ตอนที่ 9 คนนิสัยเสีย
“อ่า, ดอกหนามพ่นพิษมีความสามารถคือ พ่นพิษ หยั่งราก แยกพันธุ์, กินศพและปล่อยสปอร์ไม่ใช่เหรอ? ข้ายังใช้ทักษะกินศพไม่ได้ เพราะตอนนี้ไม่มีศพอยู่แถวๆ นี้ ส่วนปล่อยสปอร์ใช้ได้กับดอกหนามที่พัฒนาระดับขึ้นแล้ว นั่นคือสาเหตุที่ข้าใช้วิธีแยกพันธุ์ อ๋า…. เจ้าทำอะไรน่ะ?”
เย่ว์หยางถึงกับลนลานที่อยู่ๆ เย่ว์ปิงเข้ามาคว้าแขนเขาแน่น
“ท่านเข้าใจวิธีแยกพันธุ์ด้วยหรือ? ข้าได้ยินถูกหรือเปล่า?”
เย่ว์ปิงตื่นเต้นจนหน้าแดงไปทั้งหน้าขณะที่คว้าแขนเย่ว์หยางไว้แน่นบรรดาสัตว์อสูรสายพฤกษา สัตว์อสูรเกือบทั้งหมดมีความสามารถแยกพันธุ์ได้โดยเฉพาะไม้ดอก, เถาองุ่นและเห็ด เกือบทั้งหมดสามารถแพร่พันธุ์ได้ อย่างไรก็ตาม รูปแบบพฤกษาชนิดอื่น เช่นต้นไม้และไผ่อาจทำไม่ได้อาจารย์ในสถาบันจะสอนแต่เพียงวิธีหยั่งรากและพ่นพิษ แต่ความสามารถแยกพันธุ์ไม่ใช่จะสอนกันได้ง่ายๆ อาจารย์บางคนอาจไม่ยอมพูดถึงความมีอยู่ของความสามารถชนิดนี้เลย
เย่ว์ปิงเคยเห็นมันมาก่อนซึ่งเป็นสาเหตุให้นางรู้จักเรื่องการแยกพันธุ์ นางเคยขอให้อาจารย์สอนนางมาก่อน แต่อาจารย์ตัวแสบกลับพูดเป็นนัยๆ ว่านางจะต้องจ่ายให้เขาอย่างน้อย 50 เหรียญทอง ถึงจะยอมสอนนางแบบลับๆ คล้ายๆ ทักษะโกงนั่นแหละ โชคไม่ดีเลยที่สมบัติของครอบครัวนางถูกใช้ไปเพื่อเอาไว้ซื้อยาปลุกพลังวิญญาณสัตว์อสูรให้เย่ว์หยางจากตลาดเร่มืดไม่มีเงินทุน เย่ว์ปิงได้แต่เพียงปฏิเสธข้อเสนอนี้ ดังนั้นนางไม่มีโอกาสได้เรียนวิชาแยกพันธุ์เลยและตอนนี้ คนที่ถูกระบุว่าเป็นไอ้ขี้แพ้ เพิ่งจะใช้วิชาลับโดยไม่ได้เรียนจากใครเลยแล้วจะไม่ให้นางตื่นเต้นได้อย่างไร?
“พี่สาม! สอนข้าบ้าง สอนวิธีแยกพันธุ์เจ้าต้นนี้ให้ข้าที” เย่ว์ปิงตื่นเต้นเหลือจะกล่าวขณะที่นางเขย่าแขนเย่ว์หยางอย่างแรงเท่าที่จะทำได้
“ก็ได้ๆ ..ก่อนอื่น ปล่อยข้าก่อน แล้วสงบใจไว้..” เย่ว์หยางชักประหม่าคิดว่า สาวน้อยผู้นี้อยากเรียนรู้มากเกินไป เอาอย่างนั้นก็ได้ เนื่องจากนางเพิ่งสอนเขาเมื่อครู่นี้ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเขาต้องสอนนางบ้างแล้ว
“น้องเจ็ด! ความจริงแล้ว มันง่ายมาก ก็เหมือนการอัญเชิญธรรมดานั่นเอง อันดับแรกใช้กระแสจิตผสานเข้ากับดอกหนามพ่นพิษให้เป็นหนึ่ง เพ่งความรู้สึกไปว่าเจ้าสามารถควบคุมการอัญเชิญสัตว์อสูรได้ จากนั้นค่อยสั่งให้มันทำการแยกพันธุ์ อย่างไรก็ตาม ณ จุดนี้ เจ้าต้องมั่นใจว่ามีพลังวิญญาณเพียงพอ จากนั้นดอกไม้จะปรากฏเป็นภาพให้เจ้าเห็นเหมือนกับว่ามีดอกหนามอยู่ 2 ต้น ต้นหนึ่งเป็นต้นหลัก ขณะที่อีกต้นหนึ่งเป็นต้นรอง เจ้าควรจะได้เห็นภาพต้นหลักในใจเจ้า แล้วอัญเชิญต้นรองออกมา ตราบใดที่พลังวิญญาณของเจ้ายังมีเพียงพอ ภาพต้นหลักที่เจ้าเก็บไว้ในใจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นเจ้ามีพลังพอแยกพันธุ์แล้วอัญเชิญออกมาอย่างไม่จำกัดจำนวนครั้ง อย่างไรก็ตาม มันต้องใช้ความพยายามมาก และสมองเจ้าอาจมึนงง มันเหลือทนเหมือนกันนะ”เย่ว์หยางบอกนางถึงสิ่งที่คัมภีร์อัญเชิญสีทองแดงได้สอนเขา เมื่อเขาได้รับความรู้เรื่องดอกหนามพ่นพิษเข้ามาในใจเขา รวมกับประสบการณ์ของเย่ว์ปิงและของเขาเข้าด้วยกันเขารู้ว่า แม้ในสัตว์อสูรสายพฤกษา ก็ยังมีความรู้ยิ่งใหญ่ซุกซ่อนเอาไว้ด้วยตอนนี้ระดับของเขายังต่ำเกินไป มีแค่ประสบการณ์อย่างเดียว จากนี้ไป เขาคงไม่ดึงความรู้เหล่านั้นออกมาทั้งหมดแล้วบางที เขาคิดว่า เขาคงเข้าใจความรู้เหล่านี้ได้ทั้งหมดเพราะเขามีทักษะตาทิพย์ก็เป็นได้ นั่นคือเหตุผลที่เขามองเห็นความสามารถลึกลับของดอกหนามได้ นอกจากนี้ วิธีที่สาวน้อยเรียนมาใช้เวลาเรียนในสถาบันหลายปีมาก ทั้งที่รู้ว่าเป็นอัจฉริยะ ก็ยังไม่ได้เรียนทักษะแยกพันธุ์อย่างนั้นหรือ?
“โอ..ก็ได้, ข้าจะลองทำเดี๋ยวนี้แหละ” ตอนนี้กลับตาลปัตรกลายเป็นเย่ว์ปิงทำตัวเหมือนนักเรียนที่กระตือรือร้น ขณะที่นางผงกศีรษะจริงจัง สีหน้านางเห็นได้ชัดว่าตื่นเต้น
“เอาเลย..ช้าๆ อย่าเร่ง..” เย่ว์หยางยังพูดไม่ทันจบประโยคก่อนที่หญิงสาวจะวางมือนางบนภาพ นางหลับตาและจินตนาการ ให้มันออกมาไม่มีการตอบสนองใดๆ อยู่นาน ขณะที่เย่ว์หยางสงสัยว่าเขาคงสอนผิดทันใดนั้น สีหน้าเย่ว์ปิงเปลี่ยนเป็นเหมือนเจ็บปวด ซีดขาวคล้ายคนตายมือน้อยๆ ของนางเริ่มสั่นอาการเช่นนี้ดำเนินต่อเนื่องไปราวๆ 1 นาที ก่อนที่แสงสีทองเริ่มเรืองรองออกมาจากนิ้วของนาง ต้นดอกหนามพ่นพิษ 2 ต้นปรากฏต่อหน้านางในเวลาเดียวกัน ต้นด้านซ้ายดูจะสูงกว่าต้นด้านขวา และลำต้นของมันหนากว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ที่เหลือนอกนั้น ทั้ง 2 ต้นนี้เหมือนกันไม่มากก็น้อย ทั้งสี รูปทรงหรือการเคลื่อนไหว พวกมันมีความต่างกันน้อยมาก ยามนี้ หน้าผากของเย่ว์ปิงเริ่มมีเหงื่อโชก เหมือนกับว่านางได้ชัยชนะในการรบครั้งใหญ่นางลืมตา แล้วใช้มือปาดเหงื่อออกอ้าปากหอบหายใจแม้ว่านางจะดูเหนื่อยล้ามาก แต่ในภายในดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและสุขใจต่อผลสำเร็จ
“ข้าทำได้ ข้าทำสำเร็จแล้ว! ขอบคุณ, พี่สาม! ข้าอยากเรียนทักษะแยกพันธุ์มาโดยตลอด แต่ไม่มีครูคนไหนเต็มใจสอนให้ข้า ขอบคุณพี่สาม!” เย่ว์ปิงนึกถึงความทุกข์ความอัดอั้นตันใจที่นางได้รับในสถาบัน ตานางเริ่มจะแดงขึ้นเล็กน้อยแต่สาวน้อยเป็นคนเข้มแข็ง นางไม่ยอมร้องไห้ แต่โค้งคำนับเย่ว์หยางอย่างจริงใจแทนเย่ว์หยางรีบโบกมือสั่นศีรษะเป็นพัลวัน
“ไม่ต้อง, ไม่เป็นไรหรอก น้องเจ็ด ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเจ้าให้ดอกหนามพ่นพิษข้า ข้าก็คงไม่รู้ความสามารถแบบนั้น..”เมื่อเขาพูดอย่างนั้น เย่ว์ปิงเลิกตื่นเต้นทันทีนั่นสินะ พี่สามเพิ่งได้รับต้นดอกหนามพ่นพิษเองไม่ใช่หรือ? แล้วเขารู้เรื่องการแยกพันธุ์ได้ยังไง?พอเห็นสาวน้อยมองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ เย่ว์หยางสับสนในใจลึกๆ เขารีบพยายามโกหกนาง
“น้องเจ็ด! มันเป็นอย่างนี้ ทักษะโดยธรรมชาติของข้าก็คืออำพราง นี่ก็หมายความว่าข้าสามารถค้นหาความสามารถและลักษณะลึกลับของสัตว์อสูรได้ แต่ทักษะข้ายังคงอยู่ในระดับ 1 ข้าแค่หาความสามารถที่ซ่อนเร้นในกลุ่มเริ่มต้นเท่านั้น”
“แน่นอน ข้าเพิ่งไม่ได้เห็นทักษะของท่านตอนนี้ ดังนั้นข้าไม่ทันได้สังเกตเรื่องนั้น ข้าไม่รู้ว่าทักษะของพี่สามจะเป็นประเภททักษะอำพรางปานเทพเจ้า” แม้ว่าเย่ว์ปิงจะเป็นอัจฉริยะ จะอย่างไรนางก็ยังคงเป็นวัยรุ่น ถึงกับเชื่อคำโกหกของเย่ว์หยางโดยง่าย
“ใช่แล้ว แต่ว่าเจ้าอย่าได้บอกคนอื่นๆ นะ มิฉะนั้นพวกเขาจะริษยาเอาได้” เย่ว์หยางเป็นคนที่รักสงบและเขาไม่ชอบตกเป็นเป้าความสนใจ ความฝันยิ่งใหญ่ของเขาคือเป็นเศรษฐีอย่างเงียบๆ“พี่สาม! เมื่อครู่นี้ ท่านบอกว่าดอกหนามยังมีทักษะกินศพและแพร่สปอร์ นอกเหนือจากพ่นพิษ หยั่งราก และแยกพันธุ์ใช่ไหม?” ตอนนี้เย่ว์ปิงกลายเป็นนักเรียนของเย่ว์หยางไปแล้ว หลังจากได้เรียนทักษะแยกพันธุ์ที่นางอยากได้มากมานานหลายปี นางกระหายจะเรียนอีก 2 ทักษะที่เหลือ
ตอนนี้เย่ว์หยางรู้ว่าความรู้ที่เขามีนั้นลึกซึ้งกว่านักเรียนปกติผู้ใช้เวลาเรียนในสถาบันนานถึง 4 ปีเย่ว์หยางอยากจะเชิดจมูกใส่อากาศ สวมเสื้อครุยนักวิชาการไว้เครายาว จากนั้นฟังเด็กสาวคนสวยนามเย่ว์ปิงเรียกเขาอย่างอ่อนหวานว่า อาจารย์เย่ว์อย่างไรก็ตาม หลังจากคิดฟุ้งซ่านเสร็จแล้ว นิสัยเจ้าเล่ห์ของเขาก็กลับมาอีกจนได้แม้ว่าเย่ว์ปิงจะไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเขา แต่ถ้าเขาบอกนางทุกอย่าง ก็คงไม่ดีนัก เห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างจะหน้าด้าน แล้วจะทำดีกับนางฟรีๆ ได้ยังไง?
ดังนั้น เย่ว์หยางตัดสินใจเก็บเรื่องดอกหนามพ่นพิษไว้เป็นความลับ“ความสามารถกินศพของต้นดอกหนามคือมันสามารถกลืนศพสัตว์อสูรได้ทั้งหมดและค่อยๆ ย่อยมัน เมื่อสั่งดอกหนามให้เริ่มกินศพ เจ้าจะต้องประสานจิตร่วมกับมันเต็มที่ ยกตัวอย่าง ถ้าเจ้าสั่งให้ดอกหนามกินหนูขนเหล็ก ในใจเจ้าก็ต้องยินดีกับการกินหนูขนเหล็กไปด้วย”เพื่อให้ดอกหนามกินศพ ก็ไม่มีอะไรมาก แต่นางต้องยินดีกินหนูด้วยตัวเองด้วยหรือ?
พอสาวน้อยคิดเรื่องนั้น นางแทบอาเจียนออกมาความจริง คนที่ทำไม่ดีก็มักจงใจใช้หนูเป็นตัวอย่างเพื่อวัตถุประสงค์ตนทั้งนั้น เกี่ยวกับความสามารถกินศพ ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นแน่นอน เขายังเก็บวิธีจริงๆ ไว้เป็นความลับต่อไป
****************