ตอนที่ 1259+1260 นึกถึงส้วม
ตอนที่ 1259 นึกถึงส้วม
เมื่ออาจูพูดถึงเหวินหยุนฟาง เขาไม่ได้ปิดบังความไม่พอใจของเขา “คุณหนูคิดว่าเธอเป็นลูกสาวของเสี่ยติงจริง ๆ อันที่จริงเธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเลยด้วยซ้ำ เสี่ยติงและเจ๊เหวินอยู่ด้วยกันมานาน ถ้าเสี่ยติงรักเธอจริง ๆ เขาจะไม่พูดถึงการแต่งงานกับเธอได้อย่างไร ไม่มีใครในชนบทจดทะเบียนสมรสหรอก แค่จัดพิธีก็ถือว่าแต่งงานกันแล้ว ภรรยาที่แท้จริงของเสี่ยติงเมินเฉยเขามานาน บางทีอาจจะมากกว่าสิบปี หากเสี่ยติงต้องการแต่งงานกับเจ๊เหวินจริง ๆ ก็แค่เลี้ยงอาหารค่ำก็ได้แล้วแท้ ๆ ทว่าหลังจากผ่านไปหลายปี เสี่ยติงก็ไม่ไม่ได้แสดงเจตจำนงเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย”
หลังจากที่อาจูพูดจบ เขาก็ตบไหล่กู้ฉางซื่ออย่างจริงจัง “ฉางซื่อ ฉันเตือนนายนะ ทุกวันนี้มันไม่ง่ายเลยที่จะหาผู้หญิงที่พร้อมจะเทใจให้นาย นายไม่ใช่คนโง่ ถ้านายไม่เห็นด้วย เสี่ยติงเขาไม่บังคับให้นายแต่งงานกับคุณหนูหรอก ดังนั้นนายต้องควบคุมตัวเองให้ดี”
“ผมจะไม่ทำให้เมียผมผิดหวังครับ” ลู่ชิงสีจับมือเจียงเหยาไว้แน่น “จุนฮุ่ยไม่ต้องกังวล ฉันไม่มีทางทำให้เธอผิดหวังหรอก”
“ฉันรู้ค่ะ”
อาจูปรบมือของเขา “คุณหนูรู้วิธีหาเงิน แต่ไม่ควรแต่งงานกับเธอ นายเพิ่งมาถึงเมืองซูและไม่รู้ว่าเธอ-”
อาจูส่ายหน้า เขาเกือบจะใช้คำว่าน่าขยะแขยงเพื่ออธิบายเธอคนนั้น “เธอเป็นผู้หญิง แต่เธอดุร้ายมาก เธอมีผู้ชายเคียงข้างมาตั้งแต่อายุ 16 ในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมา ผู้ชายหน้าตาดีในเมืองซูทุกคนได้นอนกับเธอหมดแล้ว พูดตรง ๆ เลยนะ แม้แต่ผู้หญิงในไนต์คลับยังดีกว่าเธอ”
เจียงเหยายังคงตกตะลึงและหัวใจของเธอก็เต้นแรง ผู้หญิงแบบนี้กล้าดียังไงจะมาแย่งผู้ชายของเธอไปจากเธอ
ในทางกลับกัน ลู่ชิงสีรู้สึกรังเกียจ มันทำให้เขานึกถึงส้วม แล้วเขาจะชอบได้อย่างไร
“แม้ว่าเมืองซูจะเทียบไม่ได้กับเมืองอื่น แต่ก็ยังมีครอบครัวที่มีอิทธิพลอยู่จำนวนหนึ่งที่นี่ หากพ่อแม่เป็นห่วงลูกชายจริง ๆ พวกเขาจะไม่ยอมให้ลูกชายแต่งงานกับคุณหนู แม้ว่าการแต่งงานกับเธอจะทำให้ผู้ชายสร้างความสัมพันธ์กับเสี่ยติงได้ก็ตามที แต่คุณหนูก็มีชื่อเสียงที่แย่ในเมืองนี้ ทำให้เธอยังไม่ได้หมั้น แม้จะอายุ 21 ปีแล้วก็ตาม เธอไม่ชอบผู้ชายคนไหน เพราะเธอรู้ว่าพวกเขาอยู่กับเธอเพราะเสี่ยติง เธอไม่ชอบแม้กระทั่งพวกข้าราชการ”
เจียงเหยาไม่เพียงแต่ดูถูกนิสัยที่ดุร้ายของเหวินหยุนฟาง แต่เธอยังดูถูกคนอย่างเสี่ยติงด้วย
“หลังจากที่นายย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหญ่ในวันพรุ่งนี้ อย่าขัดแย้งกับคุณหนูเพราะเจ๊เหวินจะไม่พอใจ แต่กับคุณหนู อย่าได้กังวลที่จะทำร้ายจิตใจเธอหากนายไม่ต้องการแต่งงานกับเธอ เสี่ยติงไม่ใช่คนประเภทที่จะฟังคำหวานของผู้หญิง ทำตามที่เสี่ยติงบอก นายเพียงแค่ภักดีกับเขาและพยายามทำสิ่งที่เขาบอกให้เขาอย่างเต็มที่ก็พอ” หลังจากอาจูพูดจบ เขาก็โล่งอก จากนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะจากไป
เจียงเหยาส่งอาจูที่บันไดก่อนที่จะหันหลังกลับ ทันทีที่เธอปิดประตู ใบหน้าของเธอก็มืดลง
ความคิดของผู้หญิงคนหนึ่งที่คิดถึงผู้ชายของเธอทำให้เธอโกรธ
มัวออกจากกระเป๋าเสื้อโค้ตของเธอ มันกระดิกหาง และโบกกรงเล็บสีขาวของเขา “เหมียว ฆ่าผู้หญิงคนนั้นซะ”
“ไปให้พ้นเลย” เจียงเหยาเหลือบมองมัวที่มีใบหน้าก้าวร้าว เธอไม่สามารถฆ่าคนได้โดยตรง แม้มันจะง่ายสำหรับเธอที่จะจัดการกับผู้หญิงคนนั้นหลังจากย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหญ่ได้ก็ตาม
มัวกลับเข้าไปในกระเป๋าของเจียงเหยาตามเดิม
__
ตอนที่ 1260 ย้ายเข้าไปอยู่ที่ใหม่
ลู่ชิงสีไม่เข้าใจสิ่งที่มัวพูด แต่เมื่อเขาได้ยินเจียงเหยาพูดกับมัว เขารู้ว่าพวกเขากำลังคุยกัน
ใบหน้าของเขาช้ำและบวม ดังนั้นการแสดงออกของเขาจึงไม่ปรากฏออกมาให้เห็น ทว่าเขารู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงยัยส้วมที่จ้องมองมาที่เขา
“เมียจ๋า จูบผมหน่อย” เนื่องจากเขาและเจียงเหยาอยู่ในห้องพักผู้ป่วยเพียงลำพัง ลู่ชิงสีจึงไม่ต้องคอยระวังคำพูดของเขา
แม้ว่าอาจูจะวางคนไว้ที่นั่นเพื่อจับตาดูเขาที่โรงพยาบาล แต่คนคนนั้นก็กลัวที่จะถูกเปิดเผย เขาคงไม่เข้ามาใกล้ห้องพัก ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ลู่ชิงสีพูดกับเจียงเหยา
เจียงเหยารู้ว่าลู่ชิงสีอยู่ในอารมณ์ไม่ดี แต่เธอก็ตบริมฝีปากของเธอสองครั้งแล้วมองไปที่ใบหน้าของลู่ชิงสี เธออยู่ในตำแหน่งที่ยากลำบาก “ถ้ามันยากที่จะพูด ก็ช่างมันเถอะ”
ชายที่อารมณ์เสียอยู่แล้วรู้สึกไม่มีความสุขมากยิ่งขึ้น เมื่อได้ยินว่าภรรยาของเขาดูหมิ่นเขา เขาดึงเธอลงมาโดยตรงและจูบเธออย่างดุเดือด เขาพูดอย่างดุเดือดว่า “อย่าดูถูกผมสิ”
เจียงเหยาจับท้องของเธอและหัวเราะ เธอยกมือขึ้นและสัมผัสใบหน้าของลู่ชิงสีอย่างอ่อนโยน เธอไม่ได้พูดอะไรเพื่อทำให้ลู่ชิงสีรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น เธอเอาครีมทาบาง ๆ ลงบนรอยฟกช้ำ
...
วันรุ่งขึ้น หมอตัดสินใจให้พวกเขาออกจากโรงพยาบาล เมื่ออาจูรู้ข่าว เขาจึงส่งคนมารับทั้งสองคนที่โรงพยาบาล จากนั้นเขาก็พาเจียงเหยาและลู่ชิงสีกลับมาเก็บของที่บ้านเช่าและย้ายไปยังบ้านใหญ่
อาจูไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระเมื่อเขากล่าวว่าบ้านใหญ่หรูหรา เสี่ยติงทำธุรกิจอยู่หลายประเภท ดังนั้นเขาจึงหาเงินได้มากมายและรวดเร็ว ชีวิตเขาสุขสบายอย่างมาก
ทันทีที่มัวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ มันก็หยิบยาผงที่เจียงเหยามอบให้และแอบเข้าไปในบ้าน ผงยานั้นจะละลายทันทีที่สัมผัสกับอากาศ มันไม่มีสีและรสจืด เมื่อสัมผัสเข้ากับผิวหนัง จะเกิดตุ่มสีแดงและตุ่มพองขึ้นทันที
มัวแบกภาระอันยากลำบากในการตามหาเหวินหยุนฟาง เพื่อที่เธอจะได้ออกมาในวันนั้นไม่ได้
ห้องที่อาจูจัดไว้ให้ลู่ชิงสีและภรรยาของเขาอยู่บนชั้นเดียวกับห้องของเขา แต่มีอีกห้องคั่นกลาง ที่นี่เป็นวิลล่า และคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นลูกน้องของเสี่ยติง พวกเขาถูกแบ่งออกเป็นระดับที่ต่างกัน ผู้ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างอาจูจะได้อยู่ห้องที่ดีที่สุด บนชั้นนั้นมีอยู่หลายห้อง แต่อาจูเป็นคนเดียวที่อยู่ที่นั่น
แม้ว่าลู่ชิงสีและเจียงเหยาจะเป็นผู้มาใหม่ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร เมื่อพวกเขาย้ายมาอยู่ชั้นที่ดีที่สุด
“ที่นี่มีคนมาทำความสะอาดให้ทุกวัน และมีคนรับใช้ด้วย หิวหรืออยากกินอะไรก็บอก ฉันไม่ได้โกหกนายใช่ไหมล่ะ ชีวิตที่นี่น่ารื่นรมย์ไม่ใช่หรือ แค่เอื้อมมือออกไป นายก็ได้ทุกอย่างแล้ว”
“ยังกับในหนังเลยค่ะ” เจียงเหยาเล่นบทเป็นคนบ้านนอกที่เพิ่งเข้ามาในเมือง ทุกอย่างแปลกใหม่สำหรับเธอ เธอสัมผัสทุกอย่างขณะที่เธอถอนหายใจอย่างสุขุม บ้านที่มีคนรับใช้ บ้านแสนสวย แต่เป็นบ้านของเสี่ยติง
เสี่ยติงรวยมาก!
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอคิดถึงวิธีการหาเงินของเสี่ยติงจากการทำลายชีวิตและครอบครัวของผู้อื่น เจียงเหยารู้สึกว่าบ้านหรูแห่งนี้เต็มไปด้วยความโสมม
เหวินหยุนฟางเป็นลูกบุญธรรมของเสี่ยติง และแม่ของเธอเป็นผู้หญิงของเสี่ยติง ดังนั้นเธอจึงได้อาศัยอยู่ที่ตึกใหญ่ เมื่อเธอได้ยินคนรับใช้มาบอกว่ากู้ฉางซื่อและภรรยาย้ายเข้ามาแล้ว เหวินหยุนฟางก็ลุกขึ้นเลือกชุดสวยและเซ็กซี่ของเธอทันที เธอแต่งหน้ากระจก จากนั้นก็ตรงไปยังอาคารที่พักของอาจู
อาคารที่อาจูพักอยู่นั้นเป็นอาคารที่อยู่ใกล้กับอาคารหลักที่สุดเมื่อเทียบกับอาคารทั้งหมด ห่างออกไปเพียงไม่ถึง 200 เมตร เหวินหยุนฟางกำลังเดินอย่างสง่างามบนรองเท้าส้นสูงของเธอ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงเงาสีขาวเคลื่อนผ่านดวงตาของเธอ เธอกลัวมากจนหน้าซีดและเกือบเสียการทรงตัว อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอรู้สึกตัวและมองไปรอบ ๆ เธอไม่พบสิ่งใดรอบตัวเธอเลย ไม่มีแม้กระทั่งรอยเท้าอื่นบนพื้น