บทที่ 1 ถ้าใจผ่องใส ไม่ต้องกลัวลม กลัวฝน!
“ระบบมหาครุผูกมัด โปรดรับแพ็คเกจของขวัญสำหรับมือใหม่โดยเร็วที่สุด!”
ครั้งที่สามที่เขาได้ยิน ประโยคนี้ ซุนม่ออยากจะทุบหัวสุนัขของอีกฝ่าย แกไม่ช่วย ฉันไม่ว่า
แต่แกไม่จำเป็นต้องเยาะเย้ยฉันแบบนั้นเลยใช่ไหม? ครึ่กกกก !
ร่างกายของซุนม่อจมลง น้ำในทะเลสาบมหาศาลสาดกระแทกใส่ใบหน้าของเขาทันที เเละไหลเข้าไปในปากและจมูกของเขา
"ถ้านี่คือสระน้ำ นี่ฉันต้องดื่มน้ำปัสสาวะกี่อึกแล้ว "
ซุนม่อหัวเราะเยาะตัวเอง เขาคลายความกังวลใจและความกลัวออกไป
ไม่เช่นนั้นเขาจะกลัวจริงๆ ว่าเขาจะทนรับไม่ไหว
ทักษะการว่ายน้ำของเขาคือท่าหมากระพุ้ยน้ำที่เรียนรู้ด้วยตัวเองในแม่น้ำสายเล็กๆ นอกหมู่บ้าน ถ้าเขาอยู่คนเดียว เขาคงโดดขึ้นฝั่งได้เสมอ แต่ตอนนี้เขากำลังดึงผู้หญิงคนหนึ่งจากในน้ำ
เขารู้สึกจนใจอยู่บ้าง
"
ช่วย ... ช่วยด้วย ! "
เด็กสาวผมดำเอามือตีน้ำอย่างดุเดือดพร้อมกับดิ้นรนอย่างหนัก
“หยุดเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้าได้แล้ว ไม่งั้นเธอตาย!”
หลังจากที่ซุนม่อพูดจบเขาก็กินน้ำในทะเลสาบอีกคำหนึ่ง ทำให้เขาแทบสำลัก
“ระบบมหาคุรุผูกมัด
โปรดรับแพ็คเกจของขวัญสำหรับมือใหม่โดยเร็วที่สุด! ”
"แม่งเอ๊ย! "
ซุนม่อดึงปกเสื้อของเด็กสาวและปีนขึ้นฝั่ง ขณะที่เขาหอบหายใจตัวโยนพลางมองไปรอบๆ
ตัวราวกับหมาป่า เขาชูนิ้วกลางหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่ไม่มีผีแม้แต่ตัวเดียวรอบตัวเขา
แสงจันทร์
สว่างไสวราวกับทรายสีเงินฉายแผ่กระจายอยู่บนพื้นหญ้า
และทะเลสาบหยุนถิงที่อยู่ไกลออกไปจนเป็นประกาย!
"อะไรกันวะนี่ "
คิ้วของซุนม่อขมวดคิ้วพอที่จะหนีบฆ่าปูทะเลได้ทั้งตัว เขามองลงไป และเห็นว่าเด็กสาวที่ได้รับการช่วยเหลือสวมชุดโบราณ
และมีถุงซองอยู่รอบเอวของเธอ!
“ทำไมไม่ใช่โจวเหมี่ยว”
ซุนม่อรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญา เขาได้เข้าไปสอนในโรงเรียนมัธยมอันดับสอง ของเมือง ในเวลาเพียงหกปี เขาสอนช่วยให้นักเรียนสองคนสอบเข้ามหาวิทยาลัยชิงหวาและมหาวิทยาลัยปักกิ่งได้ ผลการเรียน การสอนที่ยอดเยี่ยมของเขาจะทำให้เขาเป็นครูระดับหัวหน้าในแผนกมัธยมศึกษาตอนปลาย.
