ตอนที่ 1273+1274 การหย่าร้าง
ตอนที่ 1273 การหย่าร้าง
ตระกูลเจียง รวมไปถึงนายลู่ และนางลู่ได้ยินน้ำเสียงของผู้หญิงคนนั้น พวกเขารู้ว่าเธอมาโดยมีเจตนาไม่ดี ผู้หญิงคนนั้นไม่รู้จักการขอบคุณ เธอไม่ได้รู้สึกขอบคุณต่อตระกูลเจียงแม้แต่น้อยที่เลี้ยงดูเจียงเหยา
นางซุนเยาะเย้ย “ตระกูลเจียงคงตาบอดเพราะน้ำมันหมู ลูกสาวของฉันเพิ่งจะเรียนม.ปลาย ปีสอง เธออายุเพียง 18 ปี แต่คุณปล่อยให้เธอแต่งงาน ถ้าคุณห่วงใยเธอ คุณจะปล่อยให้เธอแต่งงานในขณะที่เธอยังเรียนหนังสืออยู่ได้อย่างไร ครอบครัวของคุณคอยบอกว่าคุณห่วงใยลูกของคุณ ในท้ายที่สุด คุณไม่ได้ไล่เธอออกจากบ้านแต่เนิ่น ๆ เพราะอยากได้เงินค่าหมั้นหรอกหรือ ยังจะกล้าพูดอีกว่าเป็นห่วงเธอ”
ไม่มีใครสามารถหักล้างเธอได้ นางซุนกล่าวว่า “ฉันไม่เพียงมาที่นี่เพื่อมาหาเธอ แต่ฉันต้องการให้เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนบ้านนอกอย่างพวกคุณด้วย ฉันอยากให้เธอหย่ากับสามี ลูกสาวของฉันจะแต่งงานกับลูกชายของคุณได้ยังไง แม้ว่าครอบครัวเซี่ยจะตกต่ำ แต่เราเป็นครอบครัวนักวิชาการ ลูกหลานของเราไม่สามารถอยู่แบบนี้ได้”
“คุณมันคนใจร้าย”
นางเจียงโกรธจนแทบจะเป็นลม ตระกูลลู่ได้มอบสินสอดทองหมั้นให้กับตระกูลเจียง ลู่ชิงสีได้ให้เงินจำนวนหนึ่งแก่พวกเขา อย่างไรก็ตาม นายเจียงและนางเจียงไม่ได้เอามาใช้แม้แต่สตางค์เดียว พวกเขานำเงินค่าสินสอดทองหมั้นทั้งหมดคืนให้กับเจียงเหยา
นางเจียงไม่ได้ไร้ความสามารถจนต้องเอาเงินสินสอดของลูกสาวมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว
เมื่อนางซุนพูด แม้แต่ซุนเสี่ยวจ้านและพ่อของเธอก็ตกใจ พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่านางซุนจะรุกรานสมาชิกในครอบครัวของเจียงเหยา ทันทีที่เธอมาถึง นอกจากนี้ เธอต้องการให้เจียงเหยาหย่ากับสามีของเธอ
“แม่คะ อย่าเป็นแบบนี้สิคะ”
ซุนเสี่ยวจ้านแนะนำแม่ของเธอ “เราเคยเห็นพวกเขามาก่อน พวกเขารักกันดี แล้วทำไมต้องหย่าด้วย พวกเขาแต่งงานกันเร็ว อาจเป็นเพราะรู้จักกันมาก่อน อีกอย่าง กฎหมายระบุว่าเด็กผู้หญิงแต่งงานได้เมื่ออายุ 18 ปีนี่คะ”
นายซุนไม่ได้สติคืนมาเป็นเวลานาน เขามองภรรยาของเขาด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงหมู่บ้าน พวกเขาได้สอบถามเกี่ยวกับคู่สามีภรรยาคู่นี้ ทุกคนบอกว่าทั้งคู่สนิทกันมาก คุณซุนจึงตกใจที่ภรรยาของเขาพูดถึงการหย่าร้างกับสมาชิกในครอบครัวของเจียงเหยา
“ชิวหรานอย่าหุนหัน” นายซุนพยายามจะหยุดเธอ เจียงเหยาและสามีของเธอสนิทสนมกัน ทำไมแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอถึงอยากให้ทั้งคู่เลิกรากันตั้งแต่แรกพบ เธอยังต้องการลูกสาวของเธอหรือไม่ เธอพยายามสร้างศัตรูหรือเปล่า
นอกจากนี้ ดูเหมือนเธอจะทำให้ตระกูลเจียงขุ่นเคือง ถ้าเธอเป็นแบบนี้ เธอจะเกลียดลูกสาวของเธอด้วยไหม เธอต้องการสร้างปัญหาให้กับเจียงเหยาหรือไม่ เด็กจะเผชิญกับครอบครัวของเธอในอนาคตได้อย่างไร
“เจ้าบ้า เลอะเลือนกันไปหมดแล้ว” นายเจียงมองไปรอบ ๆ อย่างโกรธจัด แต่เขาไม่พบเครื่องมือที่เหมาะสม เขาหยิบเก้าอี้ขึ้นมาทันทีและกำลังจะโยนมันใส่ผู้อาวุโสจากตระกูลซุน เขาโกรธจนไม่รู้จะพูดอะไร “พาลูกสาวที่พิการของแกแล้วออกไปซะ ไปให้พ้น”
“ลูกสาวฉันไม่ได้พิการ” นางซุนตะโกนอย่างโกรธจัด “กล้าดียังไงมาว่าลูกสาวฉัน ฉันเอาเลือดหัวแกออก”
“แม่คะ”
ซุนเสี่ยวจ้านกลัวมากจนร้องไห้ออกมา เธอยืนขึ้นและต้องการดิ้นรน แต่ทั้งร่างของเธอเริ่มสั่นหลังจากผ่านไปเพียงสองก้าว อาจเป็นเพราะเธอตกใจกับฉากนั้น อารมณ์ของเธอจึงผันผวนอย่างมาก เธอจับหน้าอกของเธอและเป็นลม
__
ตอนที่ 1274 ไม่มีทาง
นายซุนไม่สนใจที่จะหยุดภรรยาของเขา เขารีบอุ้มลูกสาวกลับขึ้นไปบนรถเข็นและให้ยาสองเม็ดแก่เธอ จากนั้นเขาเห็นภรรยาของเขายังต่อสู้เหมือนคนอวดดี เขาตะโกนว่า “คุณจะพอได้หรือยัง ลูกสาวของคุณกลัวมากจนเป็นลมไปแล้ว คุณยังจะทำแบบนั้นต่ออีกเหรอ คุณคงจะมีความสุขมากสินะถ้าลูกสาวของคุณตาย”
นางซุนและนางซุนรีบออกจากหมู่บ้านเพราะอาการป่วยของซุนเสี่ยวจ้าน ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังรีบส่งซุนเซียวจ้านไปที่โรงพยาบาล
หลังจากที่ทั้งสามคนจากไป นางเจียงก็นั่งอยู่ที่นั่นและร้องไห้ เธอร้องไห้ขณะที่เธอเต็มไปด้วยความโกรธ เธอหายใจหอบ “เหยาเหยามีชะตากรรมแบบไหนกัน เธอมีพ่อแม่ทางสายเลือดแบบไหนกัน พ่อผู้ให้กำเนิดและย่าแท้ ๆ ต้องการให้เธอหนาวตาย แม่ผู้ให้กำเนิดต้องการแยกทางเธอกับลู่ชิงสี ราวกับคนบ้า เธอต้องการทำให้ชีวิตของเธอยุ่งเหยิง”
“แม่ ผู้หญิงคนนั้นอาจจงใจทำอย่างนั้น”
เจียงเจี๋ยรีบเดินไปข้างหน้าเพื่อปลอบโยนเธอ “เธออาจพยายามทำให้เราโกรธ เมื่อถึงเวลา เธอต้องการให้เราระบายความโกรธที่เหยาเหยาและไล่เธอออกจากบ้าน ด้วยวิธีนี้เธอจะสามารถพาเหยาเหยากลับไปได้และปฏิบัติกับเธอเป็นลูกสาวของพวกเขาได้”
