บทที่ 52 ซุนม่อชนะไร้ข้อกังขา!
“ครูคนนี้ชื่ออะไร”
ในกลุ่มนักเรียนผู้ชมดูเริ่มรู้จักชื่อซุนม่อ
โลกของมหาคุรุก็เป็นเช่นนั้นยิ่งชื่อเสียงของครูมากเท่าไร นักเรียนก็จะยิ่งมามากขึ้นเท่านั้น ถ้าพวกเขาจะผลิตศิษย์ที่ยิ่งใหญ่สองสามคนที่สามารถเข้าสู่อันดับทำเนียบดาวรุ่งก็จะมีนักเรียนจำนวนมากที่จะมาอยู่ภายใต้การดูแลของครู
“ซุนม่อชนะจริงเหรอ?”
หยวนฟงที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนตกใจฉินเฟิ่นทำอะไรอยู่? ผู้สำเร็จการศึกษาจาก สถาบันจี้เซี่ยได้พ่ายแพ้ให้กับซุนม่อซึ่งไม่เป็นที่รู้จักแม้แต่ในสถาบันซงหยาง?เจ้าซื้อใบรับรองการสำเร็จการศึกษาของเจ้าหรือไม่?
แม้ว่าเป็นเรื่องไม่ดีที่จะดูถูกสถาบันนเก่าของเขาแต่สถาบันซงหยางเป็นเพียงสถาบันชั้น 4 มันเป็นความแตกต่างอย่างมากจากผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากหนึ่งในเก้าสถาบันยิ่งใหญ่เขาจะพ่ายแพ้ได้อย่างไร?
ฉินเฟิ่นเป็นหนึ่งในสามในบรรดาครูฝึกสอนกลุ่มนี้ที่จบการศึกษาจากเก้าสถาบันยิ่งใหญ่เขาภูมิใจมากและไม่สนใจคนอย่างจางเซิง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขากลายเป็นก้าวสำคัญของซุนม่อแล้ว
“ซุนม่อกำลังจะโด่งดัง!”
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้หยวนฟงก็เต็มไปด้วยความอิจฉา
“อย่างที่คาดไว้ อาจารย์ซุนช่างน่าทึ่งจริงๆ!”
ชีเซิ่งเจี่ยซึ่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนมองซุนม่อด้วยความชื่นชมเมื่อเขาหันไปทาง โจผิงสายตาของเขาเต็มไปด้วยความอิจฉาถอนหายใจ ทักษะฝีมือของเขาอ่อนแอเกินไปและเขาไม่มีโอกาสอยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์ซุน
ติง!
คะแนนความประทับใจ+20 คะแนนจากชีเซิ่งเจี่ย
เชื่อมต่อสัมพันธ์กับชีเซิ่งเจี่ย: มิตรภาพ (393/1000)
“ฉินเฟิ่น เจ้าแพ้แล้ว!”
ซุนม่อจะไม่ตอบคำถามของโจอันเขาไม่สมควรที่จะรู้เรื่องนี้ ยิ่งกว่านั้น ซุนม่อรู้สึกมีอารมณ์จากการแจ้งเตือนของระบบ
ชีเซิ่งเจี่ยเป็นคนที่ซื่อสัตย์จริงๆเขารู้สึกชื่นชมซุนม่อเพียงแค่มองดูผ่านกลุ่มคนทำให้เขาได้รับคะแนนความประทับใจมากมาย มันเป็นมากกว่าที่เขาได้รับจากโจผิง ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนา
“ข้าควรรับเขาเป็นนักเรียนของข้าดีไหม”
ซุนม่อลังเล
ฉินเฟิ่นผู้ซึ่งเคยโกรธเคืองมาก่อนหน้าซีดเมื่อได้ยินเรื่องนี้เขารู้สึกอับอายมาก สีหน้าของเขาเคร่งขรึม
(ไม่ ข้าไม่ได้แพ้!)
ฉินเฟิ่นคิดหนักมากพยายามหาช่องโหว่ในเรื่องนี้ เขาตั้งคำถามว่า “ซุนม่อ เหตุผลที่โจผิง สามารถชนะได้ไม่ใช่เพราะเขาได้รับความก้าวหน้าในเคล็ดการต่อสู้ของเขาแต่เขามีความได้เปรียบอย่างมากในคุณสมบัติทางกายภาพของเขา เจ้าให้อะไรเขากินใช่ไหม”
โฮ้ววว!
ทันทีที่เขาพูดเช่นนี้เกิดความโกลาหลขึ้น เป็นเพราะฉินเฟิ่นพูดเป็นนัยโดยอ้อมว่า ซุนม่อโกง
“ความต้องการที่จะอยู่รอดของเจ้านั้นกล้าแข็งจริงๆ”
ซุนม่อหยัน
ดวงตาของโจอันเป็นประกาย
“ครูผู้ช่วยฉิน โปรดอย่าทำให้ทั้งอาจารย์ซุนและบุคลิกของข้าเสื่อมเสียเลย”
ซุนม่อไม่ได้กังวลใจแต่โจผิงกังวล ถ้าเขาไม่ชี้แจงอะไรสักอย่าง มันคงเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่สำหรับชื่อของเขาถ้าผู้คนเข้าใจผิดว่าเขาได้เพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของเขาเพียงชั่วคราวเพราะกินโอสถเล่นแร่แปรธาตุ
ยิ่งกว่านั้นหลังจากที่ได้เห็นความสามารถของหัตถ์จับมังกรโบราณ โจผิงได้ตัดสินใจที่จะยอมรับซุนม่อเป็นครูของเขาในเวลาเช่นนี้ศิษย์ย่อมต้องเป็นผู้พูดปกป้องครูของตน
“ฉินเฟิ่นโปรดรักษาคำพูดของเจ้า”
จินมู่เจี๋ยขมวดคิ้วไม่ชอบทัศนคติของฉินเฟิ่นที่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
“อาจารย์จิน ถ้าซุนม่อไม่ได้ทำอะไรผิดต่อมโนธรรมของตนข้าก็อยากรู้ว่าเขาให้คำแนะนำอะไรกับโจผิง” เพื่อชื่อเสียงของเขา ฉินเฟิ่นสามารถเดิมพันได้เพียงเท่านี้โชคดีที่เขาไม่ใช่คนโง่และรู้ว่าเขาควรปิดบังสิ่งต่างๆ “นี่ก็เป็นประสบการณ์สำหรับข้าเช่นกัน”
ว้าว!
ทุกคนหันมองไปทางซุนม่อพวกเขาก็อยากรู้เช่นกัน
“ซุนม่อ เจ้าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้”
จินมู่เจี๋ยถาม
“ข้าไม่ถือ!” ซุนม่อยักไหล่“โจผิงบอกเขา!”
“อาจารย์ซุนใช้หัตถ์จับมังกรโบราณเพื่อนวดให้ข้าประมาณห้านาทีและร่างกายของข้าก็ดีขึ้นอย่างมากในตอนนั้น ตอนนี้มันเกือบจะอยู่ที่ระดับ 2ของขอบเขตการปรับสภาพกายแล้ว”
โจผิงอธิบายก่อนที่น้ำเสียงของคำพูดสุดท้ายของเขาจะจบลง โจอันเป็นคนแรกที่ร้องไห้ออกมา
"เป็นไปไม่ได้!"
โจอันแสดงสีหน้าราวกับว่าโจผิงกำลังโกหกและโกรธเคือง“ขอบเขตพลังของเจ้าควรจะเหมือนกับของข้า ตามการประเมินของข้าจะใช้เวลาอย่างน้อยสามเดือนก่อนที่เราจะสามารถเลื่อนระดับได้ เจ้ากำลังพูดเรื่องบ้าอะไรที่เจ้าสามารถได้รับการพัฒนาพลังอย่างมากภายในห้านาที?
“ข้าก็ไม่เชื่อเหมือนกันแต่มันคือความจริง!”
โจผิงรู้สึกปลาบปลื้มเมื่อเห็นสีหน้าของน้องชาย(ตอนนี้เจ้ารู้แล้วว่าพี่ชายของเจ้าน่าทึ่งแค่ไหน ต่อไปในอนาคตจงให้เกียรติข้า!)
“หัตถ์จับมังกรโบราณ?นั่นฟังดูน่าเกรงขามจริงๆ!”
“การนวดห้านาทีสามารถชดเชยพลังฝึกปรือได้สามเดือน?ทำไมมันดูหลอนๆ ไปหน่อย”
“นั่นคงเป็นเรื่องโกหกใช่ไหม?”
ผู้ชมดูต่างบ่นพึมพำกับตัวเองหากสิ่งที่โจผิงพูดเป็นความจริง หัตถ์จับมังกรโบราณของซุนม่อก็แทบจะเทียบได้กับผลกระทบของโอสถบำรุงต้นกำเนิด
นี่คือโอสถเล่นแร่แปรธาตุที่ใช้สำหรับขอบเขตการปรับสภาพร่างกายหลังจากได้รับแล้ว จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกายและ เพิ่มขอบเขตของการปรับสภาพร่างกายของผู้ฝึกปรือขึ้นอีกหนึ่งระดับ
แน่นอนว่าราคานั้นแพงมากเพียงเม็ดเดียวก็มีราคามากกว่า 100,000 ตำลึงเงิน คงจะเป็นโอสถในฝันถ้าครอบครัวไม่รวยพอจะมีเหมืองแร่เป็นของตัวเองพวกเขาควรจะทำงานหนักในการฝึกปรือดีกว่า
เมื่อได้ยินคำพูดของโจผิงฉินเฟิ่นก็มีความคิดหนึ่งสว่างวาบขึ้นราวกับว่าเขาคว้าฟางช่วยชีวิต เขาถามทันทีว่า“ซุนม่อ เรากำลังแข่งกับคำแนะนำของเรา ไม่ใช่การนวดและเสริมพลัง!”
“ฮ่าฮ่าผู้ช่วยสอนฉิน เจ้าจะไร้ยางอายกว่านี้ได้อีกไหม?” ซุนม่อรู้สึกขบขัน“ข้าขอถามสิ่งที่ถือเป็นแนวทางได้หรือไม่”
“แน่นอนมันหมายถึงการชี้จุดบกพร่องของนักเรียน!”
ฉินเฟิ่นยืนยันในประเด็นของเขาแม้แต่เขาจะรู้สึกเก้อเขินที่จะพูดแบบนี้
ในเก้าแคว้นแผ่นดินใหญ่คำแนะนำของอาจารย์มีอยู่ในทุกด้านไม่เพียงแต่จะรวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการฝึกฝนของพวกเขาเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการรักษาสภาพร่างกายและจิตใจของศิษย์ด้วย บางครั้งอาจารย์อาจกังวลไปถึงเรื่องการแต่งงานของศิษย์ด้วยซ้ำ
อาจกล่าวได้ว่าหลังจากที่ศิษย์คนหนึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์พวกเขาจะกลายเป็นหินหยกดิบของอาจารย์ เป้าหมายสุดท้ายของอาจารย์คือการหลอมพวกเขาให้เป็นผลงานชิ้นเอกที่สมบูรณ์แบบ
อาจารย์ที่เข้มงวดบางคนอาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหลายๆด้าน รวมถึงอาหารการกิน แผนการฝึกปรือ เวลาพัก และแม้แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขา
หากต้องพบกับมหาคุรุจอมเฮียบหลังจากที่อยู่ภายใต้การปกครองของอาจารย์อย่างเป็นทางการแล้ว ศิษย์จะต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมว่าพวกเขาจะไม่มีวันมีโอกาสได้นอนกับสาวตลอดชีวิต
หลังจากที่ซุนม่ออ่านเนื้อหาในห้องสมุดและรู้เรื่องนี้แล้วเขาก็แปลกใจเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขารีบยอมรับสิ่งต่างๆ
ในสมัยโบราณของจีนความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์มีความใกล้ชิดกันมาก เคยเป็นครูก็เป็นบุพการีกันตลอดไปแม้แต่ในโลกสมัยใหม่โค้ชระดับแนวหน้าเหล่านั้นก็ยังฝึกการควบคุมนักกีฬาภายใต้พวกเขาอย่างเข้มงวด
ในเก้าแคว้นแดนแผ่นดินใหญ่หลังจากที่นักเรียนยอมรับครู พวกเขาจะอยู่เคียงข้างครูเพื่อเรียนรู้และครูจะต้องทุ่มเททั้งหมดเพื่อชี้แนะนักเรียนถึงแม้จะพูดไม่ได้ว่าครูหลายคนปฏิบัติต่อนักเรียนเหมือนเป็นลูกของตัวเองแต่ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าพวกเขาปฏิบัติต่อนักเรียนแต่ละคนเหมือนลูกชายหรือลูกสาวครึ่งหนึ่ง
ตราบใดที่ไม่มีการโกงใดๆที่เกี่ยวข้องครูจะถือว่าเป็นคนดีตราบเท่าที่นักเรียนสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้ไม่ว่าครูจะให้คำแนะนำอะไรก็ตาม
นักเรียนที่อยู่รอบๆระเบิดเสียงหัวเราะเหยียดหยามทันที รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยต่อ สถาบันจี้เซี่ย นี่คือมาตรฐานของผู้สำเร็จการศึกษา?
แน่นอนว่ามีนักเรียนและอาจารย์จำนวนมากขึ้นที่สนใจหัตถ์จับมังกรโบราณ
“เจ้าต้องการคำแนะนำของข้า?เอาอย่างนั้นก็ได้ โจผิงนี้ยังดีไม่เท่าน้องชายของเขาในแง่ของทักษะการต่อสู้ของเขาการเคลื่อนไหวของเขาไม่ไหลลื่นเพียงพอ และเขาจะต้องพากเพียรหนักในการฝึกฝนของเขาสำหรับโจอัน เขาได้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญอย่างมากในวิชาหมัดอีกาของเขาสามารถโจมตีและรั้งกลับได้อย่างอิสระ เป็นเพราะเหตุนี้เองที่เขาสามารถยับยั้งออมฝีมือในการซ้อมฝีมือที่ผ่านมาได้อย่างอิสระทำให้โจผิงประเมินความสามารถของพวกเขาอย่างผิดพลาด”
ซุนม่อพูดขึ้น
เขาได้เปิดใช้งานเนตรทิพย์ตลอดระยะเวลาของการต่อสู้จากข้อมูลโดยละเอียดของทั้งคู่ และเปรียบเทียบกับการต่อสู้จริงของพวกเขามันง่ายสำหรับเขาที่จะได้ข้อสรุปบางอย่าง
“แต่โจอันก็มีข้อบกพร่องเช่นกันเขาพึ่งพาแขนขวามากเกินไป และพลังของแขนซ้ายลดลงเกือบครึ่งของแขนขวาของเขาถ้าเขาไม่พยายามฝึกฝน มันก็เป็นจุดอ่อนในการป้องกัน”
โจอันซึ่งไม่มั่นใจกับผลลัพธ์ก่อนหน้านี้ตกตะลึงและเขามองซุนม่อด้วยความประหลาดใจ เป็นเพราะทุกสิ่งที่ซุนม่อพูด ถูกต้องอย่างไรก็ตามเขาปะทะกับพี่ชายไม่ถึงสิบกระบวนท่ากับ ซึ่งใช้เวลาไม่กี่อึดใจเท่านั้นซุนม่อมองเห็นสิ่งต่างๆ มากมายภายในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ได้อย่างไร
เยี่ยหลงป๋อประหลาดใจเมื่อเขาประเมินซุนม่อดูเหมือนว่าซุนม่อนั้นน่าทึ่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก
ติง!
+3 คะแนนความประทับใจจากเยี่ยหลงป๋อ
คะแนนเชื่อมสัมพันธ์รวมกับเยี่ยหลงป๋อ:เป็นกลาง (6/100)
ดวงตางามของจินมู่เจี๋ยมองซุนม่อรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นนางชักโกรธ ทั้งจางฮั่นฟู และหวังซู่ที่กดดันอันซินฮุ่ยเพื่อข่มอำนาจของนาง พวกเขาได้โยนซุนม่อไปที่แผนกขนส่งพัสดุโชคดีที่เขาไม่ได้สะบัดหน้าลาออกด้วยความโกรธ มิฉะนั้น สถาบันจงโจวจะสูญเสียครูที่ดีไป
ติง!
+1คะแนนความประทับใจจากจินมู่เจี๋ย
คะแนนเชื่อมสัมพันธ์กับจินมู่เจี๋ยรวม: เป็นกลาง (3/100)
ซุนม่อพยายามหยุดกระตุกริมฝีปากเมื่อได้ยินการแจ้งเตือนของระบบ ความคาดหวังของมหาคุรุสองคนนั้นสูงมากดังนั้นพวกเขาจึงตระหนี่มากมายกับคะแนนความประทับใจ
มหาคุรุทั้งสองได้เห็นเป็นธรรมดาผ่านพี่น้องตระกูลโจจึงชื่นชมซุนม่อ
คนดูไม่รู้ว่าซุนม่อพูดถูกหรือไม่อย่างไรก็ตามโจอันรู้และเขาก็แพ้ นี่หมายความว่าเขาคงไม่มีโอกาสเข้ามาภายใต้การดูแลของหลิวมู่ไป๋ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแน่วแน่และเดินไปคุกเข่าต่อหน้าซุนม่อ
“อาจารย์ซุนโปรดรับข้าเป็นศิษย์ของท่านด้วย!”
ปัง!
โจอันโขกศีรษะคำนับ
(ซุนม่อไม่ควรจะแย่เกินไปเขาสามารถมองข้าออก จากการต่อสู้ไม่กี่กระบวนท่า ยิ่งกว่านั้นดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคู่หมั้นของอาจารย์ใหญ่อันซินฮุ่ย ถ้าข้าสามารถใช้ประโยชน์จากสัมพันธ์นี้ได้ข้าจะไต่เต้าขึ้นไปได้สูงมากขึ้น)
เมื่อเห็นสิ่งที่น้องชายของเขาทำโจผิงก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตระหนักว่าน้องชายของเขากำลังพยายามฉวยโอกาสจากเขาเขารีบวิ่งเข้ามาหาด้วยเช่นกัน
“อาจารย์ซุนศิษย์โจผิงชื่นชมความสามารถของท่านและหวังว่าจะได้เรียนรู้ภายใต้การสั่งสอนของท่าน!”
ปัง!
โจวผิงโขกศีรษะคำนับขณะที่เขาระแวงระวังน้องชายของเขา เขาก็โขกศีรษะหนักขึ้น
นักเรียนทั้งสองคุกเข่าต่อหน้าซุนม่อด้วยความเคารพและพวกเขาไม่กล้าลุกขึ้นโดยไม่ได้รับอนุมัติจากเขา
เมื่อเห็นฉากภาพนี้ฉินเฟิ่นโกรธจนริมฝีปากกระตุกอย่างรุนแรงราวกับว่าสิ่งที่เขากำลังจับตาอยู่ถูกคนอื่นแย่งชิงไป จากนั้นความรู้สึกผิดหวังที่อธิบายไม่ได้ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ไม่จำเป็นต้องให้จินมู่เจี๋ยผู้ตัดสินประกาศผู้ชนะการโขกศีรษะคำนับของพี่น้อง ตระกูลโจ เป็นคำตอบที่ดีที่สุด
ซุนม่อชนะอย่างไร้ข้อกังขา!
“อาจารย์ท่านประคองพวกเขาได้แล้ว!”
หลี่จื่อฉีลอบเอานิ้วจิ้มแขนซุนม่อ
ลู่จื่อรั่วยืนอยู่ข้างๆยิ้มหวานขณะที่มองซุนม่อด้วยความชื่นชม อาจารย์ซุนน่าทึ่งมาก!
ติง!
+10คะแนนความประทับใจจากหลี่จื่อฉี
รวมคะแนนสัมพันธ์กับหลี่จื่อฉี: มิตรภาพ (126/1000)
ติง!
+15คะแนนความประทับใจจากลู่จื่อรั่ว..
รวมคะแนนเชื่อมสัมพันธ์กับลูกจื่อรั่ว: มิตรภาพ (128/1000)
ชีเซิ่งเจี่ยซึ่งอยู่ท่ามกลางฝูงชนมองดูพี่น้องพี่น้องตระกูลโจรู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง เขาเองก็อยากเป็นศิษย์ของอาจารย์ซุนม่อด้วย!
ติง!คะแนนความประทับใจ +20 คะแนนจากชีเซิ่งเจี่ย
รวมคะแนนเชื่อมสัมพันธ์กับชีเซิ่งเจี่ย: มิตรภาพ (413/1000)
ซุนม่อรู้สึกละอายเล็กน้อยจากการฟังการแจ้งเตือนต่อเนื่องกัน(ชีเซิ่งเจี่ย ข้าจะรู้สึกภูมิใจถ้าเจ้าชื่นชมข้ามากขนาดนี้) อย่างไรก็ตามเขาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางซวนหยวนพ่อ ผู้คลั่งไคล้การต่อสู้นี้กำลังกอดอกดูการแสดง ไม่ขยับเขยื้อนเลย
หยวนฟงอิจฉาจนตาแดงก่ำถ้าฆ่าคนไม่ผิดกฎหมาย เขาจะรีบออกไปแล้วสับซุนม่อให้เป็นกะปิทันที
หากครูฝึกสอนสามารถรับสมัครนักเรียนห้าคนในการประชุมคัดเลือกนักเรียนครั้งนี้พวกเขาก็สามารถได้รับการว่าจ้างอย่างเป็นทางการ กลายเป็นครูที่องค์กรประตูเซียน ยอมรับซุนม่อทำได้สำเร็จ และเขาก็เร็วกว่าฉินเฟิ่นอีก
จินมู่เจี๋ยถอยห่างออกมาไม่กี่ก้าวและมอบเวทีให้ซุนม่อนี่คือสง่าราศีที่เขาได้รับ
เมื่อเห็นว่าซุนม่อไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆโจอันก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย (ข้าให้หน้าเจ้าแล้วทำไมเจ้าถึงไม่รีบตกลงล่ะ?)
ถ้าเป็นครูฝึกสอนคนอื่นพวกเขาคงเอื้อมมือมาประคองทั้งสองคนมานานแล้วเขาระงับความอดทนของเขาและตะโกนดังขึ้นอีกว่า “ท่านอาจารย์โปรดรับศิษย์คนนี้ด้วย!”
“อาจารย์โปรดรับศิษย์คนนี้ด้วย!”
โจผิงทำเช่นเดียวกันอย่างรวดเร็วไม่ว่าอย่างไร เขาจะต้องเป็นคนแรกที่เข้าเป็นศิษย์ซุนม่อในฐานะศิษย์พี่ของน้องชายของเขา
“ลุกขึ้นทั้งสองคนเชิญไปได้แล้ว!”
ซุนม่อมองดูฝาแฝดคู่นี้อย่างใจเย็น“ข้อขอโทษ ข้าไม่คิดว่าข้าจะสามารถสอนพวกเจ้าทั้งสองคนได้!”