหล่นางโจรตาวาวอย่างเอื้อเฟื้อ
*********************