Ep.419 - โจมตีฉับพลัน
2/2
Ep.419 - โจมตีฉับพลัน
ฮังอวี่ จ้าวหมิง ฉินมู่
ทั้งสามยืนอยู่หลังประตู โดยมีคนล้อมรอบถึงสามชั้น ทุกคนจัดขบวนกันอย่างเป็นระเบียบ ใบหน้าตึงเครียดเฝ้ารอการต่อสู้อย่างประหม่า
จ้าวหมิงถือโล่ยักษ์สีฟ้าเลเวล 12 เขาได้ยินเสียงข้างนอกเมืองหุบเขาเดียวดาย มุมปากเผยรอยยิ้มเจื่อน “ข้างนอกวุ่นวายกันน่าดู”
บนตัวฮังอวี่เต็มไปด้วยบัฟต่างๆ เขาดื่มโพชั่นหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติชั่วคราว หันไปพูดกับจ้าวหมิงว่า “กำแพงของพวกเราแทบไม่มีประโยชน์ คาลิมัวน่าจะเข้ามาได้เร็วๆนี้ ผมจะหาวิธีแยกคาลิมัวออกจากกองทัพเมืองธารทะเลทราย ส่วนภารกิจของคุณคือหยุดยั้งกองทัพศัตรูเอาไว้”
“ถ้าพวกเราสามารถแยกคาลิมัวออกจากกองทหารได้ แรงกดดันในสนามรบจะลดน้อยลงอย่างน้อย 40%” จ้าวหมิงหยุดพักหนึ่งก่อนกล่าว “แต่ปัญหาก็คือ จะทำได้รึเปล่า?”
การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีเวลามากนัก
เพราะการป้องกันของเมืองหุบเขาเดียวดายนั้นอ่อนแอเกินไป ทุกคนมีเวลาจำกัด และป้อมปราการที่ติดตั้งก็ยากที่จะสั่นคลอนกองทัพเมืองธารทะเลทราย
ย่อมหลีกเลี่ยงการต่อสู้อันดุเดือดไม่ได้
พลังรบของคาลิมัวแข็งแกร่งเกินไป!
พลังของมันไม่ได้มาจากตัวเองเท่านั้น แต่ยังสามารถดึงพลังจากกองทัพได้ กล่าวว่ากองทัพสามารถเพิ่มประสิทธิภาพพลังให้แก่มัน
หากในกองทัพยังมี คาลิมัวคอยนำ ก็แทบไม่มีโอกาสที่จะชนะได้ ต่อให้เป็นฮังอวี่ เพื่อที่จะชนะการต่อสู้ครั้งนี้ เขาจำเป็นต้องดึง ชคาลิมัวออกมา
แต่ปัญหาคือ คาลิมัวไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อน แล้วแบบนี้มันจะสมัครใจออกจากกองทัพได้อย่างไร?
ด้วยเหตุนี้ ฮังอวี่จึงเตรียมการบางอย่างเอาไว้
ฮังอวี่ในปัจจุบันถือคัมภีร์สีฟ้าแสนล้ำค่าสองม้วน!
หนึ่งคือ ‘อสูรมาเยือน’ ที่ดรอปจากผู้นำคุกโบราณ มันสามารถอัญเชิญมอนสเตอร์ระดับทรราชออกมาได้ ซึ่งมากพอแล้วที่จพลิกกระแสสงครามในช่วงเวลาวิกฤติ
และอีกอย่างหนึ่งก็สำคัญไม่แพ้กัน
[คัมภีร์สกิล : มหาสมุทรแห่งค่าพลังจิต] คัมภีร์สกิลเลเวล 13 , สีฟ้าคุณภาพกลาง , ช่วยให้ได้รับค่าพลังจิตเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 หน่วยใน 30 วินาที
คัมภีร์นี้ไม่ใช่สิ่งที่ฮังอวี่หาดรอปได้เอง แต่ในช่วงไม่กี่วันที่เขากำลังเตรียมเสบียงเชิงกลยุทธ์อย่างบ้าคลั่ง เป็นซูหยุนปิงที่ได้รับมันมาผ่านช่องทางของสมาคมโลกวิญญาณโดยแลกเปลี่ยนมันกับหินสกิลขั้น 3
การได้รับค่าพลังจิตเพิ่ม 2,000 แต้มใน 30 วินาที นั่นหมายความว่าใน 1 นาที สามารถใช้ค่าพลังจิตได้อย่างไม่จำกัด
คัมภีร์สกิลนี้ในสายตาของคนทั่วๆไปดูไม่ค่อยมีประโยชน์นัก แต่ในความเห็นของฮังอวี่ มันสามารถใช้สร้างความวุ่นวายได้
บรึ้มมม!
เสียงดังสนั่น
ทุกคนสะดุ้งโหยง
เห็นแค่เพียงรอยแตกนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นที่ประตู
ดวงตาของฮังอวี่หรี่ลงเล็กน้อย “มาแล้ว เตรียมตัวให้พร้อม!”
วินาทีถัดมา!
เสียงบรึ้มอีกครั้งหนึ่งดังขึ้น!
คลื่นกระแทกอันน่าสยดสยอง ทุบทำลายประตูทันที
พลังงานอันเดือดดาลยังไม่จางหาย ทันใดนั้นขุนศึกนับสิบพุ่งเข้ามาจากหลังประตู
หนึ่งในนั้นคือคาลิมัวที่ถือหอกที่วาบไปด้วยประกายสายฟ้า บนตัวสวมเกราะสีฟ้าครบชุด ปกคลุมไปด้วยแสงระยิบระยับ ราวกับเทพสงครามปรากฏกายขึ้นต่อหน้าทุกคน
ข้างกายมัน
คือขุนศึกแห่งเมืองธารทะเลทรายที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
ด้านหลังมันคือสมุนทหารทั้งหมดของเมืองธารทะเลทราย!
จ้าวหมิงร้องตะโกน “รีบสกัดกั้นพวกมัน!”
ปืนพ่นไฟขั้นสุดยอดเสี่ยวไป๋นับสิบกระบอกที่เตรียมไว้นานแล้วถูกจุดชนวน
เปลวเพลิงห่อหุ้มร่างกลุ่มของคาลิมัวทันที
ผู้คนจากสำนักกระบี่วิญญาณขว้างปาระเบิดเหนี่ยวนำมนตราหลายสิบลูก
หุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราบางส่วนที่ฮังอวี่นำกลับมาจากลู่เฉิงและอัพเกรดมันคอยสกัดกั้นเบื้องหน้า เทคนิคมนตร์สะกดโจมตีทั้งไกลใกล้ประทังออกไป
คาลิมัวเผยยิ้มเย็น ปลดปล่อยสกิลขั้น 4 โล่แห่งทหารนับพันอีกครั้ง หยุดยั้งการโจมตีทั้งหมดต่อหน้าทุกคน ได้อย่างง่ายดาย จากนั้นสลับจากป้องกันเปลี่ยนเป็นโจมตี
“ไสหัวไปให้พ้น!”
หอกยาวพุ่งกระหน่ำออกไป สกิลขั้น 3 กวาดล้างคลั่งแผดเผาถูกปลดปล่อยออกมา
หุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราสี่ตัวที่ขวางทางถูกโจมตี โดนซัดปลิวแตกเป็นเสี่ยงๆ! ผู้โชคร้ายที่ขับเคลื่อนมันอยู่ข้างในถูกฆ่าตายทันที
จ้าวหมิงสูดหายใจเย็นเยียบ
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันที่ได้รับการยอมรับจากทุกคนยังเหงื่อตก
การโจมตีของคาลิมัวเพียงครั้งเดียว ด้วยสกิลขั้น 3 กลับทำได้ถึงขนาดนี้ พลังรบอันน่าสะพรึงนี่มันอะไรกัน? ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งอย่างฮังอวี่ หากไม่ใช้สกิลขั้น 4 อย่างเทคนิคล่าแสงและเงา ก็ไม่มีทางทำลายหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราได้ในวินาทีเดียว
และไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าทำลายสี่ตัวในลมหายใจเดียว
คาลิมัวที่พวกเขาพบในคุกโบราณว่าแก่กล้าแล้ว
แต่คาลิมัวที่นำทัพอยู่ในขณะนี้ เมื่อเทียบกับครั้งก่อน เหมือนมีคาลิมัวเพิ่มขึ้นมาอีกคน!
คาลิมัวถูกโจมตีกว่า 20 - 30 ครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม ความเสียหายที่มันได้รับนั้นผันผวนอยู่ที่ประมาณ 4 - 5 ดาเมจเท่านั้น
บวกกับคาลิมัวมีผู้รักษาค่อยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทำให้ดาเมจเหลือนี้ไม่แม้จะสะกิดผิวหนังของมัน
“ตีฝ่าเฮอริเคน” คาลิมัวยกกีบเท้าหน้าขึ้นและกระทืบลง ใบมีดสายลมโหมกระหน่ำนับหลายสิบหรือหลักร้อยสายปลิวไสวไปทั่วร่างกาย โหมกระหน่ำใส่ฝูงชนด้วยความไวเสียง
ทุกแห่งที่พวกมันพัดผ่าน เกิดเสียงคร่ำครวญมากมาย
นี่ไม่ใช่สกิลที่สืบทอดมาจากจ้าวสงคราม แต่เป็นสกิลขั้น 4 อีกอย่างที่คาลิมัวเรียนรู้เอาไว้ พลังและความเร็วของมันน่าพรั่นพรึงมาก ใบมีดสายลมทุกสายเปรียบเสมือนคมมีด กวาดเข้าเชือดเฉือนพลรบของเมืองหุบเขาเดียวดาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คนในชั่วพริบตาเดียว!
ไม่ว่าจะสมุนทหารหรือมนุษย์ตัวเป็นๆ ถูกทุบตีไม่ต่างจากหมาแมว ...
ทุกคนตะลึงงันกับฉากนี้
เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งจริงๆ! แข็งแกร่งจนชวนให้รู้สึกสิ้นหวัง นี่คือสิ่งที่มนุษย์ในปัจจุบันสามารถต่อกรได้จริงๆน่ะหรือ?
คาลิมัวบุกต่อด้วยสกิลเดิม หมายที่จะฝ่าขบวนทัพของมนุษย์ ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็กระโดดเข้ามาขวางหน้ามัน
“เกราะเหล็กศักดิ์สิทธิ์!”
“โล่ผู้ปกปักษ์สวรรค์”
จ้าวหมิงปลดปล่อยสกิลป้องกันสองสกิลซ้อน จากนั้นยกโล่ยักษ์ในมือขึ้น เข้าเผชิญหน้ากับคาลิมัว
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายรวดเร็วเกินไป!
ความเร็วของคาลิมัวนั้นยากจะแยกแยะด้วยตาเปล่า! พริบตาเดียวพุ่งเข้าชนจ้าวหมิงทันที
สิ่งแรกที่เกิดขึ้น โล่ผู้ปกปักษ์สวรรค์ซึ่งเป็นสกิลขั้น 3 ถูกทำลายโดยตรง จากนั้นตัวหอกแทงเข้าใส่โล่ยักษ์ของจ้าวหมิง
แคร๊ก!
หอกแทงทะลุโล่ยักษ์ ทำลายเทคนิคเกราะเหล็กศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวหมิง กวาดคลื่นปะทะออกไป ผลักจ้าวหมิงถอยออกไปหลายสิบเมตร กระแทกพื้นอย่างแรง พลังชีวิตเหือดหายไปหยุดที่ก้นบึ้ง แต่โชคยังดีที่ไม่ตาย
เขาสามารถป้องกันการโจมตีของคาลิมัวในสถานะนี้ได้
ทั่วทั้งแคว้นเดียวดาย หรือกระทั่งในอาณาจักรมังกรโลกา ณ ขณะนี้ นอกเหนือจากฮังอวี่แล้ว เกรงว่าคงมีเพียงจ้าวหมิงเท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้
อย่างไรก็ตาม นี่ก็อันตรายมากเช่นกัน
ถ้าไม่ใช่เพราะคาลิมัวสังหารพลรบไปหลายสิบคน พลังโจมตีลดทอนลง บางทีจ้าวหมิงอาจถูกฆ่าตายไปแล้วก็ได้
แต่ไม่ว่ายังไง ผลลัพธ์คือจ้าวหมิงสามารถขัดจังหวะการจู่โจมของคาลิมัวได้
ฮังอวี่ถือโอกาสนี้เปิดใช้งานม้วนคัมภีร์ ‘มหาสมทุรแห่งค่าพลังจิต’
เห็นแค่เพียงแสงสีฟ้าปกคลุมทั่วตัวเขา ในขณะนี้เขารู้สึกราวกับว่าค่าพลังจิตนั้นไร้ที่สิ้นสุด คำรามเสียงต่ำ “ฉินมู่!”
