บทที่ 6 : ข้าช่ำชองในการจัดการกับเรื่องนี้
บทที่ 6 : ข้าช่ำชองในการจัดการกับเรื่องนี้
สือชิงลั่วเข้าใจนิสัยของแม่เซียวมากขึ้น
นางเป็นคนดี แต่ก็ดีเกินไปจนกลายเป็นเป้าให้ผู้อื่นรังแก
นางจึงมองไปทางแม่เซียวเพื่อให้นางวางใจ
นางเลิกคิ้วไปทางหวังซื่อ “วันนี้ ข้าจะไม่ยุ่งเรื่องนี้ก็แล้วกัน”
หวังซื่อเป็นภรรยาของบุตรชายคนโตบ้านใหญ่เซียว และมีชื่อเสียงในเรื่องของความร้ายกาจ ไม่มีใครในหมู่บ้านที่สู้นางได้ และมีน้อยคนที่กล้าหาเรื่องนาง
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวผอมบางเข้ามายุ่งเรื่องของตนเอง นางจึงไม่พอใจ
“ข้าจะสั่งสอนบทเรียนให้เจ้าก่อน แล้วจากนั้นก็เป็นตาของหญิงสารเลว”
นางลุกขึ้นและต้องการสลัดมือของสือชิงลั่วออกจากแขนของนาง แต่ไม่ว่านางจะพยายามมากเท่าไหร่ นางก็ไม่สามารถสลัดมืออีกฝ่ายออกได้
นางจึงใช้มืออีกข้างที่เป็นอิสระตบไปที่หน้าของสือชิงลั่ว
สือชิงลั่วยกมือขึ้นและสะบัดฝ่ามือด้วยความชำนาญ
“เพี๊ยะ!” ใบหน้าของหวังซื่อกลับเป็นฝ่ายถูกตบแทน
สือชิงลั่วยิ้มเยาะ “ข้าไม่คิดเลยว่า นอกเหนือจากการเป็นโสเภณีแล้ว เจ้ายังชื่นชอบการตบตีผู้อื่นด้วย”
สือชิงลั่วดึงแขนของหวังซื่อให้เข้ามาให้ระยะการโจมตีของนาง นางงอเข่าและเตะเข้าหน้าท้องของอีกฝ่ายหลายครั้ง
“อ้าห์!” หวังซื่อกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
แล้วสือชิงลั่วก็เตะนางจนล้มไปกองกับพื้น
สือชิงลั่วพูดเสียงเย็น “หากข้าเห็นเจ้ารังแกแม่เซียวกับลูกสาวของนางอีกล่ะก็ นางจะทุบตีเจ้าทุกครั้งที่เห็นหน้าเจ้า”
สือชิงลั่วเตะหวังซื่อที่นอนกองอยู่ที่พื้น นางนอนกุมท้องร้องโอดโอยไม่หยุด
นางมองสือชิงลั่วด้วยความหวาดกลัว
นางรู้สึกได้ว่า นังเด็กสารเลวเก่งการต่อสู้
นางเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่กลับไม่กล้าเข้าไปตบตีอีกฝ่าย และเลือกที่จะโทษแม่เซียวแทน
นางตั้งใจที่จะลงมือสั่งสอนแม่เซียว หลังจากที่สือชิงลั่วกลับไปแล้ว
ทุกคนที่อยู่ในลานบ้านต่างตกตะลึง โดยเฉพาะแม่เซียวกับเซียวป๋ายหลี่
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกนางเห็นหวังซื่อถูกทุบตี
พวกนางยังประหลาดใจในความเก่งกาจของสือชิงลั่วอีกด้วย
หลังจากสือชิงลั่วจัดการหวังซื่อเรียบร้อยแล้ว นางก็หันไปทางหญิงชราจากตระกูลหวู
นางข่มขู่อีกฝ่าย “ข้าเป็นผู้ดูแลปกป้องเซียวป๋ายหลี่ หากตระกูลหวูของเจ้าต้องการจับนางไปฝังร่วมกับสามีในอนาคตของนาง ข้าก็คงไม่ทางเลือก นอกจากต้องส่งคนตระกูลหวูไปโลกหลังความตายพร้อมกับคุณชายหวู”
หญิงชราไม่คิดว่า ตนเองจะโชคร้ายได้มาพบเจอกับตัวซวยอีกครั้ง
นางยิ่งประหลาดใจที่นอกจากเด็กสารเลวจะมีลูกบอลสีดำที่สามารถสร้างแรงระเบิดอย่างรุนแรงได้แล้ว นางยังมีความสามารถในการต่อสู้เทียบเท่าได้กับผู้คุ้มกันของตระกูลหวูด้วย
นางทำเสียงหึ “หากเจ้ากล้าระเบิดตระกูลหวู เจ้าก็จะต้องถูกส่งไปรอรับโทษตายในคุก”
สือชิงลั่วมองนางราวกับกำลังมองคนโง่ “ทำไมข้าจะต้องระเบิดตนเองด้วย ในเมื่อเซียวป๋ายหลี่ต้องถูกฝังไปพร้อมกับพวกเจ้า ถึงยังไงนางก็ต้องตายอยู่ดี มันคงเงียบเหงาเกินไปหากนางต้องตายเพียงลำพัง”
“มันจะไม่ดีกว่าหรือ หากข้ามอบลูกบอลสีดำให้นางสักสองสามลูก แล้วให้นางพาคนตระกูลหวูทั้งหมดไปโลกหลังความตายพร้อมกับนาง? แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับข้าตรงไหน? ทำไมข้าต้องถูกจับขังด้วย?!”
หญิงชราพูดไม่ออก
นางกำลังพูดภาษามนุษย์อยู่ใช่หรือไม่? ช่างไร้ยางอายเหลือเกิน
แม้ว่าเซียวป๋ายหลี่จะมีนิสัยอ่อนโยนและว่าง่าย แต่นางก็ไม่ได้โง่เขลา
นางไม่รู้จักลูกบอลสีดำที่พี่สาวสือกำลังพูดถึงอยู่ แต่นางบอกได้ว่า หญิงชราจากตระกูลหวูหวาดกลัวพวกมันมาก
นางจึงรีบพูดขึ้นมาทันทีว่า “แม้ว่าข้าจะต้องตาย ข้าก็จะลากคนตระกูลหวูตายไปพร้อมกับข้าด้วย”
นางพูด “ขอบคุณเจ้าค่ะ พี่สาวสือ ที่ช่วยข้าไว้ ข้าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และไมมีทางดึงท่านมาเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน”
แววตาของสือชิงลั่วปรากฏรอยยิ้ม
เซียวป๋ายหลี่เป็นคนฉลาดมีไหวพริบดี นางต้องมีอนาคตที่สดใส
ใบหน้าของหญิงชราเขียวคล้ำ เห็นได้ชัดว่านางไม่คิดว่าหญิงสาวบ้านเซียวจะพูดเช่นนี้ออกมา
แต่นางก็ไม่อยากเสี่ยงเช่นเดียวกัน
หากนังเด็กสารเลวบ้านสือมอบลูกบอลสีดำให้กับเซียวป๋ายหลี่ ไม่ใช่ว่าพวกนางทุกคนต้องตามคุณชายหวูไปโลกหลังความตายหรอกหรือ?
แน่นอนว่าพวกนางไม่ต้องการ...
หญิงชรามองสือชิงลั่วด้วยสายตาดำมืดและพูดว่า “ครั้งก่อน เจ้าทำเพื่อช่วยให้ตัวเองรอดชีวิต เรื่องนั้นเข้าใจได้ แต่ตอนนี้ เจ้ากำลังเข้ามายุ่งเรื่องของผู้อื่น เท่ากับว่าเจ้ากำลังต่อต้านตระกูลหวูของข้าอยู่”
สือชิงลั่วยกยิ้มดูถูก “แล้วตระกูลหวูมีดีอะไร? ก็แค่ตระกูลพ่อค้ามีเงินในอำเภอเท่านั้นไม่ใช่หรือ? พวกเจ้าจะทำอะไรได้?”
นางยิ้มอย่างอวดดี “ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็คงต้องยุ่งเรื่องของพวกเจ้าแล้วจริงๆ”
“ไม่ใช่แค่เซียวป๋ายหลี่เท่านั้น หากข้าได้ยินว่าตระกูลหวูคิดซื้อคนไปฝังกับคนตาย ข้าจะวิ่งไปหาพวกเขาและมอบลูกบอลสีดำให้พวกเขาพาคนตระกูลหวูขึ้นสวรรค์ไปพร้อมกันเสียเลย”
“หากเจ้าไม่เชื่อข้า เจ้าจะลองเสี่ยงดูก็ได้”
ชีวิตของหญิงสาวผู้บริสุทธิ์เหล่านั้นไม่สมควรถูกทำลายโดยคนตระกูลหวู
หญิงชราอดกลั้นความโกรธเอาไว้จนแทบกระอักเลือด “ดี ตระกูลหวูของเราจะจดจำเรื่องนี้เอาไว้ รอก่อนเถอะ!”
วันนี้ นางพาหญิงรับใช้มาด้วยแค่สองคนเท่านั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะสามารถแย่งชิงเซียวป๋ายหลี่มาจากหญิงสารเลวนั่น
นางหวาดกลัวจริงๆว่า สือชิงลั่วจะโหดเหี้ยมจนสังเวยทุกชีวิตของคนในตระกูลหวู
คุณชายเหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายเท่านั้น
หากวันนี้พวกนางไม่สามารถพาเซียวป๋ายหลี่ไปด้วยได้ พวกนางคงไม่สามารถหาคนอื่นไปฝังพร้อมกับเขาได้อีกแล้ว
นักพรตพูดเอาไว้ว่า มีเพียงเด็กสาวที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นถึงจะทำได้
ตระกูลหวูไม่มีทางยกโทษให้นังเด็กสารเลวที่ทำลายแผนการของพวกเขาอย่างแน่นอน
สือชิงลั่วยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “แล้วข้าจะรอ ทำให้ดีก็แล้วกัน”
นางไม่กลัวตระกูลพ่อค้าในอำเภอเล็กๆแห่งนี้
โดยเฉพาะในยุคสมัยโบราณที่เต็มไปด้วยชาวนา แรงงาน และพ่อค้า นางมีวิธีการตอบโต้อยู่นับไม่ถ้วน
นางมีแผนการอยู่เต็มหัว เลวร้ายที่สุดก็คือตระกูลหวูคิดสร้างปัญหาให้กับนาง
นางก็จะใช้ความรู้ที่มีเข้าไปอยู่ในตระกูลที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าตระกูลหวู เพื่อแลกเปลี่ยนกับการคุ้มครองและจัดการกับคนพวกนั้นเสีย
หญิงชรามองออกว่า สือชิงลั่วไม่หวาดกลัวการแก้แค้นของตระกูลหวูเลยแม้แต่น้อย
นางรู้สึกคับแค้นและโกรธเกรี้ยว
“ไป กลับเข้าเมือง!”
นางทำเสียงหึและเตรียมที่จะกลับไปพร้อมกับหญิงรับใช้
ภรรยาลูกชายสามบ้านเซียวกับหวังซื่อที่ยังจับแขนของเซียวป๋ายหลี่หน้าเปลี่ยนสีและรีบวิ่งเข้าไปหาหญิงชรา “มามา ทำไมท่านถึงจะกลับแล้วล่ะ?”
หญิงชราเหลือบมองนาง “หากเจ้าตัดสินใจอะไรไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาที่ตระกูลหวูและบอกว่าสนใจเรื่องการแต่งงาน”
หากนางไม่ได้รู้ว่า คนบ้านเซียวมีบุตรชายเป็นถึงแม่ทัพ นางก็คงเอาความโกรธไปลงกับพวกนานแล้ว
หลังจากพูดจบ นางก็ไม่พูดอะไรอีกและพาคนของตนเองเดินทางออกจากหมู่บ้าน
หวูซื่อกับหวังซื่อต่างมึนงง
ในเวลานี้เอง ชายชราวัยหกสิบก็เดินจับมือเซียวเอ้อร์หลางมาพร้อมกับชายวัยกลางคนอีกหลายคน
หวูซื่อเห็นเขาเดินมาก็เสมองไปทางอื่น เธอฝืนยิ้มและพูดว่า “ผู้ใหญ่บ้าน มาที่นี่ทำไมหรือ?”
ผู้ใหญ่บ้านเซียวมองไปทางแม่เซียวกับเซียวป๋ายหลี่ที่กำลังร้องไห้อย่างน่าสงสารอยู่ที่พื้น
เขามองหวูซื่อกับหวังซื่อด้วยสีหน้าย่ำแย่ “หานเจิงย้ายออกมาและตัดขาดกับบ้านใหญ่เซียวแล้ว ทำไมเจ้าถึงต้องมาที่นี่เพื่อขายน้องสาวของเขาด้วย?”
หวูซื่อพูดอย่างอับอาย “ผู้ใหญ่ ท่านเข้าใจผิดแล้ว เราไม่ได้คิดจะขายนาง”
“แม่สามีของข้าช่วยจัดการงานแต่งงานที่ดีให้นาง เรามาเพื่อช่วยนางเท่านั้น”
“แต่พวกนางไม่ตกลง คนตระกูลหวูจากในอำเภอจึงกลับไปกันแล้ว”
เงินหนึ่งร้อยเหลียงบินหายไปกับตา หัวใจของนางมีเลือดไหลซิบๆ
ผู้ใหญ่บ้านเซียวพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “เจ้ารู้ดีว่าความจริงเป็นอย่างไร”
เขาเอ่ยเตือน “หมู่บ้านเซี่ยซีของตระกูลเซียวไม่เคยมีประวัติขายเด็กสาวให้ไปฝังร่างกับคนตาย และเราไม่อนุญาตให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น หากเจ้ากล้าไม่เชื่อฟัง พวกเราจะไม่ปล่อยเอาไว้แน่”
หวูซื่อไม่พอใจ แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าและยิ้มขออภัย “ได้ ได้ ข้าเข้าใจแล้ว”
จากนั้น นางก็วิ่งเข้าไปพยุงหวังซื่อที่ยังเจ็บท้องไม่หาย
เมื่อนางเดินผ่านแม่เซียว นางก็มองอีกฝ่ายด้วยสายตาคมกริบและพูดว่า “นังสารเลว ระวังตัวไว้ให้ดี”
แล้วนางก็เดินกลับออกไป