CD บทที่ 278 ยิมปราณก้นเหว

“พี่หยู่ที่ฉันพูดไปเป็นเรื่องจริงร้อยเปอร์เซ็นต์! ฉันกับเจ้าโล้นเป็นเพื่อนกันมานานหลายปี ฉันไม่มีทางโกหกพวกคุณแน่นอน!” ชางปาพูดกับจ้าวหยู่นอกยิม “เจ้านายของฉันต้องการขายที่นี่ให้เร็วที่สุดจริง ๆ ตอนนี้ข่าวการขายกิจการและเรื่องของราคาได้เอาไปเผยแพร่แล้ว พวกคุณเพียงแค่ตรวจสอบเอกสารและทำการซื้อขายเท่านั้น!”

เมื่อปรากฏว่าชางปาไม่ใช่ชื่อจริง แต่เป็นชื่อเล่น คน ๆ นี้มีชื่อจริงว่าชางอ้าว แต่เขามีบุคลิกคล้ายกับจิงปาจึงทำให้เป็นที่มาของชื่อเล่นของเขา

เมื่อจ้าวหยู่เห็นเขา เขาก็เข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมคนอื่นถึงเรียกเขาว่าชางปา แม้ว่าชายผู้นั้นจะดูเคร่งขรึมและน่ากลัว แต่เมื่อเขาเปิดปาดพูดออกมา ภาพลักษณ์ตรงหน้ากับนิสัยจริง ๆ ของเขาต่างกันคนละเรื่องเลย

“อุปกรณ์ เทรนเนอร์และทุกสิ่งทุกอย่าง คุณจะได้รับพวกมันไปทันที แล้วที่สำคัญสัญญาเช่าของอาคาร มันยังเหลือเวลาอีก 4 ปี อีกด้วย

นอกจากนี้ ค่าเช่าสำหรับปีนี้ทางเราได้จ่ายไปแล้วด้วย!“เขาชี้ไปที่ยิมแล้วพูดว่า”ฉันอยู่ที่นี่มาสองสามปีแล้ว ที่นี่โด่งดังมาก! เราจึงไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายถึงอยากขายที่นี่เอาดื้ออย่างนี้ พี่หยู่ ฟังฉันนะ นี่คือ เป็นข้อเสนอที่ดีสำหรับคุณ คุณจะทำเงินได้มหาศาลอย่างแน่นอน!”

“ใช่ ใช่…” เจ้าโล้นและคนอื่น ๆ ต่างก็รีบไปด้านข้างของจ้าวหยู่ สำหรับบางคน นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าจ้าวหยู่ซื้อยิมนี้จริง ๆ พวกเขาจะไม่ต้องกังวลกับอนาคตหลังจากนี้

แต่จ้าวหยู่กลับไม่คิดอย่างนั้น

ในชีวิตที่แล้ว เขาใช้ชีวิตและเสียชีวิตตามเส้นทางของอันธพาล เขาจึงรู้เรื่องกลอุบายและการหลอกลวงเป็นอย่างดี เขายังคงรู้สึกว่ายิมนี้ค่อนข้างน่าสงสัย มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่โชคลาภมากมายมหาศาลนี้จะตกลงบนตักของเขาง่าย ๆ อย่างนี้

ดังนั้นก่อนที่จะมา เขาได้โทรหาจางจิงเฟิงและเหลียงฮวนและขอให้พวกเขาหารายละเอียดเกี่ยวกับยิมนี้เพื่อดูว่ามีปัญหาใด ๆ หรือไม่?

ตัวยิมค่อนข้างน่าสนใจจริง ๆ แล้วคำว่า ‘ปราณก้นเหว’ อยู่ที่เป็นชื่อของยิมนั้น มันก็ฟังดูดีอีกด้วย

จ้าวหยู่ไม่คุ้นเคยกับธุรกิจยิมมากนัก แต่เขาพอจะรู้จักมันอยู่บ้าง นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้งของยิมยังดีมาก บนชั้น 5 ของห้างหัวเป่ย มันหรูหราจริง ๆ หลายคนที่เลือกมาออกกำลังกายที่นี่ไม่ได้มาเพื่อออกกำลังกายจริง ๆ แต่มาเพื่อแสดงสถานะ

ยิมเต็มไปด้วยผู้คนที่มาใช้บริการ พวกอุปกรณ์ทุกประเภทถูกใช้โดยสาวงามวัยทำงาน นอกจากนี้ยังมีเทรนเนอร์ที่มีความรู้เฉพาะทางและกล้ามเป็นมัด ๆ คอยให้บริการ บางคนก็เทรนเนอร์ส่วนตัวอีกด้วย

จ้าวหยู่และคนอื่น ๆ กำลังมองดูรอบ ๆ อยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ชายสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวจะเดินออกมา ชายคนนั้นซีดขาว ผิวเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ เขาให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพนักงานใหม่

ชางปาเห็นชายผู้นั้นเดินเข้ามาและแนะนำให้เขารู้จักกับจ้าวหยู่ ทันที โดยบอกว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นเจ้าของโรงยิมปราณก้นเหว คุณจาง

เมื่อได้ยินการแนะนำของชางปา จ้าวหยู่ก็ตื่นตัวโดยสัญชาตญาณ นายจางที่อยู่ข้างหน้าเขายังดูเด็กเกินไป ถ้าเขาเป็นผู้จัดการยิมก็คงจะสมเหตุสมผล แต่คนที่อายุน้อยขาดนี้เจ้าของโรงยิม จ้าวหยู่ไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน!

คุณจางจับมือกับจ้าวหยู่และเริ่มแนะนำยิมของเขา โดยระบุขนาด จำนวนอุปกรณ์ จำนวนโค้ช สมาชิก กำไรประจำปี ฯลฯ

จ้าวหยู่แอบตกใจเล็กน้อย ขนาดยิมนั้น มันเหนือจินตนาการของเขาไปมาก ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือสิ่งอำนวยความสะดวก ทุกอย่างก็ล้วนยอดเยี่ยม

นอกจากเครื่องออกกำลังกายตามปกติแล้ว ยังมีห้องโยคะ เวทีมวย ห้องปั่นจักรยานในร่มและอีกมากมาย!

ด้วยความสุดยอดในด้านต่าง ๆ และศักยภาพของยิม จ้าวหยู่อดสงสัยไม่ได้ว่า ราคาขายเพียง 2.5 ล้านหยวน ดูเหมือนมันจะน้อยเกินไป ถ้าราคามากกว่านี้เป็นสิบเท่า มันก็คงจะสมเหตุสมผลกว่านี้

“อืม…” จ้าวหยู่ขัดจังหวะเมื่อเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ “คุณจาง ฉันไม่เข้าใจ ธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาลขนาดนี้ ทำไมคุณถึงพยายามจะขายมันด้วยเงินเพียงเท่านี้? แถมยังรีบมากอีกด้วย?”

“อา นั่น…” นายจางดูลังเลเล็กน้อย เขาครุ่นคิดสองสามวินาทีก่อนจะตอบว่า “ถึงแม้จะน่าเสียดาย แต่ผมต้องรีบขายมัน เนื่องจากพ่อของผมติดอยู่ในออสเตรเลียด้วยหนี้ก้อนโต ถ้าผมไม่รีบส่งเงินไป เขาก็จะตาย! เฮ้อ! ถ้าเรื่องอย่างนี้ไม่เกิดขึ้น ผมคงจะไม่มีทางยอมขายกิจการที่ยังไปต่อได้นี้ทำไม!?”

“โอ้ ช่างเป็นลูกชายผู้ซื่อสัตย์อย่างแท้จริง!” จ้าวหยู่ยกย่องเขา แต่ในใจเต็มไปด้วยคำดูถูก

‘ข้อแก้ตัวมันฟังไม่ขึ้นเลย ยิมนี้มีต้องปัญหาแน่นอน!’

ยิ่งเขาสงสัยมากเท่าไหร่ จ้าวหยู่ก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากเท่านั้น เขารู้สึกว่าถ้าเขาสามารถจับจุดอะไรบางอย่างได้ บางทีเขาอาจจะลดราคายิมให้มากกว่านี้ก็ได้!

“งั้นพวกคุณมาที่ห้องทำงานของผมก่อน” หลังจากออกทัวร์รอบ ๆ ยิมแล้ว นายจางก็โบกมือให้พวกเขา "คุณสามารถดูงบการเงินล่าสุดของเราได้ ผมรับประกันว่าทุกอย่างถูกกฎหมายอย่างแน่นอน!"