“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น”
นางลู่พยักหน้าเช่นกัน พวกเขาคงต้องการผูกขาดเจียงเหยา เขาไม่สามารถคิดหาเหตุผลอื่นใดได้เลย
“คุณนายเจียงอย่าร้องไห้ เหยาเหยาเป็นเด็กฉลาดมาก นอกจากนี้ การแต่งงานของเธอกับชิงสีถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการแต่งงานทางทหาร ผู้หญิงคนนั้นไม่สามารถทำลายพวกเขาได้”
นางลู่ตบไหล่นางเจียงเพื่อปลอบใจ เธอยังให้ความมั่นใจกับเธอ
“ตระกูลลู่จะยอมรับเหยาเหยาเป็นลูกสะใภ้ของเราเท่านั้น ถ้าใครกล้าแย่งเธอไปจากเรา จะต้องผ่านฉันไปก่อน ฉันไม่ยอมถูกรังแกง่าย ๆ แน่”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการบอกให้เหยาเหยารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ เธออาจจะไปที่มหาวิทยาลัยของเหยาเหยาและตามหาเธอที่นั่น ถ้าเหยาเหยารู้เรื่องนี้จากพวกเขา เธออาจจะคิดมากและเศร้ากว่านี้” นายลู่หยุดครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ผู้หญิงคนนั้นไม่พูดอะไรดี ๆ เลย มันคงไม่ดี ถ้าเธอบอกว่าคุณขโมยลูกของเธอไป ผู้หญิงคนนั้นดูเป็นคนเลว”
“แต่เหยาเหยาไม่ได้โทรกลับมาที่บ้านเลย และฉันไม่รู้ว่าเธอจะโทรหาเราเมื่อไหร่”
เจียงเจี๋ยถอนหายใจ “บอกลู่ชิงสีเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่เถอะครับ อันที่จริง ชิงสีเขารู้เรื่องนี้แล้ว”
“อะไรนะ”
เมื่อเจียงเจี๋ยกล่าวว่าลู่ชิงสีรู้อยู่แล้วว่าเจียงเหยาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของตระกูลเจียง ทุกคนในห้องต่างก็ตกใจ
“มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่” พ่อแม่ของเจียงเจี๋ยถามขึ้นพร้อมกัน
“ช่วงปีใหม่ พวกเขาคงสังเกตเห็นการแสดงออกของพ่อกับแม่ เขาถามผมและผมไม่สามารถปิดบังเขาได้ ให้เขาคุยกับเหยาเหยา และอาจขอให้เขาพาเธอมาที่นี่” เจียงเจี๋ยกล่าว
“ถ้าชิงสีรู้เรื่องนี้แล้ว เหยาเหยาจะรู้เรื่องนี้ด้วยไหม เขาจะบอกเหยาเหยาไหม” นางเจียงถาม
“ไม่หรอกครับ”
“เป็นไปไม่ได้”
เจียงเจี๋ยกล่าวประโรคแรก และนางลู่กล่าวประโยคสุดท้าย ลู่ชิงสีบอกเจียงเจี๋ยให้ปิดบังเรื่องนี้จากเจียงเหยาและนางลู่รู้จักลูกชายของเธอดี
“ด้วยนิสัยของชิงสี เขาจะไม่บอกเหยาเหยาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจะคิดวิธีที่จะปิดบังเธอ เขาต้องกลัวว่าเหยาเหยาจะได้รับผลกระทบหายเธอรู้เรื่องนี้” นางลู่กล่าว