Ep.424 - กองทัพทั้งหมดออกเดินทาง!
2/3
Ep.424 - กองทัพทั้งหมดออกเดินทาง!
“พูดถึงเรื่องนี้ ยกเว้นอาวุธสองชิ้นนี้แล้ว ฉันมีข่าวดีอีกอย่างจะบอกนาย” ซูหยุนปิงเผยรอยยิ้มบาง “สถานบันวิจัยเทคโนโลยีเหนี่ยวนำมนตรามังกรฟ้าของพวกเราได้ก่อตั้งแล้ว ตอนนี้กำลังพัฒนาและลิตอุปกรณ์อาวุธหนักรุ่นแรก”
เมื่อฮังอวี่ได้ยินแบบนั้น เขาเผยรอยยิ้มที่ดูมีความสุขทันที
จะว่าไปพอได้ยินเรื่องนี้ เขาก็นึกออก ว่าช่วงที่ผ่านมาตัวเองยุ่งจนเกินไป
หลังจากฮังอวี่นำทีเกอร์กลับมา เขาก็แทบไม่สนใจอีกฝ่ายเลย งานทั้งหมดยกให้ซูหยุนปิงจัดการ
แค่คาดไม่ถึงว่าซูหยุนปิงไม่เพียงทำตามคำแนะนำของฮังอวี่ แต่ทำถึงขั้นก่อตั้งสถาบันวิจัยมังกรฟ้า
ความสามารถของอาจารย์ซูเหลือล้นมาก พลังรบส่วนบุคคลของเธอไม่ด้อยไปกว่าสองโล่และกระบี่ ฉู จ้าว
กลุ่มมังกรฟ้าสามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างราบรื่น ตามแนวทางที่ถูกต้องและสมเหตุสมผลที่สุด และการให้ซูหยุนปิงดูแลเท่ากับเป็นการขุดพรสวรรค์ของเธอออกมา เมื่อมีเธอกุมหางเสือ และหวังเอ๋อคอยสนับสนุน มันได้ช่วยประหยัดพลังงานและเวลาชีวิตของฮังอวี่ได้มากจนคำนวณไม่ไหว!
“ไปเถอะ ไปดูกัน”
ฮังอวี่ดึงหวังเอ๋อซึ่งกำลังเล่นเกมอยู่ในห้องเขา ตามซูหยุนปิงไปยังสถาบันเทคโนโลยีเหนี่ยวนำมนตรามังกรฟ้า
เพื่อความสะดวกสบายในการดูแล สถาบันวิจัยจึงตั้งอยู่ในชุมชน
ซูหยุนปิงซื้อโรงงานขนาดเล็กที่นี่เป็นสถานวิจัย โดยมีทีเกอร์เป็นศูนย์กลาง สร้างทีมศาสตร์เหนี่ยวนำมนตราขึ้นมา
เธอเริ่มจากแนะนำสถานที่ก่อน
“ตามคำแนะนำก่อนหน้านี้ของนาย การร่วมทุนกับสกายเน็ต จะทำให้ได้ผลประโยชน์อย่างมากในด้านการจัดหาวัสดุและผู้มีความสามารถ”
“ฉันลองเก็บไปคิดดูแล้ว ในเมื่อพวกเราต้องมีหุ้นส่วนแต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่ากลุ่มมังกรฟ้าจะไม่ได้รับผลกระทบ ดังนั้นเลยจำเป็นต้องมีหุ้นส่วนมากกว่าหนึ่งกลุ่ม”
“หุ้นส่วนของสถาบันวิจัยในตอนนี้คือ กลุ่มมังกรฟ้า 51% , สำนักข่าวกรองโลกวิญญาณ 25% , สกายเน็ตสาขาเจียงเฉิง 15% , สมาคมโลกวิญญาณ 9%!”
โอกาสและหลักประกันที่สามารถช่วยให้ก่อตั้งสถาบันวิจัยได้ คือนักเหนี่ยวนำมนตราระดับผู้เชี่ยวชาญที่ฮังอวี่นำมาจากลู่เฉิง
ตอนแรกเขาตั้งใจจะร่วมทุนกับแค่สำนักข่าวกรองโลกวิญญาณของฉูเทียนหัว นี่ไม่เพียงแสดงออกว่าเขาไม่ได้คิดกินรวบแต่เพียงผู้เดียว แต่ยังทำให้คนอื่นเห็นว่าตนเองมีเบื้องหลังเป็นคนของทางการ การจัดซื้อวัสดุในอนาคตจะง่ายกว่ามาก
ไม่คาดหวังเลย ว่าภายใต้การดำเนินงานของซูหยุนปิง
กลุ่มมังกรฟ้า สำนักข่าวโลกวิญญาณ สกายเน็ต และสมาคมโลกวิญญาณ ทั้งสี่ขุมกำลังจะร่วมมือกันได้
และกลุ่มมังกรฟ้ายังคงรักษาตำแหน่งผู้กุมบังเหียนได้เป็นอย่างดี โครงสร้างนี้สมบูรณ์แบบกว่าที่ฮังอวี่คาดไว้เสียอีก ตอนนี้เขาแค่อยากจะหัวเราะดังว่า โฮ่ๆๆๆๆๆ
“นอกจากหัวหน้านักวิจัยทีเกอร์แล้ว สถาบันวิจัยมีสมาชิกทั้งหมด 90 คน มี 30 คนเป็นทีมเหนี่ยวนำมนตราชั้นยอดที่ดึงตัวมาจากมังกรฟ้า มี 40 คนจากสกายเน็ต และ 20 คนจากสมาคมโลกวิญญาณ”
ซูหยุนปิงหยุดพักหนึ่งแล้วพูดต่อ “อืม อย่ามองแค่ว่าจำนวนคนน้อย พวกเขาทั้งหมดเป็นชนชั้นยอด ประสิทธิภาพการทำงานน่าทึ่งมาก”
พวกฮังอวี่เดินเข้ามาข้างใน และพบว่าสถาบันวิจัยเริ่มงานแล้ว
หมาหวังเอ๋อกระโดดไปมารอบวัสดุต่างๆในพื้นที่ทำงาน คล้ายพยายามหาอะไรบางอย่างใส่ท้อง
ตอนนี้ตัวมันเป็นสุนัขเลเวล 12 แล้ว แต่ยังอีกยาวไกลว่าจะวิวัฒนาการใหม่อีกครั้ง
น่าเสียดาย
วัสดุเหนี่ยวนำมนตราส่วนใหญ่ไม่สามารถรับประทานได้
แต่ในตอนที่เจ้าหมาเผยท่าทีผิดหวัง จู่ๆสองหูของมันพลันกระตุก ตาสุนัขเบิกกว้างจ้องไปข้างหน้า เห่าขึ้นทันใด “ฮ่ง เจ้านาย เถ้าแก่เนี้ย มาดูนี่เร็ว! นี่มันอะไรกัน?”
เครื่องจักรขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยูากลางสำนักงาน มันสูงแปดเมตร ใหญ่กว่าตึกสองชั้น รอบตัวปกคุลมไปด้วยชั้นแสงสีฟ้า เต็มไปด้วยลาดลายและกลิ่นอายแข็งแกร่ง แม้ยืนอยู่กับที่ แต่ก็ยังทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอย่างแรงกล้า
หมาหวังเอ๋อพูดว่า “เปิ่นหวังไม่เคยเห็นหุ่นรบที่มีขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อน มันเหมือนกับพวกกันดั้มในตำนาน”
โนมส์ร่างเตี้ยผอมแห้งก้าวออกมาจากหลังเท้าของหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราตัวยักษ์ เข้ามาทักทาย “บอสใหญ่ เจ้านาย นี่คือหุ่นรบ ‘ทหารพิฆาต’ เลเวล 14!”
ฮังอวี่สำรวจมองมันสองสามรอบแล้วเอ่ยว่า “หุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราตัวนี้มีคุณภาพสีฟ้าใช่ไหม?”
ทีเกอร์พยักหน้าและพูดว่า “ถูกต้อง”
ประกายวาววับทอวาบในดวงตาของฮังอวี่ “นายสร้างอุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราสีฟ้าได้จริงๆ! สมแล้วที่เป็นนักเหนี่ยวนำมนตราระดับผู้เชี่ยวชาญ!”
ทีเกอร์เองก็ได้รับชมการต่อสู้ของเมืองหุบเขาเดียวดายทางทีวี เขาตระหนักดีถึงพลังรบของชายที่อยู่เบื้องหน้า
แน่นอนหากเทียบกับด้านพลังรบแล้ว สิ่งที่ทำให้ชายผู้นี้น่าเกรงขามยิ่งกว่าคือโอกาสเติบโตในอนาคต
พิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน เขาสมควรได้รับตำแหน่งขุนนางในโลกวิญญาณและสามารถปกครองได้อย่างมั่นคง และมั่นใจได้เลยว่าขุนนางใหญ่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดในการเดินทางของเขา
แม้ ทีเกอร์ยังพยายามถ่อมตน แต่ท่าทีเย่อหยิ่งก็ยังคงอยู่
ได้ยินคำพูดของฮังอวี่ เขาเผลอเอ่ยโอ้อวดทันที “ตราบใดที่เจ้ามอบวัสดุคุณภาพสูงเพียงพอแก่ข้า ข้าสามารถสร้างอุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราคุณภาพสูงยิ่งกว่านี้อีก”
ฮังอวี่ตรวจสอบคุณสมบัติของหุ่นรบทหารพิฆาต แต่รายละเอียดของมันเยอะเกินไป ยืดยาวเกินกว่าที่จะนำขึ้นมาอธิบาย
แต่ที่แน่ๆในฐานะหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราคุณภาพสีฟ้าเลเวล 14 ค่าคุณสมบัติของมันทรงพลังมาก มีถึงสิบห้าลูกเล่นในการโจมตีและป้องกัน พลังรบใกล้เคียงกับระดับทรราชในเลเวลเดียวกัน
แน่นอน พลังรบในทางทฤฏษีก็อย่างหนึ่ง พลังรบที่จะสำแดงได้ตอนใช้จริงก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง
ฮังอวี่เชื่อว่าตราบใดที่คนขับหุ่นรบตัวนี้ไม่อ่อนแอเกินไป เขาสามารถเอาชนะทุกคนในมังกรฟ้ายกเว้นตัวฮังอวี่เอง
นี่แหละคือข้อได้เปรียบของอาวุธเหนี่ยวนำมนตรา!
แน่นอน
อุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราก็มีข้อเสียเช่นกัน
อันดับแรก การจะสร้างให้มีคุณภาพสีฟ้า ต้องใช้ทั้งเวลา วัสดุ และหินคริสตัล มีค่าใช้จ่ายมากกว่าอุปกรณ์สีฟ้าที่มีคุณภาพและเลเวลเดียวกันหลายเท่า
อันดับที่สอง เมื่ออุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราเริ่มใช้งาน ตามหลักแล้วเท่ากับการผลาญเงินในทุกวินาที อุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราคุณภาพสีฟ้าต้องใช้หินคริสตัลฟ้า ยิ่งใช้งานหนัก ก็ยิ่งสิ้นเปลือง
กล่าวโดยทั่วไปแล้ว อุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตรานี้เหมาะสำหรับสงครามใหญ่เท่านั้น
หากคุณใช้มันสู้กับ BOSS เมื่อหักลบผลกำไรโดยรวบ อาจไม่มากกว่าเท่าไหร่นัก กล่าวได้ว่าไม่คุ้มทุน!
“ถ้าใช้เจ้าสิ่งนี้ในศึกตัดสินเมืองธารทะเลทราย ฉันคิดว่าน่าจะช่วยลดแรงกดดันได้มาก” ซูหยุนปิงกล่าว “แต่การผลิตหุ่นรุ่นนี้ไม่สูงมาก สาเหตุหลักๆคือพวกมันต้องการวัสดุมากเกินไป”
สถานะการเงินของฮังอวี่ตอนนี้ค่อนข้างตึงตัว
แม้ว่าจะมีอุตสาหกรรมทำเงินมากมายอยู่ในมือเขา แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้มีการใช้จ่ายมากเกินไปในช่วงเวลาสั้น ๆ
แม้ได้รับสินสงครามมากมายจากสนามรบ แต่จำเป็นต้องฟื้นฟูความเสียหายจากกองทัพ สร้างสมุนทหาร ชดเชยแก่ผู้ตาย หลังการแจกจ่าย อันที่จริงแล้วกำไรไม่มากนัก
โชคดีก็คือฮังอวี่มีของดีมากมายอยู่ในมือเขา ปัจจุบันเขาครอบครองหินสกิลขั้น 3 4 กว่า 20 ก้อนที่ไม่ได้ใช้ และอุปกรณ์สีฟ้าอีกหลายชิ้น
ในกรณีที่จำเป็น สามารถนำมันไปเปลี่ยนเป็นเงิน เพื่อเติมกระแสเงินสดของเขาได้
“ไม่เป็นไร สร้างให้ได้มากที่สุดก็พอ การต่อสู้ครั้งต่อไป ผมมั่นใจว่ามันจะช่วยพวกเราได้”
สิ่งที่ทำให้ฮังอวี่รู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขมาก เอาจริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องหุ่นรบ แต่เป็นความสามารถของทีเกอร์ และศักยภาพของสถาบันวิจัยเทคโนโลยีเหนี่ยวนำมนตรามังกรฟ้า
อุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราที่ผลิตจากที่นี่ต่อไปในอนาคต ย่อมสามารถขายได้กำไรสูง
กระทั่งสกายเน็ตก็ยังไม่มีนักเหนี่ยวนำมนตราระดับผู้เชี่ยวชาญ!
ขณะที่ทีเกอร์ไม่ใช่แค่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ยังได้เรียนรู้พิมพ์เขียว แบบแปลนต่างๆมากมาย! เขาสามารถสร้างไอเท็มได้หลากหลาย!
วันต่อมา
หวงหงเสวียนได้ติดต่อเข้ามา หลายเมืองจากสกายเน็ตได้ส่งมอบปืนใหญ่องครักษ์สกายเน็ตรุ่นใหม่จำนวน 60 กระบอกให้แก่ฮังอวี่ และแถมลูกกระสุนปืนใหญ่ประเภทต่างๆมากกว่าพันลูก
อุปกรณ์ประเภทนี้ไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเงินทั่วไป
แต่การที่ฮังอวี่สามารถติดตั้งพวกมันได้มากกว่า 200 เครื่องในแคว้นเดียวดาย สาเหตุหลักๆก็เพราะเป็นความปรารถนาของจีนที่ต้องการให้ฮังอวี่และมังกรครามเป็นแบบอย่างของประเทศ และใช้แคว้นเดียวดายในอาณาจักรมังกรโลกาเป็นพื้นที่ทดสอบโลกวิญญาณ
หลายวันผ่านไปราวชั่วพริบตา
ฮังอวี่นำกองทัพออกจากเมืองหุบเขาเดียวดาย มาถึงสถานที่ที่เรียกว่า ‘เมืองลมแกร่ง’
เมืองลมแกร่งเป็นเมืองของเซนทอร์ ขุนนางคือสมาชิกเก่าที่ติดตามคาลิมัวเมื่อหลายปีก่อน ถือได้ว่าเป็นสายตรงและคนสนิทของคาลิมัว
ยังไงก็ตาม
เนื่องจากการกระทำต่างๆของคาลิมัว และการตายของมัน ทำให้เหล่าขุนนางเล็กต่างตระหนักว่าระบบการปกครองของคาลิมัวสิ้นสุดลงแล้ว
แม้เมืองธารทะเลทรายจะมีพลังรบอยู่มาก แต่จะถูกโค่นล้มเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา
ผู้ล่วงรู้สถานการณ์คือวีรบุรุษ
ขุนนางเมืองลมแกร่งที่เป็นสายตรงของคาลิมัวเวลานี้คือตนเดียวที่ยอมจำนนต่อฮังอวี่และเมืองหุบเขาเดียวดาย
และเมืองลมแกร่งก็อยู่ใกล้กับเมืองธารทะเลทรายมาก ดังนั้นจึงกลายเป็นที่ตั้งฐานทัพของฮังอวี่ไปโดยปริยาย
ไม่นาน กองทัพก็จัดขบวนพร้อมสรรพ
ฮังอวี่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองลมแกร่ง
เมื่อมองออกไปในพื้นที่ที่เดิมรกร้างว่างเปล่า เวลานี้คราคร่ำไปด้วยขบวนทัพอันไร้ที่สิ้นสุด
อัดแน่น!
ทหารหลักหลายหมื่น!
และทุกนายอยู่ฝั่งเขา!
เป็นการรวบทัพที่เป็นปรากฏการณ์!
ฮังอวี่คือผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพนี้ มันเป็นความรู้สึกภาคภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก
เขาเอ่ยสั้นๆเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจ
ฮังอวี่ไม่ต้องการเสียเวลาอีกต่อไป ประกาศโดยตรง “กองทัพทั้งหมดบุกได้!”