ตอนที่ 14 - เกิดเป็นกระแส
1/3
ตอนที่ 14 - เกิดเป็นกระแส
ลูกน้องคนสุดท้ายตะลึงตัวแข็ง เหลือบสายตาลงมองสหายสองคนที่ตอนนี้นอนกองกับพื้น กัดฟันร้องโหวกเหวกโวยวาย ยกมีดวิ่งเข้าแทงเจียงฮ่าว
เจียงฮ่าวปล่อยมือใหญ่ที่โอบเอวเรียวของหยินเฉียนหยุน ตบออกไปทีหนึ่ง
เพี๊ยะ!
แค่ได้ยินเสียง ผู้ฟังก็หลับตาปี๋ อดรู้สึกเจ็บแทนไม่ได้
เลือดกำเดาของลูกน้องคนสุดท้ายไหลเป็นสาย สั่นสะท้านไปทั้งร่าง ฟันหลุดกระเด็นไปหลายซี่ ล้มลงข้างหลงตาเดียว
“ไง ยังอยากสู้อีกไหม?” เจียงฮ่าวชี้ไปที่สามคนบนพื้น หงายฝ่ามือแล้วกระดกนิ้วเบาๆด้วยสีหน้าขบขัน
ในสายตาเขา เต็มไปด้วยร่องรอยของการดูถูกเหยียดหยาม
“มึง!”
หลงตาเดียวสบถ ใช้มือข้างหนึ่งยันตัวลุกจากพื้น อีกข้างปาดมุมปาก จ้องมองเจียงฮ่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ใครจะไปรู้ ว่าเด็กที่ดูท่าทางเหมือนโรคจิต จะเป็นยอดฝีมือกังฟู
“เจ้าหนู ฝากไว้ก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวแกจะได้รู้ว่าเล่นผิดคน! ส่วนสาวน้อย ยังไงเธอก็ต้องตกเป็นของฉัน!” ว่าจบ เขาดึงลูกน้องทั้งสองคนขึ้น หันหลังแล้ววิ่งหนีไป
ได้ยินแบบนั้น เจียงฮ่าวขมวดคิ้วอย่างรุนแรง เตรียมจะไล่ตามไป
“อย่า ... ช่วยปล่อยฉันลงก่อน” หน้าของหยินเฉียนหยุนแนบลงบนไหล่เจียงฮ่าว ทั้งเนื้อตัวปวกเปียกเหมือนเป็นอัมพาตไร้ซึ่งเรี่ยวแรง พ่นลมหายใจหอบหนึ่งกระทบหูเขา
หลังจากขับไล่ศัตรู เจียงฮ่าวค่อยตระหนักถึงท่าทางที่คลุมเครือของเขากับหยินเฉียนหยุน อดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึกๆ!
‘ไม่ได้! จะทำตัวเป็นสัตว์ร้ายหื่นกระหายไม่ได้เด็ดขาด นี่มันกลางวันแสกๆ แถมฉันยังอยู่ข้างนอก!’
“ได้โปรดเถอะ .... ช่วยปล่อยฉันลงก่อน!” หยินเฉียนหยุนเริ่มส่งเสียงฮึ่มฮึ่ม ไม่รู้ว่าทำไม แต่ระหว่างที่เจียงฮ่าวโอบกอด เธอไม่สามารถขัดขืนได้เลย
เธอราวกับเป็นเด็กสาวตัวน้อยที่นอนอยู่ในอ้อมแขนเขา เกิดความรู้สึกไม่อยากต่อต้านใดๆ
“เข้าใจแล้วๆ” เจียงฮ่าวกัดฟัน ผละมือออกอย่างไม่เต็มใจ
หยินเฉียนหยุนยืนบนพื้นอีกครั้ง สีหน้าของเธอเริ่มหายแดง แต่ก็ยังมองไปที่เจียงฮ่าวด้วยความเขินอาย
“ไม่นึกเลยว่านายจะแข็งแกร่งขนาดนี้”
“ฮ่าๆๆ ฉันมีพลังในหลายๆด้าน ต่อไปเธอจะได้เห็นมากกว่านี้” เจียงฮ่าวหัวเราะเสียงดัง อย่างไรก็ตาม ในใจต่อท้ายเพิ่มอีกประโยคหนึ่ง ‘เช่นเรื่องบนเตียง’
หยินเฉียนหยุนที่ไร้เดียงสาไม่เข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของชายคนนี้ เธอแค่พยักหน้าว่าเข้าใจ
“ไปกันเถอะ นายมากับฉัน พวกเราจะไปเอาหนังสือเรียนกัน” หยินเฉียนหยุนเอ่ยชักชวน
“ด้วยความยินดี” เจียงฮ่าวพยักหน้า ตบลงบนเบาะหลังรถเด็กสี่ล้อของเขาแล้วเอ่ยว่า “นั่งลงสิ”
“รถนายเล็กไป ขาฉันไม่มีที่วาง ...” หยินเฉียนหยุนกล่าว แต่ก็รีบโบกมืออย่างรวดเร็ว อธิบายเพิ่มเติมว่า “นายอย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ต้องการจะสื่อไปในทางเรื่องไม่ดี ..”
เมื่อเธอเห็นจักรยานของเจียงฮ่าว ในใจคิดว่าครอบครัวเขาน่าจะฐานะไม่ดี เลยกังวลเรื่องศักดิ์ศรีของเจียงฮ่าว รีบอธิบาย
“ไม่เป็นไร งั้นฉันจะเดินไปพร้อมๆกับเธอ”
เจียงฮ่าวหัวเราะ ลุกขึ้นจากรถ ใช้มือข้างหนึ่งลากมันไปพร้อมกับหยินเฉียนหยุน พูดคุยกันด้วยเสียงหัวเราะ
“คุณพระช่วย โพสต์นี้ต้องดังเป็นพลุแตกแน่ๆ” ชายร่างเตี้ยกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง รีบโพสต์ข้อความพร้อมแนบภาพประกอบอย่างรวดเร็ว
“ดาวประจำโรงเรียนผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสากับคนบ้าโรคจิตขี่รถเด็กสี่ล้อในซอยเปลี่ยว!”
ไม่นาน ข้อความนี้ได้กลายเป็นโพสต์ร้อนแรงของสถาบันจินหลิง เพราะมันไม่ใช่ข้อมูลมั่วๆ แต่มีหลักฐานเพียบ ภาพประกอบครบถ้วน
บนรถเด็กสี่ล้อ สาวงามประจำโรงเรียนหยินเฉียนหยุนกำลังนั่งคร่อมมชายคนหนึ่ง หน้าเธอแดงแจ๋ เผยอปากเล็กน้อย ดวงตาพรั่งพราวระยิบระยับ ต้นขาราวหิมะทั้งสองข้างกางออก หนีบเอวของผู้ชาย บอกเลยว่าเย้ายวนมาก
ได้เห็นภาพนี้ หัวใจของชายหนุ่มนับไม่ถ้วนแตกสลาย ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด
“เชี่ยเถอะ! ไอ้เวรนี่มันใครวะ? ทำไมถึงมาแย่งน้องหยินของฉัน!”
“พวกนายไม่รู้หรือ เจ้าหมอนี่คือโรคจิตที่อยู่หน้าประตูโรงเรียนวันนี้ ดูเหมือนจะเพิ่งย้ายมาใหม่”
“ดาวประจำโรงเรียนที่ฉันเฝ้ามองมาแสนนาน เวลานี้ถูกคนอื่นแย่งไป ฮือ ฮือ ...”
ในทางกลับกัน สาวๆต่างแอบซุบซิบด่าทอ
“เห็นท่าทีซื่อๆ จริงๆแล้วร้ายไม่เบา”
“ช่างไร้ยางอาย แม้แต่ในซอยก็ยังกล้าทำแบบนั้น”
“ฮี่ ฮี่ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พวกเทพพระบุตรคนอื่นๆจะได้ตาสว่างซะที”
ในฐานะดาวประจำโรงเรียน หยินเฉียนหยุนมีคนมากมายหมายปองเธอ ในบรรดาพวกเขา มีทั้งชายหนุ่มผู้มาจากตระกูลร่ำรวย ไม่ก็ชายหนุ่มที่เป็นลูกของข้าราชการระดับสูง แต่ทุกคนก็ยังถูกเธอเย็นชาใส่เสมอ ปฏิเสธผู้คนราวกับอยู่ห่างออกไปหลายพันลี้
...
“ไอ้เด็กเวรนี่ อย่าคิดนะว่าจะได้อยู่อย่างสงบ! ฮึ่ม!” หลงตาเดียวหนีมาถึงหน้าประตูโรงเรียน หยิบมือถือขึ้นมา แล้วโทรหาเพื่อนเก่าในโรงเรียน
“ไง หัวหน้าฝ่ายหยางใช่ไหม?”
“ใช่ เป็นฉันเอง พี่หลงมีเรื่องให้จัดการอีกแล้วหรือ? ฮ่า ฮ่า” เสียงหัวเราะดังออกมาจากปลายสาย
ภายในห้องหัวหน้าฝ่ายวิชาการของโรงเรียน ชายร่างอ้วนกำลังนั่งอยู่ ในมือถือโทรศัพท์
“รู้จักดาวโรงเรียนใช่ไหม? วันนี้ฉันไปหาเธอ ตั้งใจจะพากลับไปให้พี่ห่าวสนุกกับเธอ แต่ดันกลายเป็นว่าถูกเด็กเหลือขอคนหนึ่งทำลายแผนการ”
“หยินเฉียนหยุนจากสาขาศิลปะใช่ไหม? ฉันรู้จักเธอ!” ระหว่างกล่าวประโยคนี้ ดวงตาของหัวหน้าฝ่ายหยางสะท้อนประกายอะไรบางอย่าง
“ให้ตายเถอะวะ ฉันไม่สนว่าเธอจะเรียนสาขาอะไร แต่จู่ๆก็มีไอ้โรคจิตขี่รถเด็กสี่ล้อเข้ามา แต่ไอ้โรคจิตนั่นดันเป็นยอดฝีมือกังฟู พวกเราสามคนพลาดท่า นายต้องช่วยฉันจัดการเรื่องนี้ ไม่งั้นพี่ห่าวคงไม่ปล่อยพวกเราไว้แน่ ถึงตอนนั้น เรื่องอื่นๆที่พวกเราเคยทำด้วยกัน ...”
ใบหน้าของหัวหน้าฝ่ายหยางดูน่าเกลีดเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น พี่ห่าวที่พูดถึงคือเถ้าแก่ใหญ่อันดับต้นๆของจินหลิง แล้วหัวหน้าฝ่ายแบบเขาจะรับมือได้อย่างไร?
นอกจากนี้ เรื่องสมรู้ร่วมคิดที่เคยทำกับหลงตาเดียวในสมัยก่อน หากมันถูกเปิดโปง ชีวิตเขาคงพังทลายไม่มีชิ้นดี!
“ไม่ต้องกังวล ฉันจะจัดการให้เอง ให้อาจารย์ใหญ่จัดการ หาทางไล่ไอ้เด็กนั่นออกจากที่นี่” หัวหน้าฝ่ายหยางกล่าวทันที
“ฮี่ ฮี่ ได้ยินแบบนี้ฉันก็สบายใจ หวังว่าพวกเราจะร่วมมือกันอีกในครั้งต่อๆไป”
หลงตาเดียววางสาย แววตาเขาเป็นประกาย “ไอ้เด็กตัวเหม็น กล้าหาเรื่องฉัน ฉันจะทำให้แกเรียนต่อไม่ได้ แล้วพออยู่นอกโรงเรียน ฉันจะฆ่าแกซะ แค่นี้ก็ไม่มีใครจับได้แล้ว ส่วนหยินเฉียนหยุน ไม่ช้าก็เร็วเธอต้องเป็นของฉัน”
หัวหน้าฝ่ายหยางในห้องทำงานเผยสีหน้ายิ้มเยาะ แต่เมื่อเขาดูวิดีโอ ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในซอย ก็ต้องตกใจไปพักหนึ่ง
“เด็กคนนี้แข็งแกร่งจริงๆ ไม่แปลกใจเลยทำไมพวกหลงตาเดียวถึงพ่ายแพ้ ดูท่าต้องรีบจัดการซะแล้ว”
หัวหน้าฝ่ายหยางปิดวิดีโอ ก่อนคลิกไปที่รูปภาพ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนมุมปากเขา
มันเป็นภาพเบื้องหลังของผู้หญิงที่มีเสน่ห์ เธอแต่งกายด้วยชุดประโปรง สวมถุงน่องสีดำ มิใช่ใครอื่น เป็นซูลี่
“ซูลี่เอ๋ยซูลี่ คราวนี้มาดูกันว่าเธอจะหนีรอดจากฝ่ามือฉันไปได้ยังไง”
ในห้องทำงาน ซูลี่มองลูกบิดประตูที่หัก เกิดคลื่นลมในจิตใจ เนิ่นนานไม่อาจสงบลงได้
นักเรียนคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดแบบไหนกัน? เขาใช้พละกำลังของตัวเองพังลูกบิดประตูได้!
แต่ในเวลานั้นเอง โทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อก้มลงมอง เธอก็รีบหยิบมันขึ้นมา “ค่ะอาจารย์ใหญ่”
“เฮ้อ อาจารย์ซู นักเรียนใหม่ของคุณสร้างปัญหาซะแล้ว ถึงเขาจะทำเพื่อความยุติธรรม แต่ดันไปมีเรื่องกับคนของสมาคมพยัคฆ์มังกรจนเรื่องราวมันลุกลามไปไกล”
“หา?” ได้ยินประโยคนี้ ใบหน้าสวยๆของซูลี่กลายเป็นน่าเกลียดทันที
เธอรู้จักสมาคมพยัคฆ์มังกร มันเป็นที่รู้จักกันในฐานะอันธพาลใหญ่แห่งจินหลิง ถ้าทำให้สัตว์ร้ายตัวนี้ขุ่นเคือง แล้วเจียงฮ่าวจะมีชีวิตที่ดีต่อไปได้อย่างไร?
ถึงเจียงฮ่าวจะเป็นนักเรียนใหม่ แต่เธอในฐานะครู มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ
“สมาคมพยัคฆ์มังกรมักมีความพยาบาทแรงกล้า และแก้แค้นคนที่มีปัญหากับพวกเขาเสมอมา ถึงฉันจะเห็นด้วยกับการกระทำของนักเรียนคนนี้ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะช่วยเหลือ” อาจารย์ใหญ่ถอนหายใจ
“แล้วฉันควรทำยังไง? พวกเราคงไม่ไล่เขาออกใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่าเจ้าพวกนั้นมันทำได้แม้แต่การฆ่าคน!” ซูลี่ถามพลางกัดริมฝีปากที่อวบอิ่มของเธอ
“ไปถามหัวหน้าฝ่ายหยาง เขาค่อนข้างมีคอนเนคชั่น น่าจะช่วยเหลือเธอได้” ว่าจบ อาจารย์ใหญ่ก็วางสายไป
ซูลี่รีบจัดแจงเสื้อผ้าของเธอ ตรงไปที่ฝ่ายวิชาการ
...
“หัวหน้าฝ่าย ทุนการศึกษารอบนี้ขอให้หนูได้ไหม ครอบครัวหนูยากจนจริงๆ!”
ในห้องทำงานของหยางหมิง
นักเรียนหญิงในชุดกางเกงยีนส์สีน้ำเงินลายหินอ่อนคล้องแขนหยางหมิง แนบหน้าอกเธอ กล่าวด้วยท่าทีออดอ้อน ใบหน้าแดงก่ำ
“เธอควรรู้นะว่าเงินไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาฟรีๆ เธอไม่ใช่นักเรียนยากจนคนเดียวในโรงเรียน” หยางหมิงหรี่ตาลงเล็กน้อย มือใหญ่ลูบบั้นท้ายนักเรียนสาว
ปึก!
นักเรียนสาวปีนขึ้นโต๊ะ โค้งบั้นท้ายอวบอิ่มของเธอ หันหน้ากลับมามองหัวหน้าฝ่ายหยางด้วยดวงตามีเสน่ห์ แล้วเอ่ยว่า “ถ้าทำแบบนี้จะได้ทุนเรียนฟรีไหม?”
“เหอ เหอ” น้ำเสียงของหยางหมิงฟังดูตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อย เอื้อมมือไปปลดเข็มขัดกางเกง แต่ในตอนนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“หัวหน้าฝ่ายหยาง ฉันซูลี่ มีเรื่องด่วนต้องคุยกับคุณ”