ตอนที่ 665 : เขาจะสบายดี
ตอนที่ 665 : เขาจะสบายดี
เจียงเฉินรู้สึกว่าฮัวซินซินนั้นดูไม่เหมือนจะสนใจที่จะช่วย “คู่หมั้น” ของเธอเลยแม้แต่น้อย แต่ดูเหมือนว่าเธอจะสนใจเขาเป็นอย่างมาก
“คู่หมั้นของคุณกำลังจะติดคุก คุณจะไม่รู้สึกเสียใจหน่อยหรอ คุณไม่คิดจะไปช่วยเขาหน่อยหรอ?”
เจียงเฉินถามออกมา
ฮัวซินซินยิ้มออกมาเล็กน้อย “คนโง่แบบนั้นไม่จำเป็นต้องไปช่วยหรอก! แต่ว่า~~”
เธอจ้องไปที่เจียงเฉินและทันใดนั้นเธอก็ดึงเนคไทของเจียงเฉินเข้ามาและจูบปากของเจียงเฉินอย่างรวดเร็ว!
เจียงเฉินที่ถูกดึงเข้าไปก็ตั้งตัวไม่ทัน~~
ถูกสาวงามจูบเข้าเต็มๆ!
ฉากนี้ทำให้ไป่หยู่ฉีต้องตกตะลึง
เจียงเฉิงรีบผลักฮัวซินซินออกไปแล้วพูดออกมาด้วยความขุ่นเคืองว่า “คุณคิดจะทำอะไร?!”
แม้แต่เพื่อนสนิทของหลินซีหราน ซูหยิงก็ยังต้องรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย
“เฮ้! แม้ว่าคุณจะเป็นคนจีนที่มาจากต่างประเทศ แต่มันไม่เกินไปไหนหน่อยหรอที่จะมาแกล้งหนุ่มหล่อต่อหน้าตำรวจแบบนี้?”
ซูหยิงกังวล
“อื้ม หวานดีจัง”
ฮัวซินซินยิ้มไห้กับจียงเฉินเล็กน้อยแล้วพูดออกมาว่า “ฉันคิดว่าคุณน่าสนใจกว่าไป่ซิงเหวินมาก ต่อให้วันนี้คุณจะจับเขาไม่ได้แต่ฉันก็จะไม่แต่งงานกับเขาอยู่ดี แต่กับคุณ..... คุณทำให้ฉันสนใจขึ้นมามากเลยทีเดียว....”
เจียงเฉินไอออกมา “คุณต้องการอะไรกันแน่?”
ผู้หญิงคนนี้….แสบจริงๆ!
ฮัวซินซินพูดขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันเพิ่งจะเห็นว่าหนุ่มหล่ออย่างคุณสามารถแก้ปัญหาพวกนี้ได้อย่างง่ายดายฉันก็เลยคิดจะให้รางวัลกับคุณเท่านั้น นอกจากนี้ฉันอยากจะขอเตือนคุณสักหน่อยว่า พลังของตระกูลไป่นั้นแข็งแกร่งมาก การที่คุณไปทำกับทายาทสายตรงของพวกเขาแบบนั้นคุณก็ควรที่จะระวังตัวเอาไว้หน่อยก็ดี”
หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็เดินออกไปทันที….
เจียงเฉิน “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”
ขอทีเถอะ รอบตัวฉันมีผู้หญิงสวยๆมากพออยู่แล้ว!
มีอย่างน้อยสิบคนที่สามารถแข่งด้านความสวยกับเธอได้!
ก็ตามฮัวซินซินคนนี้ก็ทำให้เจียงเฉินสัมผัสได้ถึงแรงคุกคามที่เล็กน้อย....
นับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อันตรายมากเลยทีเดียว~~
ที่ไหนสักแห่งในสิงคโปร์ ตระกูลไป่
เดิมทีตระกูลไป่นั้นจัดว่าเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดตระกูลหนึ่งในประเทศจีน แต่ในช่วงที่มีสงครามและความโกลหลมากมายในประเทศจีน ตระกูลไป่ก็ได้ย้ายไปยังสิงคโปร์ แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะมีลูกหลานของตระกูลบางส่วนที่เดินทางกลับมายังประเทศจีน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ได้ถือว่าตัวเองนั้นย้ายประเทศมาแล้วเพราะแม้แต่บ้านตระกูลหลักก็ยังถูกตั้งอยู่ที่ใดที่หนึ่งในประเทศสิงคโปร์
ที่นี่คือวิลล่าขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นทะเลได้
มีทั้งภูเขาขนาดใหญ่และด้านหน้าก็ยังมีทะเลจีนใต้ที่มองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา
พื้นที่ตรงนี้นับว่าเป็นพื้นที่ที่มีฮวงจุ้ยยอดเยี่ยมมาก
และที่ด้านบนของภูเขาก็มี อาคารแห่งหนึ่งที่ดูคล้ายกับคฤหาสน์ที่มีกลิ่นอายของความโบราณแฝงเอาไว้อยู่
มันคือคฤหาสน์ตระกูลไป่
ในห้องชั้นบนสุดของคฤหาสน์
“ว่ายังไงนะ?!”
ชายวัยกลางคนที่ดูคล้ายกับไป่ซิงเหวินกำลังมีสีหน้าที่โกรธจัดเมื่อได้ยินคำพูดของเลขาที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเขา เขากระแทกมือลงบนโต๊ะทำงานของเขาจนส่งเสียงดังมา!
“ซิงเอ๋อร์ ถูกตำรวจประเทศจีนจับงั้นหรอ?!”
คนคนนี้ก็คือพ่อของไป่ซิงเหวิน ลูกหลานรุ่นที่ 87 ไป่ฉีเต๋อ
“แถมข้อหายังเป็น – มีส่วนร่วมในการฆาตกรรม? เป็นคดีอาญาร้ายแรง?!”
เลขาที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามก็มีเหงื่อเย็นผุดออกมาบนหน้าผากของเขา “ใช่ครับ ผมเองก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนนี้นายน้อยส่งนักฆ่าที่มีชื่อว่าหยานหยวนที่ถูกส่งไปเพื่อคอยปกป้องเขาและนักฆ่าอีกคนหนึ่งไปยังอาคารสำนักงานแห่งหนึ่งในเมืองหลวงเพื่อทำการลอบสังหารแต่แล้วสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็เกิดขึ้นในอาคารแห่งนั้น จนกระทั่งสิ่งนี้นำไปสู่การสอบสวนโดยตำรวจของประเทศจีนจนเป็นผลให้นายน้อยที่เป็นคนใกล้ชิดของนักฆ่าทั้งสองคนตกเป็นผู้ต้องสงสัยและถูกจับกุมครับ”
“ไอ้เวร!”
ดวงตาของไป่ฉีเต๋อแทบจะมีไฟลุกออกมา “ทำไมซิงเอ๋อร์ถึงได้ประมาทขนาดนี้? เขาต้องการจะจัดการกับใครกัน?”
“ว่ากันว่าเป็นลูกสาวของไป่ฉีหมิง ชื่อว่าไป่หยู่ฉีครับ เธอเป็นลูกหลานตระกูลไป่อีกคนหนึ่งที่ถูกส่งไปยังเมืองหลวงของประเทศจีนครับ”
“หึ! ก็แค่ผู้หญิง!”
ล่องลอยของความรังเกียจปรากฏบนใบหน้าของไป่ฉีเต๋อ “ไอ้พวกลูกเมียน้อย!”
ไป่ฉีหมิงและไป่ฉีเต๋อนั้นเป็นพี่น้องกันแต่ว่าไป่ฉีหมิงนั้นเกิดมาจากภรรยาน้อยส่วนไป่ฉีเต๋อนั้นเกิดมาจากภรรยาหลวงของผู้นำตระกูล
ดังนั้นแม้ว่าไป่ฉีหมิงจะแก่กว่าไป่ฉีเต๋อแต่ไป่ฉีเต๋อก็ไม่เคยมองอีกฝ่ายเป็นพี่น้องของเขา
และยังเรียกอีกฝ่ายว่าเป็นลูกเมียน้อยอีกด้วย
และในมุมมองของไป่ฉีเต๋อนั้นไป่หยู่ฉีนั้นก็แค่ลูกของลูกเมียน้อยเท่านั้น....
คนแบบนี้จะมาต่อสู้กับลูกชายของเขาได้ยังไงกัน?!
“ซิงเอ๋อร์ก็ด้วย! คิดได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนี้จะกลายมาเป็นภัยคุกคามของตัวเอง?! จะไปยุ่งกับมันเพื่ออะไรกัน?! นอกจากนี้ผู้นำตระกูลยังมีคำสั่งให้สมาชิกของกลุ่มโถงวิญญาณสีดำห้ามแตะต้องคนตระกูลไป่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ทำไมหยานหยวนถึงกล้าลงมือทำแบบนั้น?!”
ไป่ฉีเต๋อพูดออกมาด้วยความโกรธ
แม้ว่ากลุ่มโถงวิญญาณสีดำจะถูกส่งออกไปทำงานในต่างประเทศ แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่ได้หาวิธีการในการป้องกันเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้นเอาไว้
สมาชิกของกลุ่มโถงวิญญาณสีดำจะมีชิปที่ฝังเอาไว้อยู่ในร่างกาย ซึ่งสามารถตรวจสอบทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขา และหากถูกตรวจพบว่าพวกเขาละเมิดคำสั่งของผู้นำตระกูลพวกเขาจะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง
“ว่ากันว่าคำสั่งที่นายน้อยสั่งให้หยานหยวนไปโจมตีนั้น เป้าหมายไม่ใช่ไป่หยู่ฉีครับแต่ว่าเป็นผู้ชายอีกคนหนึ่ง เพราะถึงแม้ว่าผู้นำตระกูลคนปัจจุบันจะแก่มากแล้วแต่ว่าเขาก็ยังคงเป็นคนที่มีอำนาจสูงสุดอยู่และการละเมิดคำสั่งของผู้นำตระกูลอย่างโจ่งแจ้งนั้นถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้ยากมากที่หยานหยวนจะกล้าลงมือกับคนตระกูลไป่จริงๆครับ”
“งั้นหรอ?”
ไป่ฉีเต๋อถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแล้วพูดออกมาต่อว่า “ถ้าหากว่าไม่ได้ละเมิดคำสั่งของผู้นำตระกูลก็ถือว่าดีไป”
“แต่ว่าเป็นผู้ชายคนนี้ต่างหากที่ทำให้นายน้อยต้องมาตกที่นั่งลำบากครับ!”
เลขายิ้มออกมาอย่างขมขื่น “เขาเป็นคนที่ทำให้นักฆ่าทั้งสองคนที่น้อยส่งไปต้องตายอย่างน่าอนาถ”
“….”
ใบหน้าของไป่ฉีเต๋อเริ่มมืดมน “นายกำลังจะหมายความว่าซิงเอ๋อร์ถูกผู้ชายคนนี้หลอก?”
“ใช่ครับ ตอนที่นายน้อยถูกจับครั้งแรก ผมได้รับข้อความเสียงของนายน้อยผ่านไมค์พิเศษที่ติดตัวนายน้อยเอาไว้ ตอนนั้นเขาพูดออกมาว่าให้ฆ่าผู้ชายที่ชื่อว่าเจียงเฉินครับ”
เลขาหยิบมือถือของเขาออกมาก่อนจะกดเล่นคลิปเสียง
“พ่อ!”
เสียงของไป่ซิงเหวินดังขึ้น “พ่อช่วยผมด้วย!”
ไป่ฉีเต๋อ “….”
ไป่ซิงเหวินพูดออกมา “เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะผู้ชายที่ว่าเจียงเฉิน! พ่อต้องช่วยผมฆ่ามันแล้วเอาผมออกไปนะ!”
“แล้วหลังจากนั้น?”
“ไมค์ของนายน้อยที่ถูกติดเอาไว้กับเสื้อผ้าก็ถูกตำรวจจีนพบและนายน้อยก็ถูกเปลี่ยนชุด ตอนนี้เราจึงขาดการติดต่อกับนายน้อยแล้วครับ”
เลขาพูดออกมา
“เอาล่ะ เตรียมเครื่องบินส่วนตัวให้ฉันในทันทีฉันต้องการที่จะบินไปปักกิ่ง!”
ใบหน้าของไป่ฉีเต๋อเต็มไปด้วยความมืดมน
“ไม่สิ ก่อนที่ฉันจะไปฉันต้องไปหาผู้นำตระกูล ให้เขาเป็นลงโทษลูกหลานตระกูลไม่รักดี! ไม่สิ….. ลูกเมียน้อย!”
แววตาของไป่ฉีเต๋อเต็มไปด้วยความเย็นชา
2 ชั่วโมงต่อมา....
เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวสุดหรูก็บินออกจากสนามบินในประเทศสิงคโปร์ มันบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนจะบินตรงไปยังเมืองหลวงปักกิ่งท่ามกลางความมืดมิด
ไป่ฉีเต๋อมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา
“ซิงเหวิน ลูกจะต้องอดทนเอาไว้ รอพ่อก่อน พ่อกำลังจะเข้าไปช่วยแล้ว”
ไป่ฉีเต๋อสูดหายใจอย่างเย็นชา
บนเครื่องบินส่วนตัว~~
ก็มีสมาชิกกลุ่มห้องโถงวิญญาณสีดำพร้อมอาวุธครบมือจำนวนหลายสิบคน!
พวกเขาเหมือนกับกองกำลังพิเศษที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี!
ทุกคนมีอาวุธปืน เสื้อเกราะกันกระสุนและพวกเขาเชี่ยวชาญด้านการลอบสังหารทุกรูปแบบ
ไป่ฉีเต๋อกำลังนำพวกเขาไปยังประเทศจีน
แต่ในเวลานี้เอง~~
พวกเขากลับไม่รู้เลยว่า
ลูกชายของเขาที่ถูกเจียงเฉินส่งไปยังเรือนจำ....
ได้เสียชีวิตแล้ว!
“เดี๋ยวก่อน! รีบไปดูนักโทษเร็ว!”
ในเรือนจำพวกเขากำลังพบกับปัญหาร้ายแรง
ผู้คุมมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
แพทย์ในเรือนจำก็เข้ามาตรวจสอบไป่ซิงเหวินก่อนที่จะต้องใส่หัว
“ไม่ทันแล้วเขาเสียชีวิตแล้ว”
“นักโทษจะตายโดยไร้สาเหตุได้ยังไงกัน?”
ผู้บัญชาการเรือนจำพูดออกมายังหดหู่
การที่มีนักโทษเสียชีวิตในเรือนจำโดยที่ไม่ทราบสาเหตุหรือสาเหตุไม่แน่ชัด มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะอธิบายต่อผู้บังคับบัญชาของเขา
“สาเหตุการตายคืออะไรกันแน่?”
“ผมคงจะต้องชันสูตรพลิกศพ แต่ว่า….”
แพทย์ในเรือนจำพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม “ถึงแม้ว่าผมจะเป็นหมอในเรือนจำนี้มาหลายปีแล้วแต่ผมก็ยังไม่เคยเห็นการตายที่แปลกประหลาดแบบนี้มาก่อนเลย มันไม่เหมือนกับว่าเขาจะถูกวางยาพิษหรือว่าถูกฆ่าและที่สำคัญเขายังถูกขังเดี่ยว ดังนั้นเหตุผลที่เป็นไปได้ก็มีเพียงหนึ่งเดียวคือโรคประจำตัวของเขาที่นำพาเขาไปสู่ความตาย”
“ห๊ะ? แม้แต่นายที่มีประสบการณ์มากก็ยังไม่รู้สาเหตุการตายของเขาเลยด้วยซ้ำ?”
ผู้บัญชาการเรือนจำรู้สึกประหลาดใจ
“ใช่ครับ ดังนั้นจึงเหลือเพียงวิธีเดียวก็คือการชันสูตรพลิกศพ”
“ติดต่อไปยังศูนย์ใหญ่ในเมืองหลวงแล้วก็ครอบครัวผู้ตายด้วย”
ผู้บัญชาการเรือนจำพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ทันทีที่ไป่ฉีเต๋อลงจอดเขาก็ต้องได้รับข่าวร้าย
“อะไรนะ?! นายจะบอกว่าลูกชายของฉันตายแล้ว?! เขาตายในเรือนจำ?!”
ไป่ฉีเต๋อตัวสั่นไปทั้งตัว!
เขามีลูกชายอยู่เพียงแค่คนเดียว!
แม้ว่าลูกชายของเขาจะถูกความเย่อหยิ่งและความทะเยอทะยานครอบงำจนเขาเองก็รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง…..
แต่ว่านั่นก็เป็นเพียงลูกชายคนเดียวของเขา!
เขาจะสูญเสียลูกชายคนนี้ไปได้ยังไงกัน?!
ไป่ฉีเต๋อโกรธทันที “ใครเป็นคนบอกมา?!”
