ตอนที่แล้วบทที่ 7 เยี่ยมเยียนขอคำแนะนำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 9 ตกใจสุดขีด

บทที่ 8 เคล็ดโคจรพลังระดับผู้เชี่ยวชาญ


“เคล็ดการนวดแผนโบราณ!”

นี่คือตำราวิชาที่ซุนม่อเพิ่งได้รับเมื่อได้เห็นชื่อนี้ ไม่ว่าใครก็คงรู้สึกคลุมเครือ

“เมื่อก่อนเจ้าคงมีชื่อว่าระบบผู้เชี่ยวชาญการนวดจนกระทั่งเจ้าโดนธนูปักเข่าก็เลยกลายเป็นระบบมหาคุรุใช่หรือเปล่า?”

ซุนม่อล้อเลียน

ระบบยังคงเงียบ

“เจ้าตั้งใจจะเลี้ยงข้าให้เป็นสาวคอยนวดเท้าลูกค้าในร้านทำผมใช่ไหม?”

ซุนม่อเริ่มสงสัย

“แต่เจ้าเป็นผู้ชาย”

ในที่สุดระบบก็พูดขึ้น“และข้าก็พบว่าเจ้าช่างปากเสียเหลือเกิน”

“เห็นได้ชัดว่าตำราที่เจ้าให้มามีปัญหานี่จะไม่ยอมให้ข้าพูดเรื่องนี้เลยใช่ไหม?”

ซุนม่อขมวดคิ้ว“ในฐานะครู ข้าจะแช่งชักผู้คนได้ยังไง? ให้ข้าบอกเจ้าก็แล้วกัน ถ้าข้าเริ่มแช่งชักหักกระดูก ข้าจะเหมือนกับหมาป่าที่ถูกปลดปล่อยแม้แต่ข้ายังกลัวตัวเองด้วยซ้ำ”

“ตำรานวดแผนโบราณเป็นเคล็ดการนวดที่ทรงประสิทธิภาพมากในยุคโบราณ  ด้วยมือของเจ้าเจ้าสามารถสัมผัสและเข้าใจทุกส่วนของร่างกายเป้าหมายของเจ้า  ทั้งยังบรรลุการควบคุมที่สมบูรณ์แบบและช่วยให้เจ้าวางแผนแนวทางการฝึกปรือตามวิถีของเป้าหมายได้”

ระบบอธิบาย

ซุนม่อมีเพื่อนร่วมงานที่มีสามีเป็นนักกีฬาประจำจังหวัด ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าการนวดตัวเป็นส่วนหนึ่งของการฝึก การรักษาสภาพร่างกายและการฟื้นตัวมีความสำคัญสูงสุด ยิ่งบำรุงรักษาได้ดีเท่าไรพวกเขาก็ยิ่งสามารถแข่งขันในอาชีพของตนได้นานขึ้นเท่านั้น

“อย่างไรก็ตามเคล็ดวิชานวดแผนโบราณดูไม่เข้ากับสไตล์หรือเปล่า? เจ้าเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรสักอย่างที่ฟังดูน่าประทับใจกว่านี้ได้ไหมอย่างเช่นหัตถ์มังกรโบราณประมาณนี้?”

ข้อเรียกร้องของซุนม่อถูกระบบเมินเฉย

“จะเรียนหรือไม่เรียน?”

“แน่นอนย่อมต้องเรียน!”

ซุนม่อตอบรวบรัดชัดเจน

เปรี๊ยะ!

ตำราเคล็ดวิชาแตกเป็นเสี่ยงๆกลายเป็นลูกกลมแสงสีทองพุ่งเข้ามาที่กึ่งกลางคิ้วของซุนม่อ  ความรู้แปลกๆ บางอย่างปรากฏขึ้นในใจของเขา

“ขอแสดงความยินดีเจ้าได้รับเคล็ดโคจรพลังระดับผู้เชี่ยวชาญ เคล็ดนี้เป็นหนึ่งในสี่ของ ‘เคล็ดนวดแผนโบราณ’ โดยมุ่งเป้าไปที่เส้นโคจรพลังเป็นหลักเมื่อเส้นโคจรพลังถูกชำระ ปราณจิตจะสามารถโคจรผ่านได้โดยไม่มีอุปสรรคขวาง”

ซุนม่อปากสั่นและเขาเกือบสบถแช่งมารดาของระบบฯหลังจากเสียเวลาไปครึ่งค่อนวัน นี่เป็นวิชาบางส่วน? น้อยนิดเสียเหลือเกิน

หลังอาหารมื้อเช้าซุนม่อหาโกดังเงียบๆ แห่งหนึ่ง หลังจากล็อคประตูแล้วเขาก็เริ่มฝึกวิชาเซียนมหาจักรวาลไร้ลักษณ์ เนื่องจากการปรากฏของปราณจิต,เขาพบว่าร่างของเขาแข็งแรงขึ้นมาก เพียงกระโดดแบบสบายๆ ก็สูงถึง 5 - 6 เมตร

“ถ้าข้าไปแข่งมาราธอนและล้มเหลวในการสร้างแรงกดดันต่อคู่แข่งอันดับสองข้าคงทำให้ร่างนี้ผิดหวังเป็นแน่”

ซุนม่อเพ้อฝันทุกคนอยากจะมีร่างกายแข็งแรงกันทั้งนั้น ในอดีตเขาสายตาสั้นและมีปัญหากับกระเพาะอาหารและกระดูกสันหลังต้นคอ  ตอนนี้มันได้รับการแก้ไขให้สมบูรณ์แล้ว

“ทุกอย่างเกี่ยวกับการฝึกปรือนั้นเป็นเรื่องดีทั้งนั้นเว้นเสียแต่ว่ามันเหนื่อยเกินไป”

แม้ว่าเขาจะบ่นรำคาญแต่ซุนม่อก็ใกล้เข้าสู่ประตูระดับแรกของวิชาเซียนมหาจักรวาลไร้ลักษณ์

ระดับแรกจะช่วยให้เขาปลดปล่อยศักยภาพและควบคุมร่างกายตนเองทำให้เขาระเบิดพลังได้ทุกเมื่อ ควบคุมพลังความแข็งแกร่งได้อย่างสมบูรณ์

แก่นสำคัญของระดับแรกคือการควบคุมร่างกายพวกเขาขุดศักยภาพออกมาใช้ให้มากขึ้น

ช่วงเวลาการฝึกปรือนี้กินเวลาหนึ่งวันในช่วงเวลานี้ซุนม่อเห็นหลี่กงตามหาเขาไปทั่ว แต่เนื่องจากเขาซ่อนตัวไว้หลี่กงจึงหาเขาไม่พบ

ไม่ใช่ว่ากลัวเขาแต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะสนใจหลี่กงแล้ว เหมือนกับได้เกมใหม่แล้วติดใจไม่ต้องพูดถึงการไปโรงเรียน แม้แต่คนรักก็ยังไม่มีเวลาไปหา

ซุนม่อไม่ชอบกลุ่มผู้คนเขาจะรอจนหมดเวลาที่คนคับคั่งก่อนจะมุ่งหน้าไปที่โรงอาหาร

เขาสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำใสที่เส้นเหนียวหนึบน่าพอใจสั่งเนื้อเปื่อยสองสามชิ้นที่ต้มทั้งคืน มันอร่อยมากจนเขาแทบกลืนลิ้นตัวเอง

ครูฝึกสอนจะมีเงินอุดหนุนดังนั้นซุนม่อใช้เงินเพียง 5 เหรียญเท่านั้น ถ้าเขาได้รับการจ้างงานอย่างเป็นทางการ เงินอุดหนุนก็จะสูงมากขึ้น

หลังจากออกจากโรงอาหารซุนม่อมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบม่อเปย เขาอยากเดินเล่นหลังอาหารมื้อค่ำ

ชีเซิ่งเจี่ยเดินตามหลังเขามาห่างๆ 20 เมตร  หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความลังเล  ก่อนหน้านี้เขาตามหาซุนม่อไม่เจอ จากนั้นหวังฮ่าวก็มีความคิดและบอกให้เขาไปรอที่ทางเข้าโรงอาหารท้ายที่สุดทุกคนก็ต้องกิน

“ซุน...อาจารย์ซุน!”

ชีเซิ่งเจี่ยเร่งฝีเท้าไล่ตามซุนม่อทำให้เขาต้องเกร็งกล้ามเนื้อเพิ่ม มันทำให้เจ็บปวดมากจนเหงื่อท่วมหัว

“ขาของเจ้าเสียเหรอ?”

ซุนม่อหยุดและขมวดคิ้ว

“มือขวาของข้าด้วย”

ชีเซิ่งเจี่ยยิ้มเศร้าสร้อยเขามองใบหน้าที่สงบของซุนม่อและกัดฟันก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นเขาใช้แรงมากจนเข่าของเขากระทบพื้นหินดังตุ้บ

“อาจารย์ซุน, โปรดชี้แนะข้าด้วย!”

ชีเซิ่งเจี่ยกล่าวพลางหมอบกราบ  นี่คือความหวังสุดท้ายของเขา

“ลุกขึ้น!”

ซุนม่อดุ“ลูกผู้ชายมีทองอยู่ใต้เข่า เจ้าควรคุกเข่าต่อฟ้าดินและพ่อแม่ของเจ้าเท่านั้น!”

ซุนม่อเกลียดคนที่ไม่รักตัวเองที่สุดดังนั้นหลังจากพูดแบบนี้  อารมณ์ของเขาพลุกพล่านถึงกับเปล่งรัศมีมหาคุรุ

วิ้งงง

รัศมีทองจากซุนม่อพุ่งออกมากระทบร่างชีเซิ่งเจี่ยราวกับฝนพร่างพรม

ภายใต้ผลกระทบของรัศมี‘คำแนะนำล้ำค่า’ประโยคที่ว่าลูกชายมีทองใต้หัวเข่าเป็นเหมือนระฆังยักษ์สั่นสะท้านจิตใจของชีเซิ่งเจี่ยเขาลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัว

“ข้าผิดไปแล้ว!”

ชีเซิ่งเจี่ยกล่าวขออภัยเขาก้มหน้าขณะที่ความลังเลก่อนหน้านั้นทั้งหมดจางหายไปอย่างสิ้นเชิงกลับเป็นอารมณ์เคารพอย่างสุดซึ้งเข้ามาแทนที่

เขาไม่ควรดูแคลนอาจารย์ซุนผลของคำแนะนำล้ำค่าทรงพลังอย่างแท้จริง เขารู้สึกมีความหวังในหัวใจขึ้นมาอีกครั้ง

ติง!

คะแนนความประทับใจจากชีเซิ่งเจี่ย+3

ความเชื่อมสัมพันธ์อันทรงเกียรติกับชีเซิ่งเจี่ยปลดล็อค  สถานะปัจจุบัน : เป็นกลาง (3/100)

“ข้าได้รับคะแนนประทับใจแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ?”

ซุนม่อใช้เนตรทิพย์ตรวจสอบชีเซิ่งเจี่ยกล้ามเนื้อแขนขวาและขาซ้ายได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นโคจรพลังยุ่งเหยิงมาก

“อาจารย์!โปรดชี้แนะข้า”

ชีเซิ่งเจี่ยอ้อนวอนอีกครั้ง

“เจ้าต้องการให้ข้ารักษาแขนขาของเจ้าใช่ไหม?ต้องขอโทษด้วย ข้าคงทำไม่ได้”

“อาจารย์ซุน!ท่านคือความหวังสุดท้ายของข้า”

ชีเซิ่งเจี่ยกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล

“เจ้าตกอยู่ในสภาพนี้เพราะโหมฝึกหนักมากเกินไปการฝึกมากเกินไปทำให้กล้ามเนื้อและเส้นโคจรพลังของเจ้าเสียหาย  ตราบใดที่เจ้าหยุดฝึก อาการของเจ้าจะค่อยๆฟื้นตัว”

ซุนม่อมั่นใจมากเพราะนี่คือผลของการใช้เนตรทิพย์ซึ่งมีความแม่นยำมาก

“นานแค่ไหน....ข้าต้องหยุดฝึกนานแค่ไหน?”

ชีเซิ่งเจี่ยมีสีหน้าเต็มไปด้วยความหวัง

“อย่างน้อยก็หนึ่งปี”

เมื่อได้ยินคำตอบนี้ชีเซิ่งเจี่ยหน้าซีดทันที  “ไม่! มันนานเกินไปข้าจะต้องมีคุณสมบัติเข้าทดสอบประเมินในห้องโถงประลองนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นข้าคงได้แต่ออกจากสถาบัน”

คำว่า ‘ออกจากโรงเรียน’ทำให้ซุนม่อขมวดคิ้ว เขาขมวดคิ้วจนอาจหนีบปูจนตายได้ ในฐานะครูนี่คือคำที่เขาไม่อยากได้ยินที่สุด

“อาจารย์ซุน,ท่านต้องมีทางแก้ไขแน่นอน ท่านแนะนำข้าได้ไหมว่าควรทำอย่างไร?”

