ตอนที่ 114 - บุกเข้าไปในอาณาจักรลับ ไม่มีที่ใดที่ข้าไปไม่ได้![ฟรี]
สถานที่ส่วนใหญ่ที่อาณาจักรลับแห่งความโกลาหลปรากฏขึ้นจะอยู่ที่ดินแดนส่วนกลาง เป็นผลแดนปีศาจไม่สามารถก้าวเข้าไปได้ และผู้ฝึกฝนที่ชอบธรรมเหล่านี้ได้โอ้อวดและตั้งกฎข้อบังคับทุกประเภทอย่างไร้ยางอาย
และหนึ่งในนั้นคือคนของแดนปีศาจ ไม่มีใครจากแดนปีศาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป หากพวกเขาถูกเจอ พวกเขาก็จะถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี
เนื่องจากแดนปีศาจตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล มันเลยทำให้ไม่สามารถเข้าถึงอาณาจักรลับแห่งความโกลาหลที่ปรากฏภายนอกได้ และยิ่งกว่านั้น ถ้าพวกเขาเข้าไป พวกเขาอาจจะถูกรายล้อมไปด้วยผู้ฝึกฝนที่ชอบธรรม และหลังจากผ่านไปหลายปี มันก็เหมือนกับว่า อาณาจักรลับแห่งความโกลาหลได้กลายเป็นสมบัติของผู้ปลูกฝังที่ชอบธรรมเหล่านี้
ผู้คนในแดนปีศาจรู้สึกขุ่นเคืองใจเรื่องนี้มานานแล้ว
บรรยากาศเริ่มเย็นลงในทันที และใคร ๆ ก็สามารถได้กลิ่นดินปืนจาง ๆ
คนของนิกายโบราณหน้าแดงและพูดอย่างโกรธเคือง “นางแม่มด อย่ามาใส่ร้ายพวกข้า”
“ข้าเข้าใจผิดหรือยังไง? เจ้าโกรธเพราะมันคือเรื่องจริง? ถ้าจะให้พูดตรง ๆ ล่ะก็ พวกเจ้าก็แค่กลัวว่าความแข็งแกร่งของแดนปีศาจของข้าจะเติบโต”
รอยยิ้มของเหม่ยเฉียนเหมิงหายไป ใบหน้าที่เย็นชาของเธอดูเหมือนจะมีความรู้สึกพิเศษอีกครั้ง “ไม่มีที่ไหนในโลกนี้ที่ข้าเหม่ยเฉียนเหมิงไปไม่ได้!”
ประโยคนี้เต็มไปด้วยอำนาจ
“ในเมื่อพวกเจ้าไม่รู้จักวิธีการขอบคุณ ดังนั้นอย่าตำหนิที่ข้าไม่สุภาพ”
เหล่าผู้นำนิกายดอกบัวบริสุทธิ์, นิกายโบราณ, นิกายเจิ้งหยาง, นิกายซวนจี้ และนิกายขนาดใหญ่อื่นๆ
“แม้แต่ประมุขแดนปีศาจก็ยังไม่กล้าพูดต่อหน้าข้า เจ้าเป็นเพียงเด็กน้อยศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่เจ้ากลับกล้าที่จะพูดอย่างหยิ่งผยอง วันนี้เจ้าจะไม่ได้กลับไปเด็ดขาด ข้าเชื่อว่าแม้แต่ปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่สามารถหาเรื่องกับเราได้”
เหม่ยเฉียนเหมิงไม่ใช่คนโง่ เนื่องจากเธอกล้าที่จะออกมา เธอก็ต้องมีแผนอยู่แล้ว
การยั่วยุของเธอดึงดูดความสนใจของเหล่านิกายที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีใครสังเกตเห็นพระจันทร์สีเลือดที่ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นบนท้องฟ้า
เหล่าผู้อาวุโสที่อยู่เบื้องหลังของเหม่ยเฉียนเหมิงได้เสร็จสิ้นการเตรียมการของพวกเขาแล้ว พวกเขาพูดด้วยเสียงต่ำว่า “สตรีศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว”
ริมฝีปากสีแดงของเธอโค้งเป็นรอยยิ้มอย่างภาคภูมิ “ถึงเวลาการแสดงของเราแล้ว”
คนอื่นๆ มองได้ไปที่แสงสีแดงรอบๆ ตัวพวกเขา และรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีในทันที พวกเขาพูดด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งว่า “นางแม่มด เจ้าต้องการที่จะทำอะไร!”
