Ep.405 - บดขยี้! ทำลายเกลี้ยง!
2/2
Ep.405 - บดขยี้! ทำลายเกลี้ยง!
สำหรับมนุษย์ส่วนใหญ่ในช่วงนี้ เจ้าถิ่นขั้นโกลด์เลเวล 10 คือตัวตนที่ยากจะเอาชนะ!
หากเป็นมอนสเตอร์ป่าก็แล้วไป ถ้าสู้กับมันเพียงตัวเดียวก็ยังพอมีโอกาสชนะอยู่บ้าง
กระนั้น หากจำเป็นต้องสู้ถึง 20 ตัวในคราวเดียวเช่นนี้ แถมข้างในหุ่นรบยังถูกควบคุมโดยผู้ที่มีสติปัญญา ส่งผลให้พวกมันรู้วิธีร่วมมือ วิเคราะห์ และปรับตัว เป็นผลให้สถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ ณ ขณะนี้ ไม่ต่างอะไรกับการต้องสู้กับเจ้าถิ่น 20 ตนพร้อมกัน
พวกโนมส์จากสมาคมเหนี่ยวนำมนตราครั้งนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจ!
หลังจากอ่านข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในขบวนนำส่งแล้ว พวกมันก็ตัดสินใจยกพลออกมาเกือบทั้งหมด! เพื่อชิงตัวสหาย แม้แต่ชายผู้นี้ก็ยังออกมา!
ไป๋เสวียนจำหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราที่เดินอยู่แถวหน้าได้ มันมีขนาดใหญ่กว่าหุ่นรบตัวอื่นๆถึง 50% โครงสร้างมีความซับซ้อนยิ่งกว่า ทรงพลังยิ่งกว่า ลูกเล่นในการโจมตีเป็นสิบประเภท ครอบคลุมทั้งระยะใกล้ กลาง และไกล พลังของมันช่างน่าทึ่ง!
นี่คือต้นแบบของหุ่นพิฆาต!
หุ่นรบต้นแบบนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าหุ่นรบตัวอื่นๆถึงสองเท่า
พลังรบของมันเทียบได้เลยกับเจ้าถิ่นขั้นโกลด์ในเลเวล 13 14!
ตามข้อมูลของสกายเน็ต ระบุว่าตัวต้นแบบสามารถได้รับการอัพเกรดเพิ่มประสิทธิภาพได้เรื่อยๆ หรือก็คือยิ่งเวลาผ่านไป มันก็จะยิ่งแก่กล้าขึ้นเรื่อยๆ และผู้ที่กำลังขับมันคือผู้ก่อตั้งสมาคมเหนี่ยวนำมนตรา - ทีเกอร์!
โนมส์เหนี่ยวนำมนตราที่ทรงพลังที่สุดในลู่เฉิง! นอกจากนี้มันยังเป็นตัวอันตรายที่สุดในลู่เฉิงอีกด้วย!
การบุกปล้นเรือนจำเมื่อสามวันก่อน มันนี่แหละคือหนึ่งในตัวบงการหลัก!
ไม่คาดคิดเลย ว่าเวลานี้ มันจะลงมือด้วยตัวเองจริงๆ ดูเหมือนจะตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าครั้งนี้ยังไงก็ต้องชนะ!
ไป๋เสวียนรู้ดี ถึงแม้เธอจะดึงทีมต่อสู้ของสกายเน็ตมาเต็มอัตรา ก็ไม่สามารถต่อกรกับทีมหุ่นรบตรงหน้าได้ ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึงเจ้าหน้าที่ที่มีเพียง 20 คน และครึ่งหนึ่งมาจากเจียงเฉิง!
พลรบของทั้งสองฝ่ายยังไม่คุ้นเคยกัน ดังนั้นจะสามัคคีร่วมแรงกันอย่างเต็มที่ได้อย่างไร?
ไม่มีเวลาให้คิดแล้ว ต้องฆ่าเชลยทั้งหมดเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นถ้าพวกมันถูกพาตัวไป จะกลายเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อลู่เฉิงอีกครั้ง และเหล่าพลรบที่เสียชีวิตในการจับกุมพวกมันก่อนหน้านี้ต้องตายอย่างไร้ค่า!
“หยุด!”
ฮังอวี่โฉบออกมา
ไป๋เสวียนถูกปรามจับตัวไว้ก่อนที่เธอจะทันมองเห็นได้ชัด
เธอโกรธมาก ตะโกนอย่างดื้อรั้น “นายเป็นใคร? คิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ อย่าห้ามฉัน ถึงพวกเราต้องพินาศไปทั้งกองทัพ ฉันก็ปล่อยให้เจ้าพวกนี้หนีไปไม่ได้!”
ฮังอวี่ไม่อธิบาย เขาเหลือบมองเหลียงตง แล้วพยักหน้าให้อีกฝ่าย
วินาทีถัดมา ทั้งคนทั้งร่างของฮังอวี่หายวับไปจากจุดเดิม
เหลียงตงเปิดใช้งานสกิลพรสวรรค์ สกัดกั้นระเบิดจากหุ่นรบ
ไป๋เสวียนได้สติกลับมาอีกครั้ง เธอพึ่งตระหนักว่าที่ตัวเองถูกจับ ไม่ว่าจะเป็นในด้านความว่องไวหรือพละกำลัง พวกมันล้วนแข็งแกร่งไม่มีที่ว่างให้เธอต่อต้าน
ยอดฝีมือ!
เขาคือยอดฝีมือระดับสูง!
ไป๋เสวียนเอ่ยถาม “เขาเป็นใครกัน?”
เหลียงตงไม่ตอบตรงๆ “เธอสบายใจได้ วันนี้อย่าว่าแต่พวกเชลยหนีรอดไปได้เลย กระทั่งพวกที่กล้าดักปล้นยังต้องล้มเหลว ขาดทุนอย่างแสนสาหัส”
...
ระหว่างที่ไป๋เสวียนกำลังสับสน
ฮังอวี่ตรงเข้าหาหุ่นรบต้นแบบภายใต้สกิลจู่โจมมุมอับและระบำเงา
อืม
จับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน
เจ้าคนที่ขับหุ่นต้นแบบ คงไม่พ้นเป็นนักเหนี่ยวนำมนตราชั้นนำอย่างแน่นอน
หนึ่งกระบี่สับลงเบื้องหน้า แทงเข้าที่อกหุ่นรบ กระเทาะโล่พลังงานบริเวณนั้น
หุ่นรบยักษ์ถอยหลังสองก้าว
โนมส์นักเหนี่ยวนำมนตราทีเกอร์ที่นั่งอยู่ในห้องคนขับ เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงระเบิด สีหน้าของมันก็แปรเปลี่ยนไป ในใจแทบไม่อยากเชื่อ ... ว่าการโจมตีที่เกือบจะเป็นการโจมตีธรรมดา จะมีพลังรุนแรงเช่นนี้ ชายผู้นี้คือใครกัน? ในเผ่าพันธุ์มนุษย์มีตัวตนที่แก่กล้าเช่นนี้ปรากฏขึ้นได้อย่างไร?
ทีเกอร์รีบเปิดเลื่อยไฟระยะประชิด ตรงแขนขวาและข้อศอกพ่นไอกระแสอากาศออกมา แขนกลขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง ตัดขวางไปยังทิศทางของฮังอวี่
ฮังอวี่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว! บลิงค์หลบไปข้างหลัง ง้างขวานลงจามกลางหัวหุ่นรบ!
โล่พลังงานเบาบางลงสองสามส่วน และด้วยพละกำลังอันมหาศาล ทำให้พื้นดินยุบตัวลง ฝุ่นฟุ่งกระจายในอากาศ ช่วงขาของหุ่นรบจมลงเกือบครึ่งหนึ่ง
ทีเกอร์รีบเปิดใช้งานอาวุธส่วนหลังของมัน ศรพลังงานนับสิบสายถูกยิงออกไป
ฮังอวี่เปิดใช้งานเนตรแห่งเงา และสกิลขั้น 2 คลุ้มคลั่งกระหายเลือด ความว่องไวและปราดเปรียวเพิ่มขึ้นอย่างมาก พลังในการสังเกตเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า ช่วยให้เขาสามารถวิเคราะห์วิถีของศรแต่ละดอกได้อย่างชัดเจน
ร่างกายเขาวูบไหวดั่งภูติผี
กระบี่และขวานเล็กทั้งสับทั้งฟันออกไป 5 6 ครั้งราวกับสายฟ้า!
และทุกการโจมตีของฮังอวี่ติดมาพร้อมกับเอฟเฟกต์มึนงง สามารถระเบิดความเร็วได้อย่างไม่น่าเชื่อ มันถูกเสริมด้วยสกิลปะทะเดือดในทุกๆครั้ง
ทั้งหมดนี้เกิดจากสกิลขั้น 3 - เคลื่อนเงาปะทะคลั่ง!
ทีเกอร์งงงันอย่างสมบูรณ์
มีหลายครั้งที่มันพยายามตอบโต้คู่ต่อสู้ แต่สุดท้ายไม่แม้แต่จะแตะต้องชายเสื้อของศัตรู
ตรงกันข้าม ฝ่ายตรงข้ามสามารถหลบเลี่ยงการรุกของมันได้ทุกกระบวนท่า และอาวุธทั้งสองในมือรัวดั่งกลองศึก ทุบตีหุ่นรบอย่างบ้าระห่ำและโหดเหี้ยมไม่หยุด
เหลียงตง ไป๋เสวียน และคนอื่นๆ
พวกเขาไม่สามารถมองตามความเร็วในการโจมตีของฮังอวี่ได้อย่างสมบูรณ์
ฮังอวี่กลายเป็นภูติผี เข้าพัวพันรอบหุ่นรบ จู่โจมฉับไวจนไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า บังเกิดประกายไฟกระเซ็นบนโล่พลังงานของหุ่นรบอย่างต่อเนื่อง ภายใต้อำนาจอันน่าสะพรึงกลัวนี้ แสงจากโล่เริ่มหรี่เล็กลง หุ่นรบเริ่มได้รับความเสียหาย
การใช้อุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตรา อันที่จริงแล้วยังมีขีดจำกัด
หุ่นบรบพวกนี้ทรงพลังมากก็จริง มันไม่มีข้อจำกัดในด้านการสวมใส่ ต่อให้เป็นคนเลเวล 1 ขึ้นขี่ ก็สามารถระเบิดพลังรบที่มากกว่าตัวเองหลายร้อยเท่าออกมาได้ในพริบตา
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องต่อกรกับยอดฝีมือที่แท้จริง ผู้ขับจะพบว่าตัวเองไร้กำลังจะต่อต้าน
หุ่นรบของทีเกอร์นั้นไม่เลว
แต่คุณสมบัติความว่องไวของมันแย่มาก!
ดังนั้นมันจึงไม่สามารถตอบสนองต่อการโจมตีของฮังอวี่ได้เลย
ฮังอวี่เฉือนไหล่ของคู่ต่อสู้ด้วยขวานเล็กสามครั้งติด ในที่สุดโล่พลังงานก็แตกเป็นชิ้นๆ แขนขวานหุ่นรบขาดกระเด็น
ทีเกอร์รีบยกแขนซ้ายขึ้น กระบี่แสงทอวาบออกมา แต่ยังไม่ทันได้เหวี่ยงฟัน แสงกระบี่อีกสายหนึ่งโฉบวูบ ตัดแขนซ้ายของหุ่นรบขาดในฉับเดียว
ทีเกอร์ช็อก!
ไม่ได้การ! โล่พลังงานก็แตกแล้ว แขนสองข้างของหุ่นรบก็ใช้งานไม่ได้อีก
ทีเกอร์ตระหนักว่ามีสถานการณ์ไม่สู้ดี!
ไม่ต้องกล่าวถึงการช่วยชีวิตคน เมื่อได้เจอกับสัตว์ประหลาดเช่นนี้ เกรงว่าต่อให้รักษาชีวิตตัวเอง หากไม่รีบตัดสินใจหนีก็คงรักษามันไว้ไม่ได้
โหมดบินของหุ่นรบถูกเปิดใช้งาน พลังงานที่บรรจุไว้ถูกพ่นออกมา
ทีเกอร์ควบคุมหุ่นรบทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
มันคิดในใจว่า “ในที่สุดก็สามารถหนีออกมาได้เสียที ถึงคู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ยังไงซะก็เป็นแค่อาชีพนักรบ!”
“คิดหนี?”
ฮังอวี่ถอนใช้งานคลุ้มคลั่งกระหายเลือดและกระตุ้นสกิลปลุกเลือดปีศาจ หลังจากแปลงร่างเป็นขุนนางเลือดปีศาจแล้ว ฮังอวี่จะได้รับความสามารถในการบิน เขากระทืบเท้าทีเดียว ส่งตัวเองลอยขึ้นไปในอากาศ ไล่ตามทีเกอร์
“สังหารลมกรด!”
ฮังอวี่หายวับไป
และแทบจะในเวลาเดียวกัน
หกถึงเจ็ดร่างเงาฮังอวี่ปรากฏตัวขึ้นจากทุกทิศทาง
พวกมันทั้งหมดระเบิดการโจมตีอันรุนแรงพร้อมกัน!
สังหารลมกรดเป็นสกิลโจมตีที่ทรงพลังมาก ตอนนี้เมื่อใช้งานร่วมกับเคลื่อนเงาปะทะคลั่ง ทุกการโจมตีจึงว่องไวดั่งสายฟ้า มันเหมือนกับภาพอันพร่าเลือน ปรากฏตัวให้เห็นอีกที หุ่นรบก็พังทลายลงแล้ว เศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายไปทั่วพื้นดิน
ทีเกอร์หลุดจากห้องคนขับในสภาพสะบักสะบอม พลังรบของมันไม่ได้อ่อนแอ อยู่ในเลเวล 11 แต่มันจะเป็นคู่ต่อสู้ของฮังอวี่ได้อย่างไร?
ปลดปล่อยสัจธรรม!
เปิดใช้งานสังหารลมกรดอีกครั้ง!
กระบี่กระดูกสามานย์และขวานปีศาจแมงป่องเข้าทักทายทีเกอร์อย่างดุเดือด
ในตอนที่ทีเกอร์หลุดจากหุ่นรบ ร่างมันยังไม่มีส่วนไหนบุบสลาย แต่เมื่อตกถึงพื้น แขนขาถูกตัดขาดหมดสิ้น ในเวลาเดียวกันตกอยู่ในสถานะบาดเจ็บสาหัสและใกล้ตาย
ชายผู้นี้ไม่ใช่ภัยคุกคามอีกต่อไป!
ฮังอวี่กระโจนเข้าใส่ทหารหุ่นรบตัวอื่นๆ
ณ ตอนนี้ เหล่าทหารหุ่นรบ ทุกคนต่างตกตะลึง!
เพราะข้างในทหารหุ่นรบเหล่านี้ มีแค่ไม่กี่คนที่เป็นชาวโลกวิญญาณ แปดถึงเก้าส่วนข้างในมีมนุษย์เป็นคนขับ
นี่ก็เพราะชาวโลกวิญญาณเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยในโลกจริง และสมาชิกสมาคมเหนี่ยวนำมนตรามีมนุษย์ซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเกือบทั้งหมดยังมีเลเวลต่ำ ไม่ได้แข็งแกร่งอะไร เพียงแค่ทะเยอทะยาน เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเลือกทรยศเผ่าพันธุ์เดียวกัน
ทหารหุ่นรบมากกว่า 20 ตัว แต่ละตัวทรงพลังมาก
ทว่าในสายตาของฮังอวี่ พวกมันไม่ต่างจากไก่กา คิดหรือว่าแค่อยู่ข้างในหุ่นรบแล้วจะสู้กับฉันได้?
ฮังอวี่อยู่ในสถานะขุนนางเลือดปีศาจ เขาเหมือนนกแร้งที่มีสายตาดุจคมมีด โฉบเฉี่ยวไปมา กางแขนทั้งสองข้าง แสงสีเลือดทอประกายออกจากอาวุธทั้งสองในมือเขา
สกิลขั้น 3 - ชุบโลหิต!
ทหารหุ่นรบยังไม่ทันได้ยกมือขึ้นตั้งรับ ภาพติดตาสีแดงเลือดก็กวาดผ่านร่างพวกมัน
ชุบโลหิตคือสกิลที่เมินเฉยต่ออุปสรรคกีดขวาง มันสามารถฟันคนขับที่อยู่ข้างในได้โดยตรง
โล่พลังงานของหุ่นรบไม่ต่ำต้อย ทว่าคนขับข้างใน แท้จริงแล้วอ่อนแอจนน่าสมเพช
ฮังอวี่ไม่สนใจหุ่นรบและโจมตีคนขับโดยตรง ด้วยความสามารถของขยะพวกนี้ จะหยุดการฟาดฟันของฮังอวี่ได้อย่างไร?
ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้น พวกมันถูกเขาฆ่าตายในวินาทีเดียว!
ความว่องไวของฮังอวี่ร้ายกาจแค่ไหน?
พวกทหารหุ่นรบในที่นี้ปราศจากความหวังที่จะหลบหนี ฮังอวี่โฉบผ่านหุ่นรบที่เหลืออย่างรวดเร็ว กวาดคมมีดสีเลือดฟาดผ่าน แม้ตัวหุ่นรบจะไม่เสียหาย แต่คนข้างใน ตายชนิดที่ว่าคงตายซ้ำไม่ได้อีก
และก่อนตาย พวกมันเบิกตากว้าง ราวกับว่าพึ่งพบเจอกับสิ่งน่ากลัวที่สุดในชีวิต
ไม่นาน
หุ่นรบทั้ง 20 ตัว
ทั้งหมดก็เป็นอัมพาตแน่นิ่งอยู่กับพื้น ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป
ไม่ว่าจะเป็นคนของลู่เฉิง หรือชาวเจียงเฉิง ทั้งหมดตะลึงงัน!
เหลียงตงนึกไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้ เขาคิดว่าถึงแม้ฮังอวี่จะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่มากสุดอาจทำได้แค่ขับไล่คู่ต่อสู้ออกไป
ใครจะนึก ว่าฮังอวี่คนเดียว สามารถกวาดล้างทีมหุ่นรบจนหมดสิ้น!
และกระบวนการทั้งหมด ใช้เวลาไม่ถึง 3 นาที!
นี่มันจะเว่อร์เกินไปแล้ว!
ต้องรู้นะว่าพลังรบของหน่วยหุ่นรบ กระทั่งทีมต่อสู้ของสกายเน็ตก็ยังไม่สามารถรับมือได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าฮังอวี่ พวกมันทำได้แต่ถูกโจมตีอย่างโหดเหี้ยมเพียงฝ่ายเดียว!
ไป๋เสวียนรู้สึกแข้งขาสั่นเล็กน้อย “เขา ... หรือว่าเขาคือ ...”
เหลียงตงมองไปที่หัวหน้ากองจากเมืองลู่เฉิงด้วยท่าทีแปลกๆ “ใช่ เขาคือบอสฮังแห่งเจียงเฉิงของพวกเรา ตอนนี้เธอยังอยากท้าประลองกับเขาอยู่ไหม?”
*พรุ่งนี้งดประจำสัปดาห์ครับ