ตอนที่ 16 เจ้ารังแกข้าเองนะ
แม่เล้าหันไปมองทางอื่นอย่างไม่เต็มใจ
นางไม่ลืมคำสั่งของเสวี่ยเมิ่งหานก่อนที่นางจะจากไป: ไล่ชายหนุ่มคนนี้ออกทันทีและห้ามไม่ให้เขาเข้าไปในศาลาหลี่ฮวาอย่างถาวร มิฉะนั้นศาลาหลี่ฮวาจะถูกทำเป็นเล้าไก่แทน!
ดังนั้นนางจึงกล่าวกับเจียงมู่ด้วยน้ำเสียงขอโทษ
“นายน้อย ข้าน้อยขอโทษจริงๆ แต่สาว ๆ ของศาลาหลี่ฮวาไม่สามารถให้บริการท่านได้ในวันนี้”
" ทำไม?!"
ดวงตาของ เจียงมู่เบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
“นายน้อย ไม่ว่าจะพรุ่งนี้ มะรืนนี้หรือต่อจากนั้น ศาลาหลี่ฮวา ไม่สามารถให้บริการท่านได้อีก ท่านถูกขึ้นบัญชีดำจากศาลาหลี่ฮวา”
"ทำไม?!!!"
เสียงของเจียงมู่ดังขึ้นหลายระดับ ราวกับว่าเขาได้ยินข่าวร้าย วิญญาณของเขาจมดิ่งสู่หุบเหวทันที
***
บนถนน
เสวี่ยเมิ่งหาน ลูบเอวของนางอย่างหงุดหงิด พึมพำด้วยความอับอายและความโกรธ
“เจียงมู่ เจ้ากล้าดียังไงมารังแกเหล่าเหนียง!”
“จากนี้ไป มาดูกันว่าเจ้าจะยังเข้าไปในศาลาหลี่ฮวาได้ยังไง!”
“ข้าจะปล่อยให้เจ้าไปเที่ยวซ่องตามใจ!”
“ฮืม ฮืม ฮืม ………… ฮิ ฮิ ฮิ ฮิ ฮิ ฮิ …..”
ขณะที่นางพูดนั้น นางก็หัวเราะคิกคัก
“ตอนนี้เขาคงกำลังอดกลั้นอยู่แน่ๆ”
“เอวเทพเหรอ”
“จงใช้มือเทพของตัวเองซะ”
“ฮ่าๆ”
เสวี่ยเมิ่งหาน อารมณ์ดีขึ้นเมื่อนางกล่าวสิ่งเหล่านี้ออกมา
ในฐานะคู่หมั้น มันสมเหตุสมผลแล้วที่จะใช้พลังของธิดาเจ้าเมืองเพื่อแก้ไขนิสัยที่ไม่ดีของคู่หมั้นของนางถูกไหม?
จากนั้นนางก็เดินต่อไป
ในใจของนาง นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงท่าครุมเครือของพวกนางบนเตียง
ใบหน้าสวยของนางค่อยๆ แดงระเรื่อ
หัวใจของนางก็เต้นเร็วขึ้นเช่นกัน
นี่คือ …. ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน…..
“เมิงห่าน?”
"ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่?"
“เจ้ามาที่นี่เพื่อรับข้าและพาข้ากลับไปที่คฤหาสน์เจ้าเมืองใช่ไหม?”
ทันใดนั้นก็มีเสีนงดังมาจากด้านหน้าของนาง
เสวี่ยเมิ่งหาน เงยหน้าขึ้นมอง
และพบกับ หลิงอ่าวเทียน
“เมิ่งหาน หน้าเจ้าแดงมาก เจ้าเขินที่เจอข้าเหรอ?”
หลิงอ่าวเทียนหยอกล้อและเดินไปด้านหน้า เสวี่ยเมิ่งหาน
จากรอยยิ้มที่อยู่ทั่วใบหน้าของเขา มันบอกได้เลยว่าเขากำลังอารมณ์ดี
เป็นเพราะเมื่อกี้
เขาซื้อข้อมูลจากเจวียนเอ๋อของตำหนักเดือนมืดได้แล้ว: เรื่องการล่มสลายของหมู่บ้านตระกูลหลิงเมื่อ 5 ปีที่แล้ว!
ปรากฏว่า ฆาตกรเป็นเผ่าอสูรและอยู่ในเทือกเขาสัตว์อสูร!
ดังนั้น ฤดูล่าสัตว์ในวันพรุ่งนี้จึงเป็นเวลาที่เขาจะต้องแก้แค้น!
หลิงอ่าวเทียน รู้สึกตื่นเต้น
ห้าปีผ่านไป
ห้าปีแล้วที่เมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังได้ถูกปลูกขึ้น!
เขาใกล้จะกำจัดปีศาจในใจได้แล้ว!
เมื่อใดก็เขานอนหลับ เขาจินตนาการว่าชาวบ้านของหมู่บ้านตระกูลหลิงถูกทรมาณและฆ่าอย่างไร พวกเขาคร่ำครวญอย่างไรและพวกเขาทำอะไรไม่ได้ ปล่อยให้ฆาตกรอาละวาดและโหดร้ายเช่นไร
หัวใจของเขาเจ็บปวดและทนไม่ไหวที่จะหั่นมันเป็นหมื่นชิ้น!
ในที่สุดเขาก็มีโอกาสที่จะฆ่าศัตรูด้วยมือของเขาเอง!
เขาต้องการแบ่งปันข่าวดีนี้กับเสวี่ยเมิ่งหาน!
“เมิ่งหาน ให้ข้าบอกเจ้า…”
"อา! ลาก่อน!"
เสวี่ยเมิ่งหาน ปกปิดใบหน้าของนางด้วยความตื่นตระหนกและหันหลังวิ่งหนี
นางไม่อยากให้คนอื่นเห็นใบหน้าที่แดงก่ำของนาง
"นี้ …."
หลิงอ่าวเทียน รู้สึกเจ็บในใจ
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เสวี่ยเมิ่งหานถึงวิ่งหนีไป
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ดูเหมือนว่าเขาจะคิดออกแล้ว
“นางหน้าแดงทันทีที่เห็นข้าและไม่กล้าเผชิญหน้าข้า”
“เป็นไปได้ไหมที่นางบชอบข้า”
“ก่อนหน้านี้ เจวียนเอ๋อก็ยังหน้าแดงใส่ข้า แม้แต่พูดติดๆขัดๆอย่างไม่เป็นธรรมชาติ”
“ดูเหมือนว่าเมิ่งหานจะแอบชอบข้าจริงๆ”
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ร่างกายและจิตใจของ หลิงอ่าวเทียน ก็สงบลงในทันที
เขายังอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างชั่วร้าย
สิ่งนี้ทำให้เด็กสาวที่เดินผ่านไปมาลอบมองเขาอย่างอายๆ
มีแม้แต่หญิงใจกล้าบางนางที่เดินผ่านเขาและส่งสายตายั่วยวนมาให้เขา
หลิงอ่าวเทียนส่ายหัว มองไปที่พวกนางและยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
“ผู้หญิงเหล่านี้ไม่สามารถเทียบได้กับเจวียนเอ๋อด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับเมิ่งหานและชูโรว”
เขาหัวเราะและเดินไปที่คหาสน์เจ้าเมืองอย่างมั่นใจ
***
หลังจากกลับถึงนิกายหวู่โหยว
เจียงมู่หยิบบันทึกออกมาและระบายความหงุดหงิดของเขาลงไป
[ศาลาหลี่ฮวาบ้าไปแล้ว]
[ข้าถูกขึ้นบัญชีดดำอย่างถาวรโดยไม่มีเหตุผล!]
[ข้าต้องอาบน้ำเย็นก่อนถึงจะกล้ากลับมา!] (เพื่อทำให้ความโกรธและตัณหาของเขาเย็นลง!)
เจียงมู่รู้สึกราวกับว่าครึ่งหนึ่งของความสนุกในชีวิตของเขาได้หายไป
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไปที่ศาลาหลี่ฮวาเพื่อสนุกตลอดเวลา
เขามีเวลาให้สนุกน้อยอยู่แล้ว แต่วันนี้เขากลับโดนขึ้นบัญชีดำ
ทำไมเขาถึงถูกขึ้นบัญชีดำ แม่เล้าไม่ได้อธิบายเหตุผล
ยิ่งเขาคิดเกี่ยวกับมันเท่าไหร่
เขายิ่งไม่เข้าใจจริงๆ
ภายในคฤหาสน์เจ้าเมือง
เสวี่ยเมิ่งหาน ถอดกระโปรงของนางแล้วนอนบนเตียง
ขณะที่ใช้ยาโอสถทาเอวที่บวมของนาง นางมองดูบันทึกประจำวันและหัวเราะเยาะ
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้ารังแกข้าเองนะ ฮึ่ม!”
“ทำไมเขาถึงต้องอาบน้ำเย็นล่ะ”
[ลืมมันไปเถอะ ต่อจากนี้ไป ข้าจะฝากเอวเทพให้ ติงหนานหรง]
ติงหนานหรงที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ที่หน้าผาด้านหลังภูเขา: [?]
[เอาล่ะ พรุ่งนี้เป็นฤดูล่าสัตว์]
[นั่นเป็นโครงเรื่องหลักที่สอง และฉากโดนทุบตีต้องเสร็จสมบูรณ์ด้วยดี]
[ให้ตายเถอะ วันนี้ข้าไม่สนุกอะไรเลย แต่ในวันพรุ่งนี้ ข้ายังต้องคุกเข่าและเลียสุนัขโง่เสวี่ยเมิ่งหาน]
[มันยากเกินไปจริงๆ]
“เจ้านั่นแหละ สุนัขโง่!”
เสวี่ยเมิ่งหานกัดฟันและโยนบันทึกทิ้งด้วยความโกรธ
"ดีมาก."
“ข้าอยากเห็นพรุ่งนี้แล้ว”
“ประมุขเจียงผู้หลงใหลจะต้องคุกเข่าและเลียเหล่าเหนียงคนนี้!”