ตอนที่ 16 ผู้หญิงข้าบั้นท้ายต้องโต
เห็นรางวัล 1 พันเหรียญทอง เย่ว์หยางแทบไปเสนอตัวบนพานเงินกันเลยทีเดียว
แม้ว่าเขาอาจไม่เข้าใจคำกล่าวที่ว่า ไม้โดดเดี่ยวอาจดูงดงามกว่าไม้ทั้งป่า แต่ง่ายต่อการถูกพายุทำลาย เขาได้ยินเรื่องราวมามากมาย เย่ว์หยางไม่รู้สึกว่าการบอกเรื่องที่เขาเป็นนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดจะเป็นความคิดที่ดี แน่นอนว่าราชสำนักคงยินดีว่านักสู้ระดับปราณก่อกำเนิดได้เข้าร่วมกับพวกเขาแล้ว เป็นการเสริมสร้างแสนยานุภาพอาณาจักรของตน แต่อาณาจักรอื่นอีก 2 อาณาจักรเล่าจะคิดอย่างไร? บางทีพวกเขาคงหาทางฆ่าเขาก่อนที่จะเติบโตกลายเป็นนักสู้ระดับสุดยอดได้ เขาเป็นนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดที่อายุน้อยไปแล้ว นอกจากนี้ เขาไม่เคยกินโอสถทิพย์ใดๆ ยิ่งกว่านั้นยังขาดสัตว์อสูรในตำนาน แม้แต่คนโง่คงจะรู้จักวิชาปราณก่อกำเนิดที่ฝึกจนสุดยอดแล้ว ดังนั้นนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดอื่นจะตรวจพบได้
เพราะฉะนั้น ยกเว้นคนที่ประสบความสำเร็จ เขาควรพยายามอย่างดีที่สุดไม่ให้เป็นจุดสนใจและทำอย่างลับๆ ด้วย ท่านควรจะเก็บเงียบเรื่องสมบัติของท่านไว้ดีกว่าจะต้องมาคอยป้องกันมัน
เย่ว์หยางยิ้มพลางดึงหน้ากากที่ด้านหลังออกมาสวมบังหน้าไว้ ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปในสมาคมรนักรบรับจ้าง
ภายในห้องเต็มไปด้วยนักรบรับจ้าง แต่น่าจะไม่มีใครรู้ว่าเด็กหนุ่มสวมหน้ากากผู้นี้คือนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดที่คนทั่วทั้งอาณาจักรตามตัวกันอยู่ พวกเขายังคงดื่มและเล่นการพนันตลอดเวลา
บางคนสามารถบอกได้ด้วยการชำเลืองตาดูครั้งเดียวว่า เจ้าคนชุดดำปกปิดหน้าอย่างเย่ว์หยางเห็นได้ชัดว่าเป็นขโมยผู้แค่ต้องการจะเริ่มเส้นทางอาชีพ
นอกเหนือจากการระวังเงินในกระเป๋าให้ดี ก็ไม่มีปฏิกิริยาอื่น
“ขอโทษทีนะ ท่านช่วยบอกขั้นตอนที่จำเป็นในการสมัครเป็นนักรบรับจ้างเพิ่มด้วยได้ไหม? เย่ว์หยางถามอย่างสุภาพ ในสมาคม ถ้าเป็นคนที่สุภาพมาก นั่นหมายถึงว่าเขาเป็นคนอ่อนแอ และง่ายต่อการโดนดูถูก เย่ว์หยางต้องการให้คนทั้งโลกเห็นเขาเป็นคนอ่อนแอ ด้วยวิธีนั้น เขาจะสามารถรักษาทักษะลับของเขาและป้องกันความลับของเขาได้ดีกว่า ดังนั้น เขาจึงทำให้เข้าใจว่า”ข้าอ่อนแอ อย่ารังแกข้านะ”
“จ่ายมา แล้วกรอกแบบใบสมัครนี้ ถ้าเจ้าจ่ายพิเศษ ก็จะสามารถซื้อตรานักรบรับจ้างได้ ทุกครั้งที่เจ้าทำภารกิจสำเร็จ มันจะถูกบันทึกเป็นคะแนนสะสมไว้ และเป็นธรรมดาที่เจ้าจะได้ปรับอันดับนักรบรับจ้างของเจ้า อย่างไรก็ตามเจ้าจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 10 เหรียญเงิน” พนักงานต้อนรับของสมาคมนักรบรับจ้างไม่ค่อยจะสุภาพอย่างที่เย่ว์หยางคิด เขาเป็นแค่คนแก่หน้ามัน หัวล้าน
“ข้า..ข้าเขียนไม่เป็น ท่านช่วยข้ากรอกข้อความได้ไหม? ข้า..ข้าจะจ่ายให้ท่าน 1 เหรียญเงิน” แน่นอนว่าเย่ว์หยางเขียนได้ แต่เขาไม่ต้องการให้คนอื่นจำลายมือเขาได้
นักสู้ในแผ่นดินมังกรทะยานมีทักษะโดยธรรมชาติทุกคน
ถ้ามีคนที่ระบุข้อแตกต่างของลายมือคนอยู่ด้วย เขาจะไม่ถูกเปิดเผยตัวตนหรือ?
