Ep.432 - ชูร่าแห่งเลือดนาเซอร์
2/3
Ep.432 - ชูร่าแห่งเลือดนาเซอร์
หลังจากที่ฮังอวี่ขึ้นเป็นขุนนางใหญ่เมืองธารทะเลทราย
เสียงวิจารณ์เขาในโลกจริงมลายหายไปสิ้น
แม้บางครั้งจะมีคนพิมพ์อะไรมาซักประโยคสองประโยค
แต่ไม่ช้าก็จะถูกคนอื่นรุมถล่มอย่างรวดเร็ว
ในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์ต่างๆที่เกิดขึ้นในแคว้นเดียวดาย มูลค่าเศรษฐกิจทางการค้าของมังกรคราม หรือแม้แต่เรื่องซุบซิบส่วนตัวของฮังอวี่ ล้วนสามารถกระตุ้นและก่อให้เกิดข้อถกเถียงจากทุกฝ่าย
นอกจากนี้
ศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์ในเมืองหลวง รวมไปถึงกองกำลังสำคัญๆจากประเทศต่างๆ ทุกฝ่ายต่างเฝ้าจับตาดูแคว้นเดียวดายในฐานะเมืองทดสอบ
ทุกการเคลื่อนไหวในเมืองธารทะเลทราย ต่างมีคนนำไปวิจัยและศึกษาลงรายละเอียดเชิงลึก
ณ ตอนนี้
ภายในชุมชนมังกรฟ้า
ฮังอวี่นั่งจิบอย่างผ่อนคลาย ยากนักที่เขาจะหาเวลาสงบๆเช่นนี้
หลายวันที่ผ่านมาเมืองธารทะเลทรายยุ่งมาก การทดลองศูนย์การค้าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีเสบียงมากมายถูกนำมาขายให้พวกเขา โยกย้ายจากเมืองต่างๆส่งมายังเมืองธารทะเลทราย
ทรัพยากรคุณภาพสูง อุปกรณ์ระดับสูงในสภาพดีเยี่ยม ทั้งหมดถูกอัดฉีกเข้าสู่สังคมมนุษย์
ขณะเดียวกัน
เมืองธารทะเลทรายยังนำเข้าโพชั่นลับ หินสกิล และวัสดุเฉพาะจากโลกมนุษย์อย่างต่อเนื่อง แล้วนำไปขายให้กับชาวพื้นเมืองในราคาที่สูงมาก
กระบวนการนี้ ทำกำไรได้เหนือจินตนาการ!
แม้ทุกอย่างจะเริ่มต้นด้วยดี แต่ขั้นตอนการปฏิบัติงานจริง ยังประสบปัญหามากมายเช่นกัน
ทว่าฮังอวี่คร้านเกินกว่าจะเข้าไปแทรกแซง เขามอบหมายอำนาจทั้งหมด ส่งต่อให้แก่เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา
จ้าวหมิงจัดทีมพิเศษกว่า 200 คน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกฏการซื้อขาย ตลาดซื้อขาย และรายละเอียดต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ในเวลานั้นเอง
ประตูถูกเปิดออก
สาวงามที่มีหุ่นอันร้อนแรงพร้อมกับฮัสกี้กลับมาบ้านแล้ว
ซูหยุนปิงแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาตรงๆ
“พวกเราทุกคนยุ่งจนเท้าแทบไม่ได้หยุดนิ่งกับพื้น แต่นายที่เป็นบอสใหญ่กลับมีอารมณ์มานั่งจิบชาสบายๆ?”
ฮังอวี่หัวเราะ “แต่ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรอกหรือที่ทำให้อาจารย์มีโอกาสอวดโฉมหน้าและชื่อเสียงของตัวเอง? ทุกวันนี้ชาวเมืองเจียงเฉิงในเน็ตขนานนามอาจารย์ว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองแล้ว!”
ซูหยุนปิงกลอกตาและบ่น “สาวงาม? สาวงาน(ทำงาน)อันดับหนึ่งน่ะสิไม่ว่า!”
“เจรจาเรื่องช่องทางการขนส่งสินค้าแล้วรึยัง?” ฮังอวี่เข้าเรื่อง “เสบียงในเมืองธารทะเลทรายมีเยอะเกินไป พวกเราต้องรีบกระจายสินค้า ถ้าการขายล่าช้าจะเกิดผลกระทบมาก กลุ่มมังกรฟ้ากับเมืองเจียงเฉิงเป็นฐานทัพหลังของผม ผมหวังว่าเสบียงพวกนี้จะช่วยให้มังกรฟ้าได้กินส่วนแบ่งอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง”
หวังเอ๋อเอ่ยขึ้น “ฮ่ง เจ้านาย เรื่องนั้นมั่นใจได้ ทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้ว วันนี้เปิ่นหวังเพิ่งไปจัดประชุมพวกเถ้าแก่ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย เจ้าของร้านอุปกรณ์ทั้งหมด เจ้าของร้านขายวัสดุทั้งหมด รวมไปถึงตัวแทนของสมาคมโลกวิญญาณและสกายเน็ตมาร่วมงาน ทุกคนกำลังเสนอราคาซื้อพวกมัน เป็นฉากที่ร้อนแรงมาก”
ซูหยุนปิงยังกล่าวอีกว่า “แผนของฉันคือกลุ่มมังกรฟ้าซื้อเสบียงจากเมืองธารทะเลทรายในปริมาณมาก ส่วนหนึ่งที่เหมาะสมนำไปย่อยสลายและใช้เอง ที่เหลือส่งไปขายต่อให้กับร้านค้ากับกองกำลังในเจียงเฉิง”
ฮังอวี่กล่าวว่า “ไม่เลว พวกเรามีทั้งปริมาณและคุณภาพที่ดี ตราบใดที่สามารถเตรียมเรื่องช่องทางการจัดส่งได้ เรื่องขายของก็ไม่ต้องกังวล”
ซูหยุนปิงกล่าวต่อว่า “ฉันวางแผนจะสร้างสาขาย่อยในลู่เฉิง หงเฉิง หังเฉิง และเซี่ยงไฮ้ ธุรกิจโรงแรม บาร์ ร้านขายอุปกรณ์ ร้านขายโพชั่น ฯลฯ ที่พวกเราเคยเปิดที่นี่จะขยายสาขาไปเปิดที่นั่น และตอนนี้เงื่อนไขที่พวกเรามีพร้อมแล้ว ถึงเวลาขยายตลาดเสียที”
กลุ่มมังกรฟ้าแข็งแก่กล้าขึ้นมากแล้ว
บวกกับชื่อเสียงของฮังอวี่
พวกเขาพร้อมที่จะขยายกิจการ
หากทำแบบนี้จะสามารถทุ่มลงทุนได้มากขึ้น สามารถซื้อสถานที่ดีดีได้อีกเพียบ
แล้วอีกอย่างกลุ่มมังกรฟ้าตอนนี้มีเรือของมนุษย์ปลาเกินกว่า 50 ลำแล้ว นี่คือข้อได้เปรียบอย่างมาก
ฮังอวี่กล่าวว่า “งั้นพวกเราก็ต้องมีทีมผู้ผลิตในกลุ่มมากกว่านี้”
ซูหยุนปิงกล่าวว่า “ฉันเข้าใจ ทีมผู้ผลิตกลุ่มมังกรฟ้าคือหนึ่งในทีมผู้ผลิตที่ดีที่สุดในเจียงเฉิง นี่คือข้อได้เปรียบของเรา หวังเอ๋อกับฉันจะมุ่งเน้นด้านการพัฒนาฝ่ายผลิตด้วยตัวเอง ฝึกฝนพวกเขา เพิ่มความสามารถระดับไฮเอนด์ให้มากขึ้น เจาะตลาดระดับบน”
ตลาดระดับบนและตลาดระดับล่างเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในอนาคต
ซูหยุนปิงจะขายส่งอุปกรณ์สีขาวธรรมดาให้แก่ร้านค้ารายใหญ่
ในบรรดาพวกมัน มีทั้งชุดสีขาว สีเขียว และสีฟ้าที่ดีที่สุด
ของพวกนี้จะมาจากร้านค้าและช่องทางของกลุ่มมังกรฟ้า ส่วนด้านการผลิตของกลุ่มมังกรฟ้า สเกลอาจไม่ต้องใหญ่ขนาดนั้น ขอแค่รักษาความได้เปรียบระดับไฮเอนด์ไว้ก็พอ
โลกมนุษย์กับอาณาจักรมังกรโลกานับวันยิ่งเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน เมืองธารทะเลทรายจะยิ่งร่ำรวยจากเรื่องนี้
นั่นทำให้ทั้งมังกรฟ้าและมังกรครามทรงพลังยิ่งขึ้น
...
