ตอนที่แล้วตอนที่ 12 คนสกุลเจียง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14 สังหารพระเอก?

ตอนที่ 13 เขาคือหลงอ่าวเทียน?


สาวใช้ชุดสีน้ำเงินโค้งคำนับให้หลิง อ่าวเทียน

“สวัสดีเจ้าคะ นายน้อยหลิง”

“ข้ามีนามว่าเจวียนเอ๋อ เป็นผู้รับผิดชอบตำหนักเดือนมืดในด้านสว่าง”

“เจ้าตำหนักเขิญท่านขึ้นไปที่ชั้น7 โปรดตามข้ามา”

เจ้าตำหนักเชิญข้าขึ้นไปชั้นเจ็ด?

ทำไม

หลิงอ่าวเทียน ชะงักไปครู่หนึ่ง

เขาได้ยินมาว่า ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถขึ้นไปที่ชั้นเจ็ดได้

"ตกลง."

แม้ว่าเขาจะไม่ทราบเหตุผล แต่ หลิงอ่าวเทียน ยังคงลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินตามเจวียนเอ๋อ

เมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกคนในห้องโถงก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ

พวกเขาทุกคนรู้ดีว่า

ประมุขแห่งตำหนักเดือนมืด, หลี่ชูโรว เป็นหนึ่งในสามสาวงามของเมืองเสวี่ย

และก็มีข่าวลือว่า

ดูเหมือนว่าขอบเขตการฝึกตนของหลี่ชูโรวจะเทียบได้กับผู้มีอำนาจสูงสุดแห่งเมืองเสวี่ย เจ้าเมืองเสวี่ย หวนคืนสู้ต้นกำเนิด!

ตอนนี้ บุคคลเพียงผู้เดียวที่สามารถได้รับเชิญขึ้นไปที่ชั้นบนสุดคือ เจ้าเมืองเสวี่ย !

หลังจากใช้ความพยายามอย่างมากแล้ว เจ้าเมืองเสวี่ย ถึงสามารถขึ้นไปที่นั่นได้

แล้ว นายน้อยหลิง คนนี้เป็นใคร?

เขาได้รับเชิญจาก หลี่ชูโรว ไปที่นั่นได้อย่างไร?

ทุกคนจับตามอง หลิงอ่าวเทียน อย่างใกล้ชิด

เขาดูดี แต่เสื้อผ้าของเขาดูเรียบง่ายไปหน่อย

เขาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีดำธรรมดาๆ ราคาถูก และแหวนมิติที่เขาสวมใส่ก็ดูไม่ได้มีค่ามากนัก

และเมื่อพิจารณาจากรัศมีของพลังงานที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกาย ขอบเขตฝึกตนของเขาควรอยู่ที่ขอบเขตรวบรวมวิญญาณเท่านั้น

โดยรวมแล้วเขาไม่ควรจะเป็นทายาทของตระกูลหรือนิกายที่มีชื่อเสียงใดๆ

เจ้าตำหนักจะเชิญชายผู้นี้หรือ?

ไม่ค่อยมีใครเชื่อ

ชายผมหนาลุกขึ้น

เขาปิดกั้นเส้นทางของ หลิงอ่าวเทียน และถามเขา

“เด็กน้อย ทำไมเจ้าตำหนักถึงชวนเจ้าขึ้นไปที่ชั้นเจ็ด”

หลิงอ่าวเทียน ไม่ตอบและมองไปที่อีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์

ชายผมหนาผมหนาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ พูดอย่างดูถูก

"เจ้าหนู! ข้าคิดว่าเจ้าคงก้าวเข้าสู่ขอบเขตรวบรวมวิญญาณมาได้สองสามปีแล้ว เจ้ามีอะไรที่คู่ควรกับความสนใจของเจ้าตำหนักบ้าง นอกจากหน้าตาดีๆ!”

สายตาของ หลิงอ่าวเทียนเปลี่ยนเป็นเย็นขาทันที

เขาไม่ชอบคนพวกนี้ที่มองคนด้วยดวงตาสุนัขและตอบอย่างเย็นชา

“เกี่ยวอะไรกับเจ้า!”

ชายผมหนาผมหนาเย้ยหยัน “เฮ้อะ เล่าจื๊อแค่ไม่ชอบหน้าเจ้า”

หลิงอ่าวเทียน หรี่ตาลง “งั้นหรือ?”

ชายผมหนายกนิ้วโป้งขึ้นปิดหูและพูดอย่างดูถูก

“อย่าหาว่าเล่าจื๊อรังแกเจ้า เราทั้งคู่อยู่ในขอบเขตรวบรวมวิญญาณเหมือนกัน ถ้าเจ้าขนะข้าได้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าขึ้นไปชั้นเจ็ด มิฉะนั้นก็คลานลอดเป้าของข้าออกจากตำหนักเดือนมืด”

ทันทีที่คำพูดออกมา

  มันทำให้เกิดเสียงหัวเราะในห้องโถง

หลิงอ่าวเทียน ก็หัวเราะด้วยความโมโห “เฮ้ ทำไมข้าต้องสู้กับเจ้าด้วย?”

ชายผมหนาผมหนาพูดอย่างไม่อดทน “ทำไมต้องพูดไร้สาระมากขนาดนี้ หยุดพล่ามเหมือนสุนัขได้แล้ว”

เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็มองไปที่ หลิงอ่าวเทียน และสะบัดขี้หูสีเหลืองและสีดำไปที่เขา

หลิงอ่าวเทียนหลบด้วยความตกใจ

ก้อนขี้หูพุ่งเข้าใส่ปากของเด็กผู้ชายในฝูงชน

อาเจียน!!!

เด็กชายอ้วกและสลบไปทันที และฝูงชนก็ปิดปากและถอยกลับ

หลิงอ่าวเทียน โกรธจัดในทันที

“รนหาที่ตาย!”

เขาระเบิดพลังออกมาด้วยความโกรธจัด และร่างกายของเขาก็พุ่งถึงเบื้องหน้าชายผมหนาในชั่วพริบตา

เขาชกหมัดเข้าใส่ใบหน้าของชายผมหนา

ชายผมหนาถูกส่งไปทันทีโดยไร้ซึ่งการต่อต้าน

หลังจากที่กระแทกกับเสาและตกลงบนพื้น ตุ้บ

ตาของเขากลอกขึ้นบนและหมดสติไปตรงจุดนั้น

“เหอะ มีแค่นี้เหรอ!”

หลิงอ่าวเทียน ปล่อยหมัดออกอย่างเย็นชาและถ่มน้ำลายใส่หน้าชายผมหนาบนพื้น

แต่เขาควบคุมไม่ดีมันเลยทาบนริมฝีปากที่ดำคล้ำของเขา

เพียงหนึ่งกระบวนท่า…. สายตาของผู้คนรอบๆที่มอง หลิงอ่าวเทียน ก็เปลี่ยนไป

ทั้งสองฝ่ายอยู่ในขอบเขตรวบรวมวิญญาณ และชายผู้นี้เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ในหนึ่งกระบวนท่า!

แม้แต่ผู้ฝึกตนทะเลปราณเมื่อพวกเขาเจอหมัดนั้นจาก หลิงอ่าวเทียน ก็ยังรู้สึกกดดัน!

ตอนนั้นเอง

มีคนจำ หลิงอ่าวเทียนขึ้นมาได้ และอดไม่ได้ที่จะอุทาน

"ข้ารู้แล้ว! เขานั้นเอง หลิง เอ๋อเทียน!”

อะไร

หลิง อ่าวเทียน?

ตอนนั้นเองที่ฝูงชนได้ตระหนักในทันที และจากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

“เขาเป็นคนที่ถอนหมั้นให้กับเสวี่ยเฉียนจิน(ธิดาทองคำ)เมื่อคืนนี้เหรอ?”

“เขาเป็นคนที่ทุบตีประมุขเจียงจนสลบหลังจากอาเจียนเป็นเลือด?”

"อา? นั่นเขาเหรอ? ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าตำหนักจะเชิญเขา!”

“ผู้ชายคนนี้กล้ามาก!”

“ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา!”

ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดไม่ดูถูก หลิงอ่าวเทียน อีกต่อไป

พวกเขารู้สึกว่าเขามีศักยภาพที่ดีและจะกลายเป็นผู้เก่งกาจในอนาคต!

“นายน้อยหลิง ท่าน….”

เจวียนเอ๋อ รู้สึกประหลาดใจเมื่อมองไปที่ หลิงอ่าวเทียน

นางรู้เกี่ยวกับการกรำของหลิงอ่าวเทียนเมื่อคืนนี้อยู่แล้ว

เพียงแต่นางไม่ได้เห็นกับตาของนางเอง นางจึงไม่ได้คิดอะไรมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเห็นความแข็งแกร่งของเขาด้วยตาของนางเองในวันนี้ นางก็ตกตะลึงจริงๆ

ทรงพลังมาก

ไม่แปลกที่เจ้าตำหนักเรียกเขาไปพบ!

ข้าเดาว่าเจ้าตำหนักคงรู้ถึงศักยภาพของเขาแล้ว

นางคิดอย่างเงียบ ๆ ก่อนมองไปที่หลังของ หลิงอ่าวเทียน ดวงตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

หลิงอ่าวเทียน หันกลับมาอย่างห้าวหาญและเผชิญหน้ากับ เจวียนเอ๋อ พูด

“แม่นางเจวียนเอ๋อ เราขึ้นไปบนชั้นเจ็ดกันเถอะ โปรดนำทางข้าที”

พูดจบก็ยิ้มเจ้าเล่ห์

หล่อมาก!

หัวใจของเจวียนเอ๋อเต้นระรัวทันที

รูปลักษณ์ที่ชั่วร้าย บรรยากาศที่ผ่อนคลายแต่มั่นใจนี้ ทำให้ใบหน้าของนางร้อนรุ่ม หัวของนางถึงกับเวียนหัวเล็กน้อย และใบหน้าชองนางแดงก่ำ

ความรู้สึกนี้ …. วิเศษมาก….

นางรีบหันกลับมา ปิดหน้าอกที่สั่นเทาของนาง และสูดหายใจเข้าลึกๆ

จากนั้นแสร้งทำเป็นสลบและเดินไปที่บันได

นางเอยด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นธรรมชาติ “นาย… น้อยหลิง ได้โปรด… โปรดตามข้ามา…”

"ตกลง."

หลิงอ่าวเทียน ยิ้มและเดินตามไป

ในไม่ช้าทั้งสองก็ขึ้นไปที่ชั้นเจ็ด

ที่ชั้นบนสุดของชั้นเจ็ด มีเพียงห้องเดียวเท่านั้น

นั่นคือที่พักส่วนตัวของเจ้าตำหนักเดือนมืด, หลี่ชูโรว

เจวียนเอ๋อ ผลักเปิดประตูไปที่ห้อง

หลังจากที่ หลิงอ่าวเทียน เข้าไปแล้ว เจวียนเอ๋อ ก็ปิดประตู

และก่อนที่ประตูจะปิด นางแอบชำเลืองมองไปทางหลังของ หลิงอ่าวเทียน ผ่านประตู และใบหน้าของนางก็หน้าแดงอย่างอดไม่ได้อีกครั้ง

แม้แต่ท่ายืนก็หล่อมาก

ห้องกว้างขวางและสง่างามเต็มไปด้วยกลิ่นหอมจางๆ

หลิงอ่าวเทียน เงยศีรษะขึ้นสูง และจ้องมองไปรอบๆ

ถ้าเขาเดาถูก เจ้าตำหนักคนนั้นน่าจะกำลังแอบดูเขาอยู่

เจาต้องสร้างความประทับใจให้ได้

เบื้องหน้าเขามีฉากกั้นที่เป็นรูปดอกไม้สีฟ้า

เบื้องหลัง มีไอร้อน กลิ่นของดอกไม้ลอยโชยออกมา และเสียงน้ำไหลพร้อมกับเสียงฮัมเบาๆ ของผู้หญิง เจ้าตำหนักนี้กำลังอาบน้ำ?

หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างลึกลับ

นางเรียกให้ข้าที่มานี่คนเดียว นี่นางกำลังยั่วยวนข้าอยู่ใช่ไหม?

ถูกตัอง! นางต้องตรวจสอบข้าและรู้ถึงศักยภาพของข้า!

นางอาจกำลังแอบชอบข้า!

มุมปากของ หลิงอ่าวเทียนอดไม่ได้ที่จะยกขึ้นในขณะที่เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย

เขาก้าวเดินไปข้างหน้าทันที

โดยทันที.

เมื่อเขากำลังก้าวผ่านฉากกั้น

คลื่นเสียงที่มองไม่เห็นหลายสายก็พุ่งออกมาจากด้านหลังฉากกั้น

คลื่นเสียงทะลวงเข้าสู่หูของหลิง อ่าวเทียน ราวกับเข็มเล็กๆ นับล้าน จากนั้นก็เริ่มอาละวาดผ่านสมองของเขา

เกือบจะในทันที หลิงอ่าวเทียน รู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังกลับตาลปัตรและโกลาหลวุ่นวาย ตกอยู่ในเสียงโหยหวนไม่รู้จบ

“อ๊าก…!”

เขากุมศีรษะด้วยความเจ็บปวดและล้มลงคุกเข่า ใบหน้าของเขาแดงก่ำ หน้าผากของเขาปรากฏเส้นเลือดและเสียงคำรามเสียงดังออกมาจากลำคอของเขา

เขารู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณของเขากำลังจะแหลกสลาย!

ค่อยๆ.

หลังจากที่คลื่นเสียงหายไป ร่างกายของเขาก็ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง

ในขณะนี้ เสื้อผ้าของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อที่เย็นจัด การหายใจของเขาเริ่มมีเสียงดังและหนัก ศีรษะของเขายังคงรู้สึกมึนงง และวิญญาณของเขาสั่นสะท้านด้วยความตกใจ

“ท่านคือหลิงอ่าวเถียน ใช่ไหม? การที่ท่านสามารถทนต่อเสียงวิญญาณของเชี่นเชินได้และไม่หมดสติ ท่านค่อนข้างเก่งกาจเลยทีเดียว” (妾身 เชี่นเชิน คำเรียกแทนอย่างถ่อมตนของผู้หญิง)

เสียงผู้หญิงที่นุ่มนวลดังขึ้นในหูของ หลิงอ่าวเทียน

เขาพยายามเงยหน้าขึ้นแม้จะกำลังมึนงง

เท้าที่เรียวเล็กปกคลุมไปด้วยหยดน้ำและชุดยาวสีน้ำเงินซึ่งคลุมทั้งส่วนบนและส่วนล่าง แต่เผยให้เห็นสะดือสุดเซ็กซี่ เมื่อมองขึ้นไปบนยอดเขาและหุบเหว จะมองเห็นกระดูกไหปลาร้าและคอหยกที่เย้ายวน ผมสีดำแวววาวราวกับหยกถูกพันตรึงไว้ด้วยปิ่น และติ่งหูถูกติดด้วยตุ้มหูสีฟ้า

หน้าตางดงามเหมือนลูกท้อ ดวงตาเปรียบเสมือนดวงดาวที่ลาลับฟ้า และรอยยิ้มที่สงบอ่อนโยน!

" งด …งาม."

หลิงอ่าวเทียนจ้องมองอย่างว่างเปล่า

ถ้าเสวี่ยเมิ่งหานคือดอกบัวที่ละเอียดละอ่อนที่สวยงาม

จากนั้น หลี่ชูโรว ประมุขของตำหนักเดือนมืด นี้ก็เป็นลูกท้อที่สุกงอมและรอเก็บเกี่ยว

นางสมควรที่จะเป็นหนึ่งในสามสาวงามแห่งเมืองเสวี่ย!

เมื่อ หลี่ชูโรว เห็น หลิงอ่าวเทียน จ้องมาที่นางด้วยความงุนงง นางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยจากนั้น

นี่คือ… พระเอก?

เขาค่อนข้างอ่อนแอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด