ตอนที่ 19 รูปแบบเฉพาะธาตุ, ผิวศิลา
“เจ้าเป็นนักฆ่าสินะ? มาเพื่อล่าล้างแค้นข้าใช่ไหม?” หยานฉือสร่างจากอาการเมาทันที
ต่อให้เขาเย่อหยิ่งถือดี แต่ไม่ใช่คนโง่และยังตกเป็นเป้าสนใจจากเจ้าพวกโง่ๆ ที่เขาประมาทพวกมันไม่ได้จนขึ้นบัญชีเขาไว้
แม้ว่าลักษณะภายนอกของหยานฉือจะดูเหมือนว่าเมาไม่น้อยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ แต่เขาก็ยังสงบจิตใจและรู้สึกตัวได้เร็ว ในฐานะนักรบรับจ้าง เขาทรยศสหายโดยตรง เขาไม่ต้องการพบโจทก์ของเขาก่อนที่จะสนุกกับรางวัลที่ได้รับมาทั้งหมด ในฐานะที่เป็นคนหนึ่งที่ชอบเอาเปรียบคนเมาอื่น เขาภูมิใจตัวเองที่ไม่ได้ทำข้อผิดพลาดเช่นเดียวกับเหยื่อของเขา
เพียงเพราะไม่ได้มีนักฆ่าไล่ล่าเขาในเร็ววันนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะประมาท การตื่นตัวอยู่ทุกเมื่อ เป็นคาถาที่นักรบรับจ้างทั้งหมดใช้เตือนตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการมีชีวิตสืบต่อไป
เย่ว์หยางแสดงอารมณ์ผ่อนคลายแล้วพูดขอร้องอย่างเป็นมิตร “ถ้าเจ้าไม่ถือสา ข้าอยากจะขอยืมศีรษะเจ้าสักครู่ ข้าจะเอาไปแลกทอง ถ้ามีคำสั่งเสียใด เจ้าจงพูดออกมาตอนนี้เลย ข้าไม่รีบร้อนอยู่แล้ว”
“แก..เจ้าเด็กแสบ! เจ้าจะล้มข้าตามลำพังนี่นะ ฮ่าฮ่าฮ่า” หยานฉือเริ่มหัวเราะเหมือนกับว่าเพิ่งได้ยินคำที่น่าขันที่สุดในโลก
“โอว, นั่นน่ะหรือคำสั่งเสียของเจ้า? เจ้าช่างพูดได้กระชับดี ตอนนี้ยอมให้ข้าส่งเจ้าไปปรภพเสียแต่โดยดี” เย่ว์หยางเหยียดแขนออกและเริ่มกวาดมือเข้าไปใกล้หยานฉือ
“ผิวศิลา” หยานฉือตะโกนออกมา ขณะที่ตัวเองล้วงผลึกสีดำออกมาจากกระเป๋าแล้วเริ่มบริกรรม
ทันใดนั้นประกายสีดำขยายตัวจากผลึกสีดำแล้วเปลี่ยนสภาพไปเป็นควัน
มันพ่นออกมาอย่างเร็ว จนก่อตัวเป็นรูปมนุษย์ศิลาผิวดำมะเมื่อม จากนั้นมันอ้าแขนออกและโอบร่างหยานฉือไว้
ชั่วพริบตา มันรวมร่างกับหยานฉือ และร่างของเขาแสดงผลการเปลี่ยนแปลงออกมา ร่างของเขามีสีโทนดำขณะที่มนุษย์ศิลาเปลี่ยนสภาพไปเป็นเกราะ
เย่ว์หยางไม่ได้โจมตีใดๆ ทั้งสิ้น แต่กลับยืนดูอย่างสงบ
เขาพบว่าคู่ต่อสู้คนแรกของเขาเป็นนักรบรับจ้างประเภทธาตุองค์ประกอบสามารถอัญเชิญพลังวิญญาณได้ ดูเหมือนว่าจะเป็นสายธาตุองค์ประกอบ, ผิวศิลา
สายธาตุองค์ประกอบจำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ ประเภทต่อสู้, ประเภทเสริมพลัง, และสัตว์อสูรรูปแบบพิเศษ ในบรรดา 3 รูปแบบนั้น สัตว์อสูรรูปแบบพิเศษโดยหลักจะใช้ทักษะชีวิตหรือไม่ก็ใช้ทักษะลาดตระเวณเพื่อรวบรวมข้อมูล นักรบรับจ้างส่วนใหญ่ไม่ได้เลือกใช้สัตว์อสูรเหล่านี้ เพราะสัตว์อสูรรูปแบบธาตุองค์ประกอบมีความต้องการพลังสูงมาก ซึ่งเกินความสามารถของพวกเขา
สำหรับนักรบรับจ้าง, รูปแบบเสริมพลังและสัตว์อสูรรูปแบบนักรบถูกจัดอันดับไว้สูงในรายการของพวกเขา รูปแบบเสริมพลัง สามารถเพิ่มความสามารถในการสู้ให้กับร่างกายโดยเฉพาะ และมีความสำคัญต่อการอยู่รอดของพวกเขา รูปแบบนักรบใช้กับร่างของสัตว์อสูรโดยตรงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีศัตรูได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สัตว์อสูรประเภทนักสู้ที่น่ากลัวน่าเกรงขามย่อมหมายความว่าได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีทำให้มั่นใจชัยชนะในการต่อสู้
นักรบรับจ้างที่ระดับต่ำกว่า 8 มักจะให้ความสำคัญกับการเสริมพลังให้สัตว์อสูรนักสู้ขณะที่พวกเขาใช้ชีวิตเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับคมดาบ การปกป้องชีวิตจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
หากมีคนสามารถเรียกสัตว์อสูรได้ถึง 2 ตัว ในสัตว์ทั้ง 2 นั้นมักจะถูกเลือกให้เป็นสัตว์อสูรนักสู้เสมอ แม้ในบรรดาสัตว์อสูรเหล่านี้ก็ยังมีข้อได้เปรียบชัดเจนกว่าสัตว์อสูรอื่นๆ ในระดับเดียวกัน อย่างเช่นสัตว์อสูรประเภทนก
หยานฉือผู้อยู่ต่อหน้าเย่ว์หยางนี้ ช่างน่าตกใจที่เขาเรียกสัตว์อสูรประเภทธาตุองค์ประกอบออกมาได้ ซึ่งขัดกับความตั้งใจเดิมของเย่ว์หยาง
สภาพที่ไม่ได้ดั่งใจเช่นนี้แสดงว่า พลังของคนที่ชื่อหยานฉือนี้ดีมากเลยทีเดียว เหนือกว่านักรบรับจ้างธรรมดามากนัก
นักล่าค่าหัวได้ประเมินหยานฉือว่าอยู่ในระดับ 2 ซึ่งเป็นชั้นผู้กล้าขึ้นไป
เห็นได้ชัดว่าข้อมูลให้ไว้ไม่ถูกต้อง โดยเปรียบเทียบความแข็งแกร่งที่เห็นชัดเจน หยานฉืออย่างน้อยก็คงสูงว่าระดับ 1 ที่เป็นระดับเริ่มต้นของเย่ว์หยางมากถึง 5 ระดับ
ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เย่ว์หยาง อย่างนั้นก็คงหมายความว่าต่างกันเกินกว่าจะเอาชนะได้ เห็นได้ชัดว่ามันควรเป็นการต่อสู้ปกติไม่ใช่ห่างชั้นเกินไป พอพิจารณาความแตกต่างในเรื่องระดับและชั้นแล้ว มันควรเป็นชัยชนะที่ตรงไปตรงมาสำหรับนักสู้ระดับสูง
“มาเลย เจ้าเด็กน้อย! มาเอาหัวของข้า” หยานฉือยิ้มเยาะ พลางดึงขวานออกมา
ร่างของเขากลายเป็นร่างคงกระพันไปแล้ว ตอนนี้เขามั่นใจถึง 100 เท่า
แม้ว่าคนที่โดนเขาใช้ขวานโจมตีแล้ว ก็หมายความถึงแรงฟาดฟันรุนแรงสำหรับศัตรูของเขา
การป้องกันที่แข็งแกร่งของหยานฉือ มีพลังเหลือเชื่อ และความตั้งใจโจมตีแสดงให้เห็นว่านักรบรับจ้างจำนวนไม่มากคงไม่ยินดียั่วโมโหเขา เจ้าเด็กขโมยที่สวมหน้ากากหุ่นบอบบางข้างหน้าหยานฉือเห็นได้ชัดว่าต้องการหาเรื่องตาย ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กนี่คงไม่รู้ว่าขวานของเขาชอบใช้ตัดขาขโมยเสมอ
จู่ๆ เย่ว์หยางยิ้มออกมา เขาไม่เสียเวลาคิดและจู่โจมเข้าหาอย่างไม่ทันระวัง และที่น่าประหลาดยิ่งกว่า หรืออาจจะไม่ก็ได้ เขาใส่ตีนสุนัขโกยอ้าวทันที
พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้หยานฉือถึงกับอึ้ง
อะไรกัน? เจ้าเด็กแสบนี่พอเห็นสถานการณ์ไม่เป็นใจถึงกับต้องหนีเชียวหรือ?
หยานฉือยิ้มเหยียดหยามด้วยมุมปาก
เขาไล่ตามเจ้าขโมยน้อยทันที แม้ว่าเขาจะช้ากว่าเย่ว์หยาง เขาก็ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าซึ่งเป็นผลมาจากผิวศิลาเลย ตอนนี้เขาเป็นเครื่องจักรชนิดหนึ่ง เครื่องจักรฆ่าคน เขาอาจจะไม่ชนะตอนเริ่มออกตัว แต่ในการไล่ตามระยะยาว เจ้าขโมยจะต้องสูญเสียขาและกลายเป็นเนื้อสับในที่สุด นี่คือแผนปกติของหยานฉือ อย่างน้อยมีศัตรู 20 คนพลาดท่ากลายเป็นเหยื่อในวิธีเดียวกันนี้มาแล้ว ไม่มีใครเคยหนีหยานฉือได้สำเร็จ และวันนี้ก็คงไม่มีข้อยกเว้น
หลังจากไล่ทันเขาที่ปศุสัตว์ร้าง หยานฉือยิ่งกระหายเลือดมากขึ้นขณะมองดูคู่ต่อสู้ของมันเหนื่อยและลดความเร็วลง
หยานฉือคว้าขวานข้างหลังเขาออกมา
เย่ว์หยางฉากออกด้านข้างและหยุดชะงัก
เขากวาดตามองรอบๆ และพยักหน้ากล่าวว่า “ที่นี่ไม่เลวเลย เงียบและมืด เหมาะที่จะเป็นสถานที่ลงมือฆ่า”
“แน่นอน เจ้าเลือกทำเลหลุมศพได้ดีจริงๆ” หยานฉือโกรธขณะที่เขาเห็นเย่ว์หยางยั่วโมโหทั้งที่ไม่มีโอกาสหนี เห็นได้ชัดว่า เจ้าเด็กนี่ไม่รู้ความแตกต่างระหว่างเป็นกับตายเลย
“ถ้าเจ้ายอมจ่ายทองสักจำนวนหนึ่ง อาจจะสัก 100 เหรียญทอง ข้าอาจจะยอมปล่อยชีวิตน้อยๆ ของเจ้าก็ได้” เย่ว์หยางรู้สึกว่าทอง 5 เหรียญก็เป็นแค่ผลประโยชน์เล็กน้อย ถ้าเหยื่อของเขาร่ำรวย อย่างนั้นกรรโชกเอาจากเขาบ้างน่าจะเป็นความคิดที่ดีกว่า
“นี่มันตลกไร้สาระที่สุดในชีวิต” หยานฉือถ่มน้ำลายเหยียดหยาม “ทำไมเจ้าไม่คุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตาจากข้าเล่า?”
“ปกติข้าไม่ยอมให้โอกาสคนอื่นขอความเมตตาหรอกนะ…”
เย่ว์หยางใช้เท้าเตะขวานในมือของเขา
เขาก้าวเข้าหาหยานฉือ และก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้ก็ชิงขวานมาแล้วฟันไปที่อกของหยานฉือ
ติง!
ดูเหมือนขวานจะกระแทกกับเหล็กจนเป็นประกายไฟแล่บออกมา
นอกจากรอยสีเทาแล้ว หน้าอกของหยานฉือไม่ปรากฏอาการบาดเจ็บใดๆ ไม่มีแม้แต่รอยเลือดซิบๆ
รูปแบบธาตุเฉพาะ ผิวศิลามีดีสมชื่อแท้ๆ
เย่ว์หยางมองดูขวานในมือเขา มีรอยบิ่นปรากฏอยู่
หยานฉือลูบรอยที่เหลือบนหน้าอกเขาและดูถูกว่า “เจ้าเด็กน้อย เข้าใจหรือยังว่าข้ามีพลังมากขนาดไหน ร่างของข้าคงกระพัน ต่อให้เสือสิงห์ที่ดุร้ายพยายามฝังเขี้ยวบนร่างข้ายังทำอะไรไม่ได้ ประสาอะไรกับกับเจ้าไก่อ่อนที่เพิ่งเป็นวัยรุ่นอย่างเจ้า?”
*************************