ตอนที่ 8 ยานั้นขม ส่วนหัวหน้าจ้านนั้นหวาน
ภายใต้’การบริการ’ของจ้านชิงเฉิง ซูสือกินอาหารยาจนหมด
พอมองก้นชามที่ว่างเปล่า นางก็มองอย่างทึ่งๆ
จ้านชิงเฉิงพูด“ดูหน้าเจ้าสิ มันดีขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ซูสือยิ้ม“ยานั้นขมมาก แต่หัวหน้าจ้านหวานมาก”
แก้มของจ้านชิงเฉิงร้อนผ่า“เจ้าพูดจาอะไรไร้สาระอีกแล้ว!”
เป็ฯเวลากว่ายี่สิบปี นางบ่มเพาะให้จิตใจสงบนิ่ง ไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งใด นางจึงทำอะไรไม่ถูกต่อหน้าคำหวานเหล่านี้
หลังสงบลง จ้านชิงเฉิงก็เก็บชามซุปไป“พักซะ ข้าจะปรุงยาให้เจ้าอีกพรุ่งนี้”
“รอเดี๋ยว”
ซูสือรั้งนางไว้
ตัวของจ้านชิงเฉิงแข็งทื่อ ใบหน้านางตื่นตระหนก“อะไร เจ้าจะทำอะไร?”
ชายคนนี้คงไม่ได้พยายามจะจูบข้าอีกใช่ไหม?’
ถ้าเป็นงั้น ข้าควรปฏิเสธหรือไม่?
แม้การถูกเขาจูบจะไม่ได้รู้สึกแย่ แต่เราเพิ่งเริ่มคบกัน มันจะเร็วไปไหม?
ในชั่วพริบตา ความคิดนับล้านผุดในหัวนางและทั้งตัวนางก็แข็งทื่อ
ซูสือพูด“ข้าแค่อยากคุยกับท่าน”
“เข้าใจแล้ว”
จ้านชิงเฉิงถอนหายใจโล่งอก
แต่ลึกๆในใจ มันกลับมีความผิดหวังเจือปน
ซูสือไม่รู้ว่านางคิดอะไรและพูดต่อ“มีบางอย่างที่ข้าไม่มีโอกาสได้บอกท่าน แต่บาดแผลของข้าหายดีแล้ว”
“เป็นไปไม่ได้”
จ้านชิงเฉิงส่ายหัว“อย่าโกหกข้า ข้ารู้ว่าบาดแผลเจ้าสาหัสแค่ไหน และราชาเม็ดยาก็ยังบอกว่าเจ้าจะต้องพักฟื้นอย่างน้อยสามเดือนถึงหายดี”
พอเห็นว่านางไม่เชื่อเขา ซูสือก็ถอดชุดเขา เผยให้เห็นกล้ามอกแข็งแกร่ง
“โอ้!”
จ้านชิงเฉิงรีบปิดตาและพูด“จะ..เจ้า เจ้าถอดเสื้อทำไมนะ?ข้าไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เจ้าคิดนะ!”
“..”
ซูสือพูดอย่างหน่ายใจ“ข้าไม่ได้โกหกท่านจริงๆ ถ้าไม่เชื่อ ก็ดูด้วยตาตัวเองสิ”
นางเปิดนิ้วออกอย่างเชื่องช้า กระพริบตาถี่ยิบผ่านรูระหว่างนิ้ว
นางเห็นหน้าอกขาวเนียนของเขา และบาดแผลก็หายไปแล้ว ไม่ทิ้งไว้แม้แต่รอยแผลเป็น
จ้านชิงเฉิงไม่อยากจะเชื่อ
นิ้วเนียนของนางแตะหน้าอกเขาอย่างระมัดระวังเพื่อให้มั่นใจว่าแผลของเขาหายดีแล้วจริง
“นี่เป็นไปได้ไง?”
ซูสือยักไหล่“อาจเพราะข้ามีกายาชั้นดีและฟื้นตัวได้ไว”
หัวใจของจ้านชิงเฉิงเต้นกระหน่ำ
นางรู้ดีว่าซูสือบาดเจ็บหนักแค่ไหน
เขาทั้งถูกแทงที่หน้าอกด้วยกระบี่แหลมและจากนั้นก็ฝืนแผดเผาโลหิต มันถือเป็นปาฏิหาริย์แล้วที่เขารอดมาได้ เขาจะฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ได้ไง?
ถ้าเขามีของแบบนี้ เขาคงไม่แพ้นางแต่แรก!
ความเป็นไปได้เดียวคือ…
เขาจงใจ!
เขาซ่อยพลังไว้ตั้งแต่ต้นและไม่สู้กลับแม้เขาจะโดนแทง!
“ซูสือ ข้าเกลียดเจ้า!”
ซูสือ“หือ?”
ดวงตาของจ้านชิงเฉิงชุ่มชื้น“คนโง่ ทำไมเจ้าไม่เคยคิดถึงตัวเองบ้า?ชีวิตของเจ้าเองก็ล้ำค่าเหมือนกันนะ!”
ตอนนี้ อารมณ์ระเบิดออกมา
จ้านชิงเฉิงโยนตัวเองเข้าอ้อมกอดเขาและสะอื้นไม่หยุด
ซูสืองง
โดยไม่รู้ความจริงที่ว่าอีกฝ่ายมองเขาเป็นยอดคนที่เต็มใจเสียสละตัวเอง
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็หยุดสะอื้น
จ้านชิงเฉิงเงยหน้า ใบหน้านางยังมีน้ำตานอง“อย่าทำแบบนั้นอีก ข้าอยากให้เจ้ามีชีวิต!”
แม้ซูสือจะไม่มั่นใจ แต่เขาก็พยักหน้า“ข้าจะไม่ตาย ข้าต้องอยู่ต่อเพื่อให้ได้รักกับหัวหน้าจ้าน”
“เจ้าพูดอะไรไร้สาระอีกแล้วนะ”
จ้านชิงเฉิงตีเขา แต่ไม่ได้ใช้แรงอะไร
ทั้งสองกอดกันเงียบๆ
บรรยากาศอบอุ่นมาก
หลังจ้านชิงเฉิงสงบ นางถึงรู้ตัวว่าทั้งสองอยู่ในท่าไหน
แก้มของนางฝังในหน้าอกของซูสือและนางสามารถได้ยินเสียงหัวใจเต้นของเขาได้
มือของเขาจับเอวนาง และนางสามารถรู้สึกได้ถึงควาร้อนแม้จะผ่านเสื้อผ้า
แก้มของนางแดง ทั้งตัวอ่อนยวบ ไม่สามารถรวบรวมเรี่ยวแรงได้เลย
นางเขินอายมาก แต่ไม่เต็มใจจะปล่อยมือเช่นกัน
“ซูสือ ข้า..”
ตอนนี้ เสียงเท้าดังด้านนอกประตู
ทั้งสองรีบแยกออกกันเหมือนโดนไฟช็อต จ้านชิงเฉิงหันหน้าหนี แต่ยังมีสีชมพูแต่งแต้ม
เสี่ยวชิงผลักประตูเข้ามา
“หะ?คุณหนู ท่านก็อยู่ด้วย”
จ้านชิงเฉิงขมวดคิ้ว”ทำไมเจ้าไม่เคาะประตูก่อน?’
“ข้ามาเก็บกล่องอาหาร ไม่รู้ว่าท่านก็อยู่ด้วย ท่าน..”
“อะแฮ่ม ข้าเพิ่งเข้ามา”
“ดีเลย รีบเก็บแล้วออกมา อย่ารบกวนการพักผ่อนของคุณชายซู”
“เจ้าค่ะ”
เสี่ยวชิงมักรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
ทั้งสองเดินออกห้อง
เสี่ยวชิงถาม“คุณหนู พรุ่งนี้ท่านจะยังไปต้มยาเองหรือไม่?”
จ้านชิงเฉิงส่ายหัว“ไม่จำเป็น ซูสือหายดีแล้ว”
“เร็วขนาดนั้นเชียว?”
เสี่ยวชิงแปลกใจ“แต่ข้าจำได้ว่าเมื่อวานแผลของเขายังไม่หายเลย”!
จ้านชิงเฉิงขมวดคิ้ว“เจ้ารู้ได้ไง?”
เสี่ยวชิงพูด“ข้าเช็ดตัวให้เขาเมื่อวาน ข้ามั่นใจว่าข้าเห็นแผลของเขายังเหวอะอยู่เลย”
“เช็ด เช็ดตัวให้เขา!?”
จ้านชิงเฉิงหยุดหายใจ
เสี่ยวชิงพูด“ก็ท่านบอกว่าอยากให้ข้าดูแลเขาให้ดีไม่ใช่หรือ?เขาหมดสติและไม่มีใครได้รับอนุญาตให้รู้ที่อยู่ของเขา ข้าจึงเป็นคนเดียวที่ดูแลเขาได้”
“..”
“คุณหนูไม่ต้องชมข้าหรอก มันเป็นสิ่งที่ข้าต้องทำอยู่แล้ว แต่จะว่าไป ซูสือหุ่นดีจริงๆนะเจ้าค่ะ..”
จ้านชิงเฉิงกัดฟันแน่นและพูดเสียงเย็น“เจ้าเพิ่งเข้าห้องไปโดยไม่เคาะ เจ้าจะถูกลงโทษโดยการหักเงินเป็นเวลาครึ่งปี และต้องคอยไปทำความสะอาดกระท่อมหนึ่งเดือน”
เสี่ยวชิง“????”