บทที่ 11 เรียกข้าว่าอาจารย์ซุน!
"โปรดให้เราได้ชื่นชมฝีมือนวดของอาจารย์ด้วย!"
หวังฮ่าวและโจวชี่คำนับคารวะด้วยความจริงใจอย่างที่สุด
มนุษย์ก็เป็นเช่นนั้นยิ่งพวกเขาได้อะไรมาง่าย พวกเขาจะหวงแหนน้อยลง พวกเขาสามารถบอกได้ว่าซุนม่อไม่ต้องการแสดงฝีมือนวดของเขา และเรื่องนี้ทำให้พวกเขาประหม่าเก้อเป็นอย่างมากจนพวกเขารู้สึกกระวนกระวาย
หลี่กงตัดสินใจว่าจะไม่สร้างความลำบากใจให้ซุนม่อในเวลานี้เขาต้องการสังเกตการสักครู่ ถ้าซุนม่อมีความสามารถจริงๆ หลี่กงคงต้องเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเขา
"เอาอย่างนั้นก็ได้!"
เพื่อทำภารกิจใหม่ให้สำเร็จซุนม่อได้แต่ทำแบบนี้ "อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่วิชานวดธรรมดา นี่คือหัตถ์มังกรโบราณ!"
"ช่างเป็นชื่อทรงพลังเสียจริง!"
หวังฮ่าวตะลึง
"น่าเกรงขาม"
โจวซี่ชื่นชม
"นี่คือยอดวิชาที่สาบสูญไปตั้งแต่ยุคโบราณกาลหลังจากใช้วิชานี้แล้วจะช่วยชำระเส้นชีพจรและกรุยเส้นทางโคจรปราณของพวกเจ้า ปรับปรุงการไหลเวียนของโลหิตไปยังกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของพวกเจ้าได้ ช่วยให้พวกเจ้ามีภูมิต้านทานต่อโรคภัยต่างๆนับร้อยและคงสภาวะสูงสุดไว้เป็นระยะเวลานาน"
ซุนม่อไม่ตั้งใจจะหลอกลวงผู้คนแต่เขารู้สึกว่าชื่อวิชานวดแผนโบราณน่าเกลียดเกินไป ฟังแล้วไม่ต่างกับการนวดตามสถานบันเทิงบริการ
สายตาของชีเซิ่งเจี่ยฉายแววกระตือรือร้น นึกถึงว่าเมื่อคืนนี้ร่างของเขาก็ถูกนวดด้วยวิชาที่น่าทึ่งเช่นนี้เขาซาบซึ้งจนถึงกับตัวสั่น
"เจ้าเข้ามาก่อน นอนลงบนแผ่นกระดาน!"
ซุนม่อชี้ไปที่หวังฮ่าว
หวังฮ่าวไปที่แผ่นกระดานทันทีและนอนลงอย่างว่าง่ายร่างของเขาเหยียดตรงราวกับปลาเค็มที่รอการเข้าบรรจุภัณฑ์
"ผ่อนคลายไว้!"
ซุนม่อสั่งมือของเขาคว้าจับและใช้กำลังเพื่อนวดเส้นเลือดที่ต้นขาของหวังฮ่าว
"อ๊ากก!"
ความเจ็บปวดแผ่ลามขยายจากน่องของเขาจนหวังฮ่าวแหกปากร้อง ร่างครึ่งหนึ่งถึงกับชาด้าน
"เจ้าขี้เกียจเกินไป แม้แต่เส้นเอ็นของเจ้าก็เริ่มขึ้นสนิมแล้ว"
ซุนม่อขมวดคิ้ว เคล็ดโคจรพลังระดับผู้เชี่ยวชาญทำให้เขาประเมินเงื่อนไขของเส้นลมปราณของหวังฮ่าวได้อย่างแม่นยำ
คุณค่าศักยภาพที่เป็นไปได้ของหวังฮ่าวสูงกว่าชีเซิ่งเจี่ยอย่างไรก็ตามคุณภาพร่างกายของเขาอยู่ในระดับธรรมดา
"ข้า..ข้าจะเริ่มฝึกหนักตั้งแต่พรุ่งนี้!"
หวังฮ่าวหน้าแดงพูดตะกุกตะกัก ในขณะเดียวกันเขายิ่งชื่นชมซุนม่อมากยิ่งขึ้นความจริงนับตั้งแต่เขาติดหนังสือปลุกเร้าอารมณ์บุรุษเขากลับใช้เวลาฝึกฝนประจำวันลดลงครึ่งหนึ่ง
อาจารย์ซุนสามารถบอกสภาพของเขาได้เพียงแค่นวดต้นขา อาจารย์ซุนยอดเยี่ยมเหลือเกิน!
เมื่อความเจ็บปวดจางหายไป, กระแสพลังอุ่นก็ก่อตัวขึ้นในร่างของเขา หวังฮ่าวครางอย่างสบายใจเขารู้สึกว่าความเหนื่อยล้าที่สะสมในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาได้หายไปแล้ว
ห้านาทีต่อมาซุนม่อได้ยินเสียงเตือนของระบบ
"ติง!เวลาใช้งานของเส้นเดินปราณของผู้รักษาขยายเป็น 120 ชั่วโมง"
"หมายความว่ายังไง?" ซุนม่อถามเนื่องจากเขาไม่เข้าใจ
"อวัยวะหลักของร่างกายมนุษย์มีอายุการทำงานหลังจากผ่านไปหลายปี อวัยวะเหล่านั้นจะลดประสิทธิภาพลงเส้นโคจรปราณก็ใช้หลักการเดียวกัน วิชานวดของเจ้าช่วยให้เส้นเดินปราณของผู้รักษามีประสิทธิภาพได้ดีที่สุดเป็นเวลา 120 ชั่วโมงคูณ 2" ระบบอธิบาย
"120 ชั่วโมงคูณ 2 ก็หมายถึง 240 ชั่วโมง หรือเท่ากับ 10 วัน เวลาน้อยเกินไปหรือเปล่า?"
ซุนม่อคำนวณทันที คนเราสามารถทำอะไรได้บ้างใน 10 วัน?
ประสิทธิภาพที่เหมาะสมที่สุดคือเมื่อเส้นทางโคจรพลังอยู่ในสถานะ'ปะทุรุนแรง' เจ้าจึงสามารถขยายเวลาไปได้ 240 ชั่วโมง"
ระบบตอบกลับ
ซุนม่อพยักหน้าเข้าใจในกรณีนี้เคล็ดโคจรพลังนับว่าน่าพอใจจริงๆ ถ้าเขายกระดับถึงขั้นปรมาจารย์หรือบรรพบุรุษการยกระดับวิชานี้จะพาเขาไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า
"เอาล่ะคราวนี้ ถึงตาเจ้าแล้ว!"
ซุนม่อไม่ได้นวดพวกเขาโดยไม่ได้อะไร ความเข้าใจเคล็ดโคจรพลังของเขามีความก้าวหน้าเล็กๆ อีกครั้ง
หวังฮ่าวยืนบนพื้นและอดที่จะกระโดดไปรอบๆไม่ได้ เขาชกลมสองสามครั้ง ตอนนี้เขารู้สึกร่างกายผ่อนคลายและเบาขึ้น หมัดของเขามีความแม่นยำมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเขาสามารถสัมผัสได้ถึงการโคจรพลังปราณในร่างของเขานั้นทำได้เร็วขึ้น
หวังฮ่าวมีความสุขทันทีก่อนหน้านี้การโคจรพลังปราณในร่างของเขาเฉื่อยชา ตอนนี้โคจรได้เร็วขึ้นก็หมายความว่าสภาพร่างกายของเขาดีขึ้นและระดับการฝึกปรือของเขาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ถ้าเขาสามารถรักษาสภาพเช่นนี้อยู่ได้ เขาจะบรรลุระดับ 5ในขอบเขตปรับสภาพกายได้อย่างรวดเร็ว
"อาจารย์ซุน, ขอบคุณ!"
ติง! คะแนนความประทับใจจากหวังฮ่าว+18
คะแนนความสัมพันธ์กับหวังฮ่าวรวมสถานะ : เป็นกลาง (23/100)
โจวชี่หลับตาอย่างสบายใจ บิดาของเขาเป็นพ่อค้าชา และเขาค่อนข้างมั่งคั่ง ดังนั้นโจวชี่จึงมักไปตามสมาคมต่างๆและเพลิดเพลินกับการนวดทุกประเภท แต่แม้กระทั่งหมอนวดสูงอายุที่มีประสบการณ์มากมายก็ยังไม่มีทางเทียบกับซุนม่อได้
วิชานวดของซุนม่อไม่ใช่จินตนาการไปเองแต่ผลของมันนั้นเกินกว่าสิ่งใดเปรียบปาน
"ติงเวลาใช้งานปกติของเส้นโคจรปราณของเป้าหมาย ขยายออกไป 100 ชั่วโมง"
เสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น
"เสร็จแล้ว!"
ซุ่นม่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและเข้าใจได้ว่าไม่ใช่ว่าเขานวดไม่ดีพอ แต่เพราะเส้นโคจรปราณของโจวชี่ดีกว่าเส้นปราณของหวังฮ่าวดังนั้นการนวดจึงทำให้เขาดีขึ้นเล็กน้อย
สิ่งนี้ยังเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าการฝึกปรือ, ความถนัดการควบคุมอาหารและด้านอื่นๆ ของโจวชี่นั้นเหนือกว่าหวังฮ่าว ถ้าไม่อย่างนั้นโจวชี่คงไม่มีระดับที่สูงกว่า
โจวชี่ไม่ได้ลุกขึ้นทันทีหลังจากนวดเสร็จ เขาเริ่มหายใจเข้าออกควบคู่ไปกับการโคจรพลังปราณจิต ในไม่ช้าพลังปราณจิตของเขาที่อยู่โดยรอบก็เริ่มรั้งรวมตัวกันและก่อเป็นเกลียวเล็กๆ ก่อนเข้าสู่ร่างกายของเขา
บึ้ม!
ชุดของโจวชี่พองขึ้นกล้ามเนื้อของเขาเต็มเป็นประกายด้วยชั้นแสงจางๆ
แคร็ก แคร็ก!
กระดูกของโจวชี่ส่งเสียงลั่น
"นี่จะบรรลุระดับใหม่หรือนี่?"
"ชู่วว!"
ชีเซิ่งเจี่ยและหวังฮ่าวส่งสัญญาณให้หลี่กงรีบหุบปากไม่ส่งเสียงรบกวนโจวชี่
ซุนม่อถอยออกมาสองสามก้าวแล้วกอดอกยืนสังเกตโจวชี่
ไม่นานหลังจากนั้นก็มีเสียงปะทุราวกับลูกโป่งแตกภายในตัวโจวชี่พลังปราณจิตที่รวบรวมในตัวเขาปะทุออกมากระจายออกไปโดยรอบทำให้ฝุ่นธุลีที่นี่ฟุ้งขึ้นหลังจากนั้นการหายใจของโจวชี่ก็ปรับสู่ระดับปกติ
พลังปราณในบริเวณโดยรอบกลับสู่สภาพปกติเหมือนก่อนหน้านี้
กระบวนการบรรลุระดับใหม่ของเขาเสร็จสิ้นแล้ว
"ฮ่าฮ่าฮ่าข้าทะลวงถึงระดับ 6 ของขอบเขตปรับสภาพกายแล้ว!"
โจวชี่หัวร่อดังๆเขาอดที่จบตบหน้าอกตัวเองไม่ได้ หลังจากร่างกายปรับสภาพเป็นระดับ 9 ขอบเขตปรับจิตวิญญาณก็อยู่ไม่ไกลจากเขา
"อาจารย์ซุน!วิชาหัตถ์มังกรโบราณของท่านน่าทึ่งจริงๆ!"
โจวชี่ยกย่องเขาอย่างจริงใจในฐานะบุรุษหนุ่มผู้มีศักยภาพทั่วไป ความรับรู้ของเขาเหนือกว่าหวังฮ่าว เขารู้สึกได้ว่าขณะที่ซุนม่อกำลังนวดเขา การโคจรพลังปราณจิตของเขาเร็วขึ้นมากและเพิ่มปริมาณขึ้นด้วย
พลังปราณเป็นรากฐานของทุกอย่าง
ระหว่างต่อสู้ผู้ฝึกปรือต้องใช้พลังปราณจิต ยิ่งโคจรพลังปราณได้เร็วเท่าใดพลังปราณจะถูกเติมเต็มเร็วขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังแสดงว่าพลังยุทธ์ของคนๆหนึ่งจะสูงขึ้น
"ยินดีด้วย!"
ชีเซิ่งเจี่ยตบไหล่เพื่อน "ข้าพูดถูกไหมเล่า? อาจารย์ซุนน่าทึ่งมาก!"
"ยินดีด้วย!"
หวังฮ่าวร่วมแสดงความยินดีกับโจวชี่ เขารู้สึกอิจฉาและหงุดหงิดตัวเอง หลังจากนวดแล้วอาการของเขาดีขึ้นมากเป็นโอกาสดีที่สุดในการพยายามฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อยกระดับ แต่ทำไมเขาไม่คิดถึงมัน
เขามีโอกาสเหมือนกันแต่ไม่สามารถไขว่คว้าเอาไว้ได้ มันน่าหดหู่ใจเกินไป
ติง! คะแนนความประทับใจจากโจวชี่+25
คะแนนเชื่อมสัมพันธ์กับโจชี่ปลดล็อค: เป็นกลาง (25/100)
"บัดซบ, ไอ้หนุ่มข้าวนุ่มมันยอดเยี่ยมจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?"
หลี่กงตกตะลึง อย่างไรก็ตาม ความจริงก็ปรากฏต่อหน้าของเขา
"อาจารย์!คืนนี้ท่านว่างไหม? ข้าขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงมื้อค่ำแสดงความขอบคุณต่อท่าน"
โจวชี่ยิ้มเต็มหน้า
โจวชี่มาจากตระกูลพ่อค้ารู้ว่าเมื่อใดจะคว้าโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นแม้ว่าทักษะในการสอนของซุนม่อจะยังไม่ดีพอ แต่วิชาหัตถ์มังกรโบราณก็เพียงพอให้เขาใช้เงินจำนวนมากเพื่อทำความรู้จักซุนม่อ
"ข้ายุ่งมาก!"
ซุนม่อไม่เคยเข้าร่วมกับคำเชิญแบบนี้
"ขออภัยศิษย์ผู้นี้ใจร้อนเกินไป"
โจวชี่รีบขอโทษและแสดงความเสียใจ เขาเพิ่งบรรลุระดับใหม่จึงมีความตื่นเต้นเกินไป ดังนั้นเขาคิดว่าเรื่องมันง่ายเกินไป คำเชิญแบบนี้ พ่อของเขาควรจะเป็นคนส่งและเขาควรจะเตรียมของขวัญให้ซุนม่อต้องอย่างนั้นการกระทำของเขาจึงจะมีน้ำหนักเพียงพอ
"เอาเถอะถ้าไม่มีอะไรอย่างอื่น ก็แยกย้ายกันไปได้แล้ว จงฝึกฝนให้หนักเมื่อพวกเจ้ากลับไป"
ซุนม่อโบกมือเขายังต้องจัดการกับหลี่กง
หลังจากได้ยินคำนี้แล้วชีเซิ่งเจี่ยและสหายก็คำนับด้วยความสำรวม"อย่างนั้น ศิษย์ขอลาก่อน!"
"ซุนม่อ!ช่วยรักษาขาง่อยเปลี้ยของข้าให้หายได้ไหม?"
เมื่อเห็นนักเรียนสามคนจากไปหลี่กงอดถามไม่ได้
"ระบบ, ข้าจะฝึกเคล็ดโคจรพลังของข้าให้เป็นระดับปรมาจารย์ได้อย่างไร?"
ซุนม่อถาม
"ใช้เคล็ดโคจรพลังครบหมื่นชั่วโมงเมื่อความสามารถของเจ้าเติบโตขึ้น เจ้าจะบรรลุระดับปรมาจารย์ได้"
ระบบแจ้งให้ทราบ
"หลายชั่วโมงยิ่งนัก"
เมื่อเขาได้ยินถึงระยะเวลาที่ต้องการซุนม่อหมดความสนใจอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นมหาคุรุ แต่ก็ไม่อยากเป็นหมอนวดต๊อกต๋อยเช่นกัน
"ทักษะเคล็ดวิชาทั้งหมดล้วนเกิดจากการกลั่นตัวของประสบการณ์การถูกเรียกว่าปรมาจารย์หมายความว่าเจ้าจะดำรงอยู่ในจุดสูงสุดของเส้นทางสายนี้"
ระบบสามารถพูดถึงสิ่งที่ลึกซึ้งเป็นปรัชญาแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ? ซุนม่อรู้สึกประหลาดใจจริงๆ
"ซุนม่อ!"
หลี่กงเดินมาที่ด้านหน้าซุนม่อแล้วตะโกนใส่
"เราสนิทกันขนาดนั้นเชียวเหรอ?" ซุนม่อแก้ไข "เรียกข้าว่าอาจารย์ซุน!"
"เจ้า...."
หลี่กงรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งแต่เมื่อเขานึกถึงขาง่อยเปลี้ยของตน เขายิ้มออกมา "อาจารย์ซุน!"
"สามตัวอย่างเหล่านี้เพียงพอให้เจ้าเชื่อคำพูดข้าได้หรือยัง?"
ซุนม่อใช้พลังเนตรทิพย์และเหลือบมองขาง่อยเปลี้ยของหลี่กง ไม่มีข้อผิดพลาดนี่เป็นปัญหาของเส้นชีพจรที่เสียหาย และเขารักษาได้
"ถ้าเจ้ารักษาข้าได้ข้าจะไม่กวนใจเจ้าอีกต่อไป"
หลี่กงยื่นข้อเสนอ
"เจ้าก็อายุ 40 ปีแล้ว ทำไมยังทำตัวไร้เดียงสา?" ซุนม่อเยาะเย้ย
"อย่างนั้นเจ้าต้องการอะไร?"
เผียะ!
ซุนม่อเงื้อมือและตบหน้าข้างซ้ายของหลี่กงทิ้งรอยฝ่ามือไว้บนใบหน้า
"เจ้าตบข้า?"
หลี่กงตะลึง "เจ้ากล้าตบข้าจริงๆ หรือ?"
แม้ว่าเขาจะมาจากแผนกรับส่งพัสดุแต่เขาอยู่ในโรงเรียนนี้มา 7 ปีแล้ว แม้แต่ครูเมื่อเห็นเขาก็ยังพยักหน้าทักทายทำให้เขารู้สึกภูมิใจในตัวเองอยู่บ้าง แต่วันนี้เขาโดนครูฝึกสอนตบ? ไม่ ซุนม่อไม่ได้เป็นครูฝึกาอนด้วยซ้ำ
เผียะ!
ซุนม่อไม่สนใจหลี่กงที่โกรธเหมือนหมาบ้าขณะเขาตบด้วยหลังมือของเขา "งั้นเจ้าเป็นคนดีสินะ?"
การเยาะเย้ยนี้ทำให้ความโกรธของหลี่กงกระพือโหม ใบหน้าแก่เหี่ยวย่นแดงก่ำ "วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้า!"
"เจ้าอยากขาง่อยเปลี้ยไปตลอดใช่ไหม?"
ซุนม่อไม่หลบเขายังคงยืนอยู่ที่เดิม มองหลี่กงอย่างสงบ
หลี่กงเหมือนถูกถังน้ำแข็งราดรดศีรษะความโกรธของเขามอดลงทันที ขณะที่เขายืนนิ่งอยู่กับที่สีหน้าของเขาเขียวคล้ำอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ขาของเขาง่อยเปลี้ยมากว่า 12 ปี และได้ไปพบหมอมามากมาย แต่ทุกคนไม่มีวิธีแก้ปัญหา หลี่กงค่อยๆ ยอมแพ้แต่ตอนนี้โอกาสอยู่ต่อหน้าต่อตา เขาไม่อยากพลาดเลย
“ถ้าข้าเดินได้ตามปกติคนอื่นจะไม่มองข้าอย่างดูถูกอีกต่อไป หากขาของข้าหายดีข้าจะสามารถหางานทำได้ดีขึ้น…”
ขาง่อยเปลี้ยไม่เพียงแต่ทำให้หลี่กงพิการทางร่างกายเท่านั้นเขายังรู้สึกด้อยกว่าคนอื่นในใจ คำว่า 'คนพิการ' ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง
“เจ้าเป็นครูฝึกสอนภายใต้การดูแลของข้าเจ้าไม่กลัวที่จะถูกไล่ออก ถ้าข้าบอกว่าการกระทำของเจ้าไม่ดีเหรอ?”
หลี่กงขู่
คำตอบของซุนม่อนั้นง่ายมากเขาตบอีก
ผัวะ
เสียงดังฟังชัดรอยฝ่ามือของเขาชัดเจนมาก