ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 97 ผาดาบน้ำแข็ง
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 97 ผาดาบน้ำแข็ง
แปลโดย iPAT
ซวนเยว่เบิกตากว้างและกล่าว “เจ้ากล้าดีอย่างไรจึงปฏิบัติต่อเจ้านายเหมียวของเจ้าอย่างหยาบคายเช่นนี้!” ดวงตาของนางโตเท่าไข่ห่าน
หลี่ฉิงซานมองซวนเยว่ “เจ้าไม่เคยพูดเรื่องนี้มาก่อน ชัดเจนว่าเจ้าพยายามซ่อนมันจากข้า”
ซวนเยว่หลบสายตาหลี่ฉิงซาน ด้วยเหตุผลบางประการ นางรู้สึกหวั่นไหวอยู่ภายใน นางพยายามเปลี่ยนประเด็น “ฮ่าฮ่า นั่นเป็นเพราะเจ้าไม่เคยถาม!”
หลี่ฉิงซานนั่งไขว้ขา “เป็นเช่นนั้น”
“อันใด? เหตุใดไม่กล่าวอีกครั้ง?” ซวนเยว่ยกกรงเล็บขึ้นข่มขู่
หลี่ฉิงซานกล่าว “เจ้ามีความสามารถมาก เมื่อเจ้าพบอันตราย เจ้าสามารถใช้ผนึกจันทราและเงาลวงตาเพื่อหลีกเลี่ยงมัน แต่เราจะตาย หากเจ้าต้องการฆ่าข้า เช่นนั้นก็ฆ่า ข้าไม่ต้องการถูกเจ้าใช้ประโยชน์อีกต่อไป ตราบเท่าที่เสี่ยวอันจากไปอย่างปลอดภัย ข้าก็ไม่สนว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นกับตัวข้า”
เสี่ยวอันคว้าแขนหลี่ฉิงซานและส่ายศีรษะอย่างสิ้นหวัง
ซวนเยว่กล่าว “เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าทำจริงๆงั้นหรือ?” นางสะบัดกรงเล็บอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า แต่หลี่ฉิงซานไม่พยายามหลบ
กรงเล็บหยุดอยู่ห่างจากลำคอของหลี่ฉิงซานเพียงหนึ่งมิลลิเมตร หน้าอกของซวนเยว่ยกขึ้นและลง นางหันกลับไปและกล่าว “ฮืม ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นหรือตาย หากต้องการจากไปก็ไป! ทำสิ่งที่เจ้าต้องการ!”
หลี่ฉิงซานมองนางอย่างลึกซึ้งก่อนจะหันหลังกลับ เขากำลังจะจากไป
ซวนเยว่จับนิ้วก้อยของหลี่ฉิงซานและกล่าวเบาๆว่า “มณฑลหลงโจวอยู่ไม่ไกล เราทำสำเร็จแล้ว!”
หลี่ฉิงซานหันกลับไป ทั้งหมดที่เขาเห็นคือนางมองไปที่อื่นไม่ใช่เขา แสงแดดตกกระทบแพขนตาของนางทำให้เกิดเงาบนดวงตาที่ใสบริสุทธิ์ราวกับน้ำในทะเลสาบ ตอนนี้นางดูเปราะบางและโศกเศร้าซึ่งบีบหัวใจของหลี่ฉิงซานเป็นอย่างมาก
หลังจากนิ่งเงียบไปชั่วครู่ หลี่ฉิงซานก็เปิดปากกล่าว “เอาล่ะ ข้าจะส่งเจ้าไปให้ถึงที่นั่นและทำสัญญาของเราให้สำเร็จ”
ซวนเยว่ร่าเริงขึ้นทันที นางแลบลิ้นและเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เกลี้ยกล่อมเจ้าช่างง่ายดายนัก!” ตอนนี้นางดูไม่เปราะบางและโศกเศร้าเหมือนก่อนหน้าแม้แต่น้อย
หลี่ฉิงซานก้มศีรษะลงด้วยใบหน้ามืดครึ้ม เสี่ยวอันมองเขาด้วยความเห็นใจ
“มันเป็นชะตาฟ้าลิขิต!” ซวนเยว่กระโดดไปรอบๆหลี่ฉิงซานอย่างมีความสุขก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนศีรษะของเขาและกระตุ้นเขา “ไปกันเถอะ!”
หลี่ฉิงซานชำเลืองมองอย่างชั่วร้ายก่อนจะเดินทางต่อ
เป็นเวลานานพอสมควรแล้วตั้งแต่เขาเดินทางภายใต้แสงอาทิตย์ แสงแดดในฤดูหนาวค่อนข้างอบอุ่น ตอนนี้เขาคุ้นเคยกับร่างปีศาจของเขาแล้ว
ซวนเยว่กล่าว “ไม่จำเป็นต้องรู้สึกละอายใจ! ไม่มีสิ่งใดน่าอายที่เจ้าพ่ายแพ้ให้กับสุดยอดท่าร่างของข้า!”
“สุดยอดท่าร่าง!?”
ซวนเยว่กล่าวต่อ “ในความเป็นจริงข้าต้องการจากมานานแล้วแต่เมื่อเห็นการแสดงออกของราชินีแห่งความมืด ข้าก็ไม่สามารถตัดใจจากมา”
หลี่ฉิงซานเย้ยหยัน “แต่เจ้าก็ยังจากมาในที่สุด”
ซวนเยว่กล่าวด้วยความพึงพอใจ “นั่นเป็นเพราะข้าค่อนข้างเย็นชา!”
หลี่ฉิงซานโต้กลับ “นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรภูมิใจ! หากเจ้าเย็นชาต่อผู้อื่น ผู้อื่นก็จะเย็นชาต่อเจ้าเช่นกัน”
“จริงหรือ?”
บนภูเขาหนูดำ ราชาหนูหมอบอยู่บนพื้นด้วยศีรษะที่ฝังอยู่ใต้ดินอย่างสมบูรณ์ เสียงจากระยะทางห้าสิบกิโลเมตรดังมาถึงหูของมัน บทสนทนาของหลี่ฉิงซานกับซวนเยว่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ความสามารถโดยกำเนิดที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นของปีศาจมักเกี่ยวกับการโจมตีหรือป้องกัน แต่ความสามารถในการฟังเสียงใต้พิภพเป็นสิ่งที่หาได้ยาก อย่างไรก็ตามมันเหมาะสมกับบุคลิกที่ขี้ขลาดของราชาหนูตัวนี้
มันดึงศีรษะขึ้นมาจากพื้นและกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยดิน “มีสิ่งผิดปกติจริงๆ!”
ฝูงหนูตะโกน “ราชาฉลาดล้ำเลิศ!”
“พวกขยะ! ออกไล่ล่าพวกมันเดี๋ยวนี้!”
อีกด้านหนึ่ง หูของซวนเยว่ตั้งขึ้นอย่างกะทันหัน “โอ้ ไม่ พวกมันตามมาแล้ว รีบไปเร็ว!”
หลี่ฉิงซานสะบัดขาและวิ่งอย่างเต็มกำลัง เขาทิ้งรอยเท้าไว้หนึ่งก้าวหลังจากข้ามผ่านระยะทางหลายสิบเมตร
“เจ้าช้าเกินไป!” ซวนเยว่รู้สึกว่าเขายังช้าเกินไป
หลี่ฉิงซานกล่าว “เหตุใดเจ้าไม่ลองอุ้มข้า!”
ซวนเยว่หยิบเม็ดยาจิตวิญญาณออกมาและโยนเข้าไปในปากของหลี่ฉิงซานก่อนจะนำยันต์สีแดงเข้มออกมา
เมื่อยาออกฤทธิ์ หลี่ฉิงซานรู้สึกตัวเบาราวกับน้ำหนักของเขาลดลงครึ่งหนึ่ง ยันต์สีแดงระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยบินวนอยู่ล้อมตัวหลี่ฉิงซานและทำให้เขารู้สึกไร้น้ำหนักอย่างสมบูรณ์
หลี่ฉิงซานทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นป่าดึกดำบรรพอยู่ด้านล่าง ภูเขาที่อยู่ห่างออกไปดูเหมือนเส้นโค้ง ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกำลังบินอยู่กลางอากาศ
เมื่อเขากลับลงมาบนพื้น เขาพยายามปรับท่าทาง ด้วยการโน้มตัวไปข้างหน้าและออกแรงส่ง เขาพุ่งออกไปหลายร้อยเมตรในครั้งเดียว เนินเขาเหล่านี้ไม่เป็นอุปสรรคต่อเขาอีกต่อไป
ซวนเยว่หัวเราะเสียงดัง “ไป เหมียว!”
กลุ่มฝุ่นควันเคลื่อนตัวด้วยความเร็วที่น่าตกใจ ภายใต้กลุ่มฝุ่นควัน ราชาหนูอยู่ด้านหน้าสุด มันยืนอยู่บนคลื่นที่เกิดจากหนูจำนวนนับไม่ถ้วน เมื่อมันพบหลี่ฉิงซาน มันก็ตะโกนเสียงดัง “หยุด!”
ซวนเยว่รู้ว่าพวกนางถูกค้นพบแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่พยายามซ่อนตัวอีก นางเย้ยหยัน “มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะหยุด! เจ้าโง่!”
แสงสีเหลืองในดวงตาของราชาหนูส่องประกายขึ้นขณะที่หนามดินพุ่งขึ้นมาจากพื้น ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือความแข็งแกร่ง มันโหดร้ายกว่าหนูทั่วไปมาก หนานดินโผล่ขึ้นมาในจังหวะที่หลี่ฉิงซานกำลังจะเหยียบพื้น
หลี่ฉิงซานต้องเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เขาคำราม “ปีศาจวัวกระทืบ!” เขาเหยียบลงบนยอดหนานที่พึ่งโผล่ขึ้นมาและใช้มันส่งตัวเองทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง
โชคดีที่เท้าของเขาเป็นกีบเท้าวัวที่แข็งเหมือนเหล็ก มิฉะนั้นมันอาจพิการไปแล้ว
เขาพุ่งสูงขึ้นไปหลายร้อยเมตร ท้องฟ้าสีครามทำให้ดวงตาของเขาพร่ามัว
ซวนเยว่ชี้นไปที่ขอบฟ้า “ต้าไห่ เสี่ยวไป๋ พวกเจ้าเห็นหรือไม่? ผาดาบน้ำแข็งอยู่ตรงหน้าเราแล้ว!”
หน้าผาน้ำแข็งที่สูงตระหง่านตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาไร้ขอบเขต ราวกับสวรรค์ใช้ดาบน้ำแข็งเล่มนี้แบ่งเทือกเขาที่เหมือนมังกรออกเป็นสองส่วน
นี่เป็นเขตแดนระหว่างสองมณฑล
ความหวังผุดขึ้นในหัวใจของหลี่ฉิงซาน เขาเหมือนนักเดินทางที่มองเห็นจุดหมายสุดท้ายของตนในที่สุด แน่นอนว่าเขาเข้าใจว่ามันเป็นการประเมินระยะทางแบบลวกๆ ในความเป็นจริงผาดาบน้ำแข็งยังอยู่อีกไกล
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าเขาสามารถไปถึงที่นั่นได้ด้วยการก้าวเท้าเพียงไม่กี่ก้าว
แต่เมื่อเขาก้มศีรษะลง สิ่งที่เขาเห็นคือเขากำลังตกลงไปในบ่อทรายดูดที่ทอดตัวยาวออกไปหลายร้อยเมตร เขาจมลงไปทันที
ทรายดูดหมุนเหมือนวังน้ำวน แรงดูดของมันน่ากลัวมาก เขารู้สึกเหมือนมือจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังดึงเขาให้จมลงไป แม้เขาจะมีพละกำลังมากมายเพียงใด แต่เขาก็ไม่สามารถใช้มันได้ในเวลานี้ ยิ่งดิ้นรนก็ยิ่งจมลึกลงไป
ราชาหนูฉวยโอกาสนี้ไล่ตามมาในจังหวะเดียว มันหัวเราะเสียงดัง “เจ้าตกลงสู่หลุมพรางของข้า! พวกเจ้าดูถูกข้า เช่นนั้นข้าก็จะทำให้พวกเจ้าอยู่ที่นี่ตลอดไป!”
“ราชาฉลาดล้ำเลิศ!”
“เหมียว!” เสียงร้องของแมวที่น่าเกรงขามยิ่งกว่าเสียงคำรามของเสือดังขึ้น ซวนเยว่ยืนอยู่บนไหล่ของหลี่ฉิงซานและปลดปล่อยปราณปีศาจที่ทรงพลังออกมา นางจ้องราชาหนูโดยตรง “เจ้าเป็นหนูกินแมวงั้นหรือ? ฮืม แม้จะน่าขยะแขยงแต่วันนี้ข้าจะลองชิมหนูดูสักครั้ง!”