การเลื่อนตำแหน่งและการเพิ่มเงินเดือนอยู่ใกล้แค่เอื้อม
ใครจะรู้ว่า สตรีที่ชื่อโจวเหมี่ยว ซึ่งอยู่ในชั้นเรียนหลงชอบเขา หลังจากที่ถูกปฏิเสธ โจวเหมี่ยวก็เริ่มปล่อยข่าวซุบซิบว่าพวกเขาทั้งสองอยู่ด้วยกัน
เธอกำลังเตรียมที่จะทำให้การโกหกเป็นเรื่องจริง
ซุนม่อไม่อยากให้ชีวิตของเขาพังพินาศ
เขาจึงชวนโจว เหมี่ยว ไปที่สวนสาธารณะเพื่อพูดคุยในรายละเอียด
ขณะพายเรือในทะเลสาบ โจว เหมี่ยวก็รีบพุ่งเข้าหาเขาและตกลงไปในทะเลสาบด้วยกัน
“นี่มันที่ไหนกัน”
ใจของซุนม่อกำลังเดือดพล่านด้วยความโกรธ ขณะมองไปรอบๆ ต้นไม้ที่อยู่รอบข้าง บรรยากาศเงียบสงัดและมืดมน
และที่นี่ดูเหมือนจะเป็นเขตชานเมือง ความสงสัยค่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
แค่ก แค่ก
เด็กสาวที่นอนอยู่บนพื้นข้างๆ
ไอสองครั้งเพราะรู้สึกไม่สบายตัว
เธอคายน้ำจากทะเลสาบปนออกมากับน้ำลาย สายตาของเธอไม่เป็นระเบียบและสับสน
และเธอก็ค่อยๆ ฟื้นคืนสติ
"ท่านสบายดีหรือเปล่า?" เด็กสาวถามอย่างอ่อนโยน “ยังมีสิ่งดีๆอีกมากมายในชีวิต ได้โปรดอย่าฆ่าตัวตายเลย!”
“น้ำท่วมสมองของเธอเหรอ?” ซุนม่อรู้สึกหดหู่ “ฉันเพิ่งเล่นคอมพิวเตอร์ที่ซื้อมาไม่กี่พันเหรียญได้สองสามครั้ง ทำไมฉันต้องฆ่าตัวตาย? นี่ไม่มีเรื่องอะไรดีไปกว่านี้แล้วเหรอ?”
“หือ?”
เด็กสาวทำ หน้างง : “เมื่อเป็นอย่างนี้ทำไมเจ้าถึงพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงไปในแม่น้ำ”
“เอ่อคือว่า?”
จู่ๆ ซุนม่อก็นึกขึ้นได้ "เธอไม่ได้ลงไปในน้ำ เพื่อช่วยฉันใช่ไหม "
"ฮืออ หลี่จื่อชี ยัยโง่ " เด็กสาว พึมพำ พวงแก้มงามของนางแดงก่ำ นางละอายใจ นางควรจะช่วยใครซักคน แต่นางได้รับการช่วยเหลือ
น่าเสียดายจริงๆ
“ระบบมหาคุรุผูกมัดแล้ว โปรดรับแพ็คเกจของขวัญสำหรับมือใหม่โดยเร็วที่สุด
ไม่เช่นนั้นจะใช้งานไม่ได้! ”
เสียงน่ารำคาญดังขึ้นอีกครั้ง
ทำให้คนรู้สึกรำคาญมาก
“วิ้งๆๆๆ เจ้ากังวลหรือเปล่า?”
ติ๊งต่อง!
จู่ๆ หีบสมบัติ ขนาดใหญ่ส่องแสงหลากสีก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าซุนม่อทำให้ตาสุนัขของเขาตาบอดชั่วขณะ
“จะเปิดหรือไม่”
ระบบถาม.
ซุนม่อเหลียวมองไปรอบๆ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่เด็กสาว จากนั้นเขาก็คว้าหีบสมบัติ แล้วเขาก็เข้าใจ
ว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่มองเห็นสิ่งนี้
“จะเปิดหรือไม่?”
ระบบ ยังคงถามต่อ
“เปิด เปิด เปิด เปิด
หากไม่มีคฤหาสน์หรือสมบัติล้ำค่าอยู่ในนั้น ฉันจะเปิดหัวสุนัขของแกแทน!”
