ตอนที่แล้วตอนที่ 664 : ความเมตตาต่อศัตรูคือความโหดร้ายต่อตนเอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 666 : มันเป็นชะตากรรมของคุณ!

ตอนที่ 665 : เขาจะสบายดี


ตอนที่ 665 : เขาจะสบายดี

เจียงเฉินรู้สึกว่าฮัวซินซินนั้นดูไม่เหมือนจะสนใจที่จะช่วย “คู่หมั้น” ของเธอเลยแม้แต่น้อย แต่ดูเหมือนว่าเธอจะสนใจเขาเป็นอย่างมาก

“คู่หมั้นของคุณกำลังจะติดคุก คุณจะไม่รู้สึกเสียใจหน่อยหรอ คุณไม่คิดจะไปช่วยเขาหน่อยหรอ?”

เจียงเฉินถามออกมา

ฮัวซินซินยิ้มออกมาเล็กน้อย “คนโง่แบบนั้นไม่จำเป็นต้องไปช่วยหรอก! แต่ว่า~~”

เธอจ้องไปที่เจียงเฉินและทันใดนั้นเธอก็ดึงเนคไทของเจียงเฉินเข้ามาและจูบปากของเจียงเฉินอย่างรวดเร็ว!

เจียงเฉินที่ถูกดึงเข้าไปก็ตั้งตัวไม่ทัน~~

ถูกสาวงามจูบเข้าเต็มๆ!

ฉากนี้ทำให้ไป่หยู่ฉีต้องตกตะลึง

เจียงเฉิงรีบผลักฮัวซินซินออกไปแล้วพูดออกมาด้วยความขุ่นเคืองว่า “คุณคิดจะทำอะไร?!”

แม้แต่เพื่อนสนิทของหลินซีหราน ซูหยิงก็ยังต้องรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย

“เฮ้! แม้ว่าคุณจะเป็นคนจีนที่มาจากต่างประเทศ แต่มันไม่เกินไปไหนหน่อยหรอที่จะมาแกล้งหนุ่มหล่อต่อหน้าตำรวจแบบนี้?”

ซูหยิงกังวล

“อื้ม หวานดีจัง”

ฮัวซินซินยิ้มไห้กับจียงเฉินเล็กน้อยแล้วพูดออกมาว่า “ฉันคิดว่าคุณน่าสนใจกว่าไป่ซิงเหวินมาก ต่อให้วันนี้คุณจะจับเขาไม่ได้แต่ฉันก็จะไม่แต่งงานกับเขาอยู่ดี แต่กับคุณ..... คุณทำให้ฉันสนใจขึ้นมามากเลยทีเดียว....”

เจียงเฉินไอออกมา “คุณต้องการอะไรกันแน่?”

ผู้หญิงคนนี้….แสบจริงๆ!

ฮัวซินซินพูดขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันเพิ่งจะเห็นว่าหนุ่มหล่ออย่างคุณสามารถแก้ปัญหาพวกนี้ได้อย่างง่ายดายฉันก็เลยคิดจะให้รางวัลกับคุณเท่านั้น นอกจากนี้ฉันอยากจะขอเตือนคุณสักหน่อยว่า พลังของตระกูลไป่นั้นแข็งแกร่งมาก การที่คุณไปทำกับทายาทสายตรงของพวกเขาแบบนั้นคุณก็ควรที่จะระวังตัวเอาไว้หน่อยก็ดี”

หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็เดินออกไปทันที….

เจียงเฉิน “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”

ขอทีเถอะ รอบตัวฉันมีผู้หญิงสวยๆมากพออยู่แล้ว!

มีอย่างน้อยสิบคนที่สามารถแข่งด้านความสวยกับเธอได้!

ก็ตามฮัวซินซินคนนี้ก็ทำให้เจียงเฉินสัมผัสได้ถึงแรงคุกคามที่เล็กน้อย....

นับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อันตรายมากเลยทีเดียว~~

ที่ไหนสักแห่งในสิงคโปร์ ตระกูลไป่

เดิมทีตระกูลไป่นั้นจัดว่าเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดตระกูลหนึ่งในประเทศจีน แต่ในช่วงที่มีสงครามและความโกลหลมากมายในประเทศจีน ตระกูลไป่ก็ได้ย้ายไปยังสิงคโปร์ แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะมีลูกหลานของตระกูลบางส่วนที่เดินทางกลับมายังประเทศจีน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ได้ถือว่าตัวเองนั้นย้ายประเทศมาแล้วเพราะแม้แต่บ้านตระกูลหลักก็ยังถูกตั้งอยู่ที่ใดที่หนึ่งในประเทศสิงคโปร์

ที่นี่คือวิลล่าขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นทะเลได้

มีทั้งภูเขาขนาดใหญ่และด้านหน้าก็ยังมีทะเลจีนใต้ที่มองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา

พื้นที่ตรงนี้นับว่าเป็นพื้นที่ที่มีฮวงจุ้ยยอดเยี่ยมมาก

และที่ด้านบนของภูเขาก็มี อาคารแห่งหนึ่งที่ดูคล้ายกับคฤหาสน์ที่มีกลิ่นอายของความโบราณแฝงเอาไว้อยู่

มันคือคฤหาสน์ตระกูลไป่

ในห้องชั้นบนสุดของคฤหาสน์

“ว่ายังไงนะ?!”

ชายวัยกลางคนที่ดูคล้ายกับไป่ซิงเหวินกำลังมีสีหน้าที่โกรธจัดเมื่อได้ยินคำพูดของเลขาที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเขา เขากระแทกมือลงบนโต๊ะทำงานของเขาจนส่งเสียงดังมา!

“ซิงเอ๋อร์ ถูกตำรวจประเทศจีนจับงั้นหรอ?!”

คนคนนี้ก็คือพ่อของไป่ซิงเหวิน ลูกหลานรุ่นที่ 87 ไป่ฉีเต๋อ

“แถมข้อหายังเป็น – มีส่วนร่วมในการฆาตกรรม? เป็นคดีอาญาร้ายแรง?!”

เลขาที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามก็มีเหงื่อเย็นผุดออกมาบนหน้าผากของเขา “ใช่ครับ ผมเองก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนนี้นายน้อยส่งนักฆ่าที่มีชื่อว่าหยานหยวนที่ถูกส่งไปเพื่อคอยปกป้องเขาและนักฆ่าอีกคนหนึ่งไปยังอาคารสำนักงานแห่งหนึ่งในเมืองหลวงเพื่อทำการลอบสังหารแต่แล้วสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็เกิดขึ้นในอาคารแห่งนั้น จนกระทั่งสิ่งนี้นำไปสู่การสอบสวนโดยตำรวจของประเทศจีนจนเป็นผลให้นายน้อยที่เป็นคนใกล้ชิดของนักฆ่าทั้งสองคนตกเป็นผู้ต้องสงสัยและถูกจับกุมครับ”

“ไอ้เวร!”

ดวงตาของไป่ฉีเต๋อแทบจะมีไฟลุกออกมา “ทำไมซิงเอ๋อร์ถึงได้ประมาทขนาดนี้? เขาต้องการจะจัดการกับใครกัน?”

“ว่ากันว่าเป็นลูกสาวของไป่ฉีหมิง ชื่อว่าไป่หยู่ฉีครับ เธอเป็นลูกหลานตระกูลไป่อีกคนหนึ่งที่ถูกส่งไปยังเมืองหลวงของประเทศจีนครับ”

“หึ! ก็แค่ผู้หญิง!”

ล่องลอยของความรังเกียจปรากฏบนใบหน้าของไป่ฉีเต๋อ “ไอ้พวกลูกเมียน้อย!”

ไป่ฉีหมิงและไป่ฉีเต๋อนั้นเป็นพี่น้องกันแต่ว่าไป่ฉีหมิงนั้นเกิดมาจากภรรยาน้อยส่วนไป่ฉีเต๋อนั้นเกิดมาจากภรรยาหลวงของผู้นำตระกูล

ดังนั้นแม้ว่าไป่ฉีหมิงจะแก่กว่าไป่ฉีเต๋อแต่ไป่ฉีเต๋อก็ไม่เคยมองอีกฝ่ายเป็นพี่น้องของเขา

และยังเรียกอีกฝ่ายว่าเป็นลูกเมียน้อยอีกด้วย

และในมุมมองของไป่ฉีเต๋อนั้นไป่หยู่ฉีนั้นก็แค่ลูกของลูกเมียน้อยเท่านั้น....

คนแบบนี้จะมาต่อสู้กับลูกชายของเขาได้ยังไงกัน?!

“ซิงเอ๋อร์ก็ด้วย! คิดได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนี้จะกลายมาเป็นภัยคุกคามของตัวเอง?! จะไปยุ่งกับมันเพื่ออะไรกัน?! นอกจากนี้ผู้นำตระกูลยังมีคำสั่งให้สมาชิกของกลุ่มโถงวิญญาณสีดำห้ามแตะต้องคนตระกูลไป่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ทำไมหยานหยวนถึงกล้าลงมือทำแบบนั้น?!”

ไป่ฉีเต๋อพูดออกมาด้วยความโกรธ

แม้ว่ากลุ่มโถงวิญญาณสีดำจะถูกส่งออกไปทำงานในต่างประเทศ แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่ได้หาวิธีการในการป้องกันเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้นเอาไว้

สมาชิกของกลุ่มโถงวิญญาณสีดำจะมีชิปที่ฝังเอาไว้อยู่ในร่างกาย ซึ่งสามารถตรวจสอบทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขา และหากถูกตรวจพบว่าพวกเขาละเมิดคำสั่งของผู้นำตระกูลพวกเขาจะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง

“ว่ากันว่าคำสั่งที่นายน้อยสั่งให้หยานหยวนไปโจมตีนั้น เป้าหมายไม่ใช่ไป่หยู่ฉีครับแต่ว่าเป็นผู้ชายอีกคนหนึ่ง เพราะถึงแม้ว่าผู้นำตระกูลคนปัจจุบันจะแก่มากแล้วแต่ว่าเขาก็ยังคงเป็นคนที่มีอำนาจสูงสุดอยู่และการละเมิดคำสั่งของผู้นำตระกูลอย่างโจ่งแจ้งนั้นถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้ยากมากที่หยานหยวนจะกล้าลงมือกับคนตระกูลไป่จริงๆครับ”

“งั้นหรอ?”

ไป่ฉีเต๋อถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแล้วพูดออกมาต่อว่า “ถ้าหากว่าไม่ได้ละเมิดคำสั่งของผู้นำตระกูลก็ถือว่าดีไป”

“แต่ว่าเป็นผู้ชายคนนี้ต่างหากที่ทำให้นายน้อยต้องมาตกที่นั่งลำบากครับ!”

เลขายิ้มออกมาอย่างขมขื่น “เขาเป็นคนที่ทำให้นักฆ่าทั้งสองคนที่น้อยส่งไปต้องตายอย่างน่าอนาถ”

“….”

ใบหน้าของไป่ฉีเต๋อเริ่มมืดมน “นายกำลังจะหมายความว่าซิงเอ๋อร์ถูกผู้ชายคนนี้หลอก?”

“ใช่ครับ ตอนที่นายน้อยถูกจับครั้งแรก ผมได้รับข้อความเสียงของนายน้อยผ่านไมค์พิเศษที่ติดตัวนายน้อยเอาไว้ ตอนนั้นเขาพูดออกมาว่าให้ฆ่าผู้ชายที่ชื่อว่าเจียงเฉินครับ”

เลขาหยิบมือถือของเขาออกมาก่อนจะกดเล่นคลิปเสียง

“พ่อ!”

เสียงของไป่ซิงเหวินดังขึ้น “พ่อช่วยผมด้วย!”

ไป่ฉีเต๋อ “….”

ไป่ซิงเหวินพูดออกมา “เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะผู้ชายที่ว่าเจียงเฉิน!  พ่อต้องช่วยผมฆ่ามันแล้วเอาผมออกไปนะ!”

“แล้วหลังจากนั้น?”

“ไมค์ของนายน้อยที่ถูกติดเอาไว้กับเสื้อผ้าก็ถูกตำรวจจีนพบและนายน้อยก็ถูกเปลี่ยนชุด ตอนนี้เราจึงขาดการติดต่อกับนายน้อยแล้วครับ”

เลขาพูดออกมา

“เอาล่ะ เตรียมเครื่องบินส่วนตัวให้ฉันในทันทีฉันต้องการที่จะบินไปปักกิ่ง!”

ใบหน้าของไป่ฉีเต๋อเต็มไปด้วยความมืดมน

“ไม่สิ ก่อนที่ฉันจะไปฉันต้องไปหาผู้นำตระกูล ให้เขาเป็นลงโทษลูกหลานตระกูลไม่รักดี! ไม่สิ….. ลูกเมียน้อย!”

แววตาของไป่ฉีเต๋อเต็มไปด้วยความเย็นชา

2 ชั่วโมงต่อมา....

เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวสุดหรูก็บินออกจากสนามบินในประเทศสิงคโปร์ มันบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนจะบินตรงไปยังเมืองหลวงปักกิ่งท่ามกลางความมืดมิด

ไป่ฉีเต๋อมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา

“ซิงเหวิน ลูกจะต้องอดทนเอาไว้ รอพ่อก่อน พ่อกำลังจะเข้าไปช่วยแล้ว”

ไป่ฉีเต๋อสูดหายใจอย่างเย็นชา

บนเครื่องบินส่วนตัว~~

ก็มีสมาชิกกลุ่มห้องโถงวิญญาณสีดำพร้อมอาวุธครบมือจำนวนหลายสิบคน!

พวกเขาเหมือนกับกองกำลังพิเศษที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี!

ทุกคนมีอาวุธปืน เสื้อเกราะกันกระสุนและพวกเขาเชี่ยวชาญด้านการลอบสังหารทุกรูปแบบ

ไป่ฉีเต๋อกำลังนำพวกเขาไปยังประเทศจีน

แต่ในเวลานี้เอง~~

พวกเขากลับไม่รู้เลยว่า

ลูกชายของเขาที่ถูกเจียงเฉินส่งไปยังเรือนจำ....

ได้เสียชีวิตแล้ว!

“เดี๋ยวก่อน! รีบไปดูนักโทษเร็ว!”

ในเรือนจำพวกเขากำลังพบกับปัญหาร้ายแรง

ผู้คุมมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

แพทย์ในเรือนจำก็เข้ามาตรวจสอบไป่ซิงเหวินก่อนที่จะต้องใส่หัว

“ไม่ทันแล้วเขาเสียชีวิตแล้ว”

“นักโทษจะตายโดยไร้สาเหตุได้ยังไงกัน?”

ผู้บัญชาการเรือนจำพูดออกมายังหดหู่

การที่มีนักโทษเสียชีวิตในเรือนจำโดยที่ไม่ทราบสาเหตุหรือสาเหตุไม่แน่ชัด มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะอธิบายต่อผู้บังคับบัญชาของเขา

“สาเหตุการตายคืออะไรกันแน่?”

“ผมคงจะต้องชันสูตรพลิกศพ แต่ว่า….”

แพทย์ในเรือนจำพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม “ถึงแม้ว่าผมจะเป็นหมอในเรือนจำนี้มาหลายปีแล้วแต่ผมก็ยังไม่เคยเห็นการตายที่แปลกประหลาดแบบนี้มาก่อนเลย มันไม่เหมือนกับว่าเขาจะถูกวางยาพิษหรือว่าถูกฆ่าและที่สำคัญเขายังถูกขังเดี่ยว ดังนั้นเหตุผลที่เป็นไปได้ก็มีเพียงหนึ่งเดียวคือโรคประจำตัวของเขาที่นำพาเขาไปสู่ความตาย”

“ห๊ะ? แม้แต่นายที่มีประสบการณ์มากก็ยังไม่รู้สาเหตุการตายของเขาเลยด้วยซ้ำ?”

ผู้บัญชาการเรือนจำรู้สึกประหลาดใจ

“ใช่ครับ ดังนั้นจึงเหลือเพียงวิธีเดียวก็คือการชันสูตรพลิกศพ”

“ติดต่อไปยังศูนย์ใหญ่ในเมืองหลวงแล้วก็ครอบครัวผู้ตายด้วย”

ผู้บัญชาการเรือนจำพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้

ทันทีที่ไป่ฉีเต๋อลงจอดเขาก็ต้องได้รับข่าวร้าย

“อะไรนะ?! นายจะบอกว่าลูกชายของฉันตายแล้ว?! เขาตายในเรือนจำ?!”

ไป่ฉีเต๋อตัวสั่นไปทั้งตัว!

เขามีลูกชายอยู่เพียงแค่คนเดียว!

แม้ว่าลูกชายของเขาจะถูกความเย่อหยิ่งและความทะเยอทะยานครอบงำจนเขาเองก็รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง…..

แต่ว่านั่นก็เป็นเพียงลูกชายคนเดียวของเขา!

เขาจะสูญเสียลูกชายคนนี้ไปได้ยังไงกัน?!

ไป่ฉีเต๋อโกรธทันที “ใครเป็นคนบอกมา?!”

“เราได้รับแจ้งมาจากตำรวจประเทศจีน ทางนั้นแจ้งมาว่าเมื่อคืนนี้นายน้อยเสียชีวิตในเรือนจำอย่างกระทันหันโดยที่ไม่ทราบสาเหตุครับ”

เลขาพูดออกมาพร้อมกับเหงื่อเย็นๆที่หลั่งออกมาเต็มตัว

เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะช่วงหลังมานี้มีแต่ฝั่งของไป่ฉีเต๋อที่ต้องพบกับเรื่องโชคร้าย

จู่ๆนายน้อยก็เสียชีวิตโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ

เรื่องนี้นับว่าน่ากลัวมาก!

“ไอ้สารเลว! มันเกิดอะไรขึ้น?! ตำรวจจีนจะต้องอธิบายให้ฉันฟัง!”

ไป่ฉีเต๋อพูดออกมาอย่างโกรธจัด

“ตำรวจแจ้งมาให้ครอบครัวไปรับศพนะครับ”

“อย่าเพิ่งไป!”

......

ในเวลานี้เองเจียงเฉินกำลังนั่งอยู่อย่างสบายๆในห้องทำงานอันกว้างขวาง

แน่นอนว่าไป่ซิงเหวินเป็นเขาเองที่สั่งฆ่า

เจียงเฉินเมื่อทำอะไรแล้วเขาไม่ต้องการที่จะปล่อยให้มันจบง่ายๆ

ในเมื่อไป่ซิงเหวินต้องการที่จะฆ่าเขา ดังนั้นเจียงเฉินก็ไม่จำเป็นต้องมีความปราณี

เขาได้สั่งให้มืออาชีพเป็นคนจัดการเรื่องเมื่อวานนี้เอง

ถามว่าเขากลัวไหมที่จะถูกจับได้?

ไม่เลย! เพราะว่าลูกน้องของเจียงเฉินนั้นแตกต่างจากลูกน้องของไป่ซิงเหวิน พวกเขาเป็นนักฆ่าชั้นสูงอย่างแท้จริง!

ไป่หยู่ฉีเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ซับซ้อน “ไป่ซิงเหวินจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นพี่ชายของฉัน”

เจียงเฉินยิ้มออกมา

พี่ชายของเธอ?

ในเมื่อไป่ซิงเหวินต้องการที่จะฆ่าเธอแล้ว นั่นก็หมายความว่าเขาไม่เคยคิดว่าเธอเป็นน้องสาว!

แต่ถึงอย่างนั้นเจียงเฉินก็ยังคงปลอบโยนออกมา “เข้ามาเป็นอะไรหรอก”

“ตอนนี้เขาจะไม่เศร้าใช่ไหม? เขาจะไม่กังวลใช่ไหม?”

“ไม่แน่นอน!”

เจียงเฉินพูดออกมาอย่างจริงจัง

เขาไม่ได้โกหก

เพราะว่าในตอนนี้ไป่ซิงเหวินคงไม่มีทางรู้สึกเศร้าหรือกังวลได้อีกต่อไปแล้ว....

เพราะว่าคนตายไม่มีทางรู้สึกอะไรได้!

“ไม่เป็นไรหรอก~”

ไป่หยู่ฉีถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและขอโทษเจียงเฉิน “ฉันต้องขอโทษนายด้วยตั้งแต่ที่นายพบฉัน นายก็ต้องเจอปัญหามาโดยตลอด”

ในใจของเจียงเฉิน : พูดถูก!

ระบบบ้านี่ทำไมถึงต้องให้ฉันมาเจอแต่เรื่องตลอดเวลาด้วย?

แล้วทำไมถึงยังไม่ให้รางวัลสักที?

หรือว่างานยังไม่จบ?

มันควรจะจบได้แล้วไม่ใช่หรอ?

ในเวลานี้เอง~~

ก็มีคนวิ่งเข้ามาด้วยอาการเหนื่อยหอบ “ไม่ดีแล้วครับท่านประธาน ข้างล่างกำลังมีคนถือโลงศพเข้ามาพร้อมกับร้องไห้!”

“???”

ไป่หยู่ฉีตกตะลึง

ถือโลงศพ? ร้องไห้?

ทั้งหมดเนี่ยมันเกี่ยวข้องอะไรกัน?

มันเกี่ยวข้องกับฉันงั้นหรอ?

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด