ตอนที่แล้วยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 5 ฉีอู๋ฮุ่ยตกใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 7 ศิษย์ของข้าไม่ใช่ศิษย์ของท่าน

ยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 6 ข้าได้ยินว่าท่านต้องการสั่งสอนศิษย์ของข้า?


ยอดอาจารย์มหาเมตตา ตอนที่ 6 ข้าได้ยินว่าท่านต้องการสั่งสอนศิษย์ของข้า?

“อาจารย์ลุงฉีมีปัญหาอะไรหรือไม่” หลินชิงจู้กล่าวอย่างไร้อารมณ์เมื่อนางมองไปยังฉีอู๋ฮุ่ยอย่างครุ่นคิด ด้วยเหตุผลบางอย่างนางกลับรู้สึกสบายและดีใจเป็นอย่างยิ่ง

‘เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าอาจารย์ของข้ามอบอะไรแก่ข้าบ้าง? ช่างโชคดียิ่งที่พวกเจ้าไม่ได้เลือกข้าในตอนนั้น ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่ได้กลายเป็นศิษย์ของอาจารย์และได้รับเม็ดยาอายุวัฒนะอันน่าอัศจรรย์นี้ที่ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างใฝ่ฝันที่จะได้รับ?

‘ความสามารถของอาจารย์ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาอย่างพวกเจ้าสามารถมองเห็นได้ ในที่สุดข้าก็เข้าใจว่าเหตุใดอาจารย์ของข้ายังสามารถรักษาความสงบไว้ได้เมื่อเผชิญกับความอัปยศอดสูเมื่อก้าวออกจากโถง’

‘นี่คือความคิดของยอดฝีมือที่แท้จริง’

นางรู้แก่ใจว่าเหตุผลที่ตนบ่มเพาะได้อย่างรวดเร็วนั้นเกิดจากผลของเม็ดยาไขกระดูกศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าจะปลุกกระดูกศักดิ์สิทธิ์แล้วนางก็ยังไม่ได้ดูดซึมคุณสมบัติของเม็ดยาไปอย่างสมบูรณ์ ท้ายที่สุดมันคือเม็ดยาวิญญาณระดับสูงสุดและมีเพียงเม็ดยาวิญญาณระดับเซียนเท่านั้นที่สามารถเทียบเคียงกับมันได้

แม้แต่ผู้ฝึกตนที่น่าเกรงขามที่เป็นปรมาจารย์ขุนเขาอย่างฉีอู๋ฮุ่ยก็ยังไม่เคยลิ้มรส นับประสาอะไรกับลูกศิษย์ของตนเอง สำหรับเย่ชิว เขามีเม็ดยาอยู่กับตัวเอง แต่กลับเต็มใจที่จะมอบมันให้กับนาง

นี่คือความแตกต่างระหว่างเย่ชิวกับคนอื่น

ในขณะนี้ฉีอู๋ฮุ่ยรู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อเขาเห็นเมิ่งเทียนเจิ้ง เขาก็ไม่กล้าที่จะปลดปล่อยอารมณ์ออกมา เขามองไปยังหลินชิงจู้อย่างเย็นชาราวกับจะบอกเป็นนัยว่า “พวกเจ้ารอก่อนเถอะ! เหล่าอาจารย์และศิษย์สวะ แม้ว่าพวกเจ้าจะได้รับโชคลาภบางอย่างมา มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนสถานะของเจ้าในสำนักเยียวยาสวรรค์ได้”

เมื่อเทียบกับความโกรธของฉีอู๋ฮุ่ยแล้ว เมิ่งเทียนเจิ้งนั้นรู้สึกตกใจยิ่งกว่าเดิม? “เกิดอะไรขึ้นกลับโลกใบนี้กัน? เป็นไปได้ไหมว่าศิษย์น้องเย่ไม่ได้มีพรสวรรค์ปานกลางอย่างที่ข่าวลือบอก? อืม... เหมือนว่านี่จะเป็นที่ถกเถียงกันอยู่”

นอกเหนือจากความสงสัยแล้ว เมิ่งเทียนเจิ้งยังมีความสุขมากขึ้นไปอีก เขาหันกลับมามองฉีอู๋ฮุ่ย เขารู้ดีว่าฉีอู๋ฮุ่ยนั้นเป็นปรปักษ์กับขุนเขาเมฆาม่วงมาโดยตลอด

นี่เป็นเพราะขุนเขากระบี่เร้นลับและขุนเขาเมฆาม่วงมีความบาดหมางกันมาตั้งแต่รุ่นก่อน ย้อนกลับไปในตอนนั้นเมื่อซวนเทียนเจินเหรินยังมีชีวิตอยู่ เขาไม่กล้าที่จะลงมือกับขุนเขาเมฆาม่วงอย่างอาจหาญนัก

หลังจากซวนเทียนเจินเหรินจากไป ฉีอู๋ฮุ่ยก็ค่อย ๆ เริ่มเปิดเผยความเป็นปรปักษ์ของเขาต่อขุนเขาเมฆาม่วงและพุ่งเป้าไปยังเย่ชิว โชคดีที่เย่ชิวไม่ได้โต้ตอบ ดังนั้นเขาจึงไม่มีโอกาสลงมือ

เมิ่งเทียนเจิ้งเข้าใจอย่างชัดเจนว่าการต่อสู้ระหว่างขุนเขาเมฆาม่วงและขุนเขากระบี่เร้นลับกําลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากหลินชิงจู้ได้ปลดปล่อยความสามารถที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ ท้ายที่สุดหลินชิงจู้เป็นศิษย์คนโตของขุนเขาเมฆาม่วง

หากไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น นางจะกลายเป็นผู้สืบทอดในอนาคตของขุนเขาเมฆาม่วงอย่างแน่นอน

เมื่อรวมกับพรสวรรค์ที่น่าอัศจรรย์นี้ ฉีอู๋ฮุ่ยจะนั่งนิ่งอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร? เขาจะปราบปรามขุนเขาเมฆาม่วงได้อย่างไรหากขุนเขาเมฆาม่วงมีผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งอีกคนดังเช่นซวนเทียนเจินเหริน?

เมิ่งเทียนเจิ้งรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามเขามีความสุขมากที่ได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว มีเพียงการต่อสู้เท่านั้นที่จะเพิ่มความกดดันให้แก่เหล่าลูกศิษย์ และทางสำนักก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการแข่งขันระหว่างสองขุนเขาได้อย่างแน่นอน

“เด็กน้อย อาจารย์ของเจ้าปิดด่านมากี่วันแล้ว? เขาบอกเจ้าหรือไม่ว่าเขาจะออกมาเมื่อไหร่” เมิ่งเทียนเจิ้งถาม เหตุผลที่เขามาเยือนขุนเขาเมฆาม่วงในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะการบ่มเพาะของหลินชิงจู้

หลินชิงจู้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “อาจารย์ไม่ได้กล่าว ข้าขอถามว่าท่านเจ้าสำนักมีเรื่องอะไรหรือไม่ ท่านสามารถบอกข้าได้ ข้าจะแจ้งต่ออาจารย์ของข้าเมื่อเขาออกมา”

“เอาล่ะไม่มีอะไรสำคัญเป็นพิเศษนัก มันเกี่ยวกับการประลองยุทธ์เจ็ดขุนเขาในสามเดือนข้างหน้า ข้าอยากจะถามอาจารย์ของเจ้าว่าขุนเขาเมฆาม่วงต้องการเข้าร่วมการประลองยุทธ์ในคราวนี้หรือไม่”

ปัจจุบันขุนเขาเมฆาม่วงมีลูกศิษย์เพียงคนเดียว แต่มีขุนเขาเข้าร่วมถึงหกแห่งดังนั้นจำนวนคนของพวกเขาจึงห่างไกลกับคำว่าเพียงพอ อย่างไรก็ตามในฐานะหนึ่งในขุนเขาแห่งสำนักเยียวยาสวรรค์ แม้ว่าจะมีศิษย์เพียงคนเดียวเขาก็ยังคงต้องมาถามว่าอีกฝ่ายต้องการเข้าร่วมหรือไม่ นี่เป็นความรับผิดชอบของเขาในฐานะเจ้าสำนักเขามิสามารถละทิ้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้

“การประลองยุทธ์เจ็ดขุนเขา...” เมื่อได้ยินเช่นนี้ดวงตาของหลินชิงจู้ก็เบิกกว้างขึ้น เย่ชิวได้บอกนางเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วก่อนที่เขาจะปิดด่าน นางตอบทันทีว่า “ท่านเจ้าสำนัก อาจารย์ของข้าบอกข้าไว้ก่อนแล้ว ขุนเขาเมฆาม่วงจะเข้าร่วมการแข่งขัน”

“เอาล่ะ ดีมาก!” เมิ่งเทียนเจิ้งพยักหน้าแสดงความพอใจ เขายังตั้งตารอที่จะรับชมว่าหลินชิงจู้จะสามารถพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหนหลังจากสามเดือนนี้

ฉีอู๋ฮุ่ยกล่าวด้วยความดูถูกว่า “ดูเหมือนว่าอาจารย์ของเจ้าจะมั่นใจมากในการประลองยุทธ์คารนี้”

“อาจารย์ลุงฉีโปรดอย่ากังวลไปเลย ในระหว่างการประลองยุทธ์ครั้งหากข้าได้พบกับศิษย์ของขุนเขากระบี่เร้นลับของท่าน ข้าจะเมตตาพวกเขาอย่างแน่นอน” หลินชิงจู้ยิ้มและพูดอย่างใจเย็น

ฉีอู๋ฮุ่ยโกรธทันทีเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ “อืม เด็กหญิงตัวน้อยเช่นเจ้ากลับกล้าพูดจาหยิ่งผยอง แท้จริงแล้วลูกศิษย์กับอาจารย์ก็เหมือนกัน เจ้าคิดว่าตัวเองจะสามารถเรียนรู้จากอาจารย์ไร้ประโยชน์ของเจ้าได้จริง ๆ หรือ”

หลินชิงจู้ขมวดคิ้วและพูดต่อว่า “ท่านไม่ต้องกังวลกับเรื่องนั้นอาจารย์ลุงฉี ท่านควรกังวลเกี่ยวกับตนเองก่อน หากลูกศิษย์ของท่านแพ้ให้กับศิษย์ที่ถูกสั่งสอนโดยอาจารย์ที่ไร้ประโยชน์ในระหว่างการประลองยุทธ์เจ็ดขุนเขานั่นจะกลายเป็นการตบหน้าท่านเอง”

“เจ้า...”

อั่ก... ฉีอู๋ฮุ่ยเกือบพ่นเลือดออกมาเต็มปาก แม้ว่าสาวน้อยผู้นี้จะดูค่อนข้างเงียบขรึม แต่ปากคอกับเราะร้ายเช่นเดียวกับอาจารย์ของนาง เกือบทำให้เขาต้องกระอักเลือดตายเพราะความโกรธ

“สาวน้อย เจ้ากําลังดูหมิ่นและทำให้ผู้อาวุโสของเจ้าขุ่นเคือง วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าในนามอาจารย์ของเจ้าและชี้แนะให้ทราบว่าอะไรคือความเคารพ” ฉีอู๋ฮุ่ยกําลังจะลงมือด้วยความโกรธแค้น... ฉับพลัน ก็มีเสียงดังก้องมาจากภูเขาด้านหลัง

“อืม? นี่คือ...” เมิ่งเทียนเจิ้งตกใจอย่างยิ่ง เขาสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันทรงพลังที่มาจากด้านหลังภูเขาอย่างคลุมเครือ เป็นพลังที่น่าตกใจอย่างยิ่ง “เป็นไปได้ไหมว่าศิษย์พี่คนอื่นๆ ของขุนเขาเมฆาม่วง ยังไม่ถึงแก่กรรม”

เมิ่งเทียนเจิ้งตกใจและฉีอู๋ฮุ่ยก็เช่นกัน ใบหน้าของเขาเริ่มซีดเซียวอีกครั้ง

“ท่านอาจารย์!” หลินชิงจู้รู้สึกประหลาดใจ

ตอนนี้นางรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมากและไม่คาดคิดว่าคำพูดไม่กี่คำของตนจะทําให้ฉีอู๋ฮุ่ยหมดความอดทนถึงขั้นลงมือกับนาง ด้วยสถานะในตอนนี้ นางจะสามารถรับมือกับฉีอู๋ฮุ่ยได้อย่างไรกัน? ไม่คาดคิดในช่วงเวลาสําคัญเช่นนี้ เย่ชิวได้ออกมาจากปิดด่านจริง ๆ

นางสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายอันทรงพลังนั้นคุ้นเคยมาก นั่นคืออาจารย์ของตนซึ่งปิดด่านอยู่เป็นเวลานาน

“เย่ชิวหรือ...” ทั้งสองคนขมวดคิ้วและตกตะลึงเมื่อได้ยินน้ำเสียงอันประหลาดใจของหลินชิงจู้

เป็นไปไม่ได้ นี่คือกลิ่นอายของยอดฝีมือในขอบเขตอนันตะมรรคา เย่ชิวไม่ใช่ขอบเขตนิ้วดําขั้นสองเท่านั้นหรือ?

ขณะที่ทั้งสองคนกําลังสงสัย เมฆก้อนหนึ่งก็ส่องแสงระยิบระยับไปทั่วท้องฟ้า ครู่หนึ่งร่างสีขาวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ พวกเขา

เสื้อผ้าสีขาวของร่างนั้นกระพือไปตามสายลม ขณะที่เขาเดินอย่างสบาย ๆ ทั่วทั้งร่างของเขาได้ปลดปล่อยกลิ่นอายเซียน ทำให้ผู้อื่นไม่สามารถคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย

“นี่...”เมิ่งเทียนเจิ้งตกใจอย่างยิ่ง นั่นคือเย่ชิว หากพวกเขาเดาไม่ผิดนี่คือการเคลื่อนย้ายพริบตาใช่หรือไม่? ความสามารถลึกลับนี้สามารถใช้ได้เพียงผู้ที่อยู่ในขอบเขตอนันตะมรรคาเท่านั้น ภูเขาด้านหลังห่างจากสถานที่นี้อย่างน้อยสองพันลี้ เขามาถึงที่นี่ด้วยการเคลื่อนย้ายเพียงครั้งเดียวจริงหรือ? เห็นได้ชัดว่าระดับการบ่มเพาะของเย่ชิวไม่ใช่ขอบเขตอนันตะมรรคาที่เรียบง่ายอย่างแน่นอน

เมื่อเทียบกับความตกใจของเมิ่งเทียนเจิ้ง ใบหน้าของฉีอู๋ฮุ่ยนั้นแย่กว่ามาก

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเย่ชิวได้ทะลวงไปยังขอบเขตอนันตะมรรคาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นระดับการบ่มเพาะของเขาอาจใกล้เคียงกับขอบเขตชีวาเร้นลับอย่าง โดยตัดสินจากระยะทางที่เย่ชิวเคลื่อนย้ายมา เขาไม่เชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องจริง

สี่วันที่ผ่านมาเขาเป็นเพียงผู้ฝึกตนขอบเขตนิ้วทมิฬขั้น 2 เขาทะลวงไปยังขอบเขตอนันตะมรรคาในเวลาเพียงสี่วันได้อย่างไรกัน? เป็นไปได้ไหมว่าเขาปกปิดความแข็งแกร่งของเขามาโดยตลอด?

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ใบหน้าของฉีอู๋ฮุ่ยก็บูดบึ้งยิ่งกว่าเดิม

‘ต้องเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน เขาซ่อนความแข็งแกร่งของเขาไว้ตลอดเวลา หากเขาเป็นเพียงเศษขยะเหมือนข่าวลือจริง ๆ ยอดฝีมืออย่างซวนเทียนเจินเหรินจะรับเขาเป็นศิษย์ได้อย่างไร?’

“ศิษย์แสดงความยินดีกับท่านอาจารย์ที่ออกจากการปิดด่าน”เมื่อนางเห็นเย่ชิวอีกครั้งหลินชิงจู้รู้สึกเหมือนนางพบกับที่พึ่งของนางและคำนับเย่ชิวทันที

“เอาล่ะ ลุกขึ้นเถอะ” เย่ชิวยิ้มเบา ๆ และพยุงนางขึ้น เขารู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหันหลังกลับมาและเหลือบมองฉีอู๋ฮุ่ยด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเลศนัย “ศิษย์พี่ฉี ข้าได้ยินมาว่าท่านต้องการสั่งสอนลูกศิษย์ของข้าหรือ”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด