ตอนที่แล้ว2047 - กวาดล้างราบคาบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป2049 - สัญจรไปทั่วโลก

2048 - ราชาสวรรค์ฮวง


2048 - ราชาสวรรค์ฮวง

ด้านหลังของสือฮ่าวมีนิกายใหญ่มากมายได้ส่งทหารออกมาเพื่อกวาดล้างไปตามเส้นทางที่เขาลงมือจัดการ

หมู่พวกเขาสาวกแปดร้อยคนของหมู่บ้านหินผาคือผู้นำโดยปริยาย พวกเขาพุ่งไปที่ด้านหน้าทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขยับได้

สือฮ่าวบุกเข้าไปในส่วนลึกของดินแดนแห่งความมืดเพื่อสังหารสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุด

แม้ว่าความมืดมิดได้ถอนตัวออกไปหลายปีแล้วแต่ในวันนี้วันเดียวเขากลับลงมือสังหารสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเพิ่มอีกสี่ตน!

หากรวมหมาป่าสวรรค์และนกเผิงที่เขาฆ่าก่อนหน้านี้ด้วย นั่นหมายความว่าในขั้นต้นมีสิ่งมีชีวิตสูงสุดแห่งความมืดหกตัวที่เหลืออยู่ในโลกอันยิ่งใหญ่นี้

สือฮ่าวและทหารสวรรค์ของหมู่บ้านหินผาใช้เวลาสามปีในการกวาดล้างเก้าสวรรค์สิบพิภพ

แม้ว่าพื้นที่จะกว้างใหญ่และไร้ขอบเขต เขายังคงกวาดล้างทุกสิ่ง ตั้งแต่พรมแดนหนึ่งไปยังอีกพรมแดนหนึ่ง

อย่างน้อยที่สุด เขาก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตที่มืดมิดอีกต่อไป

เผ่าต่างๆทั้งหมดเข้าร่วมอย่างกระฉับกระเฉง ด้วยบุคคลที่มีอำนาจประเภทนี้นำทาง พวกเขายินดีที่จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อสนับสนุนสือฮ่าวให้ทำลายสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเหล่านั้น

อย่างไรก็ตามพื้นที่กว้างใหญ่ที่ถูกความมืดกัดกร่อนนั้น ยังมีสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดมากมายที่เป็นเหมือนคนธรรมดาไม่ใช่ผู้ฝึกฝน

ในความทรงจำของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น สือฮ่าวและคนอื่นๆเป็นเหมือนราชาปีศาจที่ต้องการจะแย่งชิงดินแดนของพวกเขา

“ข้าฆ่าพวกเขาไม่ได้”

สือฮ่าวสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูง สาวกแปดร้อยคนสามารถฆ่าผู้เชี่ยวชาญคนอื่นได้

แต่มันยากสำหรับพวกเขาจริงๆที่จะปลิดชีพสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอเหล่านี้

เป็นเพราะว่าเมื่อความมืดถอนตัวออกไป ผู้ฝึกตนที่อ่อนแอเหล่านี้ หากพวกเขามองจากภายนอกคนเรานี้ก็ไม่มีความแตกต่างจากผู้คนธรรมดาของเก้าสวรรค์สิบพิภพเลย

ยิ่งกว่านั้นเมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาไม่ใช่ซากศพที่เดินได้แต่เป็นคนที่มีจิตวิญญาณมีความคิดเป็นของตัวเอง

มีเพียงความทรงจำในใจของพวกเขาเท่านั้นที่ถูกเปลี่ยนไป พวกเขาคือคนธรรมดาที่ไม่แตกต่างจากคนธรรมดาของเก้าสวรรค์สิบพิภพ

ผู้บ่มเพาะจากเผ่าต่างๆก็ลังเลเช่นกัน

พวกเขาพบว่าเป็นการยากที่จะยกมีดขึ้นมาสังหารบุคคลเหล่านี้ หากพวกเขาฆ่าแม้กระทั่งคนธรรมดา มันจะทำให้จิตแห่งเต๋าของพวกเขาตกต่ำลง

ในทศวรรษต่อมาสือฮ่าวมุ่งเน้นศึกษาวิธีการโบราณมากมายรวมทั้งยังพัฒนาเส้นทางของเขาควบคู่กันไป

เขาต้องการกำจัดปัญหาที่ต้นตอโดยต้องการเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตที่ถูกความมืดกัดกร่อนกลับมาเป็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา

ในช่วงหลายทศวรรษนี้เขาพลิกดูคัมภีร์โบราณมากมาย เช่น ตำราหยกที่เขานำกลับมาจากการต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะสามพันแคว้น

โดยสือฮ่าวมุ่งเน้นศึกษาความลับของวิญญาณผู้พิทักษ์

นอกเหนือจากนี้ เขายังค้นหาทั่วเก้าสวรรค์สิบพิภพ ในที่สุดเขาก็ได้รับตำราโบราณของตระกูลจินและตระกูลเฟิงด้วย

ด้วยพลังอันไร้เทียมทานที่เขาแสดงออกมาในตอนนี้ ทุกเผ่าพันธุ์ต่างก็หวาดกลัว

มหาอำนาจทุกกลุ่มต่างเสนอสมบัติที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของพวกเขาขึ้นมาเอง

สถานะของสือฮ่าวกลายเป็นผู้ปกครองสูงสุดของเก้าสวรรค์สิบพิภพไปโดยปริยาย

ผู้คนส่วนมากต่างขนานนามเขาว่า ราชาสวรรค์

สือฮ่าวศึกษาวิญญาณผู้พิทักษ์ และค้นพบพลังการฝึกฝนอื่นจากเส้นทางของเซียนโบราณ

สือฮ่าวใช้เวลาหลายสิบปีในการทำความเข้าใจมันจนถ่องแท้ จากนั้นเขาก็ค้นคว้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก

โดยตอนนี้เขาได้สร้างเส้นทางบางอย่างขึ้นโดยการรวบรวมโชควาสนาของดินแดนเพื่อเปลี่ยนให้ตัวเองกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะ

จากนั้นสาวกแปดร้อยคนก็เริ่มเคลื่อนไหวพวกเขาแสดงญาณวิเศษที่สือฮ่าวสร้างขึ้นบุกตะลุยเข้าสู่อาณาจักรแห่งความมืดเพื่อปลดปล่อยสิ่งมีชีวิตทุกคนให้พ้นจากความทุกข์

เซียนปราชญ์คือกองกำลังใหม่ พวกเขามุ่งเน้นไปที่การให้ความรู้ความเข้าใจใหม่แก่ผู้คนที่อยู่ในดินแดนของสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด

นิกายต่างๆก็เข้าร่วมกันมากขึ้นเรื่อยๆและพยายามสอนสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน

พวกเขาก่อตั้งห้องโถงศักดิ์สิทธิ์ วัดเต๋า และสิ่งอื่นๆในภูมิภาคความมืด มีคนที่ได้รับมอบหมายให้ไปสถานที่เหล่านั้น เพื่อเผยแพร่คำสอนและประกาศความจริง

แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถบังคับความคิดของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นได้ในทันที แต่เมื่อทุกอย่างยังคงดำเนินไปแบบนี้ในที่สุดความเชื่อดั้งเดิมของพวกเขาก็จะจบลง

ภายใต้การดำเนินงานอย่างยาวนานของนิกายใหญ่มากมาย หลังจากหลายปีผ่านไป ทุกอย่างก็พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเริ่มเปลี่ยนแปลงความเชื่อ

ก่อนหน้านี้พวกเขาถูกกัดกร่อน อีกด้านหนึ่งของความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกเปิดเผย

ในระหว่างกระบวนการนี้ ห้องโถงศักดิ์สิทธิ์และวัดเต๋าบางแห่งก็เริ่มผงาดขึ้นทีละหลัง พวกเขาค้นพบประโยชน์ของความศรัทธาจากสิ่งมีชีวิตมากมาย

“มันสามารถทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นได้!”

“พลังงานโลหิตของชายชราคนนี้กำลังเหือดแห้ง อายุขัยของข้าเหลือไม่มากแล้ว ไม่คิดว่าข้าจะสามารถยืมสิ่งนี้ทำการต่ออายุของตัวเองได้!”

เวลานี้ไม่ใช่เพียงแค่ในดินแดนแห่งความมืดเท่านั้นที่เริ่มก่อตั้งวัดเต๋าขึ้นมา ดินแดนอื่นๆก็เริ่มปฏิบัติในสิ่งเดียวกัน

ในหมู่พวกเขาคนที่ได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้มากที่สุดย่อมเป็นสือฮ่าว วิธีการเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากสมองของเขา

ในความเป็นจริงสือฮ่าวไม่ต้องการใช้วิธีนี้ ในสายตาของเขานี่ยังคงเป็นพลังภายนอก เส้นทางที่เขาเดินเป็นเส้นทางเต๋าอันยิ่งใหญ่ของเขาเอง ไม่ใช่การยืมสิ่งของจากภายนอก

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงมือปฏิบัติเอง แต่ในฐานะราชาสวรรค์ที่แท้จริงโชควาสนาของดินแดนยังคงหลั่งไหลมาไม่หยุด

ในเวลานี้ร่างกายของเขาถูกโอบล้อมไปด้วยวงแหวนแห่งเซียนหากยังคงเป็นเช่นนี้สืบต่อไปในเวลาไม่กี่ศตวรรษเขาจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะอย่างแน่นอน

มหาอำนาจต่างๆล้วนคิดอยากจะแย่งชิงสิ่งนี้จากสือฮ่าว เพราะพวกเขารู้ว่าราชาสวรรค์ไม่ต้องการมัน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเขาก็ทำไม่ได้

เหตุผลหลักก็คือสือฮ่าวไม่ได้สถาปนาตำแหน่งราชาของตัวเอง แต่มันเกิดขึ้นจากความศรัทธาของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในเก้าสวรรค์สิบพิภพ

นอกเหนือจากนี้ ทหารของหมู่บ้านหินผาก็รับรู้ถึงประโยชน์ของสิ่งนี้เป็นการส่วนตัว พวกเขาได้ก่อตั้งห้องโถงศักดิ์สิทธิ์และวัดเต๋าขึ้นมากมายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

ในวัดเต๋าเหล่านั้น มีรูปปั้นของเทพเจ้าถูกตั้งสถิตไว้ รูปลักษณ์ของเขาค่อนข้างคล้ายกับสือฮ่าวและชื่อของเขาคือราชาสวรรค์ฮวงนั่นเอง

มู่ชิงและคนอื่นๆไม่ใช่คนธรรมดา เมื่อพวกเขาศึกษาประวัติศาสตร์ พวกเขาก็ค้นพบว่าวิญญาณผู้พิทักษ์แห่งยุคเซียนโบราณนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ

หลังจากรวบรวมพลังเจตจำนงฟ้าดินไว้กับตัวเอง พวกเขาก็ได้รับอานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์อันน่าเหลือเชื่อ

ซึ่งเป็นสาเหตุที่พวกเขาไม่ลังเลที่จะจัดตั้งห้องโถงศักดิ์สิทธิ์และวัดเต๋าเลย

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังเรียกประชุมนิกายต่างๆเพื่อให้ทุกคนร่วมกันก่อสร้างวังอันยิ่งใหญ่ขึ้นพร้อมกับตั้งรูปปั้นสถิตของสือฮ่าวไว้ตรงกลาง

“พี่ใหญ่ เราควรจะสร้างมรดกของเราเองด้วย ในขณะนี้ชื่อเสียงของเราได้เขย่าโลกไปแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราจะก่อตั้งนิกาย!” มู่ชิงแนะนำ

พวกเขาเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งมากในตอนนี้ การจะถูกเรียกว่าชาวบ้านตระกูลหินดูเหมือนจะไม่ถูกต้องนัก

สือฮ่าวไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก ความคิดของเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เขาเพียงต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น เพราะเขารู้ว่ามรดกทั้งหมดจะดำรงอยู่ได้ก็ต่อเมื่อผู้นำของพวกเขาแข็งแกร่ง!

สิ่งที่สือฮ่าวต้องเผชิญในอนาคตคือสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุด เวลานี้ในเก้าสวรรค์สิบพิภพไม่มีศัตรูของเขาเหลืออยู่อีกต่อไป ความสนใจทั้งหมดของเขาจึงมุ่งไปที่อื่น

อย่างไรก็ตามสือฮ่าวไม่ได้ต่อต้านเรื่องนี้เช่นกัน โดยปล่อยให้ มู่งชิงและคนอื่นๆจัดการเรื่องนี้

ก็เพราะว่าเขาต้องการเลี้ยงดูคนกลุ่มนี้ให้กลายเป็นผู้ปกครองโลก

ดังนั้นสือฮ่าวจึงไม่อยากจำกัดความคิดของพวกเขา

หากต้องการให้องค์กรเติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็ง ก็ต้องให้อิสระทางความคิดต่อผู้บริหารองค์กร เรื่องนี้สือฮ่าวเข้าใจเป็นอย่างดี

“ทำไมเราไม่เรียกตัวเองว่าราชสำนักอมตะ!” หลังจากที่พวกเขาคุยกันแล้ว ทุกคนก็ตัดสินใจแบบนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด