2049 - สัญจรไปทั่วโลก
2049 - สัญจรไปทั่วโลก
สือฮ่าวไม่ได้พูดอะไรดังนั้นเท่ากับยอมรับเรื่องนี้โดยปริยาย
มดเขาสวรรค์หมกมุ่นอยู่กับบ่มเพาะอย่างขมขื่น ตอนนี้สือฮ่าวจึงอยู่คนเดียว เขารู้สึกเหงามากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนมากมายในอดีตต่างๆตามฝีเท้าของเขาไม่ทันแล้ว
หลังจากถอนหายใจสือฮ่าวก็ออกมาจากความสันโดษและสัญจรไปมาในอาณาจักรที่สูงกว่าเพียงลำพัง
นี่เป็นประเภทหนึ่งของการบ่มเพาะ เขาต้องการท่องโลกสัมผัสบางสิ่งในโลกมนุษย์ ลืมเรื่องการฝึกฝนไปชั่วขณะ
หลายปีต่อมา เมื่อสือฮ่าวเดินผ่านดินแดนแห่งความมืด เขาก็ได้ค้นพบสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมาก เขาอยากจะฆ่ามันแต่สุดท้ายเขาก็ต้องตกใจ
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง คนคนนั้นกลับจำเขาไม่ได้เพราะเขาตกอยู่ในความมืดมาอย่างยาวนาน
โม่ชางเป็นอัจฉริยะบิดเบือนสวรรค์ของอาณาจักรทะเล เขาคือผู้ซึ่งต่อสู้กับสือฮ่าวในรังคุนเผิงอย่างยิ่งใหญ่และแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงโชคตามธรรมชาติ
หลังจากที่เขาก้าวเข้าสู่ดินแดนเบื้องบนพวกเขาก็ไม่เคยเจอกันอีก
หลายปีผ่านไปสือฮ่าวไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะกลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด
สือฮ่าวไม่ได้ทำการสังหาร แม้ว่าพวกเขาจะยืนหยัดต่อสู้กันในอดีต แต่ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเขาก็ยังเป็นคนรู้จักเก่าที่หาได้ยากดังนั้นเขาจึงเคลื่อนที่ออกไปจากหนทางและมอบให้มู่ชิงจัดการส่วนที่เหลือ
“หลังจากสองร้อยปีผ่านไป ข้าไม่สามารถหันหลังกลับได้ หลายสิ่งจากอดีตจะไม่หวนกลับคืนมา” สือฮ่าวรำพึงเบาๆ จากนั้นเขาก็เดินทางต่อไป
หลายทศวรรษต่อมาในเมืองยักษ์ สือฮ่าวได้ค้นพบหญิงสาวคู่หนึ่งโดยไม่คาดคิด พวกนางมีใบหน้างดงามแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขารู้สึกว่าพวกนางดูคุ้นเคยเล็กน้อย
ผู้หญิงพวกนั้นก็มองมาที่เขาด้วย หน้าตาของพวกนางเหมือนกันทุกประการ นี่เป็นฝาแฝดคู่หนึ่ง พวกนางอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น ความเสียใจ ความหดหู่ใจ และอารมณ์ที่ซับซ้อน
“พวกเจ้ารู้จักข้าเหรอ”
“ตอนนี้ วัดเต๋าและโถงศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งมีหุ่นทองคำของท่าน แม้จะเบลอมองไม่เห็นอย่างชัดเจน แต่พวกเราก็ยังจำได้”
“ท่านคือฮวงหรือที่เรียกว่าสือฮ่าวจากหมู่บ้านหินผาของอาณาจักรล่างใช่ไหม!”
ผู้หญิงสองคนไม่เพียงแต่จำเขาได้จากรูปปั้นเท่านั้น
สือฮ่าวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเขาก็อดหัวเราะไม่ได้ หลังจากหลายปีมานี้ นิกายต่างๆล้วนมีภาพเหมือนของเขา การเป็นที่รู้จักก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
อย่างไรก็ตาม ทำไมการแสดงออกของทั้งสองจึงดูซับซ้อน?
สือฮ่าวครุ่นคิดเล็กน้อย ในบรรดาฝาแฝดที่เขาพบในชีวิต มีเพียงคู่ที่เขาพบเมื่อตอนที่เขายังเด็กเท่านั้นที่ทิ้งความประทับใจที่ลึกที่สุด
นั่นคือตอนที่เขายังอยู่ในหมู่บ้านหินผา พวกนางาจากวังเมฆาสวรรค์ในดินแดนรกร้าง
ในเวลานั้นสมบัติแห่งภูเขาปรากฏขึ้น ดังนั้นผู้ทรงพลังในบริเวณรอบๆจึงออกมาค้นหาจนกระทั่งล่วงล้ำเข้าสู่หมู่บ้านหินผานั่นเอง
เด็กหญิงตัวเล็กๆเหล่านั้นเคยติดตามปู่ของนางออกมาค้นหาด้วย ในตอนนั้นสือฮ่าวยังได้ยินพวกนางบอกว่าเคยดื่มนมสัตว์ที่อร่อยมากที่สุด
ในท้ายที่สุด ในช่วงความโกลาหลครั้งใหญ่ของอาณาจักรล่าง ผู้คนของวังเมฆาสวรรค์ได้ยืมรูปแบบโบราณเพื่อเข้าสู่อาณาจักรที่สูงกว่า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เจอกันอีกเลยหลังจากนั้น
“ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้านั่นเอง!” ประสาทสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ของ สือฮ่าวนั้นเฉียบแหลม สามารถฟื้นฟูดูความทรงจำในวัยเด็กได้ทันที
เขารู้สึกตกใจไม่น้อยไม่คิดว่าผ่านไปเกือบสามร้อยปีพวกเขาจะได้พบกันอีกครั้ง
“เป็นเจ้าจริงๆเด็กน้อยที่ดื่มนมสัตว์ร้าย…”
พี่น้องทั้งสองหัวเราะ หวนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต
พวกนางพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าเด็กในตอนนั้นเติบโตมาถึงขนาดนี้ได้จริงๆ
อย่างไรก็ตาม พวกนางรู้ว่านี่คือเรื่องที่จริงแท้แน่นอน หลายปีผ่านไปพวกนางได้ยินเรื่องอัศจรรย์เกี่ยวกับฮวงอยู่เสมอ
พวกเขาเริ่มพูดเกี่ยวกับประสบการณ์ของตัวเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอยู่เป็นเวลานาน
สือฮ่าวพูดคุยกับพวกนางโดยอาศัยอยู่ในเมืองนี้เป็นเวลาหลายวัน เขาช่วยพวกนางให้มีความแข็งแกร่งขึ้นสามารถทะลวงอาณาจักรบ่มเพาะจนมีชีวิตยืนยาวมากกว่าเดิม
“เราจะได้เจอกันอีกไหม” เมื่อพวกเขาแยกทางกัน สองพี่น้องก็ไม่ค่อยเต็มใจนัก
“ถ้ามีกรรม เราจะได้พบกันอีก” สือฮ่าวยิ้มโบกมือลา
เขาออกจากโลกฆราวาสทีละขั้นตอน เขายังรู้สึกว่าการกระทำของเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เกิดขึ้นภายใต้แรงกระตุ้นที่แทบจะเป็นสัญชาตญาณ
มันเหมือนกับว่ากรรมทุกสิ่งทุกอย่างของเขาที่เคยเกี่ยวข้องได้ดึงเขาไปพบกับบุคคลต่างๆเพื่อสามารถตัดกรรมเหล่านั้นและกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะในที่สุด
หลายปีผ่านไปสือฮ่าวกลับสู่อาณาจักรล่าง เขาต้องการท้าทายขอบเขตของตัวเองด้วยความช่วยเหลือจากราชันย์ดินแดนปิดผนึก
โลหิตแห่งความมืดได้รับการหล่อเลี้ยงมาเป็นเวลานานตอนนี้มันวิวัฒนาการตัวเองกลายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดขั้นสมบูรณ์เหมือนกับเขาแล้ว
ฮ่อง!
สือฮ่าวต่อสู้กับตัวเองที่นี่ เขาแยกส่วนหนึ่งของวิญญาณดั้งเดิมนั้นพร้อมกับใช้โลหิตแห่งความมืดกัดกร่อนตัวเอง
นี่เป็นความท้าทายของชีวิตและความตาย ถ้าเขาแพ้เขาจะตกอยู่ในความมืดชั่วนิรันดร์
เป็นเวลาหลายทศวรรษที่สือฮ่าวคำรามและต่อสู้อย่างไม่รู้จบ มันอันตรายเกินไป แม้แต่ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกก็มีสีหน้าหนักใจอย่างยิ่ง
เขาประสบความสำเร็จในช่วงแรก ต้านทานการกัดกร่อนของความมืดถูกทำลายไปแทบจะสมบูรณ์แล้ว
อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็หยุดลง ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกได้ทำลายร่างแห่งความมืดของเขาจนไม่สามารถใช้งานได้ในเวลาอันสั้น
“พอแล้วเจ้าต้องใช้มันเพื่อการเข้าสู่สนามรบในอนาคต หากเจ้ายังทำต่อไปมันจะตายในที่สุด
การทดสอบประเภทนี้อันตรายเกินไป แม้ว่าเจ้าจะรอดชีวิต แต่เราไม่อาจสูญเสียเจ้าตัวนี้ไปได้เราไม่สามารถดำเนินการได้อีกต่อไป” ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกกล่าว
ตอนนี้สือฮ่าวได้ฝึกฝนมาสามร้อยปีแล้ว
ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้อีกแล้ว ผู้อมตะที่พังพินาศเหล่านั้นหลบซ่อนตัวเองไว้ไม่เคยปรากฏตัวออกมาดังนั้นเขาจึงรู้สึกท้อแท้อยู่บ้าง
“ผู้อาวุโส ข้าต้องการมุ่งหน้าไปยังโลกของเขื่อน!” สือฮ่าวกล่าว เขารู้สึกว่าตอนนี้เขาสามารถออกเดินทางได้ เพราะเขาเติบโตอย่างเต็มที่แล้ว
"ตกลง!" ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกพยักหน้าเห็นด้วย
ราชันดินแดนปิดผนึกขอเวลาเล็กน้อยในการเตรียมตัวสร้างค่ายกลเคลื่อนย้าย
สือฮ่าวรู้สึกทั้งความหวาดหวั่นและความปรารถนาต่อสถานที่แห่งนั้น เขาต้องการไปที่นั่น แต่ก็กังวลใจไม่น้อยเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่มีทางเลือกเขาจะไม่มีทางไปที่แห่งนั้นอีกครั้งอย่างแน่นอน
“เจ้าอยากพาคนอื่นมาไหม” ราชันย์ดินแดนปิดผนึกขมวดคิ้ว นี่เป็นคำขอขอสือฮ่าวที่เคยขอไว้ในอดีต
เขาไม่ได้ต้องการไปที่นั่นคนเดียว แต่ต้องการพาคนอื่นไปกับเขาด้วย
สถานที่แห่งนั้นไม่ใช่สถานที่ธรรมดาดังนั้นสือฮ่าวจึงต้องการพาใครบางคนจากหมู่บ้านหินผาไปที่นั่นด้วย หากไปถึงสถานที่แห่งนั้นเขาเชื่อว่าทุกคนจะได้รับผลประโยชน์มหาศาล
สือฮ่าวเคยไปที่นั่นมาก่อน ลืมเรื่องอื่นๆไปเลย แค่ขุมนรกสายฟ้าก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ตาของผู้คนแดงก่ำแล้ว
เพียงแค่สระสายฟ้าที่อยู่ที่นั่นก็เพียงพอจะทำให้เขาต้องการย้อนกลับไปแล้ว ในครั้งนั้นเขาได้ปราบมันไว้หนึ่งอัน ทำให้เขาได้รับประโยชน์มหาศาล
แน่นอนว่านี่เป็นการต่อสู้ระหว่างความเป็นความตายด้วย ท้ายที่สุดในโลกของเขื่อนแห่งนี้ ก็มีซากศพผู้อมตะที่แท้จริง
พวกมันน่ากลัวเกินไปเพียงความผิดพลาดเล็กน้อยก็สามารถทำให้ชีวิตดับสูญอย่างง่ายใด
“เจ้าต้องคิดสิ่งต่างๆให้ชัดเจน สถานที่แห่งนั้นไม่ใช่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างที่เจ้าคิด แต่มันเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างยิ่ง ไม่ใช่สถานที่ที่ใครๆก็สามารถรับประโยชน์ได้
หากมีอันตรายแม้แต่ร่างกายและจิตวิญญาณของเจ้าก็จะถูกทำลาย” ราชันย์ดินแดนปิดผนึกห้ามปราม
“ข้าจะไม่ไปด้านหลังของเขื่อน และข้าจะระมัดระวัง” สือฮ่าวพยักหน้าอย่างหนักแน่น
ราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกไม่ได้พูดอะไร เขาปล่อยให้สือฮ่าวกลับไปเตรียมตัว