การจ่ายให้ชายชราช่วยกรอกข้อมูลเทียบกันแล้วค่อนข้างปลอดภัยกว่า นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตราบเท่าที่เขารับงานผ่านทางสมาคมนักรบรับจ้างสัก 2 - 3 ภารกิจที่มีรางวัลตอบแทน เขาน่าจะได้รับเงินกลับคืนแล้ว
ชายชราเคยเจอนักรบรับจ้างที่เขียนหนังสือไม่เป็นมาก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม เขามักจะเอาเปรียบคนแปลกหน้าเสมอ ทันใดนั้นตัดสินได้ทันทีว่าเย่ว์หยางเป็นแค่ลูกเจี๊ยบที่เพิ่งฟักออกจากไข่ เขาจ่ายเงิน 1 เหรียญเงินเพื่อให้คนอื่นกรอกข้อความแทนเขาได้ยังไง? 1 เหรียญเงินก็เท่ากับ 100 เหรียญทองแดง เจ้าหนูนี่ดูเหมือนจะชอบโยนเงินทิ้งเป็นว่าเล่น ถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่ใช่คนมีเงินมากกว่าความรู้สึกในหัวเขา แล้วเขาจะเป็นอะไรได้เล่า? ชายชราไม่ได้เอากระดาษกลับคืนมา แต่พูดเย็นชาว่า “ข้าจะช่วยเจ้ากรอกข้อความก็ได้ แต่เจ้าต้องจ่าย 3 เหรียญเงิน
“เย่ว์หยางนึกดูถูกชายชราโลภมากผู้นี้ในใจ อย่างไรก็ตาม ภายนอกเขาทำเป็นน่าสงสารขอร้องว่า”3 เหรียญเงินมันมากไป 2 เหรียญก็พอ ท่านช่วยข้ากรอกใบสมัครได้ไหม?”
นักรบรับจ้างทุกคนในห้องมองดูชายชรากลั่นแกล้งเด็กใหม่จากนั้นก็พากันหัวเราะกันลั่นห้อง การได้แกล้งเด็กใหม่เป็นธรรมเนียมแรกรับของสมาคมนักรบรับจ้าง
ขณะที่เด็กหนุ่มสวมหน้ากากมีนัยน์ตากระจ่างใสเดินเข้าประตูมา หญิงสาวคนหนึ่งยื่นมือออกมาฉกปากกาและกระดาษจากมือของเย่ว์หยางอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า นางตำหนิเบาๆ ว่า“ยื่นข้อเสนอ 2 เหรียญเงินขอให้คนอื่นกรอกใบสมัครให้เจ้านี่นะ หัวเจ้าไปโดนล่อดีดมาใช่ไหม? เขาเป็นเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว มีหน้าที่ช่วยคนที่เขียนหนังสือไม่เป็นอย่างเจ้ากรอกใบสมัคร แล้วคนโง่อย่างเจ้าอยากจะกลายเป็นขโมยหรือ? เจ้าจะอดตายเสียก่อนนะ เจ้าชื่ออะไร?”
“ท่านจะช่วยข้าเขียนหรือ? ขอบคุณ, พี่ชาย, ขอบคุณท่านมาก” เย่ว์หยางแสดงความซาบซึ้งใจเต็มที่ขณะยื่นมือไปจะโอบอีกฝ่าย
“หยุดเลยนะ, มิฉะนั้นข้าจะเตะเจ้าออกไปที่ประตู.. เจ้าทึ่ม.. บอกมา เจ้าชื่ออะไร?” หัวขโมยผู้มีนัยตาสุกใสโกรธขึ้นมาทันทีพลางมองดูเย่ว์หยางเมื่อได้ยินว่า “พี่ชาย”
“ข้าชื่อไตตัน” น่าเสียดายที่เย่ว์หยางยังไวไม่พอ เนื่องจากเขาเข้าไปกอดอีกฝ่ายไม่ได้ เขาทำเป็นมองดูอีกฝ่ายกรอกใบสมัคร ขณะที่เขาเข้าใกล้ขโมยผู้มีดวงตาใสกระจ่าง ในเวลาเดียวกันเขาสามารถได้กลิ่นหอมสดชื่นบนกายสาว ดีละ พี่ชายคนนี้กลิ่นน่าดมจริงๆ ได้กลิ่นแล้วชื่นใจเหมือนกลิ่นหอมละมุนของสาวบริสุทธิ์ในตำนาน ได้กลิ่นแล้วชื่นใจ ภายนอกเย่ว์หยางไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่จริงๆแล้วรู้สึกเสียหน้าอยู่บ้าง
“ไตตันหรือ? นั่นชื่ออะไร แปลกจริงๆ? รู้สึกเหมือนข้าเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน…” ขโมยตาสุกใสขมวดคิ้วที่งดงามของนาง
“ไตตันเป็นชื่อของคนแคระพวกหนึ่ง ใช่แล้ว พวกเขาตัวเตี้ยมากๆ และเป็นพวกที่ประสบความล้มเหลว หลังจากพ่ายแพ้ศัตรู พวกมันถูกโยนลงนรก..” เย่ว์หยางอธิบาย
“อย่างนั้นก็ไม่ถูกนะ ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าพูด แล้วทำไมเจ้าถึงเลือกชื่อตัวเองตามคนแคระที่ล้มเหลว?” นางถามด้วยความอยากรู้ นางขโมยฉลาดมากทีเดียว และรู้สึกว่าบางอย่างไม่ค่อยถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ถ้าเย่ว์หยางตอบคำถาม “พี่ชาย” ตามความจริง อย่างนั้นเขาก็ไม่สมควรเรียกตัวว่านักปลอมแปลงอีกต่อไป นัยน์ตาแสดงออกว่าขำของเขาและเขาถือว่าเป็นวิธีการที่ลึกซึ้ง “เป็นเพราะตอกย้ำความล้มเหลวของคนแคระข้าจึงเลือกชื่อนี้ มันเป็นการย้ำเตือนข้าว่าไม่ควรจะล้มเหลวเหมือนกัน”
“…” นางขโมยตาใสถึงกับพูดเรื่องนี้ไม่ออก ถ้านั่นเป็นเรื่องจริง แค่จำไว้ในใจให้ดีก็พอ ทำไม จำเป็นต้องเอาความคิดที่น่าเศร้ามาใส่ไว้ในชื่อด้วยหรือ?
อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ล้มเหลวของคนแคระที่ชื่อไตตันยังคงทำให้เกิดความรู้สึกผิดอยู่บ้าง
นางขโมยยิ้มมีเลศนัยให้เย่ว์หยางพึมพำเบาๆ จากนั้นช่วยเขากรอกใบสมัครต่อจากชื่อ มี เพศและอาชีพ จากนั้นนางขโมยถามเขาว่า “เจ้าอายุเท่าไหร่?”
เย่ว์หยางทำเป็นคร่ำเคร่งนับนิ้วแล้วตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “200 ปี แต่ข้ายังไม่ได้แต่งงาน ข้าเป็นนักเดินทาง ตามหารักแท้ เงื่อนไขหาคู่ครองข้าตั้งเอาไว้สูงมาก คนรักข้าต้องงามหยดย้อยเหมือนเทพธิดา มีส่วนโค้งเว้า เอวบาง สะโพกกลมผาย”
พอได้ยินคำนี้ นักรบรับจ้างทุกคนในห้องถึงกับบ้วนเหล้าทิ้ง
เจ้าเด็กบ้านี่ อกหักมาหรือไง?
นี่มันเรื่องตำนานเพ้อฝันของคางคกอยากกินเนื้อหงส์ของเจ้าเด็กเปรตนี่
นางขโมยตาใสยังคงกรอกตาของนาง “ทำไมเจ้าไม่บอกว่านอกจากมีตะโพกผายแล้ว นางต้องรักเจ้าได้เป็นหมื่นปีล่ะ?”
ในที่สุดเย่ว์หยางไม่ได้ปฏิเสธ “รักข้าหมื่นปีเป็นเวลาที่จำกัดสุดๆ ถ้านางรักข้าได้แสนปียังดีเสียกว่า ต่อให้เป็นล้านปีก็ยังไม่มากเกินไป”
“รักก้นเจ้าน่ะสิ” นางขโมยตางามเลิกช่วยเย่ว์หยาง ขณะที่นางเองสงสัยว่าทำไมคืนนี้ถึงต้องใส่ใจพูดกับคนบ้าด้วย หดหู่เหลือเกิน โดยไม่ทันคาดคิดเย่ว์หยางยังคงอารมณ์ดีอยู่ ขณะเอื้อมมือมาแปะไหล่นางขโมย “ขอบคุณนะ พี่ชาย คำว่า”รักก้นเจ้า“มันดีจริงๆ คำพวกนั้นตรงไปตรงมาดีจริง ลูกผู้ชายตัวจริงต้องงมงายในความรัก บางทีพูดด้วยความสนิทสนมแทนยังจะดีเสียกว่า ครั้งต่อไปถ้าข้าจะเลือกผู้หญิงนะ ข้าจะใช้วิธีนั้น เจ้ากรอกใบสมัครเสร็จแล้วใช่ไหม? ขอบคุณมากนะ พี่ชาย ไว้ข้าจะชวนเจ้าไปกินอาหารเที่ยงคืนที่โรงเตี๊ยมแห่งใหม่ทางตะวันออกของเมือง มีสาวมาใหม่ ใหญ่พอๆ กับลูกฟุตบอลเลย มาเถอะ ไปหาอะไรดื่มด้วยกัน ทั้งนี้เราจะได้ฟื้นฟูสายตาด้วยวิวสวยๆ ยังไงเล่า”
“เจ้า…ฟุตบอลหรือ? ฟุตบอลคืออะไร? นางโจรถลึงตาใส่เย่ว์หยาง แต่นางยังสนใจเรื่องคำศัพท์ที่นางไม่รู้จัก นางจึงถามเขากลับ
**********************************