Ep.425 - เมืองธารทะเลทรายเปลี่ยนมือ
3/3
Ep.425 - เมืองธารทะเลทรายเปลี่ยนมือ
ณ ทะเลทรายอันกว้างใหญ่ ไม่มีหญ้าขึ้นสักต้น
ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา ณ จุดที่ราวกับสวรรค์และปฐพีบรรจบกัน ภายใต้แสงอาทิตย์ทอประกายระยิบระยับ หากสายตาคุณดีพอ แล้วลองเพ่งมองดีๆ จะพบว่า แท้จริงแล้วมีเมืองโบราณตั้งอยู่ลึก ณ เส้นขอบฟ้า
เมืองธารทะเลทราย!
เมืองหลักแห่งแดนเหนือของแคว้นเดียวดาย
เมืองนี้มีขนาดใหญ่กว่าเมืองทั่วไปถึงหกเท่า อาณาเขตของดินแดนมีพื้นที่มากกว่าเมืองอื่นๆถึงสิบเท่า สามารถสร้างสมุนทหารได้มากกว่า 20,000 นาย
เมืองธารทะเลทรายมีอาราเขตกว้างใหญ่ ไม่เพียงแต่มีสิทธิ์ในการควบคุมหลายสิบเมืองในทิศเหนือ แต่ตัวเองเองก็มีฟังก์ชั่นมากมายที่เมืองทั่วๆไปไม่มี
ใครสามารถเป็นเจ้าของเมืองธารทะเลทรายได้
ก็เท่ากับเป็นจ้าวผู้ครองแดนเหนือของแคว้นเดียวดาย!
ปกติแล้วจ้าวแห่งแดนเหนือจะเปลี่ยนมือในทุกๆห้าถึงสิบปี แต่ภายใต้การปกครองของคาลิมัว มันสามารถยึดครองได้นานกว่านั้น ทำให้เมืองธารทะเลทรายทะยานถึงจุดสูงสุด
แต่ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าภายในชั่วเวลาสั้นๆ สถานการณ์จะพลิกผันอย่างกะทันหัน เข้าสู่วิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ด้วยพลังรบของคาลิมัว หากปล่อยให้ฟื้นคืนชีพเองอาจต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้น แต่เนื่องจากมีการใช้น้ำแร่คืนชีพจากเมืองธารทะเลทราย เร่งการฟื้นคืนชีพให้ไวขึ้น ส่งผลให้ระยะเวลารีเฟรชของคาลิมัวลดลงมากกว่าครึ่ง
ถึงอย่างนั้นก็ตาม มันก็ยังสายเกินไป!
ทันทีที่คาลิมัวฟื้นคืนชีพ มันก็ได้รับข่าวความพ่ายแพ้ของเมืองธารทะเลทราย
แต่ยังไม่ทันได้มีเวลาระบายโทสะ ลูกน้องของมันก็บอกว่ากลุ่มขุนนางเล็กก่อกบฏ
เป็นไปได้อย่างไร?
เหตุใดพวกมันถึงกล้าที่จะกบฏ! พวกมันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้วใช่หรือไม่?
คิดหรือว่าแค่ตายครั้งเดียวข้าคาลิมัวจะยกดาบไม่ไหวอีกต่อไป?
ดูเหมือนหลายปีที่ผ่านมาข้าจะใจดีกับพวกมันเกินไป ฮ๊าาา!
ดวงตาคาลิมัวแดงก่ำ มันตัดสินใจว่าจะนำกองทัพทหารออกไปสังหารเหล่าขุนนางกบฏพวกนี้ด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ข่าวร้ายอีกหนึ่งได้ตบหน้ามันอย่างจัง ทำให้มันเกิดความอาฆาตพยาบาทอย่าลึกล้ำ!
“สถานการณ์ฉุกเฉิน!”
“สถานการณ์ฉุกเฉิน!”
“กองทัพใหญ่กำลังเข้าใกล้เมืองธารทะเลทราย”
กว่าจะฟื้นคืนชีพ กองทัพใหญ่ก็บุกมาใกล้เมืองแล้ว
คาลิมัวฟื้นคืนชีพได้ไม่ถึงหนึ่งวัน เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็เปิดศึกชิงบัลลังก์อย่างเป็นทางการ!
มีขุนนางเล็กมากถึง 20 ตนเข้าร่วมโค่นล้ม! และในบรรดาพวกมัน มีขุนนางเมืองลมแกร่งซึ่งเป็นคนสนิทของตนเช่นกัน!
“บัดซบ!”
“เจ้าพวกไร้ยางอาย!”
“พวกมันกล้าทำถึงขนาดนี้ได้อย่างไร”
คาลิมัวมาถึงกำแพงเมืองธารทะเลทราย เหม่อมองไปยังกองทัพใหญ่ที่รวมตัวกันถึงหน้าเมือง และพบว่ามีมากกว่าหลายสิบเผ่า สมุนทหารอย่างน้อย 20 ประเภท คาดว่าน่าจะมีจำนวนมากกว่า 45,000 ใกล้ถึง 50,000!
กองทัพใหญ่อะไรเช่นนี้?
พลังของเมืองธารทะเลทรายเพิ่งฟื้นฟูได้เพียงเล็กน้อย
คาลิมัวเลเวลลดลงเหลือ 14
พลังรบถดถอยลงช่วงใหญ่ สมุนทหารในเมืองตอนนี้มีน้อยกว่า 12,000 นาย
แม้พลังรบของเมืองธารทะเลทรายจะแก่กล้ามาก แต่หากคิดต้านทานสงครามที่กำลังมาถึงนี้ ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล
ทำไมทุกอย่างถึงลุกลามมาถึงจุดนี้!
สิ่งที่รอเมืองธารทะเลทรายอยู่มีเพียงความพ่ายแพ้!
ผ่านไปไม่ถึงสิบวันนับจากศึกแรก ในระยะเวลาอันสั้นพวกมนุษย์ทำได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไรที่สามารถเกลี้ยกล่อมขุนนางเล็กเหล่านี้? รู้ไหมว่าแม้เมืองธารทะเลทรายเพิ่งพ่ายแพ้ แต่ก็ยังแกร่งกว่าสี่เมืองมนุษย์!
ตึง ตึง ตึง!
เสียงกลองศึกดังขึ้น
แสงจากสกิลบัฟเจิดจ้า
นี่คือการโหมโรงของการโจมตีทั่วไป
รองขุนนางเมืองธารทะเลทรายกล่าวด้วยใบหน้าน่าเกลียด “ท่านขุนนาง พวกเราควรทำอย่างไร? ลองเจรจากับพวกเขาดีหรือไม่?”
“เจรจา? สมองของเจ้ามีแต่เม็ดทรายหรือไร? สถานการณ์เช่นนี้พวกมันยังคิดจะเจรจาอีกหรือ!”คาลิมัวตะคอกด้วยความโกรธ “เจ้าต้องการให้ข้าออกจากเมืองธารทะเลทรายใช่ไหม? เจ้าต้องการให้ข้าคุกเข่าแก่พวกมนุษย์สินะ?”
ฝูงชนตกอยู่ในความเงียบ
ตัดสินจากสถานการณ์ปัจจุบัน เมืองธารทะเลทรายอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่มาก ขุนนางหลายสิบตนกำลังก่อกบฏอย่างเปิดเผย
ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือชัยชนะอันน่าเศร้าของเมืองธารทะเลทราย
แต่หลังจากชนะแล้ว
พวกมันจะได้อะไร?
เมืองหลักเหลือเพียงหายนะและสมุนทหารไม่กี่นาย? อาคารต่างๆกว่า 20 หลังถูกเผาทำลายจนหมด? และสุดท้ายไม่มีขุนนางเล็กคอยจ่ายส่วย
ถ้าถึงขั้นนั้น เกรงว่าคงต้องใช้เวลาอักเป็นสิบปีในการฟื้นตัว
แต่ในแคว้นเดียวดายไม่ได้มีขุนนางใหญ่แค่เฉพาะเมืองธารทะเลทราย ยังมีขุนนางใหญ่อย่างน้อยอย่างละหนึ่งตนในแดนใต้ ตะวันตก และตะวันออก ไหนจะมีผู้ครองแคว้นอีก!
เมืองธารทะเลทรายเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่ได้รับข่าวสารใดๆ แล้วแบบนี้มีหรือที่พวกเขาจะพลาดโอกาสทองที่อาจไม่มีแล้วในชีวิตเช่นนี้?
ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ว่า
คาลิมัวนั่งบนบัลลังก์นี้มานานหลายปี คนเราเมื่อได้อำนาจมาก็ยากจะวางมันลง
มันเอ่ยอย่างชั่วร้าย “เมืองธารทะเลทรายแก่กล้าที่สุดในแดนเหนือ พวกกระต่ายอ่อนแอคิดแข็งข้อ สิ่งที่รอพวกมันอยู่มีเพียงความตาย!”
ไม่นาน กองทัพมนุษย์ก็เริ่มเคลื่อนไหว
อย่างไรก็ตาม กองทัพของพวกเขาไม่ได้บุกเข้ามาตรงๆ แต่เลือกนำปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตรามาตั้งไว้ในระยะ 5,000 เมตรแทน
เพื่อชนะศึกนี้ ฮังอวี่นำปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตราทั้งหมดออกจากสี่เมืองมนุษย์ รวมๆแล้วมากกว่าสองร้อยกระบอก บวกกับอีก 80 กระบอกที่ซื้อมาล่าสุด ทำให้จำนวนสะสมมีทั้งหมดเกือบ 300 กระบอก!
ปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตราทุกกระบอก ทั้งหมดได้รับการอัพเกรด ตอนนี้พวกมันทั้งหมดคืออาวุธเหนี่ยวนำมนตราเลเวล 15 !
อีกทั้งลูกกระสุนปืนใหญ่ที่พวกเขาใช้ก็เป็นรุ่นอัพเกรดเช่นกัน พิสัยไกลสุดที่สามารถเข้าถึงได้คือ 6,000 เมตร
สำหรับสถานที่เช่นแคว้นเดียวดาย มันถือเป็นอาวุธพิสัยไกลเป็นพิเศษ!
ฮังอวี่เชื่อมั่น ว่าหากยิงจากบริเวณนี้ นอกเหนือจากยอดฝีมือไม่กี่คนในเมืองธารทะเลทราย ที่เหลือไม่ว่าจะเป็นอาวุธ กับดัก หรือค่ายกลใต้เมืองของพวกมัน ยังไงก็ไม่อาจคุกคามกองทัพพันธมิตรได้ ทำไม่ได้กระทั่งโจมตีพวกเขา
นอกจากปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตราเกือบ 300 กระบอกแล้ว สำนักกระบี่วิญญาณยังช่วยสนับสนุนด้วยการนำขีปนาวุธเหนี่ยวนำมนตราระยะไกลมาเช่นกัน
“ยิงได้!”
บรึ้ม บรึ้ม บรึ้ม บรึ้มม!
เสียงทะลุทะลวงชั้นอากาศ ลูกกระสุนปืนใหญ่และขีปนาวุธทรงพลังนับไม่ถ้วนลอยว่อนกลางอากาศ และเมื่อพวกมันตกลงใกล้ถึงกำแพงเมืองก็เกิดแรงระเบิดดั่งสนั่น ถูกสกัดกั้นด้วยเขตแดนสีฟ้า ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆต่อเมืองธารทะเลทราย
“เป็นอย่างที่คาดไว้ การป้องกันของเมืองธารทะเลทรายแข็งแกร่งมาก” จ้าวหมิงอดประหลาดใจไม่ได้เมื่อเห็นว่าเมืองธารทะเลทรายไม่ได้รับความเสียหาย
“แต่โชคดีที่พวกเราเตรียมกระสุนไว้มากพอ!” ฉูเทียนหัวโบกมือ “ยิงต่อไป”
ปัง ปัง ปังง!
บรึ้ม บรึ้ม บรึ้มม!
คลื่นกระสุนปืนใหญ่ยิงถล่ม
เมืองธารทะเลทรายต้องทานรับการระดมยิงอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
ฮังอวี่เฝ้ามองลูกระสุนปืนใหญ่ที่ยังคงยิงออกไป ในใจรู้สึกเจ็บแปล๊บ เหมือนโดนเข็มทิ่มแทง
ย่ามันเถอะ!
ลูกกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงออกไป แต่ละนัดสามารถคำนวณเป็นหินคริสตัลได้อย่างชัดเจน!
กระสุนปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตราเลเวล 15 มีค่าประมาณ 10 หินคริสตัลเขียวต่อลูก ดังนั้นการระดมยิงพร้อมกันเกบือสามร้อยกระบอกจึงเกือบเท่ากับ หินคริสตัลฟ้า 3,000 ก้อน
ตอนนี้ยิงออกไป 5 รอบแล้ว นั่นเท่ากับเสียไปทั้งหมด 15,000 หินคริสตัลเขียว หรือก็คือ 1,000 หินคริสตัลฟ้า!
อย่างไรก็ตาม การป้องกันของเมืองธารทะเลทรายยิ่งนานแสงยิ่งจางลง
เวลานี้เมืองธารทะเลทรายสิ้นหวังอย่างแท้จริง!
เมืองธารทะเลทรายไม่มีอุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราขั้นสูง ตำแหน่งของกองทัพมนุษย์อยู่เหนือรัศมีการยิง เวลานี้จึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตั้งรับอย่างเดียวไม่อาจตอบโต้กลับได้
โครม!
กระสุนปืนใหญ่เจาะทะลุเขตแดน
สมุนทหารหลายนายบนกำแพงเมืองถูกยิงปลิวออกไป!
กำแพงเมืองธารทะเลทรายจุดแรกถูกทำลาย และต่อมาก็เริ่มมีจุดที่สอง สาม และสี่ ..
หลังจากนั้นไม่นาน ทั่วทั้งเมืองธารทะเลทรายก็ตกอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง ถูกโจมตีโดยไร้ซึ่งการต่อต้านใดๆ เกิดผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
“รวมตัว! กองทัพทั้งหมดรวมตัว!”
“ทุกตนเข้าโจมตี! ฆ่าพวกมันทั้งหมด! ออกไปฆ่าพวกมนุษย์ให้หมด!”
แม้ความสิ้นหวังพัดพามาท่วมท้นหัวใจ แต่คาลิมัวก็ยังเชิดหน้าสู้ คำรามด้วยใบหน้าดุร้าย
คาเล็มแตกตื่นตกใจ มันอยากจะหยุดเจ้านายตัวเองแต่ก็ทำไม่ได้
มันรู้จึกคาลิมัวเป็นอย่างดี เมื่อคลุ้มคลั่งแล้ว จะเสียสติทันที
การกระทำของเผ่ามนุษย์ได้ทำลายความภาคภูมิใจในฐานะขุนนางใหญ่ครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม คาลิมัวตัดสินใจเลิกป้องกัน หันมาโจมตีแทน
ฮังอวี่พอเห็นแบบนี้ก็ถอนหายใจโล่งอก
เพราะหากเป็นฝ่ายตนที่ต้องบุกเข้าเมืองธารทะเลทราย มันคงน่าปวดหัวมาก
ลูกกระสองปืนใหญ่ของมังกรครามใกล้หมดแล้ว แต่มันก็ทำให้เขตแดนและการป้องกันเมืองหายไปเช่นกัน แต่อย่าลืมว่ายังมีกับดักและค่ายกลอีกมากนอกเมือง
หากเขาโจมตีเมือง คงยุ่งยากอยู่บ้าง
แต่ไม่นึกเลยว่าคาลิมัวจะมีความอดทนน้อยแบบนี้ แค่ต้องตั้งรับกระสุนอย่างเดียว ก็โวยวายบุกออกมาด้วยตัวเองแล้ว
บอกเลยว่าแกมันหาที่ตาย!
หุ่นรบทหารพิฆาตสองเครื่องเปิดใช้งาน
ฮังอวี่ยกดาบไฟในมือ “เวลาของคาลิมัวหมดลงแล้ว ได้เวลาทำผลงาน ฆ่า!”
...
หลังการต่อสู้อันดุเดือด ขวัญกำลังใจเมืองธารทะเลทรายพังทลาย การต่อสู้ไม่ยาวนาน
ตั้งแต่วินาที่พวกมันก้าวออกจากเมืองธารทะเลทราย โอกาสชนะของคาลิมัวก็ไม่เหลืออีกต่อไป
หลังจากการต่อสู้อันหนักหน่วง แทบไม่ต้องเดา กลุ่มของฮังอวี่สามารถฆ่าคาลิมัวได้อีกครั้ง
ท้ายที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับคาลิมัวคนก่อนหน้า หลังจากเลเวลลดลง พลังรบของมันถดถอยลงมาก
กองกำลังของคาลิมัวถ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ ผู้ที่ตายก็ตาย ผู้ที่หนีก็หนี ผู้ที่ยอมจำนนก็ยอมจำนน ... สุดท้ายเมืองธารทะเลทรายถูกเปลี่ยนมืออย่างเป็นทางการ
แดนเหนือได้เปลี่ยนผู้ปกครองแล้ว!