ตอนที่ 1237+1238 อย่าแม้แต่จะคิดถึงมัน
ตอนที่ 1237 อย่าแม้แต่จะคิดถึงมัน
เมื่อถึงกลางคืน ลู่ชิงสีก็พาเจียงเหยาออกจากบ้าน เนื่องจากสภาพอากาศในเมืองซู คนส่วนใหญ่ที่นั่นมีผิวคล้ำ ซึ่งเข้มกว่าเจียงเหยา เป็นทางใต้เหมือนกัน แต่อุณหภูมิต่างกันหลายองศา ผิวของคนที่นี่ดำกว่าลู่ชิงสีที่ฝึกฝนอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ตลอดหลายปี
ถ้าลู่ชิงสีเดินคนเดียวบนถนนที่นั่น เขาอาจจะไม่ได้รับความสนใจจากใครเลย อย่างไรก็ตาม ผิวของเจียงเหยานั้นเนียนมากจนลมพัดสามารถทำลายมันได้ ไม่ค่อยมีใครเห็นคนแบบเธอในเมืองซู ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับความสนใจค่อนข้างมาก
ลู่ชิงสีไม่ปล่อยมือเจียงเหยาแม้แต่วินาทีเดียว เขาดูเหมือนแม่ไก่ที่ปกป้องลูกไก่ เขาไม่กล้าปล่อยให้เจียงเหยาพ้นสายตาของเขาแม้แต่วินาทีเดียว
ในทางกลับกัน เจียงเหยาอยากรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมทางวัฒนธรรมในเมืองซู ความสนใจของเธอจึงจดจ่ออยู่สองข้างทางถนน บางครั้งเธอจะถูกดึงดูดด้วยกลิ่นอาหาร
แม้ว่าเศรษฐกิจในเมืองซูจะค่อนข้างดำเนินไปอย่างช้า ๆ แต่ก็ไม่มีร้านอาหารและไม่มีสถานบันเทิงที่มีระดับ ไม่ว่าเมืองจะยากจนแค่ไหน ก็มีคนรวยอยู่เสมอ
เมื่อพวกเขามาถึงครั้งแรก ลู่ชิงสีกลัวว่าเจียงเหยาอาจไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าพาเธอไปที่แผงขายอาหารเหล่านั้น แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจียงเหยาหิว แต่เขาก็ยังพาเธอไปร้านอาหารที่ดูสะอาดและดูดี
บังเอิญพวกเขาเห็นอาจูทันทีที่พวกเขาเข้าไปในอาคาร อาจูอยู่ในห้องอาหารส่วนตัวที่อยู่ด้านในสุดของร้านอาหาร อย่างไรก็ตาม ประตูไม่ได้ปิดดังนั้นเขาจึงสามารถเห็นคนของอาจูได้อย่างรวดเร็ว
ลู่ชิงสีและเจียงเหยามองหน้ากัน พวกเขาตัดสินใจโดยปริยายว่าจะแสร้งทำเป็นไม่รู้อาจูอยู่ที่นั่น จากนั้นพวกเขาก็พบจุดที่อยู่ห่างจากห้องส่วนตัว
“คุณอยากจะกินอะไร” ลู่ชิงสียื่นเมนูให้เจียงเหยา เมื่อเขาเห็นเธอมองดูเมนูอย่างรวดเร็ว เขาก็พูดว่า “ไม่มีเปาะเปี๊ยะสด อย่าคิดมาก”
การแสดงออกของเจียงเหยาหยุดนิ่ง หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ผลักเมนูไปที่ลู่ชิงสี “ให้คุณสั่ง ฉันจะกินทุกอย่างที่คุณอยากกิน”
ผู้ชายคนนั้นเป็นเหมือนหนอนในท้องของเธอ – เขารู้ว่าเธอคิดอะไรในทันที
กลิ่นของกินเสียบไม้ข้างถนนช่างส่งกลิ่นหอมเหลือเกิน เธอจึงอยากกินมัน
ในอดีต เมื่อลู่ชิงสีรู้ว่าเธอต้องการจะกิน เขาก็จะหามาให้เธอ ทว่า ในวันนี้เขาไม่ได้ทำอย่างนั้น แม้ว่าเจียงเหยาจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เธอก็ไม่ได้ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอรู้ว่าเขามีเหตุผลของเขาเอง
ลู่ชิงสีกล่าวว่า “เราเพิ่งมาถึงสถานที่แปลก ๆ กินอะไรเบา ๆ เพื่อปรับให้เข้ากับสภาพอากาศและฮวงจุ้ยของที่นี่จะดีกว่า ถ้าคุณอยากกินมันจริง ๆ อีกสองสามวันผมจะให้คุณกิน ผมได้ยินมาว่าของเสียบไม้ในเมืองซูอร่อยมาก”
พนักงานเข้ามากล่าวแนะนำอาหารจานพิเศษของทางร้านให้กับลู่ชิงสีและเจียงเหยา
หลังจากสั่งอาหารแล้ว พนักงานเสิร์ฟก็ออกไปจัดการกับคำสั่งของพวกเขา เจียงเหยาแสร้งทำเป็นสนใจที่จะดูความพลุกพล่านในร้านอาหาร แต่ความสนใจของเธออยู่ที่ห้องส่วนตัวของอาจู
เจียงเหยาไม่แปลกใจที่เห็นเสี่ยติง ซึ่งไม่ได้อยู่ที่เมืองซูระหว่างสองสามวันนี้ในห้องส่วนตัวกับอาจู อย่างไรก็ตามก็ตาม คนในห้องต่างประหลาดใจที่เห็นพวกเขา พวกเขาไม่คาดหวังว่าจะได้เห็นพวกเขาสองคนที่นั่น
__
ตอนที่ 1238 เสี่ยติงเป็นเจ้าของ
เสี่ยติงอายุประมาณ 50 ปี เขามีใบหน้าที่อวบอ้วนเนื่องจากชีวิตที่หรูหราของเขา อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะรวยแค่ไหน เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นชายวัยกลางคน
เสี่ยติงสวมสร้อยคอทองคำหนารอบคอของเขา ดูราวกับว่าเขาสนใจเครื่องประดับทองมากกว่าอาจู เขาสวมแหวนทองคำสองวงบนนิ้วมือ ทว่ามีแหวนหยกอีกอันที่สะดุดตากว่าแหวนทองคำของเขา
เขาถือบุหรี่ในมือข้างหนึ่งและอีกข้างหนึ่งถือแก้วไวน์ แก้วไวน์เต็มไปด้วยไวน์แดงอย่างดี สีของมันสามารถบอกได้ว่าราคามันไม่ถูกเลย
“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา? ทำไมพวกเขาถึงได้บังเอิญมาที่นี่” เสี่ยติงถามด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง
“เสี่ยติง ฉันจะออกไปดูเองครับ” อาจูยืนขึ้นเปิดประตูและเดินออกไป
เจียงเหยากระซิบกับลู่ชิงสี “อาจูออกมาแล้ว เสี่ยติงและอาจูอยู่ในห้องส่วนตัวเดียวกัน คนรักของเสี่ยติง พี่เหวินก็อยู่ที่นั่นด้วย”
“อืม” ลู่ชิงสีเทน้ำหนึ่งแก้วลงในแก้วของเจียงเหยา เขาเห็นว่านี่คือชาดอกไม้
“ให้ฉันลองก่อน” เจียงเหยาเป่ากลีบดอกไม้บนผิวขา ตอนที่อาจารย์เฉิงลักพาตัวเธอ ยาสลบไม่มีผลกับเธอเลย ต่อมาเธอถามพ่อบ้านของระบบและพบว่ายาเหล่านั้นไม่มีผลกับเธอในสถานการณ์ปกติ
ถ้าเจียงเหยาระวังเธอคงจะเทมันทิ้ง หลังจากยืนยันว่าไม่มีปัญหา เธอพยักหน้าให้ลู่ชิงสีและกล่าวว่า “อร่อย เป็นชาที่หวานทีเดียว ลองจิบสิคะ”
อาจูได้ยินทั้งสองคนพูดถึงชาดอกไม้เมื่อเขาเดินเข้าไปหาพวกเขา เขาปรากฏตัวขึ้นด้านหลังลู่ชิงสี และตบไหล่เขา จากนั้นเขาก็ดึงเก้าอี้ว่างออกมานั่งลง เขาพูดด้วยน้ำเสียประหลาดใจ “ช่างบังเอิญเสียจริง ทั้งสองคนก็มาทานข้าวที่นี่ด้วยหรือ”
“บังเอิญจังเลยนะคะ” การแสดงออกของเจียงเหยานั้นดูประหลาดใจยิ่งกว่าอาจู ดวงตาสีดำของเธอกะพริบด้วยความประหลาดใจขณะที่เธอถามว่า “อาหารที่นี่ดีไหมคะ ฉันคิดว่าอาหารที่นี่ต้องแพงน่าดู ฉันแอบดูเมนูเมื่อกี้ แต่ไม่เห็นราคา ถึงแม่จะให้เงินเรามาบ้าง แต่เราก็ยังต้องใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น”
เจียงเหยาเหลือบมองไปที่ลู่ชิงสีซึ่งนั่งตรงข้ามกับเธอด้วยท่าทางเขินอายบนใบหน้า “ฉันอยากจะกินอาหารตามท้องถนน แต่พี่ฉางซื่อบอกว่ากลัวฉันจะปวดท้อง เลยอยากให้ชินกับอาหารของที่นี่เสียก่อน เขายืนกรานที่จะกินที่นี่ เขาบอกว่าฉันสามารถกินอะไรก็ได้ที่ฉันต้องการ ถ้าเรามีเงินมากมายในอนาคต”
“น้องสาว สามีของเธอพูดถูก ผู้หญิงมักจะท้องอืด ไม่ควรกินอาหารข้างทางโดยเฉพาะเมื่อเพิ่งจะมาในที่ใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะชินกับสภาพอากาศของที่นี่ ฉางซื่อมีน้ำใจต่อเธอมากจริง ๆ” ในที่สุดอาจูก็เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงอยู่ที่นี่ เป็นเพราะกู้ฉางซื่อรู้สึกเสียใจต่อภรรยาของเขา
จากนั้นอาจูก็บอกว่า “บังเอิญมาก เสี่ยติงเป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ อยากกินอะไรก็สั่งเลย มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง ต่อไปในอนาคต ถ้าทำงานกับเสี่ยติง ก็สามารถกินอาหารที่นี่ได้สามมื้อต่อวันเลยก็ยังได้ ฉันยังมีเพื่อนมาด้วย ทานอาหารให้อร่อย ไว้ว่าง ๆ ฉันจะแวะไปหา”
ก่อนที่เขาจะจากไปอาจูตบไหล่ลู่ชิงสี และคิดว่าชายคนนี้ค่อนข้างน่าเบื่อ แม้ว่าเขาจะพูดอะไรมากมายกับภรรยาของเขา แต่ชายคนนั้นก็ยังคงนิ่งเงียบ