ซุนม่อร้อนใจเป็นอย่างมาก เขาไม่มีเงินติดตัวด้วยซ้ำ
ก่อนที่ซุนม่อจะมีเวลาเตรียมตัว หีบสมบัติขนาดใหญ่ก็เปิดออก และหนังสือสีทองเล่มหนึ่งก็ลอยอยู่ข้างหน้าเขา
พลางหมุนช้าๆ
"
ยินดีด้วย คุณได้รับ 'เนตรทิพย์'
ระดับปรมาจารย์แล้ว ด้วยวิชานี้ เมื่อคุณเพ่งสายตา คุณสามารถอ่านข้อมูลทั้งปวงของเป้าหมายได้”
เสียงของระบบยังราบเรียบไม่กระสับกระส่ายราวกับสุนัขฮัสกี้นอนอยู่ใต้หลังคาในวันฤดูร้อนที่ร้อนระอุ
เห็นได้ชัดว่าไม่มีความรู้สึกของ 'การแสดงความยินดี' เห็นได้ชัดว่าเป็นคำสุภาพธรรมดาทั่วไป
ซุนม่อทำหน้ามุ่ยและมองไปยังเด็กสาวที่ลุกขึ้นนั่งในที่สุด
ดวงตาของเขาเพ่งไปที่ศีรษะของหญิงสาว ตัวอักษรสีขาวตัวใหญ่สามตัว ' หลี่จื่อชี '
ปรากฏขึ้นช้าๆ ซึ่งน่าจะเป็นชื่อของเธอ
ข้อมูลอื่นๆ บางส่วนก็ค่อยๆ
กระโจนไปทั่วร่างกายของเธอ ตัวอักษรสีขาวสั่นตลอดเวลา ตามมาด้วยความคิดเห็น
ความแข็งแรงระดับ 4 เป็นระดับของเด็กผู้หญิงธรรมดาๆ แข็งแรงกว่าคนที่ไม่มีแรงมัดไก่เพียงเล็กน้อย
ค่าสติปัญญา
: 10 เทียบได้กับคนทั่วไป
ความคล่องแคล่ว : 1 แย่กว่าเลี้ยงคนพิการเสียอีก . ขอแนะนำว่าอย่าออกไปข้างนอกเพราะถ้าเธอเดินออกไป มีความเสี่ยงอาจถึงตายได้
...
ซุนม่อมีสีหน้ามึนงง นี่มันอะไรกันวะเนี่ย?
“เอ่อ...ข้าชื่อหลี่จื่อชี!”
เมื่อเด็กสาวเห็นว่า ซุนม่อไม่พูด ทำให้บรรยากาศดูอึดอัดเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงหาหัวข้อหนึ่งเพื่อต้องการบรรเทาบรรยากาศตึงเครียด
“เอ่อ!”
ซุนม่อถามต่อ “เธอเพิ่งโดดน้ำลงไปช่วยฉัน
ใช่ไหม?”
หลี่ซื่อชีทำท่ารับ แต่แล้วก็รีบส่ายหัวหน้าแดงจัด
ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ช่วยเขาไม่สำเร็จ
ทั้งเกือบจมน้ำตายแทน นี่มันน่าขายหน้าเกินไป
ซุนม่อกระตุมมุมปากเล็กน้อย
(เธอเป็นคนที่มีความคล่องแคล่วแค่ระดับ 1 แต่ยังคิดช่วยชีวิตคนอื่น
นี่เธอเบื่อหน่ายในการมีชีวิตหรือยังไง?)
“ขอบคุณ!”
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าเด็กสาวตั้งใจจะช่วยเขา
สีหน้าของเขาก็อ่อนโยนลง เขาเลื่อนสายตาไปที่ตัวเด็กสาว
“หมายเหตุ..แม้นางจะเป็นเด็กสาวที่ยากจน
แต่ว่ามีศักยภาพสูงส่ง แนะนำว่าให้รับนางเป็นศิษย์”
เมื่อได้ยินคำขอบคุณของซุนม่อ
หลี่ซื่อชีก็เหมือนกระต่ายถูกเหยียบ นางกระโดดผลุงทันทีขณะที่มือของนางโบกมือพัลวัล
“ไม่ ไม่
ท่านไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า เป็นข้าเองเข้าใจสถานการณ์ผิดไปหมด
เจ้าต่างหากที่เป็นคนช่วยข้า!”
หลี่จื่อชีรู้สึกห่อเหี่ยวอย่างเห็นได้ชัด นางไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นางควรจะเลิกเป็นคนงุ่มง่ามแบบนี้เสียที!
ไม่ว่ายังไงก็ตาม
ซุนม่อก็เป็นครูมืออาชีพมาหกปีแล้ว
มีนักเรียนประเภทไหนที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน? ด้วยประสบการณ์ของเขาและข้อมูลที่ได้รับจากเนตรทิพย์ เขาสามารถคาดเดาเหตุผลเบื้องหลังภาวะซึมเศร้าของหลี่จื่อชีออก
“ไม่ใช่ว่าทองคำจะบริสุทธิ์น่าพอใจไปทั้งหมด ไม่มีใครสมบูรณ์แบบทุกอย่าง เธอไม่จำเป็นต้องบังคับฝืนตัวเอง แล้วเกิดอะไรขึ้นกับความซุ่มซ่ามของเธอ?”
ซุนม่อหัวเราะ “นอกจากนี้
เธอยังมีสมองที่ดี สติปัญญาของเธออย่างเดียวก็สามารถบดขยี้คนจำนวนมากได้”
"จริงเหรอ?"
ดวงตาของหลี่จื่อชีเป็นประกายวูบวาบขึ้น นางเอียงคอจ้องไปที่ซุนม่อ
“อือ!
ซุนม่อไม่ได้โกหก เด็กสาวคนนี้ซึ่งดูเหมือนมีสติปัญญาไม่โดดเด่น
กลับเป็นอัจฉริยะระดับแนวหน้าที่ครูคู่แข่งทุกคนต้องการตัว
แต่กลับไม่ได้ตัวไปเข้าเรียนชั้นพวกเขาเลย
“แต่... แต่ว่า..”
หลี่จื่อชีนึกถึงเรื่องซุบซิบนินทาเกี่ยวกับตัวนาง
“ฮะฮะ..อย่าคิดมากนักเลย”
เด็กสาวท่าทีงุ่มง่ามไม่สบายใจทำให้คนที่เห็นรักและเวทนาพวกนางจริงๆ
ขณะที่ซุนม่อพูด เขาก็ลูบหัวนางโดยไม่รู้ตัว “ถ้าใจของเธอผ่องใส
ก็ไม่ต้องกลัวลมและฝน!”
มันเป็นคำปลอบใจเท่านั้น
แต่หลังจากที่ซุนม่อพูดจบ ก็มีแสงทองฉาบฉายรอบตัวพวกเขาในทันใด
ควั่บ ควั่บ ควั่บ
แสงสีทองสาดส่องราวกับสายฝนโปรยปราย
แทรกซึมเข้าไปในหัวใจของหลี่จื่อชี และหล่อเลี้ยงหัวใจอย่างเงียบๆ
หลี่จื่อชีอาบแสงสีทองที่ฉายส่องลงมา
ร่างกายของนางก็เริ่มเปล่งประกายสีทองเช่นกัน
ทันใดนั้นนางก็รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าอย่างมาก นางมองโลกในแง่ดีมากขึ้นจิตใจก็ผ่องใส
“ท่าน
ท่านคือมหาคุรุใช่ไหม?”
หลี่จื่อชีมีสีหน้าประหลาดใจ
ขณะมองดูซุนม่อ บุรุษหนุ่มผู้นี้ดูมีอายุแค่ 18-19 ปีเท่านั้น
แต่เขาเป็นมหาคุรุแล้วหรือ?
ซุนม่อก้มหน้ามองดูชุดที่ตนเองสวมใส่
ขณะนี้เขาแต่งตัวอยู่ในชุดยาวสีน้ำเงินเข้มยุคโบราณ แม้ว่าเขาเพิ่งจะขึ้นมาอยู่บนฝั่งไม่นาน
แต่เขาก็เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเอง
เขาคงข้ามผ่านห้วงมิติเวลามาอยู่ในอีกโลกหนึ่ง
นี่คือดินแดนกลางของแผ่นดินใหญ่มีเก้าแคว้นและหลายสิบเมืองซึ่งทั้งหมดมีความเจริญรุ่งเรืองในด้านวัฒนธรรมและการศึกษาและรูปแบบการเรียนรู้มีความเจริญรุ่งเรือง
ไม่ว่าในประเทศใดก็ตาม
มหาคุรุเป็นที่น่านับถือที่สุดในบรรดาอาชีพทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม การเป็นมหาคุรุไม่ใช่เรื่องง่าย
ต้องมีช่วงเวลาแห่งการรู้แจ้ง มีรัศมีมหาคุรุ
เชี่ยวชาญในอาชีพหลายแขนง และผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดจาก ‘ประตูเซียน’
“นั่นคือคำสอนที่ล้ำค่าใช่ไหม?”
หลี่จื่อชีมองเขาด้วยสายตาเทิดทูน “มีผลตอบสนองที่แข็งแกร่งมาก”
มหาคุรุสามารถถ่ายทอดวิถีและขจัดข้อสงสัยของลูกศิษย์ได้ รัศมีของมหาคุรุคือพรสวรรค์เฉพาะตัวที่มหาคุรุทุกคนต้องมี รัศมีสามารถช่วยให้ลูกศิษย์ผ่อนคลาย
ทำให้พวกเขาเข้าใจการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
'คำแนะนำที่ประเมินค่าไม่ได้' นี้ ทำให้แนวคิดของมหาคุรุมีอิทธิพลต่อลูกศิษย์ จะช่วยให้พวกเขาไม่ลืมเลือนสิ่งนี้เป็นเวลาหลายวันและคงสภาพของหัวใจไว้เหมือนเดิม
หากลูกศิษย์เบื่อหน่ายการเรียนและมหาคุรุใช้ 'คำแนะนำที่ประเมินค่าไม่ได้' เพื่อโน้มน้าวใจลูกศิษย์ ลูกศิษย์จะถูกเติมเต็มด้วย 'จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้' และพยายามศึกษาอย่างหนักเป็นเวลาหลายวัน
ขณะจ้องดูสายตาแปลกประหลาดของหลี่จื่อชีสาวน้อยผู้เลื่อมใสศรัทธา ซุนม่อไม่รู้จะบอกอย่างไรดี
“ข้าเพิ่งรู้แจ้งเมื่อตะกี้นี้เอง!
ขณะนั้น เสียงแจ้งของระบบก็ดังขึ้น
ติง!
ความประทับใจจากหลี่ซื่อจี+3
ความเชื่อมต่อสัมพันธ์กับหลี่จื่อชี ..ปลดล็อค สถานะปัจจุบันปกติ 3/100
หมายเหตุ:
พยายามให้มากขึ้นแล้วคุณจะได้รับนักเรียนผู้มีศรัทธาคนแรกที่กระตือรือร้นในเส้นทางมหาคุรุ!
“ท่านมาจากสถาบันใด?” หลี่จื่อชีกระพริบตาถามด้วยความสงสัย
“สถาบันจงโจว
(สถาบันกลางของจังหวัด)”
ซุนม่อจัดระเบียบความทรงจำอยู่ในใจ
เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี สถานการณ์ของร่างปัจจุบันของเขาแย่มากจริงๆ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ 'ตัวตนในอดีต' ของเขาถึงต้องการไปพักผ่อนที่ชานเมือง
หลังจากที่ตัวตนในอดีตของเขาในโลกนี้สำเร็จการศึกษาแล้ว
เขาก็โชคดีที่ได้เข้าบรรจุในโรงเรียนประจำจังหวัดกลาง
เพียงแต่ว่าผู้สำเร็จการศึกษาคนอื่นๆ
ในกลุ่มเดียวกันกับเขาทั้งหมดกลายเป็นผู้ช่วยสอน ในขณะที่เขาถูกโยนไปที่แผนกขนส่ง
“โหว สถาบันจงโจว
ท่านได้สอนอยู่ที่นั่น วิเศษ! ยอดเยี่ยมจริงๆ”
สายตาเทิดทูนของหลี่จื่อชีเริ่มมีความกระตือรือร้นมากขึ้น
นั่นเป็นหนึ่งในเก้าสถาบันที่ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินใหญ่ สถาบันจงโจว มีชื่อเสียงโดดเด่นอย่างมาก
“ฮะฮะ ไม่ต้องมายอข้าหรอก”
ซุนม่อไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดี
300 ปีที่แล้ว สถาบันจงโจวประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่
ครูและนักเรียนอัจฉริยะทุกคนเสียชีวิตหมดสิ้น จากนั้นเป็นต้นมา ความสูญเสียนั้นนำไปสู่การล่มสลายทั้งหมด
ชื่อเสียงในอดีตค่อยๆ ตกต่ำลง ต้องพึ่งพาตอนนี้เท่านั้น
ในเก้าเมืองในแผ่นดินใหญ่ มีสถานศึกษามากกว่าพันแห่ง
มันถูกแบ่งออกเป็นมาตรฐานระดับต่างๆ ตามขนาดและจำนวนครูที่มีคุณสมบัติ ในปัจจุบันสถาบันจงโจวได้ตกอันดับไปสู่สถาบันชั้นสี่แล้ว
ในการจัดอันดับในปีนี้ หากยังคงรั้งท้ายอยู่ สถาบันจะถูกเพิกถอนและปลดออกจากระบบการศึกษา
“ถ้าจำไม่ผิด เร็วๆ นี้จะมีงานรับสมัครนักศึกษาของสถาบันจงโจวใช่ไหม? ข้าจะไปที่นั่นและสนับสนุนท่าน!”
หลี่จื่อชียิ้มหวานและลักยิ้มที่น่ารักนั้นราวกะจะล้นไปด้วยหยดน้ำผึ้ง
“ติง ภารกิจออกมาแล้ว จงให้หลี่จื่อชี รับเจ้าในฐานะครูของนางด้วยใจจริงภายในครึ่งเดือน
รางวัล: หีบสมบัติลึกลับ 1 หีบ”
เสียงของระบบดังก้องอยู่ในหูของซุนม่อ และนั่นทำให้เขาสาปแช่งในใจเงียบๆ “ตอนนี้ฉันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนกโลจิสติกส์
โดยพื้นฐานแล้วฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะรับลูกศิษย์โว้ย!”