ยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 25 โด่งดังไปทั่วดินแดกรกร้าง, องค์หญิงแห่งลี่หยาง
ยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 25 โด่งดังไปทั่วดินแดกรกร้าง, องค์หญิงแห่งลี่หยาง
“ชายผู้นี้คือใครกัน”
ทุกคนต่างสงสัยในขณะที่มองไปยังร่างสีขาวโดดเดี่ยวบนท้องฟ้า ภายใต้ปราณกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวของเขา ไม่มีใครสักคนเดียวที่กล้าเข้าไปแย่งชิงกระดูกสมบัติ
ชายคนนี้มาจากไหน เขาดูเยาว์ยิ่งนัก แต่กลับเป็นยอดฝีมือในขอบเขตชีวาเร้นลับแล้ว หากเขาได้รับเวลาอีกสองสามปี ไม่ใช่ว่าเขาจะทะลวงไปสู่ขอบเขตปรมาจารย์ยุทธเลยหรือ
ขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ! นี่คือเจ้าเหนือหัวของทั้งภูมิภาค! แม้แต่ยักษ์ใหญ่เช่นราชวงศ์ก็ยังไม่กล้าที่จะยั่วยุบุคคลอยู่เช่นนี้
มีคนพูดว่า “ข้ารู้จักเขา ชายคนนั้นคือปรมาจารน์ที่อายุน้อยที่สุดของสำนักเยียวยาสวรรค์ เย่ชิวปรมาจารย์แห่งขุนเขาเมฆาม่วง…” ชายที่กล่าวนั้นเป็นศิษย์ของสำนักเยียวยาสวรรค์ เขาจดจำเย่ชิวได้ในทันที
“อะไรกัน”
“ปรมาจารย์แห่งขุนเขาเมฆาม่วง”
ทุกคนต่างตกใจ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้รู้สึกตกใจอีกต่อไปเมื่อได้ยินว่า เย่ชิวมาจากสำนักเยียวยาสวรรค์ มีเพียงสำนักโบราณเช่นสำนักเยียวยาสวรรค์เท่านั้นที่สามารถสร้างบุคคลที่น่าทึ่งเช่นนี้ได้
“ช่างทรงอำนาจเหลือเกิน! เพียงกระบี่เดียวก็ทำให้ผู้ที่อยู่ในขอบเขตชีวาเร้นลับบาดเจ็บสาหัสถึงสองคน จากนั้นก็แย่งชิงกระดูกสมบัติไป”
“ความแข็งแกร่งเช่นนี้สามารถกล่าวได้ว่าอยู่ในระดับสูงสุดของขอบเขตชีวาเร้นลับ!”
ทุกคนถอนหายใจ การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเย่ชิวนั้นสะดุดตาเกินไป เป็นเรื่องยากที่จะทำใจให้สงบในเวลาอันสั้น
“สำนักเยียวยาสวรรค์!” หลี่ชางกงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่า ข้ากำลังสงสัยว่าใครกันมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ กลับกลายเป็นสหายเต๋าของสำนักเยียวยาสวรรค์ ยินดีที่ได้รู้จัก ยินดีที่ได้รู้จัก…”
เย่ชิวใส่กระดูกสมบัติลงในหยกวิญญาณเร้นลับและหันกลับไปมองที่หลี่ชางกง
“เจ้าคือ”
“ข้าคือหลี่ชางกงจากภูเขาเซียน! ข้าเป็นสหายเก่ากับ สหายเต๋าฉีจากสำนักเยียวยาสวรรค์ของเจ้าฉีอู๋ฮุ่ย การได้เห็นความโดดเด่นของสหายเต๋าในวันนี้ทำให้ข้าตกใจอย่างแท้จริง สหายเต๋าหากเจ้าไม่ว่าอะไร เราลองมาเป็นสหายกันดีหรือไหม” หลี่ชางกง กล่าวอย่างสุภาพ เนื่องจากเขาไม่สามารถแย่งชิงกระดูกสมบัติไปได้ ทว่าเขาอาจผูกมิตรกับเย่ชิวได้
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือเขาไม่ควรพูดถึงฉีอู๋ฮุ่ย มิฉะนั้นเย่ชิวคงไม่คิดจะผูกมิตรกับเขา
“ฉีอู๋ฮุ่ย ข้าไม่คิดว่ามันจำเป็นนัก…” เย่ชิวพูดเบา ๆ แล้วหันหลังกลับเพื่อจากไป
วานรยักษ์ได้ตายไปแล้ว เรื่องนี้ได้ยุติลงแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป
หลี่ชางกงไม่เข้าใจการกระทำของเย่ชิว เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดเย่ชิวถึงเปลี่ยนทัศนคติของเขาในทันใด
“เป็นไปได้ไหมที่คนผู้นี้มีความแค้นกับฉีอู๋ฮุ่ย” หลี่ชางกงครุ่นคิดกับตนเองและรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เหตุใดเขาต้องพูดถึงชายคนนั้นโดยไม่มีเหตุผล
เมื่อกลับมา หมิงเยว่มองไปยังเย่ชิวด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ศิษย์น้องเย่ ขอแสดงความยินดีที่ได้รับกระดูกสมบัติของวานรยักษ์! เป็นกระดูกสมบัติของทายาทเผ่าพันธุ์โบราณในขอบเขตชีวาเร้นลับ
“ด้วยกระดูกสมบัตินี้ เจ้าคงจะสามารถทะลวงไปสู่ขอบเขตปรมาจารย์ยุทธได้ในเร็ว ๆ นี้”
หมิงเยว่รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย แต่นางไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเย่ชิวเป็นคนเอากระดูกไป นางรู้แค่ว่าโชคของนางไม่ดีนักและความแข็งแกร่งของนางก็ยังไม่เพียงพอ มิฉะนั้น นางจะปล่อยให้เย่ชิแย่งชิงกระดูกสมบัตินี้ไปได้อย่างไร
เย่ชิวสามารถเห็นความผิดหวังในดวงตาของ หมิงเยว่ แต่เขาไม่สามารถมอบกระดูกสมบัติให้นางได้เพราะเขาต้องการมันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง
“ข้าโชคดี! หากไม่ใช่เพราะท่านช่วย ข้าคงไม่สามารถชิงกระดูกสมบัติไปได้ง่ายดายนัก” เย่ชิวกล่าวอย่างสุภาพ เขาหันกลับมาและพยักหน้าให้หลินชิงจู้ จากนั้นกล่าวว่า “ศิษย์พี่หญิง เรื่องนี้จบลงแล้ว ข้ายังต้องพาศิษย์ไปฝึกฝนต่อ เราจะจากกันที่นี่”
“ตามที่เจ้าว่า” หมิงเยว่ก็ไม่ได้เรียกร้องให้อยู่ต่อ นางมองดูเย่ชิวและหลินชิงจู้ ค่อย ๆ หายไปจากระยะไกล
นางรู้สึกราวกับว่าตนถูกทอดทิ้ง
ระดับการบ่มเพาะและความแข็งแกร่งของศิษย์น้องคนนี้ที่นางเคยดูถูกนั้นเหนือกว่านางไปเสียแล้ว นางมีความรู้สึกว่าในอนาคต เขาอาจกลายเป็นตัวตนที่นางทำได้เพียงแหงนหน้ามองขึ้นไป
ศิษย์ที่อยู่เบื้องหลังหมิงเยว่ต่างพูดคุยกัน
“อาจารย์อาจารย์ลุงเย่แข็งแกร่งเกินไป!”
“เคล็ดวิชากระบี่ที่กดขี่ข่มเหงอย่างหาที่เปรียบมิได้นั้นมอบความรู้สึกที่เป็นอิสระออกมาอย่างถึงที่สุด นอกจากนี้เขายังหล่อเหลาเป็นอย่างมาก เป็นองค์ชายเจินเหรินในอุดมคติอย่างแท้จริง”
“นอกจากนี้ พวกเจ้าสังเกตเห็นหรือไม่ อาจารย์อาจารย์ลุงเย่ไม่ได้ใช้สมบัติใด ๆ เลย เขาเพียงขยับนิ้วกำรับทั่วทั้งสิบทิศ”
“ช่างทรงอำนาจเกินไป”
“ข้าหลงไหลเขาเหลือเกิน”
ริมฝีปากของหลิวรู่หยานกระตุกหลังจากได้ยินสิ่งนี้ ทุกวันนี้สตรีเหล่านี้ไม่ได้ควบคุมตนเองเลยหรือ อย่างไรก็ตาม นางสามารถเข้าใจความคิดของพวกนางได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในภูเขาเป็นเวลานานและฝึกฝนในขุนเขาวารีนภา นางไม่เคยเห็นแม้แต่ผู้ชาย นอกจากนี้ เป็นเรื่องปกติที่จะหลงใหลอาจารย์อาจารย์ลุงเย่ผู้ที่รูปงาม
ในขณะนั้นนางพลันรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมา นางหน้าแดงด้วยความลำบากใจเมื่อนึกถึงเรื่องนี้
ในไม่ช้าหมิงเยว่ก็พาพวกนางออกไป
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ชื่อเสียงของเย่ชิวก็ดังก้องไปทั่วดินแดนรกร้าง
นี่เป็นครั้งแรกที่หลายคนได้รับรู้ว่านอกเหนือจากเมิ่งเทียนเจิ้งและฉีอู๋ฮุ่ยแล้ว สำนักเยียวยาสวรรค์ ยังมีปรมาจารย์ที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่อีกคน
ในขณะนี้ บนเส้นทางดินแดนรกร้างโบราณมีร้านอาหารตั้งอยู่ มีผู้คนหลายคนรวมตัวกันอยู่ข้างใน
“นี่ พวกเจ้าทุกคนเคยได้ยินหรือไม่”
“สำนักเยียวยาสวรรค์ได้สร้างยอดฝีมือผู้ทรงอำนาจขึ้นมาอีกคนหนึ่ง! ความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่อาจหยั่งรู้ได้”
“เขาทำให้ยอดฝีมือขอบเขตชีวาเร้นลับสองคนของตระกูลหลินบาดเจ็บสาหัสด้วยการลงกระบี่เพียงครั้งเดียว ยอดฝีมือสองคนนี้เป็นหนึ่งในผู้ที่เก่งกาจในขอบเขตราชวงศ์ลี่หยางทั้งหมด”
“ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขาจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากชายคนนั้นได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว! ช่างน่าสะพรึงกลัวเกินไป!”
ในร้านอาหาร การสนทนาเริ่มเข้มข้นขึ้น
“เย่ชิว ปรมาจารย์แห่งขุนเขาเมฆาม่วง ดูเหมือนจะยังหนุ่มมาก เขาชอบใส่เสื้อผ้าสีขาวและมีสาวงามที่โดดเด่นอยู่ข้างกาย มีหยกวิญญาณชิ้นหนึ่งและจี้อยู่บนเสื้อผ้าของเขา สามารถระบุตัวตนได้อย่างง่ายดาย หากใครพบเขาอย่าลืมปลุกความฉลาดในตัวเจ้าขึ้นมา อย่ายั่วยุเขา มิฉะนั้นเจ้าอาจตายไปโดยไร้หลุมฝังศพได้”
บนที่นั่งริมหน้าต่างชั้นสอง มีหญิงสาวสวยในชุดคลุมสีแดงพร้อมผ้าคลุมปิดหน้า นางมองถ้วยในมือช้า ๆ และพึมพำ “สำนักเยียวยาสวรรค์ เย่ชิว…”
“องค์หญิง! ท่านกำลังคิดอะไรอยู่…” ขณะที่จ้าวว่านเอ๋อกำลังคิด สาวใช้ข้างนางได้ซักถามอย่างสงสัย
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่สวยงามของจ้าวว่านเอ๋อ การกระทำของนางดูสง่างามขณะที่วางนิ้วไว้บนกาน้ำชาแล้วเลื่อนลง หากไม่ใช่เพราะผ้าปิดหน้า ผู้ชายทุกคนในร้านอาหารคงถูกนางสะกดจิตไปแล้ว
นางเป็นสตรีที่สง่างามเป็นอย่างมาก ความสง่างามนี้ได้ถูกสลักลงในกระดูกของนางแล้ว
จ้าวว่านเอ๋อกล่าวอย่างใจเย็น “ไม่มีอะไร ข้าแค่อยากรู้ว่าเย่ชิวคนนี้น่าสะพรึงกลัวจริง ๆ อย่างที่พวกเขาพูดหรือไม่”
เสี่ยวหลิงเอียงศีรษะและคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “เราเคยเห็นยอดฝีมือทั้งสองจากตระกูลหลินแล้ว พวกเขาแข็งแกร่งมากจริง ๆ เย่ชิวคนนั้นจะต้องมีความสามารถบางอย่าง เพราะเขาสามารถโจมตีสองคนนั้นให้บาดเจ็บสาหัสเพียงครั้งเดียวได้
“องค์หญิง ท่านไม่เคยกังวลใจเลยหรือว่าท่านควรจะเริ่มฝึกฝนในสำนักเซียนสำนักแห่งใด ข้ารู้สึกว่าสำนักเยียวยาสวรรค์นี้ค่อนข้างดีเช่นกัน”
ดวงตาของจ้าวว่านเอ๋อสว่างขึ้น “อืม… นี่เป็นความคิดที่ดี”
นางหนีออกจากพระราชวังครั้งนี้เพราะท่านพ่อของนางต้องการให้นางแต่งงานกับองค์ชายแห่งราวงศ์ฮั่นไห่ แต่นางไม่เต็มใจ ดังนั้นนางจึงต้องการเข้าสู่สำนักเซียนหรือดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อฝึกฝนและใช้โอกาสนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการแต่งงาน
ในฐานะองค์หญิงแห่งราชวงศ์ การแต่งงานเป็นชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพียงแต่ว่านางไม่ต้องการยอมจำนนต่อชะตากรรมเช่นนี้
ในช่วงเดือนนี้ นางได้ไปเยี่ยมชมสำนักเซียนและดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากมาย แต่น่าเสียดายที่นางไม่ได้พึงพอใจนัก ตอนนี้นางได้ยินชื่อสำนักเยียวยาสวรรค์นางก็เริ่มให้ความสนใจ โดยเฉพาะ เย่ชิว ปรมาจารย์แห่งขุนเขาเมฆาม่วง
“ข้าคิดว่าเราสามารถสังเกตการณ์ต่อไปได้” จ้าวว่านเอ๋อวางถ้วยในมือของนางแล้วดึงเสื้อคลุมสีแดงของนาง “ไปกันเถอะ!”
จากนั้นทั้งสองออกจากร้านอาหาร
[TL: ตอนหน้า ตอนที่ 26 เริ่มเก็บเงินนะครับ อ่านฟรีบ้าง เก็บบ้างครับ รู้ว่าบางตอนก็น้ำเยอะ]