ริมฝีปากสีแดงของเหม่ยเฉียนเหมิงโค้งเล็กน้อย มันเต็มไปด้วยสิ่งล่อใจที่ไม่อาจบรรยายได้ “แน่นอน~ ข้าอยากทำในสิ่งที่อยากทำ!”
พระจันทร์สีเลือดได้ผลิบาน!
แม้แต่เหล่าดอกไม้และต้นไม้ก็ส่องแสงสีแดงแปลก ๆ มันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ดี ใบหน้าของเหม่ยเฉียนเหมิงดูเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม ราวกับแม่มดที่พร้อมกระชากวิญญาณ
แสงสีแดงในดวงตาของเธอทำให้หลายคนหยุดนิ่งอยู่กับที่
“ทุกคนระวัง! อย่ามองเข้าไปในดวงตาของปีศาจนั่น ไม่อย่างนั้นเจ้าอาจจะถูกสะกดจิต”
สายตาของเหม่ยเฉียนเหมิงพลันจับจ้องไปที่ประตูแห่งความโกลาหล พวกลูกศิษย์เหล่านั้นที่ยังไม่ได้เข้าสู่อาณาจักรลับ หากเธอโจมตีตอนนี้ล่ะก็ พวกลูกศิษย์เหล่านั้นก็คงไม่สามารถหยุดเธอได้ทันเวลาอย่างแน่นอน
คนอื่นๆ ตื่นตระหนกตกใจทันที พวกเขาคิดว่าเหม่ยเชียนเหมิงกำลังจะแอบโจมตีเหล่าลูกศิษย์ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบพยายามขัดขวางเธอ
แต่อย่างไรก็ตาม เหม่ยเฉียนเหมิงไม่มีความคิดที่จะจัดการกับพวกคนเหล่านั้น มือของเธอได้สร้างตราประทับที่ซับซ้อนขึ้น เครื่องหมายพระจันทร์สีเลือดปรากฏตรงกลางหน้าผากสีขาวของเธอ
แต่มันไม่ใช่มีแค่เธอ เหล่าลูกศิษย์ของแดนปีศาจที่อยู่ข้างหลังเธอปรากฏเช่นกัน เพียงแต่พระจันทร์สีเลือดบนหน้าผากของพวกเขานั้นมันไม่ชัดเจนเท่าของเหม่ยเฉียนเหมิง แสงบนหน้าผากของพวกเขามันหรี่ลงเล็กน้อย
จากนั้นทุกคนก็ตระหนักว่ามันเป็นเพียงกลอุบายของเหม่ยเฉียนเหมิงที่กำลังซื้อเวลาเท่านั้น
"ไม่ดีแล้ว! คนจากแดนปีศาจกำลังจะบุกเข้าไปในอาณาจักรแห่งความลับด้วยกำลัง ร่วมมือกันปิดอาณาจักรแห่งความลับนี้เร็วเข้า! เราไม่สามารถปล่อยให้คนของแดนปีศาจทำสำเร็จได้”
ผู้อาวุโสแห่งความลับสวรรค์ได้ผลักดันดวงดาวให้แยกออกจากประตูแห่งความโกลาหล และในเวลาเดียวกัน กลุ่มดาวทั้ง 28 ดวงบนท้องฟ้าก็เริ่มเคลื่อนตัวไปทีละกลุ่ม โลกทั้งใบได้กลายเป็นเรื่องลึกลับและยากจะหยั่งถึง หมอกแห่งความโกลาหลสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอกอีกครั้ง
ถึงกระนั้น พลังของดวงดาวนั้นก็เกือบจะหมดลงในตอนที่ดินแดนลับถูกเปิดขึ้น มันไม่มีทางที่จะต้านทานพระจันทร์สีเลือดที่กำลังสว่างไสวไปด้วยแสงสีแดงได้เลย
ผู้นำคนอื่นๆก็เหมือนกัน พลังส่วนหนึ่งของพวกเขาถูกใช้ไปแล้ว เวลานี้พวกเขาก็เข้าใจในที่สุดว่าทำไมเหม่ยเฉียนเหมิงจึงเลือกที่จะปรากฏตัวในเวลานี้ มันเป็นแผนการที่ลึกซึ้งอย่างแท้จริง
พวกเขาใช้กำลังทั้งหมดเพื่อปิดประตูแห่งความโกลาหล แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้แสงสีแดงจำนวนนับไม่ถ้วนได้พุ่งเข้าสู่อาณาจักรลับแห่งความโกลาหล มันไม่มีทางที่จะหยุดคนจากแดนปีศาจได้
ผู้คนจากนิกายอื่นสามารถเห็นได้ชัดว่าพระจันทร์สีเลือดดวงนี้นั้นไม่ธรรมดา พวกเขาพยายามใช้การโจมตีทุกประเภท แต่พวกมันเปรียบเสมือนดอกไม้ในกระจก พวกมันไม่สามารถทำอันตรายได้แม้แต่น้อย
เมื่อแสงสีแดงค่อยๆ หายไป เหม่ยเฉียนเหมิงและพรรคพวกก็หายไปเช่นกัน
พวกเขาทำได้เพียงแค่เฝ้ามองผู้คนจากแดนปีศาจเข้าสู่แดนลับ มันสายเกินไปแล้วที่จะใช้กระบวนท่าสังหารของพวกเขาในตอนนี้ และมันอาจจะทำให้อาณาจักรลับแห่งความโกลาหลไม่เสถียรจนส่งผลต่อเหล่าลูกศิษย์ในอาณาจักรลับ
เหม่ยเฉียนเหมิงรู้เรื่องนี้ดี และนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงสามารถเข้าไปได้อย่างเปิดเผยได้
“ผู้คนจากแดนปีศาจมันจะฉลาดแกมโกงเกินไปแล้ว!”
“แล้วตอนนี้เราควรทำยังไงดี? ถ้าคนพวกนั้นสังหารผู้ฝึกฝนของนิกายเราล่ะ”
เมื่อมองดูผู้คนเหล่านั้นจากแดนปีศาจ ทุกคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้กลืนแมลงวันเข้าปาก แต่พวกเขาไม่สามารถคายมันออกมาได้ หัวใจของพวกเขาอึดอัดย่างมาก
“ในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้ เราไม่มีทางเลือก แต่ทุกคนอย่ากังวลมากไป ถึงอย่างไรมันมีเพียงไม่กี่คนจากแดนปีศาจเท่านั้น นิกายของเรานั้นมีลูกศิษย์มากมาย พวกเจ้ากลัวว่าพวกเขาจะจัดการกับพวกนั้นไม่ได้หรือยังไง?”
แม้ว่านั่นจะคือสิ่งที่พวกเขาพูดออกมา แต่เมื่อคิดถึงวิธีการลึกลับของคนเหล่านั้นจากแดนปีศาจแล้ว บางคนก็ยังคงแสดงท่าทีกังวลใจอยู่
“ถือว่ามันเป็นการฝึกประสบการณ์พิเศษแก่พวกเขา มันไม่มีประโยชน์อะไรเราจะมากังวล”