ชีเซิ่งเจี่ยงอเข่า  เขาอยากคุกเข่าอีกครั้งแต่ก็ต้องฝืนกับแรงกระตุ้น

ซุนม่อเงียบ

ชีเซิ่งเจี่ยไม่กล้าพูดได้แต่ยืนสงบเสงี่ยมอยู่ด้านข้างรอการตัดสินใจของซุนม่อ

“เคล็ดโคจรพลังน่าจะช่วยเยียวยาเส้นโคจรปราณที่ได้รับความเสียหายแต่ข้าไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่กล้ามเนื้อของเขาแต่ปัญหาหลักของเขาก็ยังคงเป็นเส้นโคจรพลังอย่างน้อยที่สุดก็ยังช่วยให้แขนและขาของเขาแข็งแรงขึ้นมาได้”

เมื่อมองดูข้อมูลของชีเซิ่งเจี่ยซุนม่อไตร่ตรองและบอกความจริงกับเขา

“ข้าสามารถรักษาแขนขาของเจ้าได้  แต่ยังไม่มั่นใจเต็มร้อยอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดอาจทำให้อาการของเจ้าหนักขึ้นหรือทำให้เจ้าพิการไปเลยจริงๆ เจ้ายังต้องการรักษาต่อไหม?”

นี่เป็นครั้งแรกที่ซุนม่อใช้เคล็ดกรุยเส้นโคจรพลัง ใครจะรู้ว่าจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น

ชีเซิ่งเจี่ยตะลึง

ซุนม่อไม่รีบร้อนและรออย่างเงียบงันผ่านไปห้านาที เขาหันหลังและเดินจากไป

“อาจารย์ซุน”

ชีเซิ่งเจี่ยคำนับ  “ทุกอย่างขึ้นกับท่าน”

ทั้งสองกลับไปที่โกดังและจัดเรียงกระดานที่สะอาดซุนม่อให้ชีเซิ่งเจี่ยถอดชุดและนอนบนกระดาน

ระดับผู้เชี่ยวชาญก็ตามชื่อบอกไว้ หมายความว่าเขามีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ และความเชี่ยวชาญของเขายังมีมากกว่าระดับ‘ดี’  แม้จะไม่ได้อยู่ในระดับ ‘ปรมาจารย์’แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นระดับหัวกะทิที่หายากเช่นกัน

เคล็ดโคจรพลังระดับผู้เชี่ยวชาญที่ซุนม่อเข้าใจทำให้เขารู้วิธีจัดการกับอาการของชีเซิ่งเจี่ยในขณะที่เขาสัมผัสแขนขวาและลูบเล็กน้อย

อ๊า..

ความเจ็บปวดรุนแรงที่รู้สึกได้จากแขนของเขาทำให้ชีเซิ่งเจี่ยร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดจากนั้นเขารีบหุบปากกลัวจะรบกวนสมาธิของอาจารย์ซุน

ซุนม่อเพ่งสมาธิเขารวบรวมพลังปราณในนิ้วมือแล้วนวดชีเซิ่งเจี่ย

ความรู้สึกเหมือนถูกเข็มแทงสามารถรู้สึกได้จากจุดที่ซุนม่อสัมผัส  ราวสองนาทีต่อมาความเจ็บเปลี่ยนเป็นอาการคันจากนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นกระแสพลังอุ่นไหลเวียนอยู่รอบแขนของเขา

ซีเซิ่งเจี่ยหลับตาด้วยความรู้สึกสบาย เขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังล่องลอยอยู่บนปุยเมฆและกลับไปสู่อ้อมกอดของมารดา

แสงแรกของดวงอาทิตย์ยามเช้าฉายทะลุผ่านหน้าต่างตกลงที่ใบหน้าของชีเซิ่งเจี่ยเมื่อเขาตื่นขึ้นก็เป็นเวลาเช้าแล้ว

“เอ้านี่!กินอะไรสักหน่อยเถอะ”

ซุนม่อไปโรงอาหารซื้อข้าวต้มมาให้ชีเซิ่งเจี่ย

“ข้ามิกล้า  ข้ามิกล้า”

ชีเซิ่งเจี่ยลุกขึ้นพรวดพราดโบกมือปฏิเสธพัลวัล  หลังจากนั้นเขาเริ่มพบว่าอาการชาที่เเขนขวาและขาซ้าย ตลอดจนส่วนอื่นๆ ของร่างกายจางหายไปหมดแล้ว

“อาจารย์ซุน!”

ชีเซิ่งเจี่ยเอียงคอเขาหลั่งน้ำตาขณะมองไปที่ซุนม่อ สภาพร่างกายของเขาในปัจจุบันนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว

“กินกันเถอะ”

ซุนม่อส่งชามให้ชีเซิ่งเจี่ยเมื่อคืนหลังจากเจ้าผู้นี้หลับไปแล้วซุนม่อตัดสินใช้การนวดกรุยเส้นชีพจรรักษาเส้นโคจรพลังในร่างของชีเซิ่งเจี่ยทั้งหมด

หลังจากใช้เนตรทิพย์ตรวจสอบซุนม่อยืนยันได้ว่าอาการบาดเจ็บในเส้นโคจรพลังของชีเซิ่งเจี่ยลดลงเป็นอย่างมาก  ถ้าเขานวดกรุยเส้นพลังอีกสองสามครั้ง  เขาน่าจะฟื้นฟูสภาพได้เต็มที่

ว่ากันตามจริงแล้วซุนม่ออยากกู่ก้องตะโกนว่า ‘ระบบมหาคุรุ มันยอดเยี่ยมจริงๆ’   เคล็ดนวดแผนโบราณที่เขาได้รับมาจากหีบสมบัติมีประโยชน์อย่างแท้จริง หากเขามีคะแนนความประทับใจเพียงพอ เขาต้องการซื้อส่วนอื่นๆ ของเคล็ดวิชานี้้ด้วย

ชีเซิ่งเจี่ยวางชามข้าวลงมีสีหน้าเคร่งขรึมขณะที่คุกเข่าลง  เขาโขกศีรษะคำนับสามครั้งทำให้มีเสียงกระทบพื้นดังสามครั้ง แม้แต่ฝุ่นบนพื้นยังฟุ้งขึ้นจากแรงกระแทก

“อาจารย์ซุนข้าไม่รู้จะขอบคุณท่านยังไงดี”

ขณะที่ชีเซิ่งเจี่ยกราบแสดงความขอบคุณเสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นในหูของซุนม่อ

ติง!

คะแนนความประทับใจจากชีเซิ่งเจี่ย+15

ความเชื่อมสัมพันธ์กับชีเซิ่งเจี่ย  สถานะปัจจุบัน: เป็นกลาง (18/100)

นอกจาก 4 คะแนนของหลี่จื่อชี และ 1 คะแนนของหลี่กงแล้ว ตอนนี้เขามีคะแนนความชื่นชม+23 และในร้านค้าของระบบ ราคาของผลดาราจันทร์ก็คือ 1000 คะแนน

เนื่องจากเขาสามารถเพิ่มขอบเขตพลังของเขาได้หลังจากกินผลดาราจันทร์ถ้าเขาซื้อพวงผลของมันมากิน เขาก็มิต้องฝึกฝนเลยใช่ไหม?

ชีเซิ่งเจี่ยยังคงกระวนกระวายใจมาก  เขาตามหาซุนม่อเพราะสิ้นหวังไม่มีหนทาง  อย่างไรก็ตามผลที่ได้รับ ดีกว่าที่เขาคาดไว้มาก

“ครูฝึกสอนที่ทรงพลังมากขนาดนี้ถูกยัดเข้าแผนกขนส่งพัสดุ  ผู้บริหารสถาบันตาบอดหรือเปล่า?”

ชีเซิ่งเจี่ยรู้สึกว่าเป็นเรื่องอยุติธรรมต่อซุนม่อ

“เอาเถอะน่ากินก่อน”

เมื่อซุนม่อกินข้าวต้มไปได้หนึ่งคำเขาชะงักตัวแข็ง เสียงของระบบยังไม่หยุด

“ติง! ภารกิจใหม่ปลดล็อคแล้ว  ช่วยให้ชีเซิ่งเจี่ยผ่านการทดสอบหอโถงประลอง  รางวัล : หีบสมบัติทองคำ!”

ปัง

หลังจากระบบพูดจบซุนม่อกวาดชามข้าวลงพื้นทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด