ตอนที่ 14 สังหารพระเอก?
“นายน้อยหลิง ท่านนอนทำอะไรอยู่บนพื้น มีสิ่งใดที่ต้องการให้เชี่ยเชินช่วยไหมเจ้าคะ?”
หลีชูโหรวหันหลังกลับและเดินไปที่เตียงด้วยท่าทางที่สง่างาม นอนตะแคงอย่างเกียจคร้านแต่ก็สวยงาม
ขาเรียวยาวไขว้กัน มือข้างหนึ่งวางบนสะโพกของนางและอีกข้างหนึ่งประคองหัวของนางขณะที่นางมองดูหลิง อ่าวเทียน อย่างสนุกสนาน
หลิงอ่าวเทียนรู้สึกว่าเขาถูกดูถูก
เขายืนขึ้นอย่างท้าทาย แววตาของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น
แม้ว่าเขาจะยังรู้สึกเวียนหัว แต่ด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นยืนตัวตรง
เมื่อหลูชูโหรวมองเห็น นางอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเขาในใจ: พระเอกคนนี้มีความสามารถอยู่บ้างจริงๆ
ถ้าเป็นผู้ฝึกตนรวบรวมวิญญาณธรรมดา พวกเขาคงหมดสติไม่ก็ตายไปแล้ว
นางเรียกบันทึกออกมาด้วยความคิด
บันทึกประจำวันส่วนตัวของ เจียงมู่
นางเปิดบันทึกประจำวันขึ้นมาและพบว่ามีข้อความใหม่ปรากฏขึ้นมา
[หลังจากที่หลิงอ่าวเทียนได้เห็นหญิงแม่มดเฒ่านางนี้ เขาก็ตะลึงในความงดงามของนางและตกหลุมรักนางทันที มันเป็นรักแรบพบเหมือนกับเสวี่ยเมิ่งหาน]
หลีชูโหรว มีความปรารถนาที่จะตรวจสอบความถูกต้องของบันทึกประจำวันอีกครั้งและถาม
"นายน้อยหลิง ท่านคิดว่าข้าแก่มากไหม?”
หลิงอ่าวเทียนตกตะลึงกับคำถาม
สายตาของเขากวาดมองไปยังเรือนร่างที่งดงามของหลีชูโหรว หน้าอกมโหฬารกดไปด้านข้างบนเตียง ทำให้เตียงราวกับจะยุบลงมา ทำให้คนที่เห็นตกตะลึง
หลิงอ่าวเทียนละสายตาอย่างไม่เต็มใจ มองไปที่ดวงตาสีลูกท้อที่สวยงามของ หลีชูโหรว และตอบอย่างจริงจัง
“ท่านไม่แก่เลย ตรงกันข้าม ท่านยังสาวและงดงาม งดงามมากด้วย ท่านเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุดคนหนึ่งที่ข้าเคยเห็น”
“จริงหรือ? ได้ยินนายน้อยหลิงกล่าวเช่นนั้น เชี่ยเชินมีความสุขมาก”
หลีชูโหรวเผยรอยยิ้มและถามอีกครั้ง
“นายนิ้อยหลิงชอบข้าไหม”
" นี้…."
หูของ หลิงอ่าวเทียนเปลี่ยนเป็นสีแดง
ทำไมจู่ๆนางถึงถามคำถามนั้น?
เป็นไปได้ไหมว่านาง…ชอบข้า?
เขาไม่ค่อยเข้าใจ
แต่ในเมื่อนางถามอย่างตรงไปตรงมา แล้วทำไมเขาต้องขี้ขลาด?
หลิงอ่าวเทียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบใจลง
เขามองเข้าไปในดวงตาของหลีชูโหรวและพูดความจริง
“ข้ารักท่าน! ตั้งแต่ครั้งแรกที่ข้าเห็นท่าน ข้าก็ได้รู้ว่าข้าตกหลุมรักท่านแล้ว ข้ากล้าพูดได้เลยว่ามันคือรักแรกพบ!”
“รักแรกพบ..”
หลีชูโหรวพึมพำ ยืนยันความถูกต้องของบันทึกประจำวัน
นางมองไปที่เนื้อหาของบันทึกประจำวัน
[[แต่แม่มดเฒ่านางนี้ก็โง่นัก นางคิดว่า หลิงอ่าวเทียน เก่งเกินไป นางจึงแนะนำ หลิงอ่าวเทียน ให้หลานสาวของนางรู้จัก และพยายามที่จะจับคู่พวกเขา]
[ในเวลาต่อมา นางพบว่าหลิงอ่าวเทียนหมกมุ่นอยู่กับตัวนาง ดังนั้นนางจึงจงใจหลีกเลี่ยงเขา และด้วยเหตุนี้ นางจึงถูกเผ่าอสูรสังหาร ช่างน่าเศร้าจริงๆ]
[หลานสาวของนางเศร้าโศกเพราะการตายของนางและถูกหลิงอ่าวเทียนฆ่าในที่สุด โศกนาฏกรรมที่โง่เขลา ]
“ข้าตาย หนีฉางเศร้าเสียใจและนางก็ถูกหลิงอ่าวเทียนสังหาร”
"โศกนาฏกรรม...."
เมื่อเห็นจุดจบของตัวนางเองและหลานสาวของนาง หัวใจของหลู่ชูโหรวก็เต็มไปด้วยความกังวลอย่างมาก
นางเพิ่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีพรสวรรค์รุ่นเยาว์ของนิกายใหญ่ทั้งเก้าในทวีปเก้ารัฐ
จุดประสงค์คือการหาสามีที่ดีให้กับหลานสาวของนาง ฉวู่หนีฉาง
ถ้า หลิงอ่าวเทียนดีพอที่จะกดหัวบุตรสวรรค์เหล่านั้นได้
นาง หลีชูโหรวย่อมแนะนำ หลิงอ่าวเทียนให้กับฉวู่หนีฉางและหาวิธีที่ดีสุดเพื่อจับคู่พวกเขา
สำหรับนาง ความสุขของหลานสาวอยู่เหนือทุกสิ่ง
แต่ตอนนี้ เนื้อหาในบันทึกประจำวัน มันจะจบลงด้วยโศกนาฏกรรม
ถ้าข้าต้องการเปลี่ยนตอนจบนี้
อย่างแรก ข้าต้องไม่ชอบหลิงอ่าวเทียน
อย่างที่สองคือข้าไม่สามารถแนะนำหลิงอ่าวเทียนให้หนีฉางได้
-หรืออื่น ๆ ….
–ข้าควรฆ่าพระเอกตอนนี้เลยดีไหม?
ความคิดผุดนี้ขึ้นมาในใจของ หลีชูโหรว
นางมองไปทาง หลิงอ่าวเทียนและการจ้องมองที่นุ่มนวลของนางก็ค่อยๆแสดงเจตนาฆ่า
ในขณะเดียวกันชุดยาวสีน้ำเงินบนตัวของนางก็ลอยขึ้นโดยไร้ลม
????? หลิงอ่าวเทียนถอยหลังกลับไปสองก้าวด้วยความระมัดระวัง
ด้วยเหตุผลบางอย่าง จู่ๆ เขาก็รู้สึกถึงความกดดัน
ราวกับว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่สาวงามนอนเอนกาย แต่เป็นสัตว์ร้ายที่สามารถกระโจนขย่ำเขาได้ทุกเมื่อ!
อย่างไรก็ตาม หลีชูโหรวถอนแรงกดดันออกทันทีและส่ายหัวเบาๆ
นางยกเลิกความคิดที่จะ 'สังหารพระเอก'
–เนื่องจากนี้เป็นโลกนิยาย เรื่องราวอาจไม่สามารถควบคุมได้เมื่อหลิงอ่าวเทียนที่เป็นพระเอกตาย
–มันยังอาจนำไปสู่การหายไปของบันทึกประจำวันของเจียงมู่และข้าจะไม่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้
– กรณีที่เลวร้ายกว่านั้น ทุกอย่างอาจจบลงได้
– ดังนั้น เว้นแต่จะถูกบังคับ หลิงอ่าวเทียนไม่ควรถูกฆ่าตาย
-ในกรณีนั้น ….
หลังจากพิจารณาอย่างลึกซึ้งในใจแล้ว หลีชูโหรวก็ตัดสินใจ
เพื่อทำให้หลิงอ่าวเทียนออกห่าง
“เจวียนเอ๋อ”
นางตะโกนออไป จากนั้นประตูห้องก็เปิดออก และเจวียนเอ๋อก็เดินเข้ามาอย่างสุภาพ
จากนั้นนางก็สั่งว่า “เจ้าสร้างความบันเทิงให้กับนายน้อยหลิง พาแขกออกไป”
“เจ้าคะ เจ้าตำหนัก”
เจวียนเอ๋อตอบแล้วยิ้มจาง ๆ ให้กับหลิงอ่าวเทียนใบหน้าของนางอดไม่ได้ที่จะแดง
“หลิง… นายน้อยหลิง โปรดตามข้ามา”
????
เป็นแบบนี้ได้ยังไง?
แล้วทำไมเจ้าถึงเรียกข้ามา?
หลิงอ่าวเทียนรู้สึกงงงวยและในขณะเดียวกันก็ลังเลและไม่เต็มใจ:.
“เจ้าตำหนัก ทำไมท่านจึงเชิญข้าขึ้นมา”
หลีชูโหรว ตอบเบา ๆ ว่า“ข้าได้ยินมาว่าเมื่อคืนนี้นายน้อยหลิงไม่ลังเลที่จะรุกรานประมุขเจียงแห่งนิกายหวู่โหยวเพื่อถอนหมั้นให้กับเสวี่ยเฉียนจิน ความกล้าหาญและหัวใจเช่นนี้ทำให้ข้าชื่นชมท่านมาก”
หลิงอ่าวเทียนรู้สึกยินดีและยิ่งคิดว่านางน่าจะสนใจเขาจริงๆ เขาจึงรีบถามต่อ
“ดงนั้น...ท่าน?”
“เชี่ยเชินแค่สงสัน นายน้อยหลิงข่างเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์มาก จริงๆ เจวียนเอ๋อส่งแขก”
“……”
ด้วยเหตุนี้ หลิงอ่าวเทียนจึงทำได้เพียงเดินตามเจวียนเอ๋อออกไปอย่างหดหู่
หลีชูโหรวลุกขึ้นและมาถึงที่หน้าต่าง
เมื่อมองลงมาจากที่สูง นางมองลงไปที่ภูมิทัศน์ที่พลุกพล่านของเมืองเสวี่ยทั้งเมืองอย่างเงียบๆ
แสงแดดอุ่น ๆ สาดส่องบนใบหน้าของนางและสายลมเย็นที่ผสมผสานกับกลิ่นควันของเมืองทำให้นางรู้สึกถึงความเป็นจริงของโลกใบนี่
“ไม่ว่านี่จะเป็นโลกนิยายหรือไม่ก็ตาม”
“ข้าคือข้า ในเมื่อข้ามีชีวิตอยู่ ข้าจึงต้องอยู่อย่างมีค่า”
“ข้าจะปล่อยให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นไม่ได้ ข้าไม่ยอมให้มีอะไรเกิดขึ้นกับหนีฉาง”
“ถ้าข้าต้องการเปลี่ยนจุดจบอันน่าเศร้านี้ ข้าต้องไม่ทำตามเรื่องราวที่ได้อ่านในบันทึกประจำวัน”
นางพลิกดูบันทึกประจำวันส่วนตัวของ เจียงมู่ ดวงตาของนางกระพริบเป็นประกายและหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสนใจและความอยากรู้อยากเห็น
“มีเพียงข้าเท่านั้นที่มองเห็นและสัมผัสบันทึกนี้ได้ มันจะต้องเกิดจากอำนาจของสวรรค์”
“ความลับต้องไม่เปิดเผย หมายความว่า...เจียงมู่คือผู้ถูกเลือก?”
“ข้ากับเขามีความสัมพันธ์กันแบบไหน”
“ตัวจริงเขาเป็นคนยังไงกันแน่”
“เขาจะดีกว่าพระเอกหรือไม่….?”
***
ศาลาหลี่ฮวา
“ให้ตายเถอะ ทำไมบุปผาน้อยทั้งสี่ถึงได้กลับไป”
“ข้าถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว อ่า”
ภายในห้องหมายเลขแปดบนชั้นสอง
เจียงมู่ สวมเพียงกางเกงขาสั้น นอนอยู่บนเตียงสีแดงขนาดใหญ่ด้วยความหดหู่และกำลังทำท่า'นกนางแอ่นน้อย' (1ในท่าโยคะ ท่าตั้กแตน)
เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
แม่เล้าก็เข้ามาบอกว่าบุปผาทองน้อยทั้งสี่กลับไปเยี่ยมที่บ้านในวันหยุด
“ข้ายังไม่ได้สัมผัสปรสบการณ์ มังกรปะทะสี่ทะเลเลย”
“ซ่องอะไรกัน รีบๆเจ๊งไปซะ”
“0 คะแนน”
ขณะที่เจียงมู่กำลังสาปแช่ง ในเวลานั้น.
ร่างที่สวมหน้ากากหัวหมูเปิดประตูอย่างเบามือและกำลังแอบย่องเข้ามา.