870 - นิกายนกสีชาด
870 - นิกายนกสีชาด
เย่ฟ่านเดินเข้าไปในซากปรักหักพังและไม่พบสิ่งใดเลย ในช่วงหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมา ไม่รู้ว่ามีคนกี่คนที่มาที่นี่
เย่ฟ่านเดินลงไปในหลุมลึกและรู้สึกถึงพลังของการโจมตีนี้ มันลึกถึงหนึ่งหมื่นจั้ง พื้นดินแห้งและแข็ง ทั้งหินและดินก็เรียบไร้ที่ติ
เย่ฟ่านจากที่นี่ไปพร้อมกับร่องรอยของความผิดหวังและความกลัว ในที่สุดตระกูลที่สง่างามที่มีมรดกอันยาวนานก็ไม่สามารถหยุดนิ้วของจักรพรรดิชิงได้ ซึ่งทำให้ผู้คนทำได้เพียงถอนหายใจ
ตามข้อมูลที่เขาได้รับจากผังป๋อ ตระกูลไช่ไม่ได้ถูกกวาดล้างออกไปจนหมด ในเวลานั้น ยังมีบางคนอยู่ข้างนอกและพวกเขาต้องหนีไปแล้ว
กว่าหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมา นิกายใหม่หลายแห่งถูกสงสัยว่าเป็นผู้รอดชีวิตจากตระกูลไช่
เย่ฟ่านยังเชื่อด้วยว่าทั้งตระกูลไม่ได้ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ เพราะหลายตระกูลในโลกก็ส่งศิษย์ของตัวเองออกท่องเที่ยวไปทั่วโลกอำพรางสวรรค์นี้
หากไม่มีเหตุการณ์สำคัญจริงๆ ก็ยากที่ศิษย์ทุกคนจะกลับสู่ตระกูลของตัวเองพร้อมกัน
ในวันต่อมาเขาเริ่มค้นหาอีกครั้ง
นิกายจูเชวี่ย(นกสีชาดหรือหงส์ไฟ) นิกายที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาแปดพันปีที่ผ่านมา พวกเขาครอบครองพื้นที่เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในภูเขาที่สวยงามทางตะวันตกของจงโจว
เย่ฟ่านได้ข้ามความว่างเปล่าในครั้งนี้ เนื่องจากระยะทางนั้นไกลเกินไป เขาจึงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเขาไปหลายที่แต่เขาไม่พบอะไรเลย
ภูเขาลูกนี้ปกคลุมไปด้วยดินสีแดง ถ้าไม่มีพืชพรรณมันจะมีลักษณะเหมือนไฟไหม้อยู่ตลอดเวลา นิกายนกสีชาดเฟื่องฟูในช่วงสองสามพันปีที่ผ่านมา และมียอดฝีมือถือกำเนิดขึ้นมากมาย
นี่เป็นเป้าหมายสุดท้ายของเย่ฟ่าน หากยังไม่มีลูกหลานของตระกูลไช่เขาก็คงต้องยอมแพ้
ไม่กี่วันต่อมาเย่ฟ่านกลายเป็นนักสำรวจเขาเดินไปรอบๆ และเรียนรู้รายละเอียดมากมาย นิกายนี้มียอดเขาสูงสุดเจ็ดสิบสองแห่งและมีศิษย์มากกว่าหนึ่งหมื่นคน
อย่างไรก็ตามสุดท้ายเขาก็ต้องพบความผิดหวัง เขาไม่เคยได้ยินว่ามีทักษะพิเศษใดๆ ในนิกาย ดังนั้นจึงไม่รู้ว่ามันถูกซ่อนไว้อย่างดี หรือว่าเขามาผิดที่อีกแล้ว
ไม่กี่วันต่อมาเย่ฟ่านได้เรียนรู้ว่าดินแดนสีแดงแห่งนี้เกิดขึ้นจากการร่วงหล่นของหงส์ไฟ เลือดของมันทำให้ภูเขาและแม่น้ำเป็นสีแดง ดังนั้นดินและหินที่นี่จึงเป็นสีแดงด้วย
“คัมภีร์ประจำสำนักวิวัฒนาการมาจากคัมภีร์สุริยันซึ่งเป็นคัมภีร์สูงสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์!” เขาแปลกใจไม่น้อยที่ค้นพบความลับอันยิ่งใหญ่นี้
ครึ่งเดือนต่อมาเย่ฟ่านใช้ต้นกำเนิดสวรรค์เพื่อซื้อญาณวิเศษจากศิษย์ระดับสูงคนหนึ่ง
“พี่ชาย ท่านมาที่นี่เพื่อค้นหาเก้าญาณวิเศษลึกลับหรือไม่ ข้าไม่รู้ว่ามีคนมาที่นี่กี่คนในช่วงแปดพันปีที่ผ่านมา อย่าเสียเวลาเลย มันไม่มีหรอก”
ชายคนนั้นตบไหล่ของเย่ฟ่านเป็นเชิงปลอบใจ
เย่ฟ่านก็ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่าวิธีนี้จะไม่ได้ผลจริงๆ เพราะในอดีตหลายคนเคยใช้มันมาแล้ว
“บอกกับเจ้าก็ได้ผู้ก่อตั้งของสำนักเราคือทายาทแห่งตระกูลไช่ แต่เขาไม่ได้รับเก้าญาณวิเศษลึกลับมาด้วยอย่างแน่นอน และที่หลงเหลืออยู่กับตัวเขาก็มีเพียงคัมภีร์ประจำตระกูลบางเล่มเท่านั้น”
