ตอนที่ 1265+1266 กระจายออกไป
ตอนที่ 1265 กระจายออกไป
อาจูออกไปหลังจากที่เขาพูดคุยจบ ท้ายที่สุดเขาคือมือขวาของเสี่ยติง เขายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ คุณหนูไม่ได้กลับมาหลังจากนั้น เสี่ยติงและเจ๊เหวินก็ไม่กลับมาเช่นกัน นอกจากนี้เขายังต้องไปโรงพยาบาล เพื่อแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์และเกิดขึ้น อีกอย่างเขาอยากรู้สถานการณ์ด้วย
หลังจากที่อาจูออกไปแล้ว เจียงเหยาก็ตรวจสอบว่ามีอุปกรณ์เฝ้าระวังอยู่ในห้องหรือเปล่า อาจเป็นเพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ในอาณาเขตของเสี่ยติงแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครแอบฟังนอกประตู
“อาจู ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว” เจียงเหยานั่งบนเตียงและยิ้ม รอยยิ้มของเธอดูเป็นธรรมชาติมาก ไม่มีความเขินอายเหมือนที่เธออยู่ต่อหน้าอาจูเลย
“โดยปกติแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรับข้อมูลใด ๆ จากเขา แต่ตราบใดที่เขามีอารมณ์ที่จะคุย มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย” เจียงเหยาคลิกลิ้นของเธอ “ฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายจากเขาในตอนนี้”
ลู่ชิงสีสัมผัสเจียงเหยาราวกับว่าเขากำลังเยินยอเธอ ใบหน้าของเธอดูหลอกลวง อาจกล่าวได้ว่าอาจูไม่ระวังเจียงเหยา เขารู้สึกผ่อนคลายเมื่อเขาได้คุยกับเจียงเหยา
ดังนั้น มันจึงง่ายกว่ามากสำหรับเจียงเหยาที่จะได้รับข้อมูลจากเขา ลู่ชิงสีเลือกที่จะเงียบตลอดเวลา เพราะเขากลัวว่าการขัดจังหวะของเขาจะส่งผลกระทำต่อเจียงเหยา
ดังนั้นบางครั้งคนรูปลักษณ์อย่างเจียงเหยามันก็เป็นประโยชน์
อย่างน้อยลู่ชิงสีไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามในการรับข้อมูลบางอย่างที่เขาอาจจะไม่ได้รับเมื่ออยู่กับอาจู
แม้ลู่ชิงสีจะเป็นคนฉลาด แต่อาจูไม่ใช่คนโง่
ดังนั้นลู่ชิงสีจึงไม่สามารถรับข้อมูลนั้นจากชายคนนั้นได้ ถ้าเขาทำมันจะดึงดูดความสนใจของอาจูเสียเปล่า ๆ อย่างไรก็ตาม เจียงเหยาแตกต่างจากเขา เธอสามารถเช่นนั้นและถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นอย่างตรงไปตรงมาได้
“ดูเหมือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการของเรา” ลู่ชิงสีลดเสียงลง “ภารกิจของซาอิ๋งคือการได้ใกล้ชิดกับสาวลึกลับคนนั้นและปลอมตัวไปอยู่เคียงข้างเธอ ผมไม่คาดหวังว่าเราจะได้เจอกับคุณหนูคนนั้นเสียก่อน”
นั่นเป็นสิ่งที่ลู่ชิงสีไม่ได้คิดมาก่อนเมื่อเขาออกเดินทางตั้งแต่แรก ผู้ให้ข้อมูลบอกว่าคุณหนูไม่ได้อยู่ที่เมืองซูและมักจะอยู่นอกเมือง คุณหนูนั่นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของเจียงเหยาและลู่ชิงสี
เจียงเหยากล่าวว่า “เราต้องหาทางส่งข่าว ถ้าซาอิ๋งรู้คงจะหดหู่น่าดู เธอยังไม่ได้แตะต้องภารกิจเลย แต่เราได้เผชิญหน้ากับคนนั้นก่อน”
เธอยังหลอกสาวคนนั้นด้วย
แม้ว่าเสี่ยติงและเจ๊เหวินจะมีหนทางส่งเหวินหยุนฟางไปยังโรงพยาบาลเมืองจินโดในทันที หมอเหล่านั้นก็ไม่สามารถทำอะไรเพื่อใบหน้าของเธอได้ นั่นเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก จึงไม่มีความก้าวหน้ามากนัก หมอไม่สามารถหาสาเหตุได้
หลังจากได้ยินว่าเหวินหยุนฟางใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเมื่อคืนก่อน พวกเขาจึงสันนิษฐานว่าเกิดจากการแพ้และขอให้เหวินหยุนฟางหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเหล่านั้นและพักผ่อนสักสองสามวัน
ยาเหล่านั้นจะช่วยให้เหวินหยุนฟางสามารถคงสภาพนั้นไว้ประมาณเจ็ดวัน
สี่วันแรกจะน่ากลัวเท่ากับวันแรก หลังจากวันที่ห้าก็จะมีหนองไหลออกมา วันที่หกจะมีสัญญาณของการรักษา วันที่เจ็ดก็จะเริ่มหาย
ถ้าเหวินหยุนฟางเป็นคนรักสวยรักงาม มันอาจจะใช้เวลาถึงครึ่งเดือน ก่อนที่เธอจะปรากฏตัวต่อหน้าเธอและลู่ชิงสีได้
นั่นคงจะดีเหมือนกัน ลู่ชิงสีจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหาในการเลือกอนาคตหรือภรรยาของเขา ก่อนที่เขาจะผ่านการทดสอบของเสี่ยติง
__
ตอนที่ 1266 ทำไมเขาต้องไป?
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอนึกถึงความยากในภารกิจของซาอิ๋งที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เจียงเหยาได้อธิษฐานเผื่อเพื่อนร่วมงานของพวกเขา
เมื่อเธอคิดถึงผู้หญิงคนนั้น เจียงเหยาตัดสินใจที่จะไม่เห็นอกเห็นใจเธอ
ตราบใดที่ภารกิจทั้งหมดประสบความสำเร็จ มันก็คงจะดี ภารกิจของผู้หญิงคนนั้นจะสำเร็จหรือไม่ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเจียงเหยามากนัก
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทีม แต่พวกเขาก็มีความรับผิดชอบต่อเนื้อหาของภารกิจของตนเอง
ผู้ให้ข้อมูลได้ระบุชื่อเมืองที่คาดว่าคุณหนูเคยไป แล้วเสนอรายชื่อคนอยู่สองสามคนที่สามารถเป็นตัวกลางติดต่อกับคุณหนูได้ ซาอิ๋งต้องเรียนรู้ตัวตนของหญิงสาวคนนั้นจากข้อมูลที่เธอได้รับ จากนั้นเธอต้องได้รับความไว้วางใจจากผู้หญิงคนนั้นและเป็นสายลับเรื่องของเธอ
อย่างไรก็ตาม เหวินหยุนฟางจะไม่ออกจากเมืองซูเป็นระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าของเธอ ดังนั้นซาอิ๋งจึงต้องรอ
...
อาหารเย็นมื้อแรกที่เจียงเหยาและลู่ชิงสีได้รับที่บ้านใหญ่นั้นน่ายินดี อาคารทั้งหมดถูกปกครองโดยอาจูและภรรยาของเขา และลูกน้องคนอื่น ๆ ของเสี่ยติง พวกเขาทั้งหมดเป็นลูกน้องที่มีระดับสูง แต่ไม่มีใครสามารถเอาชนะอาจูได้
เนื่องจากอาจูปกป้องพวกเขา จึงไม่มีใครกล้ารังแกเจียงเหยาและลู่ชิงสี พวกผู้ชายดื่มและพูดคุยกันตลอดทั้งคืนอย่างมีความสุข เป็นธรรมดาที่อาจูจะเป็นคนเริ่มพูดคุยตลอดทั้งคืน
หลังอาหารเย็นลู่ชิงสีบอกคนอื่น ๆ ว่าเขากำลังพาเจียงเหยาไปเดินเล่น ทว่าเขาไม่ได้ข้ามเขตไปยังอาคารหลัก
มันยังไม่ถึงเวลา แม้ว่าในอาคารนั้นอาจมีข้อมูลมากมายที่เขาต้องการ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเพิกเฉย
“กู้ฉางซื่อ”
ทั้งสองคนกำลังเดินไปรอบ ๆ เมื่อเสี่ยติงขับรถเข้ามา เขาเห็นทั้งสองคนและเรียกกู้ฉางซื่อ เขามองไปที่เจียงเหยาและกล่าวว่า “หยุนฟางอยู่ที่โรงพยาบาลและอารมณ์ไม่ดี ไปหาเธอที่โรงพยาบาลสักครู่สิ”
“ทำไมคุณถึงอยากให้ฉางซื่อไปหาเธอคะ ในเมื่อเธออารมณ์ไม่ดี”
เจียงเหยาจับมือลู่ชิงสีไว้แน่นด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจ เธอสาปแช่งบรรพบุรุษของเสี่ยติงอยู่ในใจ
เสี่ยติงทำราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของเจียงเหยา และเพียงจ้องมองไปที่ลู่ชิงสี
ลู่ชิงสียังทำเหมือนว่าเขาไม่เต็มใจ “ผมกำลังพาภรรยามาเดินเล่น เธออิ่มจากกินมากเกินไป นอกจากนี้ เธอคงกลัวถ้าผมไม่อยู่ด้วย ไม่ว่าผมจะไปที่ไหน เธอจะไปกับผม ไม่งั้นผมไม่สบายใจ”
“อย่าบอกนะว่าผู้หญิงต้องตามติดสามีตลอด 24 ชั่วโมง แล้วแบบนี้ ต่อไปนายจะทำงานให้ฉันได้ยังไง” แม้ว่าเขาจะพอใจที่กู้ฉางซื่อห่วงใยภรรยาของเขา แต่เสี่ยติงก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่เขาห่วงใยมากไป
กู้ฉางซื่อต้องการให้กู้จุนฮุ่ยตามเขาเข้าไปในห้องน้ำด้วยหรือเปล่า
“นั่นมันอนาคตครับ”
ลู่ชิงสีหยุดชั่วครู่ก่อนจะตอบว่า “เราเพิ่งมาถึงเมืองซู ภรรยาของผมไม่คุ้นเคยกับสถานที่นี้มาก ผมเลยเป็นกังวล เมื่อเราคุ้นเคยกับมันมากขึ้นในอนาคต ผมจะออกไปทำงาน เธอจะรอผมอยู่ที่บ้าน”
เสี่ยติงเหลือบมองภรรยาของกู้ฉางซื่อ เขาปวดหัวเมื่อนึกถึงเหวินหยุนฟาง คนเจ้าอารมณ์ที่อยู่ในโรงพยาบาล
“งั้นพาภรรยาไปโรงพยาบาลด้วยก็แล้วกัน”
หลังจากพูดอย่างนั้น เสี่ยติงก็ขับรถเข้าไปในบริเวณนั้น อย่างไรก็ตาม เขาแค่ต้องการพาเขาไปที่นั่น ถ้าเหวินหยุนฟางไม่สามารถเอาชนะผู้หญิงอย่างกู้จุนฮุ่ยและรู้แต่วิธีแสดงความโกรธเคือง เขาก็ไม่สามารถทำอะไรเพื่อเธอในฐานะพ่อใหญ่ของเธอได้
ตอนแรกเขาตกลงกันว่าจะไม่เข้าไปยุ่ง แต่เหวินหยุนฟางอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นเขาจึงต้องช่วยเธอ ทว่าเมื่อเขานึกถึงคำพูดของอาจูก่อนตัดสินใจว่าจะใช้กู้ฉางซื่อหรือไม่ เสี่ยติงไม่ได้เตรียมที่จะผลักกู้ฉางซื่อออกไป