ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 102 เริ่มต้นใหม่ในฐานะมนุษย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 104 เคาะประตูทวงหนี้

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 103 กลับสู่สังคมมนุษย์


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 103 กลับสู่สังคมมนุษย์

แปลโดย iPAT  

น้ำในสระตกลงมาเป็นสายฝน ภายใต้แสงตะวัน รุ้งกินน้ำปรากฏขึ้น

หลี่ฉิงซานปิดเปลือกตาของเขาอย่างแน่นหนา ภายในร่างกายของเขา แกนปีศาจกำลังดึงปราณปีศาจทั้งหมดของเขาเข้าไป มันเหมือนเต่าที่กำลังถอดกระดองและดำดิ่งลงไปใต้ทะเลลึกเพื่อเข้าสู่การจำศีลนับพันปีโดยไม่มีผู้ใดสามารถสัมผัสถึงการคงอยู่ของมัน

เมื่อหลี่ฉิงซานเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็กระโดดขึ้นมาจากสระน้ำและปรากฏตัวต่อหน้าเสี่ยวอัน

หลี่ฉิงซานกลายเป็นหลี่ฉิงซานคนเดิม ในความเป็นจริงประโยคนี้อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด

นั่นเป็นเพราะเขาไม่มีมัดกล้ามเนื้อที่ชัดเจนอีกต่อไป เขาดูเป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาจากหมู่บ้านบนภูเขาที่ไม่มีคุณสมบัติพิเศษใดๆ อย่างไรก็ตามดวงตาของเขากลับดูลึกลับและสงบราวกับทะเลลึก

เขามองมือมนุษย์ของตนและนึกขึ้นได้ว่าเขาอายุสิบหกปีแล้ว

เมื่อเขาอยู่ในร่างปีศาจ มันไม่มีแนวคิดเรื่องเวลาที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขากู้คืนร่างมนุษย์ สิ่งนี้ก็กลับมาแจ่มชัดอีกครั้ง

สิบหกปีแล้วตั้งแต่เขาเดินทางมายังโลกใบนี้ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในครึ่งปีที่ผ่านมาน่าสนใจมากกว่าช่วงเวลาสิบห้าปีแรกรวมกัน เขากลายเป็นปีศาจก่อนจะกลับเป็นมนุษย์อีกครั้ง

ปราณปีศาจทั้งหมดของเขาถูกเก็บไว้ในแก่นปีศาจโดยไม่มีกลิ่นอายเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อย กล่าวไปแล้วมันค่อนข้างตลก เขากลายเป็นปีศาจโดยไม่คาดคิด แต่เมื่อเขาเข้าใจและประสบควมสำเร็จบนเส้นทางสายปีศาจ เขาก็กลับเป็นมนุษย์อีกครั้ง

มีสิ่งมีชีวิตมากมายหลากหลายประเภทอยู่บนโลกใบนี้ มนุษย์กลายเป็นปีศาจ ปีศาจกลายเป็นมนุษย์ สิ่งใดที่เรียกว่าปีศาจ สิ่งใดเรียกว่ามนุษย์ เพราะบางทีมนุษย์ยังชั่วร้ายยิ่งกว่าปีศาจ

หลี่ฉิงซานตัดสินใจที่จะไม่พิจารณาคำถามเหล่านี้ในเวลานี้ เขากล่าวกับเสี่ยวอัน “ข้าให้เจ้ารอมานาน เราไปกันเถอะ!”

เปลวไฟเต้นรำอยู่ในเบ้าตาของเสี่ยวอันขณะที่เขาเอนตัวเข้าหาหลี่ฉิงซาน

หลี่ฉิงซานใช้มือสัมผัสแหวนที่วัวดำทิ้งไว้ เขาไม่รู้ว่ามันทำมาจากสิ่งใด มันเหมือนผนึกแต่มันไม่เรืองแสง ตอนนี้ปราณปีศาจของเขาถูกเก็บไว้ในแก่นปีศาจ เขาไม่สามารถใช้พลังปราณของตน ดังนั้นแม้เขาจะอยากรู้ว่าวัวดำทิ้งสิ่งใดไว้ให้เขา แต่เขาก็ทำได้เพียงอดทนและค่อยๆคิดหาวิธีเปิดมันเท่านั้น เขาแขวนแหวนไว้กับสร้อยคอและห้อยไว้ใต้เสื้อของเขา

เขาสัมผัสป้ายไม้โบราณที่ไหมเกรียมก่อนกล่าว “ไปกันเถอะ มาช่วยเจ้าฟื้นฟูร่างกายกันก่อน แต่ตอนนี้เจ้าต้องซ่อนตัวอีกครั้ง” หลี่ฉิงซานยังจำคำสัญญาของเขาได้ดี

เสี่ยวอันช่วยเหลือเขาในทุกช่วงเวลาสำคัญ แม้ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด เด็กน้อยก็ยังอยู่ข้างกายเขาไม่ห่าง

เขาจะไม่กล่าวขอบคุณแต่ปล่อยให้ความรู้สึกนี้อัดแน่นอยู่ในหัวใจอย่างเงียบๆ

เขามองรุ้งกินน้ำบนท้องฟ้าและคิดถึงวัวดำ เสี่ยวอัน กู่เยี่ยนหยิน รวมถึงซวนเยว่ เขาจะทำตามสัญญา เติมเต็มความคาดหวังและความทะเยอทะยานทั้งหมด

ความสงบสุขกลับคืนสู่ภูเขา สระน้ำไม่มีวังน้ำวนอีกต่อไป หลังจากทั้งหมดปราณปีศาจของหลี่ฉิงซานกำหราบมันลงอย่างสมบูรณ์

เด็กหนุ่มอายุสิบหกที่มีสถานะทั้งมนุษย์และปีศาจก้าวเข้าสู่สังคมมนุษย์อีกครั้ง

หลี่ฉิงซานมาถึงซากปรักหักพังของป้อมวายุทมิฬพร้อมกับเสี่ยวอัน แต่เขากลับขมวดคิ้ว

ตั้งแต่เขาตัดสินใจที่จะกลับสู่สังคมมนุษย์ เขาก็ต้องการเงินทองเพื่อปูทางให้กับตนเอง ตั๋วแลกเงินทั้งหมดของเขาถูกเผาทำลายที่วิหารเทพแห่งขุนเขาไปแล้ว พวกมันไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

นั่นทำให้เขานึกถึงป้อมวายุทมิฬ เขาเดินทางมีที่นี่เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ แต่สิ่งที่เขาพบคือร่องรอยของการขุดค้นทุกหนทุกแห่ง

เป็นไปตามความคาดหมาย ห้องลับของซ่งเซียงอู๋ถูกค้นพบ สมบัติถูกนำออกไปทั้งหมด

หลี่ฉิงซานถอนหายใจ “ที่นี่ควรเรียกว่าสิ่งใด? สุสานโจรงั้นหรือ?”

ในเมืองชิงหยาง เย่ต้าฉวนจูบเอกสารคำสั่งโยกย้ายด้วยความยินดี “ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดข้าก็สามารถไปจากที่นี่!”

การทำลายป้อมวายุทมิฬและการเปิดโปงความชั่วร้ายของนิกายถ้ำมังกรเป็นผลงานที่ถูกส่งไปยังจวนผู้ว่าแห่งมณฑลชิงเหอ

ผู้ว่ามณฑลค่อนข้างประหลาดใจกับความสำเร็จของเย่ต้าฉวน นอกจากนั้นเขาก็ไม่สามารถอดทนต่อการเกลี้ยกล่อมของภรรยาสุดที่รัก สุดท้ายเขาจึงต้องออกคำสั่งโยกย้ายเย่ต้าฉวน

แน่นอนว่าผู้ว่าจะไม่ย้ายเย่ต้าฉวนกลับไป ดังนั้นเย่ต้าฉวนจึงถูกส่งไปยังเมืองเจียเผิงที่เจริญกว่าเมืองชิงหยาง แต่นี่ก็ทำให้เย่ต้าฉวนมีความสุขมากแล้ว

ที่ปรึกษากล่าว “ยินดีด้วย นายท่าน ยินดีด้วย!”

เย่ต้าฉวนเฉลิมฉลองอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เขาจะกล่าวอย่างโศกเศร้า “น่าเสียดายที่น้องฉิงซานไม่อยู่แล้ว!” อย่างน้อยเขาก็ไม่ลืมคนที่ทำให้เขาได้รับสิ่งนี้

ที่ปรึกษาถอนหายใจ “โปรดอย่าโศกเศร้า ทั้งหมดเป็นชะตาฟ้าลิขิต พวกเราไม่สามารถทำสิ่งใด”

เย่ต้าฉวนคิดก่อนจะเปิดปากกล่าว “อย่าลืมเผากระดาษเงินกระดาษทองให้เขาอีกครั้งก่อนที่เราจะจากไป ข้าต้องการให้น้องฉิงซานของข้ามีเงินทองไว้ติดสินบนเจ้านรกและทำให้เขามีช่วงเวลาที่ง่ายขึ้นเล็กน้อย ข้าหวังว่าเขาจะได้เกิดใหม่ในครอบครัวที่ดี”

“เกิดใหม่ในครอบครัวที่ดีอันใด?” เป็นเพียงเวลานี้ที่หลี่ฉิงซานกระโดดข้ามกำแพงเข้ามาด้วยท่าทางแปลกๆ

“แน่นอนว่ามันต้องเป็นครอบครัวที่ยิ่งใหญ่และมั่นคั่ง...ผะ...ผะ...ผี!” เย่ต้าฉวนตอบอย่างไม่ใส่ใจแต่เสียงของเขากลับค่อยๆช้าลง เมื่อเขาเห็นหน้าของฝ่ายตรงข้าม เขาก็กรีดร้องเสียงดังและรีบวิ่งเข้าไปซ่อนตัวอยู่หลังเก้าอี้

ที่ปรึกษาเร่งกล่าว “นายท่าน ใจเย็นๆ ผีที่ใดจะออกมากลางวันแสกๆ! มือปราบหลี่กลับมาแล้ว!”

เย่ต้าฉวนมองหลี่ฉิงซานและเห็นเงาของเขาทอดตัวลงอยู่บนพื้นท่ามกลางแสงอาทติย์ของฤดูร้อน นี่ทำให้เขาผ่อนคลายลง เขาโผล่ออกมาจากหลังเก้าอี้และคว้ามือของหลี่ฉิงซาน “น้องฉิงซาน ในที่สุดเจ้าก็กลับมา! ก่อนหน้านี้เจ้าไปอยู่ที่ใด?” เขากล่าวด้วยน้ำตาที่ไหลนอง

หลี่ฉิงซานดึงมือของเขากลับ “ข้าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ดังนั้นข้าจึงเก็บตัวพักฟื้นอยู่บนภูเขา ท่านคิดว่าข้าตายแล้วงั้นหรือ?”

เย่ต้าฉวนกล่าว “ตราบเท่าที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ นั่นก็ดีแล้ว!” หลังจากนั้นเขาก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาให้หลี่ฉิงซานฟัง ปรากฏว่าข่าวที่เฟิงจางนำกลุ่มนักสู้ชั้นหนึ่งไปปิดล้อมหลี่ฉิงซานกระจายออกไปราวกับไฟป่า สุดท้ายทุกคนก็หายตัวไปพร้อมกันบนภูเขา

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีคนจำนวนไม่น้อยขึ้นไปบนภูเขาเพื่อค้นหาเบาะแส แต่สิ่งที่พวกเขาพบมีเพียงวิหารเทพแห่งขุนเขาที่ถูกเผาทำลายเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ข่าวลือต่างๆนานจึงแพร่สะพัดไป

บางคนกล่าวว่าเฟิงจางปิดปากทุกคนด้วยความตายหลังจากที่เขาได้รับโสมจิตวิญญาณและไปซ่อนตัว บางคนบอกว่าผู้เชี่ยวชาญคนอื่นเข้าแทรกแซงและฆ่าทุกคน

อย่างไรก็ตามไม่ว่าข่าวลือจะเป็นเช่นไร ทุกคนก็คิดตรงกันว่าหลี่ฉิงซานตายแล้ว ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะรอดชีวิตจากสถานการณ์เช่นนี้ ดังนั้นทุกคนจึงปฏิบัติต่อเขาราวกับคนที่ตายไปแล้ว

“ต้้งแต่เจ้ากลับมา เจ้าก็สามารถไปเมืองเจียเผิงพร้อมกับข้า เจ้าคิดอย่างไร?” เย่ต้าฉวนชี้ไปที่เอกสารคำสั่งโยกย้ายด้วยความพึงพอใจขณะที่ดวงตาของเขาหายไปภายใต้รอยยิ้ม เขามีความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจที่หลี่ฉิงซานสามารถกลับมา ท้ายที่สุดหลี่ฉิงซานก็เป็นผู้นำโชคดีมาสู่เขา

หลี่ฉิงซานชำเลืองมองเอกสารคำสั่งและกล่าวด้วยความสับสน “รองเจ้าเมือง? นี่ไม่ใช่การลดตำแหน่งงั้นหรือ?”

โดยทั่วไปเมืองเล็กๆจะไม่มีตำแหน่งรองเจ้าเมือง มีเพียงเมืองใหญ่เท่านั้นจึงจะมีตำแหน่งนี้ มันยังสามารถมีได้ถึงสองหรือสามคน

เย่ต้าฉวนตอบ “มีสิ่งใดต้องไม่พอใจ เจ้าจะอยากเป็นขอทานในเมืองที่มั่งคั่งมากกว่าเป็นราชาของฝูงสุนัข สถานที่ที่ทรุดโทรมเช่นเมืองชิงหยางมีคุณค่าใด? แม้ข้าจะสามารถทำเงินแต่มันยังไม่พอแม้แต่จะให้ข้าสร้างห้องนั่งเล่นดีๆสักห้องหรือให้ข้าไปทานอาหารกับหญิงงามสักมื้อ...”

หลี่ฉิงซานฟังคำกล่าวของเย่ต้าฉวนและต้องหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ อย่างน้อยคนผู้นี้ก็มีความจริงใจ นอกจากนั้นมันก็ทำให้เขารู้สึกได้กลับสู่สังคมมนุษย์แล้วจริงๆ ท้ายที่สุดสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ไล่ล่า

คำว่าเมืองเจียเผิงทำให้หัวใจของหลี่ฉิงซานเต้นแรง เขาสัมผัสป้ายหมาป่าเหล็กดำที่อยู่ในอกและคิดถึงคำกล่าวของตาแก่หวังที่บอกให้เขาไปเมืองเจียเผิงและรายงานตัวกับจ้าวจื่อป๋อเพื่อเข้าร่วมกองกำลังผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามเขายังไม่ได้พิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง ดังนั้นเขาจึงยังไม่สามารถตัดสินใจ

เฟิงจางที่เขาฆ่าอาจมีสหายหรือคนรู้จักอยู่ในเมืองเจียเผิง จ้าวจื่อป๋อคือคนที่ส่งเฟิงจางมาที่นี่ตั้งแต่แรก บางทีคนผู้นั้นอาจไม่พอใจเขาเช่นกัน

ที่ปรึกษาสมกับเป็นที่ปรึกษา แม้เขาจะไม่รู้เรื่องราวมากนักแต่เขายังสามารถคิดถึงจุนนั้น เขาเตือนเย่ต้าฉวน “เฟิงจางมาจากเมืองเจียเผิง ตอนนี้เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ใด” เหตุผลที่เขาหายตัวไปเห็นได้ชัดว่าเกี่ยวกับหลี่ฉิงซาน พวกเขาไม่แน่ใจว่าผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์จะสอบสวนเรื่องนี้หรือไม่

การแสดงออกของเย่ต้าฉวนเปลี่ยนไปเช่นกัน “ถูกต้อง น้องฉิงซาน เจ้าต้องระวังตัว หากเจ้าต้องการ เจ้าสามารถจากไป ข้าจะทำเหมือนเจ้าไม่เคยกลับมา” ด้วยสถานะของเขา เขายังไม่รู้ว่าหวังฝูซื่อไล่เฟิงจากออกจากตำแหน่งไปแล้ว ดังนั้นการหายตัวไปของผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์จึงถือเป็นเรื่องสำคัญ

หลี่ฉิงซานกล่าว “ขอบคุณสำหรับความห่วงใย แต่ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้ามีเรื่องอยากถาม”

“เรื่องใด?”

หลี่ฉิงซานกล่าวต่อ “ผู้ใดเป็นคนรื้อค้นป้อมวายุทมิฬ?” มันมีราคาที่ต้องจ่ายสำหรับโจรที่ขโมยเนื้อไปจากปากเสือ

เย่ต้าฉวนตอบ “นั่น...มันคือสำนักกำปั้นเหล็ก ฉิงซาน อย่าใจร้อน”

“อย่ากังวล ข้าเพียงต้องการเงินของข้าคืน พวกเขาจะกล้าปฏิเสธข้างั้นหรือ?” หลี่ฉิงซานค่อนข้างสับสนกับปฏิกิริยาของเย่ต้าฉวน หลี่ฉิงซานเป็นคนทำลายป้อมวายุทมิฬและนิกายถ้ำมังกร แต่สำนักกำปั้นเหล็กกลับกล้านำสมบัติที่ควรเป็นของเขาไป

เย่ต้าฉวนกล่าว “เมื่อเร็วๆนี้คนของสำนักกำปั้นเหล็กจากสาขาหลักมาสืบสวนการหายตัวไปของหัวหน้าหออู๋ หลิวหงนำสมบัติเหล่านั้นมอบให้คนผู้นี้เป็นของขวัญ ข้ายังได้ยินมาว่าเขาเป็นจอมยุทธ์ที่แท้จริง เขาอาจรับมือได้ยาก”

หลี่ฉิงซานกล่าว “ข้าจะระวัง” จากนั้นเขาก็กระโดดข้ามกำแพงและหายตัวไปอีกครั้ง

เขาไปถึงสำนักกำปั้นเหล็กแต่เขายังไม่รีบร้อนแสดงตัว เขาลอบฟังและรวบรวมข้อมูลอย่างลับๆ

หลังจากกลับเป็นมนุษย์ ประสาทสัมผัสของเขาก็ไม่แหลมคมเหมือนตอนเป็นปีศาจ แต่มันยังเหนือกว่าคนทั่วไป ภายในระยะสามร้อยเมตร เขาสามารถได้ยินแม้แต่เสียงยุง ดังนั้นเขาจึงค้นพบหลิวหงทันที