“เราได้รับแจ้งมาจากตำรวจประเทศจีน ทางนั้นแจ้งมาว่าเมื่อคืนนี้นายน้อยเสียชีวิตในเรือนจำอย่างกระทันหันโดยที่ไม่ทราบสาเหตุครับ”
เลขาพูดออกมาพร้อมกับเหงื่อเย็นๆที่หลั่งออกมาเต็มตัว
เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะช่วงหลังมานี้มีแต่ฝั่งของไป่ฉีเต๋อที่ต้องพบกับเรื่องโชคร้าย
จู่ๆนายน้อยก็เสียชีวิตโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ
เรื่องนี้นับว่าน่ากลัวมาก!
“ไอ้สารเลว! มันเกิดอะไรขึ้น?! ตำรวจจีนจะต้องอธิบายให้ฉันฟัง!”
ไป่ฉีเต๋อพูดออกมาอย่างโกรธจัด
“ตำรวจแจ้งมาให้ครอบครัวไปรับศพนะครับ”
“อย่าเพิ่งไป!”
......
ในเวลานี้เองเจียงเฉินกำลังนั่งอยู่อย่างสบายๆในห้องทำงานอันกว้างขวาง
แน่นอนว่าไป่ซิงเหวินเป็นเขาเองที่สั่งฆ่า
เจียงเฉินเมื่อทำอะไรแล้วเขาไม่ต้องการที่จะปล่อยให้มันจบง่ายๆ
ในเมื่อไป่ซิงเหวินต้องการที่จะฆ่าเขา ดังนั้นเจียงเฉินก็ไม่จำเป็นต้องมีความปราณี
เขาได้สั่งให้มืออาชีพเป็นคนจัดการเรื่องเมื่อวานนี้เอง
ถามว่าเขากลัวไหมที่จะถูกจับได้?
ไม่เลย! เพราะว่าลูกน้องของเจียงเฉินนั้นแตกต่างจากลูกน้องของไป่ซิงเหวิน พวกเขาเป็นนักฆ่าชั้นสูงอย่างแท้จริง!
ไป่หยู่ฉีเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ซับซ้อน “ไป่ซิงเหวินจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นพี่ชายของฉัน”
เจียงเฉินยิ้มออกมา
พี่ชายของเธอ?
ในเมื่อไป่ซิงเหวินต้องการที่จะฆ่าเธอแล้ว นั่นก็หมายความว่าเขาไม่เคยคิดว่าเธอเป็นน้องสาว!
แต่ถึงอย่างนั้นเจียงเฉินก็ยังคงปลอบโยนออกมา “เข้ามาเป็นอะไรหรอก”
“ตอนนี้เขาจะไม่เศร้าใช่ไหม? เขาจะไม่กังวลใช่ไหม?”
“ไม่แน่นอน!”
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างจริงจัง
เขาไม่ได้โกหก
เพราะว่าในตอนนี้ไป่ซิงเหวินคงไม่มีทางรู้สึกเศร้าหรือกังวลได้อีกต่อไปแล้ว....
เพราะว่าคนตายไม่มีทางรู้สึกอะไรได้!
“ไม่เป็นไรหรอก~”
ไป่หยู่ฉีถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและขอโทษเจียงเฉิน “ฉันต้องขอโทษนายด้วยตั้งแต่ที่นายพบฉัน นายก็ต้องเจอปัญหามาโดยตลอด”
ในใจของเจียงเฉิน : พูดถูก!
ระบบบ้านี่ทำไมถึงต้องให้ฉันมาเจอแต่เรื่องตลอดเวลาด้วย?
แล้วทำไมถึงยังไม่ให้รางวัลสักที?
หรือว่างานยังไม่จบ?
มันควรจะจบได้แล้วไม่ใช่หรอ?
ในเวลานี้เอง~~
ก็มีคนวิ่งเข้ามาด้วยอาการเหนื่อยหอบ “ไม่ดีแล้วครับท่านประธาน ข้างล่างกำลังมีคนถือโลงศพเข้ามาพร้อมกับร้องไห้!”
“???”
ไป่หยู่ฉีตกตะลึง
ถือโลงศพ? ร้องไห้?
ทั้งหมดเนี่ยมันเกี่ยวข้องอะไรกัน?
มันเกี่ยวข้องกับฉันงั้นหรอ?