866 - ทายาทพุทธะ
866 - ทายาทพุทธะ
“ทุกคนเรากำลังรออะไรอยู่ โอกาสนี้หายากเราจะร่วมมือกันเพื่อฆ่าเขาและครอบครองหม้อปราณปัฐพีต้นกำเนิด” สตรีศักดิ์สิทธิ์ของสำนักหยินหยางกล่าวผ่านการส่งสัญญาณเสียง
พวกเขาพบกันบนถนนแคบๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่านางไม่มีความกลัวในใจ แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นๆ ทุกคนจำเป็นต้องร่วมมือร่วมกันเท่านั้นนางจึงจะมีโอกาสรอด
“ข้าได้สังหารบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์ของสำนักหยินหยางมาแล้ว เจ้าผู้เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์สำรองเลือดของเจ้าไม่คู่ควรแปดเปื้อนมือของข้าด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามในเมื่อเจ้ารนหาที่เองข้าก็จะสนองอย่างถึงที่สุด”
“ฆ่าเขา”
อีกคนตะโกน เมื่อชื่อของเย่ฟ่านดังขึ้นก็ไม่มีใครคิดจะต่อสู้กับเขาตัวต่อตัวอีกต่อไป
“อย่ากลัวไปเลย ตัดหัวของเขาก่อน ต่อให้ร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขาแข็งแกร่งกว่านี้ก็ยากที่จะทำอะไรได้” ชายคนหนึ่งกล่าว
พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องร่วมมือกัน ไม่เช่นนั้นการต่อสู้เพียงลำพังจะนำพาโชคร้ายมาหาตัวเองอย่างแน่นอน
“ฮึ่ม!”
เย่ฟ่านแค่นเสียงอย่างเย็นชา ร่างของเขากลืนเข้าไปในความว่างเปล่าและพุ่งเข้าหาคนทั้งกลุ่มด้วยสภาวะอันแข็งแกร่ง
“จงตายซะ!”
คนอื่นๆ ตะโกน แต่ละคนเรียกอาวุธศักดิ์สิทธิ์ออกมา ในช่วงเวลาวิกฤตนี้ไม่มีผู้ใดกล้าซุกซ่อนความแข็งแกร่งอย่างแน่นอน
เย่ฟ่านก็ไม่มีความลังเลเช่นกัน กำปั้นสีทองอันใหญ่โตมโหฬารของเขาทุบเข้าหาทุกคนอย่างแข็งแกร่ง
“แย่แล้ว!”
เย่ฟ่านบดขยี้หัวใจของชายหนุ่มชุดขาวจนแหลกละเอียด ร่างกายของเขาแตกกระจายไปทุกทิศทุกทาง แต่เสื้อคลุมสีม่วงของเย่ฟ่านกลับไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
...
“อา...”
ในที่สุด อีกคนก็กรีดร้องและถูกเย่ฟ่านตบลงไปในโคลน
“เกิดอะไรขึ้นนั่นคือเย่เจ๋อเทียนเขากำลังไล่ฆ่าเหยียนอวิ๋นหราน, หยางเซิ่งและคนอื่นๆ” หลายร่างปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอันไกลโพ้นด้วยความตกตะลึงอย่างยิ่ง
สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากสำนักฉีซื่อไปเพียงสี่สิบลี้ ผู้คนที่ผ่านไปมาย่อมเห็นการต่อสู้ที่นี่โดยธรรมชาติ
“ทรราชแห่งดินแดนรกร้างตะวันออกอยู่ที่นี่แล้ว”
ตั้งแต่ที่ตัวตนของเย่ฟ่านถูกเปิดเผย ทุกคนต่างคาดเดากันว่าเขาจะมาอีกเมื่อไหร่
“มหาอำนาจรุ่นเยาว์เกือบทั้งหมดจากทั้งห้าภูมิภาคหลักได้เข้าไปในสำนักฉีซื่อ เขาเป็นคนเดียวที่ไม่คิดจะเข้าร่วมสำนัก และในที่สุดเขาก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง มาดูกันว่าใครอ่อนแอกว่าและใครแข็งแกร่งกว่ากัน”
ในชั่วพริบตาคนหลายสิบคนก็ปรากฏขึ้นในระยะไกล ทุกคนเฝ้าดูการต่อสู้
มือสีทองของเย่ฟ่านตบชายที่แข็งแกร่งคนหนึ่งจนกลายเป็นหมอกเลือด และผู้คนที่ปิดล้อมเขาก็เริ่มหวาดกลัวและมีหลายคนวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต
ในที่สุดก็มีคนทนการทรมานนี้ไม่ไหวจึงหนีไป เมื่อมีคนแรกเคลื่อนไหวคนอื่นๆที่รอโอกาสก็วิ่งหนีต่ายออกจากที่นี่เช่นกัน
“ใครกล้าหนี”
เย่ฟ่านจับเกาทัณฑ์ว่านซางแล้วดึงสายเกาทัณฑ์ซึ่งดูเหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดไปถึงอาณาจักรแปดต้องห้ามในทันที
ปัง!
รุ้งสีทองปรากฎออกมา ลูกเกาทัณฑ์เดินทางเป็นระยะทางหลายลี้โดยไม่พลาดเป้า
"บูม!"
ดอกไม้เลือดสาดกระจายไปทุกทิศทางและคนผู้นั้นก็ถูกลบล้างออกจากโลกนี้โดยสมบูรณ์
จากนั้น ลูกศรอันที่สองก็พุ่งออกไป และแสงสีทองอีกดวงก็พุ่งขึ้นทันกับอีกคนหนึ่ง ด้วยเสียงที่นุ่มนวล เลือดและกระดูกแตกกระจาย และบุตรศักดิ์สิทธิ์อีกคนเสียชีวิตทันที
เย่ฟ่านยิงเกาทัณฑ์สามลูกติดต่อกัน สามคนที่รอดไปก่อนหน้านี้ถูกฆ่าตายทั้งหมด ร่างกายของพวกเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ ในอากาศ ใครๆ ก็สามารถจินตนาการถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของเขา
“การสังหารบุตรผู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยลูกศรเดียว”
“ทุกคนอย่าหนี สถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับสำนักฉีซื่อมาก อาจารย์และผู้อาวุโสจะได้รับข่าวในไม่ช้า เด็กน้อยคนนี้จะต้องตายอย่างแน่นอน”
“มารดาเจ้าสิต้องตายก่อน”
ด้วยร่องรอยของความเฉยเมยที่แขวนอยู่ที่มุมปากของเย่ฟ่านเขายกเกาทัณฑ์ขึ้นอีกครั้ง ลูกเกาทัณฑ์มุ่งไปที่สตรีศักดิ์สิทธิ์คนนี้และเปลี่ยนร่างกายอันงดงามให้กลายเป็นหมอกเลือดอย่างง่ายดาย
จากนั้นลูกเกาทัณฑ์ก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและดุร้ายราวกับงูหลามสีทอง พร้อมกับเสียง "พับ" ดอกไม้สีเลือดก็เบ่งบานบนหน้าผากของหยางเซิ่ง และขนลูกศรก็แทงทะลุผ่านศีรษะของเขาไป
“อย่าฆ่าข้า”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา เราเพิ่งได้รับคำสั่งให้ออกมาร่วมทดสอบ”
ยกเว้นเหยียนอวิ๋นหรานและนักบวชจากทะเลทรายตะวันออก ทุกคนต่างร้องขอความเมตตาและเกิดความตื่นตระหนก ไม่มีใครไม่กลัวความตาย โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับคนอย่างเย่ฟ่าน
เย่ฟ่านฆ่าคนอย่างไร้ความปราณี และถึงกับสังหารสตรีศักดิ์สิทธิ์ด้วยลูกเกาทัณฑ์อย่างโหดเหี้ยม คนอื่นๆจะไม่หวาดกลัวได้อย่างไร
หน้าตาและศักดิ์ศรีไม่มีทางเทียบได้กับชีวิต พวกเขายินดีแม้กระทั่งขายบิดามารดาของตัวเองขอเพียงให้รอดชีวิตเท่านั้น พวกเขายังต้องการเห็นพระอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้และไม่ต้องการถูกลบออกจากโลกโดยสมบูรณ์
“พวกเจ้าถอยออกไป!” เย่ฟ่านชำเลืองมองพวกเขาและยิ้มให้กับเหยียนอวิ๋นหราน
“เจ้า อย่าคิดว่าตัวเองจะอยู่ยงคงกระพันในโลก!” นักบวชกู่โถวก้าวไปข้างหน้า รอยแผลเป็นที่บากผ่านดวงตาของเขาช่วยเสริมให้ใบหน้าของเขาดูดุร้ายยิ่งขึ้น
“ลองดูสิ!”
เย่ฟ่านกระโดดขึ้นสู่ท้องฟ้าและประสานอินอย่างรวดเร็ว
กู่โถวตะโกนเสียงดังก้องด้วยเนื้อหาจากคัมภีร์โบราณบางอย่าง ร่างกายของเขาปลดปล่อยแสงสีทองที่ประเมินค่าไม่ได้ในขณะที่กำปั้นของเขากระแทกเข้าหาเย่ฟ่านเช่นกัน
“เคร้ง”
ระฆังสีม่วงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับเสียงมังกรคำราม คลื่นเสียงปั่นป่วนเหมือนกับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ แผ่ขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ร่างกายของเขาเทียบได้กับร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ!” ใครบางคนอุทานด้วยความตื่นเต้น
“นี่เป็นร่างวัชระ มาดูกันว่าเจ้าจะแข็งแกร่งสมคำร่ำลือหรือไม่” กู่โถวตะโกนเสียงดัง ระฆังในมือของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง
“อย่าว่าแต่เจ้าเป็นนักบวชตัวน้อยเท่านั้น ต่อให้อาจารย์ของเจ้ามาเองก็ไม่สามารถรอดชีวิตได้” เย่ฟ่านพุ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้ามราวกับสายฟ้า
ทั่วร่างของเขาเปล่งประกายราวกับนกอินทรีสีทองขนาดใหญ่ ด้วยรัศมีที่เปล่งประกาย เลือดทุกหยดมอบพลังอมตะอันยิ่งใหญ่ให้เขาอยากไม่สิ้นสุด
“เคร้ง”
เย่ฟ่านกระแทกฝามือปะทะกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของกู่โถวจนระฆังใบใหญ่เกิดรอยแตกและยุบลงไปทันที
“อามิตตาพุทธ..”
กู่โถวคำรามเสียงดัง ร่างสีทองของเขาสั่นสะท้านพร้อมกับปลดปล่อยทักษะราชสีห์คำราม ในขณะนั้นภูเขาโดยรอบสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และคลื่นเสียงที่ทรงพลังก็พุ่งเข้าหาเย่ฟ่าน
“แค่ก”
อย่างไรก็ตามกู่โถวกระเด็นกลับไปทางด้านหลังโดยไม่ทราบสาเหตุ ผู้คนที่มองดูเหตุการณ์ต่างก็ตกตะลึงและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“กู่โถวคนนี้มีภูมิหลังที่ดีทั้งยังมาจากวิหารพุทธที่แท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มีทางบกเพราะมาจนถึงขอบเขตนี้ได้”
“ในทะเลทรายตะวันตกมีวัดโบราณและศาสนาพุทธมากมาย มีหลายกิ่งก้ายสาขาแยกออกไป เราไม่อาจสรุปได้ว่าเขาเป็นทายาทที่แท้จริงของพุทธะ”
“เย่ฟ่าน ครั้งแรกที่เอาชนะข้าได้ เป็นเพราะเจ้าโจมตีข้าด้วยเกาทัณฑ์ว่านซาง ครั้งที่สองที่ข้าพ่ายแพ้ก็เพราะภัยพิบัติของเจ้า คราวนี้ถึงเวลาแสดงฝีมืที่แท้จริงของเจ้าออกมาเสียที” เหยียนอวิ๋นหรานตะโกน
เขาอ้าปากและคายสายรุ้งออกมาซึ่งกลายเป็นพัดขนนกห้าสีในฝ่ามือของเขา
“บูม!”
เหยียนอวิ๋นหรานกระแทกพัดและแสงสีแดงก็พุ่งออกมาจากพัดขนนกตรงจุดนั้นขุมนรกก็ปรากฏขึ้นโดยตรง และไฟที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็เผาไหม้อย่างไม่มีทีท่าจะมอดดับ