เมื่อมีผู้คนมากมายมาค้นหาความลับที่นี่ตัวตนของปรมาจารย์ของสำนักนกสีชาดจึงไม่สามารถปิดบังได้
เก้าญาณวิเศษลึกลับ เก้าศิลปะศักดิสิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดในลัทธิเต๋า มีญาณวิเศษมากเกินไปหากสามารถนำพวกมันมารวมกันทั้งหมดมันจะกลายเป็นทักษะอันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตามการค้นหาด้วยวิธีนี้ก็เท่ากับการหาเข็มในมหาสมุทรไม่มีหวังแม้แต่น้อย
“เห็นแก่ที่เจ้ามอบต้นกำเนิดสวรรค์ให้ ข้าก็จะชี้ทางสว่างบางอย่างให้พี่ท่านเป็นการตอบแทน ผู้ก่อตั้งสำนักของเราตายไปหลายปีแล้ว แต่เขาไม่ได้ตายอยู่ที่นี่ เขาเดินทางไปยังดินแดนโบราณที่อยู่ทางใต้ซึ่งผู้คนเรียกขานกันว่าหานฉวน”
เย่ฟ่านยิ้มอย่างขมขื่นแปดพันปีแล้ว ยากเกินไปที่จะหาเบาะแสของบุคคลหนึ่ง และเขายังสงสัยว่าปรมาจารย์คนนั้นอาจจะเป็นปราชญ์ชราที่เปลี่ยนร่างเป็นเต๋าคนนั้นด้วย
อย่างไรก็ตามเพื่อให้ได้มาซึ่งเก้าญาณวิเศษลึกลับ เขาทำได้เพียงค้นหาต่อไป แม้จะรู้ว่ามีผู้คนมากมายเดินไปตามถนนสายนี้ แต่เขาก็ยังหวังว่าจะพบเบาะแสอันล้ำค่า
เขาเดินทางมาจนสุทธิตะวันตก และตอนนี้เขากำลังจะไปมุ่งหน้าไปทางตอนใต้ของจงโจว การเดินทางนั้นยาวนานมาก และเขายังคงทำได้แค่ข้ามความว่างเปล่าเท่านั้น
โชคดีที่ทางใต้ที่ว่าเป็นพื้นที่ที่มีพรมแดนติดกับทิศตะวันตก ไม่ใช่ทิศตะวันออกที่อยู่ไกลสุดโต่ง
เขามีแท่นเคลื่อนย้ายทางไกลเพียงพอ จนถึงตอนนี้เขาสามารถสลักมันเองได้ แน่นอนว่าต้องเป็นรูปแบบที่ง่ายที่สุด และสามารถเดินทางได้ครั้งละหลายหมื่นลี้เท่านั้น
ระหว่างทางเย่ฟ่านได้ข้ามความว่างเปล่า และเขาไม่รู้ว่าเขาทิ้งค่ายกลไปกี่แห่ง
พื้นที่นี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งล้านลี้ แต่ในตอนใต้อันกว้างใหญ่ของจงโจวนี่เป็นเพียงมุมเล็กๆ มุมเดียวเท่านั้น
หานฉวนเป็นที่ราบ มีสิบเอ็ดเมืองใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดที่นี่ พวกมันรวบรวมปราณมังกรระหว่างสวรรค์และพิภพอย่างหนาแน่น
เมืองโบราณทุกเมืองมีมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลัง หลังจากแอบไปเยี่ยมเยียนอย่างลับๆ เป็นเวลาครึ่งเดือน เขาก็ได้เพียงเบาะแสเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้รอดชีวิตของกระกูลไช่อพยพมาที่นี่จริง แต่พวกเขาก็หายตัวไปในภายหลัง
เย่ฟ่านใช้ทุกวิถีทางและในที่สุดก็ได้รู้ว่าตระกูลไช่ไม่ต้องการอยู่ในกองขี้เถ้าและพวกเขาต้องการสร้างชื่อเสียงขึ้นใหม่ แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็จากไปโดยไม่ทราบสาเหตุ
จุดถัดไปซึ่งอยู่ไกลออกไปทางตะวันออกของจงโจว นั่นเป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้กับดินแดนรกร้างตะวันออกแล้ว จากใต้สู่ตะวันออกครอบคลุมกว่าครึ่งของจงโจวและยิ่งไกลออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ
หากเย่ฟ่านต้องการจะก้าวต่อ ค่ายคนเคลื่อนย้ายทางไกลธรรมดาจะไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว เว้นแต่เขาจะสามารถใช้งานค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกลของนิกายอันยิ่งใหญ่ได้
“คนของตระกูลไช่ตั้งใจโยนคนไปทางตะวันตกก่อน จากนั้นไปทางใต้ จากนั้นไปทางตะวันออก แล้วจากนั้นก็ไปทางเหนือในครั้งหน้างั้นหรือ?”
เย่ฟ่านรู้สึกว่าการค้นหานี้จะไม่ได้ผลอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่ามีคนตามหาเก้าญาณวิเศษลึกลับของตระกูลไช่สักกี่คน ญาณวิเศษชนิดนั้นยังไม่ปรากฏขึ้นนั่นแสดงให้เห็นว่าผู้คนทั้งหมดต่างล้มเหลว
แล้วถ้าเขายังคงเดินตามเส้นทางนี้ เขาก็ถูกลิขิตให้ล้มเหลวเช่นกัน
“จะคิดแบบเดียวกับรุ่นก่อนไม่ได้ ต้องคิดจากมุมที่ต่างออกไป”
จากนั้นเขาก็เริ่มใช้ต้นกำเนิดสวรรค์ในมือเพื่อซื้อข้อมูลจากสามนิกายโบราณที่สำคัญในจงโจว และคาดเดาว่าเก้าญาณวิเศษลึกลับอยู่ที่ไหน
นิกายประตูเซียน ศาลาสวรรค์ และสำนักนกสีชาด สามนิกายโบราณล้วนเป็นหนึ่งในหลายร้อยนิกายของจงโจว ต้นกำเนิดของพวกเขานั้นสามารถสืบย้อนไปถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์และต้องมีข่าวที่สำคัญอย่างแน่นอน
“ข้าได้แต่หวังว่าฮั่วอวิ๋นเฟยจะไม่พบเบาะแสก่อน...”
เย่ฟ่านไม่ต้องการให้บุคคลนี้ได้รับเก้าญาณวิเศษลึกลับ แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงภาวนาเท่านั้น ฮั่วอวิ๋นเฟยไปที่วัดเต๋าเล็กๆ ก่อนเขา เป็นไปได้ว่าคนคนนี้จะได้เบาะแสบางอย่างไปแล้ว
เขาไม่ได้มองหาจตระกูลไช่อีกต่อไป แต่เริ่มใช้ทรัพยากรจำนวนมากเพื่อค้นหาร่องรอยของฮั่วอวิ๋นเฟยด้วยความช่วยเหลือของนิกายโบราณทั้งสามนี้
เขารู้ดีว่าฮั่วอวิ๋นเฟยครอบครองวิชาอสูรกลืนสวรรค์ และเป้าหมายของเขาก็คือการดูดกลืนโลหิตทั้งหมดของร่างศักดิ์สิทธิ์ในโลก และแน่นอนว่าเหยื่อของเขาย่อมเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น
ไม่นาน จดหมายลับก็ถูกส่งจากนิกายประตูเซียนโดยให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เมื่อชำเลืองมองเย่ฟ่านก็ตกตะลึง
เนื้อความสั้นๆ แต่กระชับ เป้าหมายของฮั่วอวิ๋นเฟยในตอนนี้คือร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณเย่ฟ่าน ตามหาเย่ฟ่านแล้วจะพบฮั่วอวิ๋นเฟย!
“เขาค้นหาตัวข้าพบได้อย่างไร…”
โชคดีที่นิกายประตูเซียนส่งข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมอีกชิ้นหนึ่ง ศิษย์ที่โดดเด่นของนิกายที่ยิ่งใหญ่บางแห่งทางตะวันตกของจงโจวได้เสียชีวิตในสองปีที่ผ่านมาและบางส่วนได้หายตัวไปในทางตอนใต้ของจงโจว
ชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์ที่สุด บางส่วนในภาคตะวันออกของจงโจวก็ได้หายตัวไปอย่างลึกลับเช่นกัน
หัวใจของเย่ฟ่านสั่นไหว ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ตัวตนที่น่าทึ่งบางคนในจงโจวได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ทำให้มีคดีที่ยังไม่คลี่คลายมากมาย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพื้นที่ขนาดใหญ่จึงไม่มีใครสังเกตเห็นอะไรเลย
“ฮั่วอวิ๋นเฟยเป็นคนทำหรือไม่ แต่มันกระจัดกระจายเกินไปที่จะคาดเดาตำแหน่งของเขา และตอนนี้เขาค้นหาข้าหรือยัง?”
เย่ฟ่านวาดวงกลมสองสามวงบนแผนที่และแบ่งออกเป็นสิบส่วน ซึ่งทั้งหมดอาจเป็นตำแหน่งลวงตา เขาใช้เวลาส่วนใหญ่เชื่อมโยงเวลาและสถานที่ที่คนเหล่านี้เสียชีวิตลงในแผนที่
“มันยังไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก บางทีมันอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับฮั่วอวิ๋นเฟยเลยก็ได้”