“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว!” ชางปาพูด “ที่นี่คือห้างหัวเป่ย ถ้าเราไม่ทำทุกอย่างให้โปร่งใส เราจะเปิดยิมที่นี่ได้อย่างไร ฮี่ฮี่ฮี่…”

นี่เป็นครั้งแรกที่โจวหยางและเพื่อน ๆ ของเขาได้เห็นธุรกิจใหญ่โตเช่นนี้ แต่ละคนทำได้เพียงหัวเราะตามแต่ไม่รู้จะพูดอะไร

ทุกคนเดินเข้าไปในห้องทำงานของนายจาง ออฟฟิศไม่ใหญ่แต่ทันสมัยมาก เมื่อทุกคนหาที่นั่งได้แล้ว นายจางก็เริ่มหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของยิมกับจ้าวหยู่ รวมถึงเอาใบอนุญาตทุกประเภทให้เขาดู เขายังบอกด้วยว่าข่าวนี้เพิ่งปล่อยออกไปไม่นานและมีคนสนใจอยู่แล้วค่อนข้างน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องรีบหาเงินไปช่วยพ่อของเขา เขาจะไม่มีวันขายในราคาที่ต่ำเช่นนี้! ดังนั้นเขาจึงหวังว่าจ้าวหยู่จะตัดสินใจซื้อขายโดยเร็วที่สุด

“คุณจ้าว ผมจะทำให้มันชัดเจน ตอนนี้ผมแค่ต้องการเงิน ยิ่งผมได้เงินเร็วเท่าไหร่ พ่อของผมก็ยิ่งต้องทนทุกข์น้อยลงเท่านั้น!” นายจางพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า "ดังนั้น คนที่จ่ายเงินได้เร็วและง่ายที่สุด ผมจะให้ยิมแก่พวกเขา ผมเขียนสัญญาส่งต่อธุรกิจเสร็จแล้ว!"

“ฮี่ฮี่ฮี่…” จ้าวหยู่ยิ้มทั้งน้ำตา “คุณจาง คุณน่าจะรู้ว่าเงินนั้นไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยและฉันก็ไม่คุ้นเคยกับธุรกิจนี้มากนัก ดังนั้นฉันต้องระวังให้มากกว่านี้หน่อย!”

"อะแฮ่ม!" ชางปากล่าวว่า "พี่หยู่ มันมีอะไรให้ระวัง? เจ้านายของเรา คุณจางเป็นคนซื่อสัตย์ คุณไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเลย!"

หลังจากชางปาพูดจบ โทรศัพท์ของจ้าวหยู่ดังขึ้น เขามองลงไปก็พบว่าเป็นสายจากจางจิงเฟิง จ้าวหยู่คิดว่าจางจิงเฟิงต้องค้นพบอะไรบางอย่าง เขาขอตัวไปรับสายทันที

“จ้าว ยิมนั่นไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย!” จางจิงเฟิงกล่าว "ทุกปีมีรายได้ประมาณ 700,000 หยวน ทุกอย่างเป็นไปตามรายงาน ไม่มีประวัติเสื่อมเสีย ไม่มีเรื่องด่างพร้อยเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เลย!"

"โอ้ จริงเหรอ?" จ้าวหยู่ไม่อยากจะเชื่อกับหูตัวเอง

“และก็ไม่มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับบัญชีด้วย สัญญาเช่ามีอายุห้าปี ยังมีเวลาอีกสามปีครึ่งก่อนที่มันจะหมด!” จางจิงเฟิงกล่าวว่า "ห้างหัวเป่ยมักจะทำสัญญาหนึ่งปี แต่พวกเขาที่จะสามารถทำสัญญาได้ถึงห้าปี นี่แสดงเห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของห้าง!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้จ้าวหยู่ก็อดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปากของเขา จากสัญชาตญาณของเขา ยิมแห่งนี้ต้องมีปัญหาบางอย่าง แต่ดูจากภายนอกดูเหมือนว่ามันจะไม่มีอะไรผิดปกติเลย

‘แล้วถ้า… ภายในล่ะ?’

‘ยิมแห่งนี้สามารถทำเรื่องผิดกฎหมายได้หรือเปล่า? มันอาจเป็นแหล่งฟอกเงินให้พวกผู้มีอิทธิพล ตอนนี้พวกเขาทำธุระเสร็จแล้ว พวกเขาจึงต้องการจะไปจากที่นี่หรือไม่?’

เพื่อความมั่นใจ จ้าวหยู่ก็ให้ชื่อนายจางแก่จางจิงเฟิงและขอให้เขาตรวจสอบเพื่อดูว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงหรือไม่?

ในระหว่างการโทร เห็นได้ชัดว่าจ้าวหยู่ไม่ต้องการให้ใครได้ยิน เขาเดินห่างออกไป ทว่าในขณะที่เขาเข้าไปในห้องข้าง ๆ ห้องทำงานของเจ้าของยิม

จู่ ๆ เครื่องตรวจจับล่องในหัวของเขาก็สว่างขึ้นพร้อมกับคำเตือนสีแดง…