ตอนที่ 12 ทุกคน ไม่เจอกันนานนะ
“เจ้าปกปิดพลังแท้จริงของเจ้าอยู่นาน’
“แต่ต่อหน้าช่องว่างของอาณาจักร มันเปล่าประโยชน์!”
ใบหน้าของซือเหมิงเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง
เส้นทางบ่มเพาะนั้นยากเย็น ทุกอาณาจักรย่อยห่างไกลกันมาก
ความแตกต่างระหว่างอาณาจักรแก่นทองคำกับก่อตั้งรากฐานจึงเหมือนฟ้ากับเหว!
‘เจ้าควรหลบซ่อนไปหลังรอดชีวิต”
“แต่เจ้าเลือกกลับมา เจ้าไม่อาจโทษข้าได้!”
ตัวของซือเหมิงปล่อยอากาศขาวออกมา เส้นเลือดของเขาปูด ทำให้เขาดูน่ากลัวมาก!
นี่คือวิชาราชาสิงโตอันโด่งดัง
กายของมารอสูรเลือด!
เขาไม่คิดออมมือและเตรียมจบการต่อสู้โดยไว
นี่คือโอกาสที่สมบูรณ์แบบ
ตราบเท่าที่ซูสือตาย เขาจะสามารถรักษาตำแหน่งแม่ทัพเมืองเฟิงซาไว้ได้!
ด้วยพลังของเขาในอาณาจักรแก่นทองคำ เขาสามารถเป็นยักษ์ใหญ่ในเขตตะวันตกเฉียงใต้ได้ถ้าเขาบริหารดี!
พอคิดแบบนี้ เขาก็ตื่นเต้น
ซูสือพูด“หนวกหู”
“สารเลว วันนี้คือวันตายของเจ้า!”
ซือเหมิงก้าวไปและพื้นก็แหลก!
ตัวของเขาเหมือนสายฟ้าฟาดและปรากฏด้านหน้าซูสือทันที
ด้วยร่างกายใหญ่โตเช่นนี้ ความเร็วของเขากลับยังสูงมาก!
“ระวัง นายท่าน!’
ไป่ชิงตะโกนอย่างเป็นห่วง
แต่ทว่า ซูสือกลับยังยืนนิ่งเหมือนไม่สังเกต
“ตาย!”
ซือเหมิงยิ้ม
เขายกมือใหญ่ที่ห่อหุ้มด้วยลม และฟาดใส่หัวของซูสือ!
มันราวกับเขาสามารถเห็นคู่ต่อสู้ถูกบดขยี้เป็นเศษเนื้อได้
หวืด!
แต่การโจมตีกลับพลาด
“เขาอยู่ไหน?”
ซูสือหายไป!
ตอนนั้น เสียงเกียจคร้านดังด้านหลังเขา“เจ้าช้าไป”
“หะ?”
ซือเหมินหันกลับ เห็นซูสือยืนอยู่ด้านหลังเขา ฝ่ามือของเขาประทับบนหน้าอกเขาเบาๆ
ราวกับกำลังจักจี้เขา ซือเหมิงหัวเราะ’กายมารของข้าบ่มเพาะถึงระดับที่สูงมาก ข้าไร้เทียมทานต่อคมดาบและหอก น้ำและไฟ ต่อให้เจ้าจะเร็ว แต่เจ้าจะทำอะไรข้าได้?”
ซูสือพูดอย่างไม่แยแส“ชิงเอ๋อร์ หลับตาซะ”
“เจ้าค่ะ”
ไป่ชิงหลับตาอย่างเชื่อฟัง
ซือเหมิงเพิ่งกำลังจะยกมือตอนการเคลื่อนไหวของเขาหยุดชะงัก
เขาเห็นแสงสีเขียวเบ่งบานในฝ่ามือของซูสือ และกลิ่นอายแห่งความตายก็ปกคลุมอากาศ
“นี่..”
“นี่เรียกว่าฝ่ามือหกประสานแปดพิสดาร”
ซูสือพูด“ข้าจะใช้ความตายเจ้าเป็นขั้นบันไดให้ข้าทะยานขึ้นสวรรค์”
ตอนดอกบัวเบ่งบาน ทุกอย่างก็ถูกกำจัด
รอยแตกคล้ายใยแมงมุมเริ่มกระจายจากหน้าอกเขา
ในสายตาสุดเหลือเชื่อของซือเหมิง ตัวของเขา ที่เขาภาคภูมิใจกำลังสลาย!
“เจ้า..เจ้าไม่ได้อยู่ในอาณาจักรก่อตั้งรากฐาน!”
เสียงของซือเหมิงดูลำบาก
ซูสือส่ายหัว“ข้าบอกตอนไหนว่าข้าคือผู้บ่มเพาะก่อตั้งรากฐาน?”
ลมพัดและ กายเนื้อของเขาก็ลอยไปเหมือนฝุ่น
หัวของเขาตกลงบนพื้นและกลิ้ง
[ซือเหมิงตาย ส่งผลต่อโครงเรื่องต่อไป ได้รับสามแต้ม]
[โปรดทำงานต่อไป]
จิ๊ แค่สาม?ขี้เหนียวมาก
ซูสือแค่นเสียงไม่พอใจ
ย้อนกลับไป เขาสามารถได้รับยี่สิบแต้มสำหรับการคุยกับจ้านชิงเฉิง แต่ตอนนี้ที่เขาฆ่าซือเหมิงด้วยยมือของเขา เขาได้แค่สาม
น้อยมาก
แต่ก็เข้าใจได้
ซือเหมิงก็แค่ตัวละครย่อย ชีวิตกับความตายของเขามีผลต่อเรื่องน้อยมาก
เหมือนชายผิวเข้ม ที่ไม่ได้แม้แต่แต้มเดียวหลังฆ่า แสดงให้เห็นว่าเป็นมดไม่สลักสำคัญ
มันดูเหมือนระบบนี้จะกระตุ้นข้าให้ยุ่งกับเนื้อเรื่องหลัก
มุมปากของเขายกขึ้น”ตามเวลา มันไม่ควรนาน..’
ไป่ชิงยังหลับตาอย่างเชื่อฟัง
“ลืมตาได้แล้ว”
นางเอามือที่ปิดตาออก เห็นแค่ฝนเลือด ซูสือสวมชุดขาว ไร้สิ่งปนเปื้อนอย่างน่าพิศวง เขากำลังมองนางอย่างอ่อนโยน
“เจ้ากลัวไหม?”
ไป่ชิงเบะปาก น้ำตาไหล แต่สุดท้าย นางก็โยนตัวเองเข้าอ้อมกอดเขาเหมือนทารกกระโจนหาแมม่
“ฮึกกก-”
“นายท่าน ข้ากลัวมาก ข้าคิดว่าท่านตายไปแล้วจริงๆ!”
ซูสือลูบหัวนาง และพูดติดตลก“ข้าตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้ข้าคือเซียน”
ในหัวใจเขา เขาลอบครุ่นคิด
ดูเหมือนข้าต้องหาทางทำให้ไป่ชิงแกร่งขึ้น ข้าไม่อาจปกป้องนางไปได้ตลอด
ข้าแค่ไม่รู้ว่ารางวัลที่แลกโดยระบบคนอื่นใช้ได้ไหม
มันใช้เวลาสักพักกว่าไป่ชิงจะสงบ
นางเงยหน้าขึ้นมอง เห็นว่าหน้าอกของซูสือเปียกชุ่มด้วยน้ำตานาง และใบหน้าก็แดง
“ข้าขอโทษ นายท่าน”
“ไม่ใช่ปัญหา”
ซูสือไม่ว่าอะไร
“นายท่าน เราควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี?”
การฆ่าศิษย์ร่วมสำนักคือข้อห้ามร้ายแรง
แม้ซูสือจะมีเหตุผลดี แต่ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าเขาคือเป้าสังหารจริง
ซูสือยิ้ม“เจ้าไม่ต้องห่วง”
เขามองไปทางวังมารและแสงเย็นก็แวบผ่านตา
“ซือเหมิงเริ่มเอง”
..
วังมาร
ฝูงชนมารวมกัน
โดยปราศจากคำอนุมัติของซือเหมิง พวกเขาไม่กล้าไปไหนโดยไม่ได้รับอนุญาติ
“ที่แม่ทัพซือทำนั้นเกินไปไหม?ซูสือเพิ่งตายและจากนั้นเขาก็คิดยึดของทั้งหมด..”
“ชู่ว เจ้าอยากตายหรือไง?”
“ใครจะกล้าขัดคำสั่งซือเหมิงในเวลานี้?”
“บ้าจริง ข้าคิดช้าไป ถ้าข้าไปกับแม่ทัพซือ ข้าอาจได้ของเหลือบ้าง!”
“แล้วถ้าซูสือกลับมาละ?”
“ฮึ่ม ถ้าเขากล้ากลับมา เขาคงโดนแม่ทัพซือฆ่า!”
ขณะที่พวกเขาพูด วัตถุทรงกลมก็ถูกโยนและกลิ้งมาตรงกลางโถง
“นี่…”
ตอนมีคนเห็นชัด รูม่านตาของเขาก็หดลง“ซือเหมิง!ท่านแม่ทัพซือเหมิง!”
“ว่าไงนะ?!”
ก่อนพวกเขาจะได้ตอบสนอง ชายหญิงคู่หนึ่งก็เดินเข้ามา
ผู้ชายเดินไปที่นั่งสูงสุดและนั่งลง ส่วนเด็กสาวยืนด้านหลังเขา
“ทุกคน ไม่เจอกันนานเลยนะ”
ซูสือยิ้ม
เกิดความเงียบสงัดในโถง