ฉินมู่ผู้ใช้วิญญาณประเภทควบคุมหน่วงเหนี่ยวที่แข็งแกร่งที่สุดในมังกรครามเริ่มเคลื่อนไหว
สิ่งแรกที่ทำ เขาเปิดใช้งานมนตร์วาจาต้องห้ามใส่คาลิมัว
แม้แต่การดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งอย่างคาลิมัว ก็ยังได้รับผลกระทบจากเอฟเฟกต์ของสกิลพรสวรรค์นี้ สกิลทั้งหมดชะงักงันชั่วขณะ
ฉินมู่ปลดปล่อยสกิลสายควบคุมที่ทรงพลังออกมาอีกอย่างหนึ่ง
“เทคนิคผนึกแขนขา!”
ผู้ใช้วิญญาณจากทั่วทุกมุมในบริเวณนี้ก็ถือโอกาสลงมือเช่นเดียวกัน
เทคนิคอัมพาต!
เทคนิคเฉื่อยชา!
เทคนิคกลายเป็นหิน!
เทคนิคพัวพัน!
ผลของสกิลสถานะของคาลิมัวถูกปิดใช้งานชั่วคราว ทำให้มันสูญเสียการต้านทานอันแข็งแกร่งต่อสถานะผิดปกติ แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็มากพอที่จะถูกประทังด้วยเทคนิคเชิงลบนับไม่ถ้วน
ทั้งตนทั้งร่างของคาลิมัวแข็งทื่อ
มันโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที สกิลของตนถูกกำราบชั่วคราว แต่มันยังสามารถเปิดใช้งานสกิลเสริมจากอุปกรณ์สวมใส่ได้
คาถามนตร์วาจาต้องห้ามของฉินมู่ไม่สามารถผนึกอุปกรณ์!
ขว้างสายฟ้า!
สกิลขั้น 3 ของฉินมู่ยังไม่ทันถูกปลดปล่อย
คาลิมัวชิงสะบัดมือปลดปล่อยเส้นแสงสายฟ้า ทะลวงร่างเขาในพริบตา ทะลวงฉินมู่เป็นชิ้นๆ กำจัดภัยคุกคามที่สามารถระงับสกิลของมัน
สังหารในเสี้ยววินาที!
ฝูงชนตะลึงพรึงเพริด!
ฉินมู่คือหนึ่งในผู้ใช้วิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในมังกรคราม!
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่คาลิมัวเลือกโจมตีฉินมู่ ฮังอวี่ได้มาโผล่เบื้องหน้ามันอย่างรวดเร็ว แต่เพราะเพิ่งขว้างอาวุธไป บวกกับร่างกายที่ยังฝืดเคืองชั่วคราว ทำให้แม้จะเห็นผู้มาเยือน แต่ก็ไม่สามารถขยับหนีได้
คาลิมัวจำฮังอวี่ได้ ใบหน้าของมันหมองลงทันที “เป็นเจ้า!”
“เออ ฉันเอง!”
ฮังอวี่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากช่องว่างอันล้ำค่านี้โจมตีคาลิมัวอย่างดุเดือด แต่กลับปล่อยสกิลที่ไม่สามารถฆ่าคาลิมัวออกมาแทน
สกิลมิติขั้น 1 - เทคนิคโยกย้าย!
ฮังอวี่จ่ายค่าพลังจิตอย่างบ้าคลั่ง สร้างกระแสวังวนมิติอันยิ่งใหญ่และยากจะหาที่เปรียบใส่ตัวคาลิมัว
“เทคนิคโยกย้าย?”
ใบหน้าของคาลิมัวแปรเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน มันสามารถระบุสกิลนี้ได้ทันทีที่พบเห็น มันต้องการออกจากขอบเขตของเทคนิคโยกย้าย แต่ร่างกายขยับไม่ได้ ทำได้เพียงเฝ้ามองตัวเองถูกกลืนเข้าไปในกระแสวังวน
เทคนิคโยกย้ายคล้ายกับเทคนิคบลิงค์
ทั้งสองสกิลนี้คือสกิลเทเลพอร์ตในชั่วพริบตา
แต่เทคนิคโยกย้ายทำเอฟเฟกต์กับเป้าหมายอื่น ส่วนเทคนิคบลิงค์มีผลแค่กับเฉพาะตัวผู้ใช้เอง
ซึ่งผลของสกิลทั้งสองนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่าคุณสมบัติสติปัญญาหรือจิตวิญญาณ แต่ขึ้นอยู่กับค่าพลังจิตที่จ่ายออกไป
ยิ่งใช้พลังจิตน้อย เอฟเฟกต์สกิลก็ยิ่งอ่อนแอ ส่งผลให้ระยะทางสั้นลง
ในทางกลับกัน ยิ่งใช้ค่าพลังจิตมากเท่าไหร่ เอฟเฟกต์ก็ยิ่งแก่กล้าขึ้นเท่านั้น
หากอยู่ภายในสถานการณ์ปกติ ด้วยปฏิกิริยาของคาลิมัว คงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถูกเทคนิคโยกย้าย
ต่อให้เป็นในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด มันก็ยังสามาถรปัดเป่าด้วยสกิลปราณสงครามได้ ดังนั้นแทบไม่ต้องกังวลว่าจะโดน
และเช่นเดียวกัน ภายใต้สถานการณ์ปกติ แม้ฮังอวี่จะจ่ายค่าพลังจิตจนหมดแต่เขาก็สามารถโยกย้ายคาลิมัวได้ไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น
แต่ ณ ตอนนี้ ฮังอวี่เปิดใช้งานคัมภีร์มหาสมทุรแห่งค่าพลังจิต ทำให้ในช่วงเวลาสั้นๆเขาได้รับค่าพลังจิตจำนวนมหาศาล
คาลิมัวได้รับผลกระทบจากมนตร์วาจาต้องห้ามของฉินมู่ ทำให้ไม่สามารถใช้ปราณสงครามได้ บวกกับการโดนเทคนิคเชิงลบนับไม่ถ้วน เลยส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของมัน
แม้เอฟเฟกต์ของสกิลเหล่านี้จะมีผลแค่เสี้ยววินาที แต่สำหรับฮังอวี่ เท่านี้ก็เกินพอแล้ว!
เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก!
คาลิมัวอวดดีเกินไป เข้าเข่นฆ่าเผ่าพันธุ์มนุษย์เพียงลำพัง ทิ้งขุนศึกตนอื่นๆห่างออกไปทำให้ไม่มีเวลามากพอที่จะแก้ไขสถานการณ์ ทำได้เพียงเฝ้ามองเจ้านายของตัวเองถูกดูดหายเข้าไปในกระแสวังวนอย่างช่วยไม่ได้
วินาทีถัดมาออร่าของจ้าวสงครามที่บัฟทั้งกองทัพของเมืองธารทะเลทรายสลายหาย
เนื่องจากสกิลนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อผู้ร่ายอยู่ในระยะที่กำหนดเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าคาลิมัวถูกส่งออกไปจากพื้นที่ตรงนี้แล้ว
“ทำได้ดี!”
จ้าวหมิงที่นอนอยู่บนพื้นตะโกนด้วยความตื่นเต้น
“ทำได้ดี!”
ฉูเทียนหัวซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพทั้งหมดจากระยะไกล สีหน้าของเขาดูตื่นเต้นเช่นกัน
หลายคนในโลกมนุษย์เมื่อเห็นภาพนี้ เนื่องจากทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป จึงยังไม่ทันตอบสนอง แต่เหล่ายอดฝีมือตอบสนองอย่างรวดเร็ว ตะโกนโห่ร้องด้วยความยินดี
“ผมขอฝากที่นี่ไว้กับพวกคุณด้วย”
ฮังอวี่ทิ้งท้ายประโยคนี้ เขาไม่หยุดแม้ครึ่งวินาที เปิดใช้งานสกิลบลิงค์และหายไป
เขามีภารกิจที่ต้องทำ นั่นคือหยุดคาลิมัว
ป้องกันไม่ให้มันกลับเข้าสู่กองทัพอีกครั้ง!