ณ อาณาจักรมังกรโลกา
ในแคว้นเดียวดาย เมืองฟ้าเดียวดาย
นกอินทรียักษ์บินวนลงมาช้าๆ ร่อนลงกลางจัตุรัสเมืองฟ้าเดียวดาย สายลับในชุดดำสวมหน้ากาก กระโดดลงจากสัตว์วิญญาณอินทรีย์ยักษ์ เร่งมุ่งหน้าไปยังปราสาทที่พักของขุนนาง
“มีข้อมูลสำคัญจากแดนเหนือ!”
“ข้าขอเข้าพบท่านผู้ครองแคว้น!”
สิบนาทีต่อมา
ภายในคฤหาสน์ของขุนนาง สายลับเมืองฟ้าเดียวดายปรากฏตัวต่อหน้าร่างอันกำยำในท่วงท่าคุกเข่าจนเกือบจะหมอบกราบ
นี่คือออร์ค
*(เปลี่ยนจากเผ่านากูลเป็นเผ่าออร์คนะครับ)
เผ่าออร์คเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว ลักษณะเด่นของพวกมันคือผิวสีเขียว เขี้ยวหนา ตัวสูงเกินสองเมตร ร่างกายกำยำ มีพรสวรรค์ทางสายพันธุ์ในด้านร่างกายและพละกำลัง ค่อนข้างมีพรสวรรค์ในการต่อสู้ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกมันส่วนใหญ่เป็นนักรบ
แต่ออร์คตัวนี้แตกต่างออกไป
มันมีผิวสีแดงเข้ม ราวกับว่าเลือดในกายจับตัวเป็นก้อน ทั่วทั้งร่างห่อหุ้มไปด้วยออร่าสีแดงฉาน
แม้อยู่ห่างกันเป็นสิบเมตร ก็ยังสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาล ชวนให้หายใจไม่ออก
นี่คือนาเซอร์ ผู้ครองแคว้นเดียวดาย!
ขุมพลังเผ่าออร์คในเลเวล 16!
มันสามารถสืบทอดมรดกขั้น 4 ได้อย่างน้อยสองอาชีพ
พลังรบแก่กล้ายิ่งกว่าขุนนางใหญ่ตนใดในแคว้นเดียวดาย ดังนั้นได้รับการยอมรับจากมังกรคลั่งเฮสการ์ อนุญาตให้ครองเมืองฟ้าเดียวดาย
อย่างไรก็ตาม แม้ชูร่าแห่งเลือดนาเซอร์จะอยู่ภายใต้การปกครองของมังกรคลั่งเฮสการ์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แคว้นเดียวดายอยู่ห่างไกลจากราชาของพวกเขา
ดังนั้นนาเซอร์จึงสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ตนต้องการ สะกดขุนนางใหญ่จากทิศต่างๆให้ก้มหัวลง
ดวงตาสีเลือดของนาเซอร์จับจ้องไปยังสายลับที่คุกเข่าอยู่บนพื้น “คาลิมัวถูกโค่นล้มแล้วหรือ?”
สายลับออร์ครู้สึกกดดันอย่างมาก มันเอ่ยเสียงสั่น “มีกองกำลังลึกลับในแดนเหนือ พวกเขาเติบโตเร็วเหนือจินตนาการ คาลิมัวพลาดท่าถูกสังหาร สุดท้ายขุนนางเล็กกว่า 20 เมืองพร้อมใจกันตีฝ่าเมืองธารทะเลทราย”
มุมปากของนาเซอร์กระตุก “คาลิมัวจะพลาดท่าง่ายๆได้อย่างไร?”
“ท่านผู้ครองแคว้น พวกเราจะประมาทไม่ได้เช่นกัน!” ออร์คเกราะดำข้างๆนาเซอร์พูดขึ้น “คาลิมัวไม่ใช่คนงี่เง่า การที่ศัตรูสามารถเอาชนะกองทัพของจ้าวสงครามได้ แสดงว่ากองกำลังใหม่ที่ปรากฏขึ้นนั้นไม่ธรรมดา”
ออร์คชุดคลุมม่วงอีกตนเอ่ยเช่นกัน “ใช้สมองก่อนดีกว่า ลองทดสอบพลังของพวกมันดูก่อน”