Ep.423 - สร้างพื้นที่เศรษฐกิจในโลกวิญญาณ
1/3
Ep.423 - สร้างพื้นที่เศรษฐกิจในโลกวิญญาณ
กองทัพพันธมิตรรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
แผนคือกำหนดเริ่มโจมตีเมืองธารทะเลทรายในอีกสามวัน
ที่ต้องเร่งรีบก็เพราะ ขืนปล่อยไว้นานเกินไป เมืองธารทะเลทรายจะฟื้นคืนพลัง ยิ่งนานราคาที่ต้องจ่ายก็จะยิ่งสูง
เมื่อลุล่วงการทำสัญญากับเหล่าขุนนางเล็ก ในที่สุดฮังอวี่ก็สามารถระบายความตึงเครียด หลังจากกลับมาที่เจียงเฉิง ก็เปิดดูข่าวในเน็ต
เผ่าพันธุ์มนุษย์ในแคว้นวิญญาณได้เป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้คนทั่วโลก ช่วยให้พวกเขาเชื่อมั่นว่าตัวเองก็สามารถพิชิตโลกวิญญาณได้
สงครามครั้งนี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เป็นอีกครั้งที่มังกรครามและบอสฮังถูกผลักดันสู่สายตาผู้คนทั่วโลก
และไม่ต้องสงสัยเลย
นี่เป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่
เผ่าพันธุ์มนุษย์ตอนนี้มีฐานที่มั่นหลายร้อยแห่งในโลกวิญญาณ แม้สถานการณ์ตามจริงของแต่ละฝ่ายจะแตกต่างกัน ความท้าทายที่ต้องเผชิญไม่เหมือนกัน แต่ข้อมูลที่พวกเขาได้จากกราบุกเบิกแคว้นเดียวดาย มากพอแล้วที่จะสร้างแรงดลใจดีๆมาสู่ทุกประเทศ องค์กร และขุมกำลังต่างๆ
แฟนคลับบอสฮังมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น!
สื่อโซเชียลมีเดียและแวดวงเพื่อนออนไลน์ ต่างเผยแพร่การประลองระหว่างฮังอวี่และ คาลิมัวไปทุกที่ ผู้คนเริ่มประเมินพลังรบของฮังอวี่อีกครั้ง
ขณะนี้มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่าฮังอวี่ไม่ใช่แค่ท็อปสิบหรือท็อปสามของจีน แต่เป็นอันดับหนึ่ง!
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เป็นประเด็นร้อนที่สุดไม่ใช่การจัดอันดับของบอสฮัง แต่เป็นเรื่องที่พวกผู้เชี่ยวชาญด้านโลกวิญญาณเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ‘มังกรครามจะตาย’ ‘มนุษย์ในแคว้นเดียวดายจะถูกทำลาย’ ‘บอสฮังประมาท’ ทั้งหมดถูกด่ายับ
การต่อสู้ในเมืองหุบเขาเดียวดายเป็นการตบหน้าพวกเขาอย่างแรง!
ชื่อเสียงของพวกเขาป่นปี้ หลังจากนี้ไปเกรงว่ากระทั่งทำงานหาค่าข้าวคงยาก
นอกเหนือจากข้างต้น ก็มีสถานบันในโลกจริงไม่น้อย ได้ทำการสรุปเหตุการณ์ในแคว้นเดียวดายตั้งแต่ต้นจนจบ หลังจากการวิเคราะห์ด้วยหลักเหตุและผล ก็ปล่อยข้อมูลทรงคุณค่าออกมา ช่วยให้ผู้คนมากมายได้รับผลประโยชน์
ยังไม่พอ ผู้บริหารระดับสูงของเจียงเฉิงได้จัดงานเลี้ยงฉลองแก่ฮังอวี่และฉูเทียนหัวที่โรงแรมมังกรฟ้าเป็นกรณีพิเศษ รองเทศมนตรีหวงหงเสวียนได้เข้ามาพูดคุยกับฮังอวี่
“พวกเราคิดว่านายใจดีกับขุนนางเล็กมากไป” หวงหงเสวียนรู้สึกเสียดายเล็กน้อย “แหล่งรายได้หลักอย่างหนึ่งของขุนนางใหญ่ คือเครื่องบรรณาการจากขุนนางเล็ก แต่ลดภาษีขนาดนี้ ก็เท่ากับเหลือไม่มากแล้ว”
อาณาเขตของขุนนางใหญ่มักรายล้อมไปด้วยขุนนางเล็กหลายสิบตน
หากขุนนางเล็กแต่ละตนจ่ายภาษีครึ่งหนึ่งของทรัพยากรที่พวกเขาได้รับ จำนวนทรัพยากรจะน่าอัศจรรย์ขนาดไหน? ต่อให้ขุนนางใหญ่กินนอนทั้งวันโดยไม่ทำอะไรเลย ก็ยังมีเงินไหลมาเทมา
แต่ฮังอวี่กลับบอกว่าจะลดภาษีให้เหลือน้อยกว่า 20%
ทั้งยังให้คำมั่นว่าใครทำผลงานได้ดีจะได้ละเว้นภาษี
ช่างเป็นอะไรที่น่าเสียดาย!
นี่เท่ากับว่ามังกรครามพลาดทรัพยากรมากมาย ห้ามลืมนะว่าฮังอวี่ ฉูเทียนหัวก็มาจากเจียงเฉิง จึงกลายเป็นว่าเจียงเฉิงได้รับทรัพยากรทางอ้อมน้อยลง
ฮังอวี่ส่ายหัวและพูดว่า “นายกเทศมนตรีหวงพูดผิดแล้ว ผมคิดว่าหลังจากพวกเราให้สิทธิพิเศษแก่ขุนนางเล็ก สิ่งที่พวกเราได้รับไม่ใช่รายได้ที่ลดลง แต่เป็นกำไรที่มากขึ้นหลายเท่าตัว”
หวงหงเสวียนเริ่มสนใจขึ้นมา “ทำไมถึงพูดแบบนั้น?”
ฮังอวี่ตอบว่า “คุณคิดว่าการปล้นคนอื่นมันจะทำให้รวยได้จริงๆหรือ?”
หวงหงเสวียนนิ่งงันไปพักหนึ่ง
ฮังอวี่กล่าวต่อ “การทำแบบนั้นถึงดูเหมือนจะมีรายได้เข้ามาตลอดเวลา แต่จริงๆแล้วไม่มากขนาดนั้น แทนที่จะไปปล้นพวกขุนนางเล็ก จะดีกว่าไหมถ้าปล่อยให้พวกเขาเสาะหาทรัพยากร แล้วสร้างตลาดโลกวิญญาณขึ้น”
รองเทศมนตรีหวงเป็นข้าราชการระดับสูง
ตำแหน่งนี้ไม่ใช่คนทั่วไปจะนั่งได้
ก่อนหน้านี้เขามัวแต่เสียใจกับปริมาณทรัพยากรจำนวนมากที่ต้องเสียไป เลยไม่ได้เอะใจถึงเรื่องนี้ แต่พอถูกฮังอวี่กระตุกความคิด ก็ค้นพบกุญแจสำคัญทันที เขารู้แล้วว่าทำไมฮังอวี่ถึงทำแบบนี้
ฮังอวี่เป็นเผ่ามนุษย์ ขณะที่ขุนนางเผ่ามนุษย์ไม่เหมือนกับขุนนางใดๆในโลกวิญญาณ
หากมนุษย์ได้ขึ้นเป็นขุนนางใหญ่ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีขุนนางเล็กตนใดในอาณาเขตคิดลุกฮืออีกต่อไป
เพราะไม่ว่าขุนนางเล็กเหล่านั้นจะพัฒตาได้รวดเร็วเพียงใด ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสั่นคลอนการปกครองของเผ่ามนุษย์
ที่ขุนนางใหญ่แห่งโลกวิญญาณฉกฉวยประโยชน์จากขุนนางเล็กอย่างบ้าคลั่ง ทางหนึ่งเพื่อเสริมกำลังให้ตนเอง อีกทางหนึ่งเพื่อสะกดข่มภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น และทำให้ความเร็วในการพัฒนาของขุนนางเล็กถดถอยลง
ซึ่งฮังอวี่ไม่ได้กังวลว่าขุนนางเล็กจะแก่กล้าขึ้นจนเป็นภัยคุกคาม ตรงกันข้ามเขาลดหย่อนภาษีให้แทน
เขาต้องการทำให้ขุนนางเล็กเหล่านั้นร่ำรวยและแก่กล้าขึ้น!
ฮังอวี่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรมังกรคราม กลุ่มมังกรฟ้า และทั่วทั้งเจียงเฉิง!
เขาสามารถขายโพชั่น อุปกรณ์ อุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตรา ไอเท็มเฉพาะ หินสกิลให้แก่เหล่าขุนนางเล็กได้ และขณะเดียวกันสามารถนำวัสดุทุกชนิดของเหล่าขุนนางเล็กไปขายต่อในโลกจริง
เรียกว่าเป็นการหมุนเวียนครบวงจร
ทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะได้กำไรและผลประโยชน์มากกว่าการเรียกเก็บภาษีหรอกหรือ?
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ด้วยประการฉะนี้ ขุนนางเล็กจะสามารถเติบโตได้เร็ว เท่ากับว่าพลังรบโดยรวมของดินแดนทั้งหมดแก่กล้าขึ้น และพวกเขาก็จะยิ่งต้องพึ่งพาช่องทางการตลาดของเผ่ามนุษย์มากขึ้น
จากนั้นพวกเขาก็จะสนับสนุนการปกครองโดยเผ่ามนุษย์ยิ่งกว่าเดิม
ในอนาคตถ้าฮังอวี่คิดขยายดินแดนใหม่ หรือต้องต่อกรกับขุมกำลังต่างแดน ขุนนางเล็กเหล่านี้จะยินดีเข้าสู่สนามรบทันที
ฉะนั้น หากต้องปล้นกันด้วยภาษี สู้เปิดตลาดทำการค้าด้วยกันจะดีกว่า! ควบคุมขุนนางเล็กด้วยกลวิธีทางเศรษฐกิจ วิธีนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าการปราบปรามด้วยการใช้กำลังและการเอารัดเอาเปรียบอย่างมาก!
เห็นได้ชัดว่าฮังอวี่คิดไว้แบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วตั้งแต่เขายึดเมืองหุบเขาเดียวดาย และเตรียมการเสมอมา
หวงหงเสวียนทอดถอนหายใจจากใจจริง
เด็กคนนี้มีพรสวรรค์จริงๆ
อนาคตของเขาในโลกฝ่ายวิญญาณนั้นไร้ขีดจำกัด!
หวงหงเสวียนกล่าวว่า “ในเมื่อนายคิดได้ถึงขนาดนี้ ฉันก็โล่งใจ แต่ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไร ขอแค่พูดมันออกมา หน่วยงานของรัฐและทางเจียงเฉิง ยินดีสนับสนุนเต็มที่!”
ได้ยินแบบนั้นฮังอวี่คิดพักหนึ่ง และขอแค่สิ่งเดียว
“ผมต้องการปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตราเพิ่ม!”
...
เมื่อทั้งสองจบการสนทนา ซูหยุนปิงก็เดินมาหาเขา มอบอาวุธคุณภาพสีฟ้าสองชิ้นให้แก่ฮังอวี่
“อาวุธที่นายให้สร้างจากพิมพ์เขียวเสร็จแล้ว”
“ลองดูโบนัสคุณสมบัติของมันสิว่าน่าพอใจไหม?”
อาวุธทั้งสองเป็นดาบคมเดียวที่มีความยาวกว่าสามฟุต ตลอดทั้งด้ามดำสนิท แต่บนใบดาบมีลวดลายประกอบ คล้ายกำลังไหลเวียนด้วยลาวาร้อนระอุ
รูปทรงใบดาบเท่มาก คล้ายกับคาตานะของประเทศญี่ปุ่น
[ดาบอสูรแผดเผา] อุปกรณ์เลเวล 13 , สีฟ้าคุณภาพกลาง , การโจมตีทางกายภาพ +58 , พละกำลัง +12 , ว่องไว +8 , ค่าพลังชีวิต +10 , สกิลเสริม : ‘คำสาปเผาไหม้’
ถูกต้อง นี่คืออาวุธสีฟ้าที่ฮังอวี่มอบหมายให้เจ้ากระบองทองสร้างขึ้น
ฮังอวี่ตอนนี้อยู่ในเลเวล 13 และเข้าใกล้เลเวล 14 แล้ว มันเลยไม่ค่อยเหมาะนักหากยังต้องใช้อาวุธในเลเวล 10 11 อยู่
แล้วอีกอย่าง ค่าความทนทานของกระบี่กระดูกสามานย์และขวานปีศาจแมงป่องก็กำลังจะหมดลง การซ่อมแซมมันต้องจ่ายด้วยวัสดุคุณภาพสีฟ้า
ตอนนี้อาวุธใหม่ถูกสร้างเสร็จแล้ว ดังนั้นอาวุธเก่าจะถูกโล๊ะขายในราคาต่ำ
การโจมตีและค่าคุณสมบัติของดาบอสูรแผดเผานั้นสูงมาก ส่วนสกิลคำสาปเผาไหม้ที่แนบมาพร้อมอาวุธจะมีผลเมื่อโจมตีโดน เพิ่มเอฟเฟกต์เผาไหม้เป็นเวลานานแก่เป้าหมาย
ไม่เพียงสร้างความเสียหายจากไฟได้อย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังสามารถลดความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองของเป้าหมายได้อีกด้วย
และเนื่องจากเอฟเฟกต์นี้สามารถซ้อนทับกัน โดยรวมแล้วถือว่าไม่เลว!