ตอนที่แล้วSN-ตอนที่ 33 การเตรียมการที่น่าสยดสยอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSN-ตอนที่ 35 เคลียร์ภารกิจทดสอบ (1)

SN-ตอนที่ 34 เริ่มต้นภารกิจทดลอง1


อัลดิช พบว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวของเขาได้เปลี่ยนจากป่าเป็นหินสีเทาที่หมองหม่นและแสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมแบบโกธิกของ เน็กซัส ในตอนนี้ เขารู้สึกว่า HP และ มานาของเขากำลังฟื้นคืนสู่ระดับสูงสุด สิ่งแรกที่เขาทำก็คือการไปที่บ่อน้ำแห่งชีวิตและฟื้นฟูขวดโพชั่นของเขา

“หะ ที่นี่มันที่ไหนกันแน่ หัวหน้า?” ฟีสก์ กล่าวถาม ขณะที่เขามองไปยังพื้นที่โดยรอบด้วยความประหลาดใจ เขาจ้องมองไปที่เสารูปกากบาทที่โอ่อ่าตระการตาของ เน็กซัส จากนั้น ก็มองไปที่เพดานที่เต็มไปด้วยคริสตัลสีทองและสีน้ำเงิน “ที่นี่คล้ายกับสถานที่ที่หลุดมาจากโลกของเกมเลย เพดานคริสตัลสุดเท่และความงามของวิหารแฟนตาซีที่มืดมิด - นี่มันทัศนียภาพแบบเกมแทบจะไม่มีผิดเพี้ยน!”

“คิดงั้นเหรอ?” อัลดิช กล่าวถาม

“ใช่ ฉันเห็นด้วยกับเขานะ หัวหน้า” ไดนาไมท์ เกิร์ล กล่าวพร้อมกับมองไปยังพื้นที่โดยรอบ

“หืม เธอเล่นเกมด้วยงั้นเหรอ?” ฟิสก์ กล่าวถาม “ฉันคิดว่าเธอเป็นประเภทที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกเกมเสียอีก”

“ก็แค่นิดหน่อย ฉันไม่ใช่พวกเนิร์ดแบบนายก็แล้วกัน” ไดนาไมท์ เกิร์ล ตอบกลับ

“พวกนายทั้ง 2 จำตอนสมัยที่ยังเล่นเกมได้ด้วยงั้นหรือไม่?” อัลดิช กล่าวถาม เพราะเขาไม่รู้แน่ชัดว่าพวก อันเดด ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยจิตวิญญาณจะรับรู้ถึงอดีตของตนเองมากน้อยเพียงใด เขารู้เพียงแค่ว่า ตามตำนานของเกม พวกเขาจะสูญเสียความทรงจำทั้งหมดทิ้งไป แต่นั่นดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้สูญเสียพวกมันทั้งหมด

“เอ่อ…ถึงแม้ว่าฉันจะจำไม่ได้ว่ามันเป็นเกมไหน แต่ดูเหมือนจะเคยเล่นมาบ้าง” ไดนาไมท์ เกิร์ล ได้ตอบกลับ “ส่วนเหตุผลที่ฉันเล่น ก็น่าจะเป็นเพราะหาที่ระบายความเครียดและความโกรธ เพราะเกมพวกนั้นสามารถช่วยได้ในบางครั้ง”

“เคะ” กีสต์ ได้ส่งเสียงออกมาในเวลานี้

“อะไร จะบอกว่า ฉันดูเครียดและโกรธตลอดเวลา!? จะเอาใช่มั้ย!?” ไดนาไมท์ เกิร์ล กำหมัดแน่น และ จ้องมองไปที่ กีสต์ “เดี๋ยวฉันจะแสดงให้ดูว่าการระบายความโกรธที่ดีนั้นคืออะไร!”

“เอาล่ะ ใจเย็น ๆ กันหน่อย” อัลดิช พูดขึ้น “ฉันมีคำถาม เธอจำอดีตเกี่ยวกับชีวิตก่อนหน้านี้ได้มากน้อยเพียงใด?”

“เอ่อ มันแทบจะไม่เหลืออะไรเลย” ไดนาไมท์ เกิร์ล ได้ตอบกลับ “เพราะนอกจากชื่อของฉันที่มีชื่อว่า สเตลล่า รวมถึงชื่อที่ผู้คนเรียกขานว่า ไดนาไมท์ เกิร์ล นอกจากนี้ อย่างอื่นก็เหมือนกับหมอกควันทั้งหมด มันคล้ายกับฝันที่มีไข้”

“เมืองฮาเว่น ชื่อนี้เธอพอจะจำได้มั้ย?” อัลดิช กล่าวถาม

ไดนาไมท์ เกิร์ล พยักหน้า “อืม ฉันคิดว่าฉันเคยอยู่ที่นั่นหรืออะไรสักอย่าง โดยใจกลางเมืองของที่นั่นเป็นสถานที่ที่ดี แต่ก็มีสิ่งน่าเกลียดปะปนไป ส่วนเรื่องอื่น ฉันจำไม่ได้แล้ว หากเป็นไปได้ หัวหน้า หากคุณต้องการรู้อะไร เพียงแค่บอกหรือเตือนฉัน บางทีฉันอาจจะจำสัก 1-2 อย่างได้”

“อืม” อัลดิช ตระหนักได้ว่า อันเดดที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาโดยสมบูรณ์ ไม่ได้ลบล้างความทรงจำของพวกเขาทั้งหมด โดยพวกมันได้ถูกเก็บเอาไว้ คล้ายกับว่า มันถูก ‘ล็อค’ เอาไว้ โดยมันจะไม่ปรากฏออกมาเว้นแต่จะได้รับการแจ้งเตือนบางอย่าง

แต่สิ่งนี้ เขาก็พอจะเข้าใจได้ เพราะหากพวก อันเดด ฟื้นคืนชีพขึ้นมาโดยมีความทรงจำเป็นศูนย์เลย พวกมันก็คงจะเป็นเหมือนกับทารกแรกเกิดที่ไม่สามารถทำอะไรได้และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป

เพียงแต่ อัลดิช ก็รู้สึกกังวลเหมือนกัน หากเขาเรียกความทรงจำทั้งหมดของ อันเดด กลับมาได้ พวกมันจะก่อกบฏหรือไม่ แต่ในขณะเดียวกัน อัลดิช ก็สามารถปกปิดจิตนึกคิดของพวกเขาได้ทุกเมื่อ

สำหรับตอนนี้ เขาได้ปล่อยให้ทุกคนมีความเป็นตัวของตัวเองไปก่อน เพราะในบางกรณี การเก็บความทรงจำเหล่านี้เอาไว้ ก็ยังคงเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะกรณีของ ไดนาไมท์ เกิร์ล ที่มีศักยภาพที่ดีในการเก็บข้อมูลอีกทั้งยังหลีกหนีไม้พ้นความจริงที่ว่าเธอเป็นฮีโร่อีกด้วย

“เลิกตอแยนายท่านได้แล้ว” วาเลร่า กล่าวพูดขณะที่ เดินเข้ามาแทรกกลางระหว่าง ไดนาไมท์ เกิร์ล และ อัลดิช จากนั้น เธอก็วางมือบนเกราะอกและยกโล่ของเธอขึ้น “ข้าเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้แล้ว นายท่าน ข้าจะพิสูจน์ให้ท่านเห็นผ่านภารกิจทดสอบนี้ว่า มีข้าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คู่ควรที่จะยืนอยู่เคียงข้างท่านอย่างแท้จริง”

“หึ่ม แล้วใครกันที่เป็นคนช่วยจุดไฟเผาแมลงพวกนั้น ห๊ะ?” ไดนาไมท์ เกิร์ล ได้กล่าวออกมา

เพียงแต่ว่า วาเลร่า ได้หันกลับมามองเธอ

“หยุดโต้เถียงกันได้แล้ว หากให้มันมากกว่านี้ฉันจะปิดกั้นจิตนึกคิดของพวกเธอ” อัลดิช กล่าว

“เข้าใจแล้ว หัวหน้า” ไดนาไมท์ เกิร์ล ถอนหายใจออกมา “แม้ว่าฉันอาจจะดูขี้ขลาด และ ชอบพูดมาก แต่เชื่อฉันเถอะ เมื่อถึงเวลาต่อสู้ หัวหน้าสามารถวางใจได้เลยว่าฉันจะช่วยเหลือหัวหน้าอย่างเต็มที่”

“หึ่ม หากเจ้าคิดจะให้นายท่านชื่นชมจะต้องผ่านด่านของข้าไปให้ได้ก่อน” วาเลร่า ได้ตอบกลับ

“เอ่อ ครั้งนี้ ฉันไม่ได้ชวนทะเลาะนะหัวหน้า เอาเถอะ ฉันไม่พูดแล้ว” ไดนาไมท์ เกิร์ล มองไปที่ อัลดิช

“อืม” อัลดิช พยักหน้าทันที และ เริ่มก้าวเดินไปที่เสาแรกในทั้งหมด 12 เสาที่อยู่ติดกับกำแพงของเน็กซัส

นี่คือด่านภารกิจทดสอบอันแรก

เสานี้ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเขียว ซึ่งบ่งบอกว่ามันยังคงทำงานอยู่ อีกทั้งยังมีการ์กอยล์ด้านบนที่เปล่งแสงสีเขียวออกมาจากดวงตาและจ้องมองไปที่ อัลดิช จากนั้น ประตูหินที่อยู่ด้านหน้าเสาก็ได้เปิดออก จากนั้น ก็แสดงให้เห็นถึงน้ำวนสีฟ้าที่อยู่ข้างใน ซึ่งมันคล้ายกับผิวน้ำบางอย่าง

อัลดิช ได้ตรวจสอบมันทันที

ภารกิจทดสอบ 1 : การค้นหา

ความยาก : 4

คำอธิบาย :

เมื่อคุณไปถึงระดับ 10 สิ่งนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าคุณมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่คุณจะได้ทดสอบความสามารถของตัวเองอย่างแท้จริง จงพิสูจน์ว่าอำนาจเหนือความตายที่คุณถือครองนั้นคู่ควรกับตัวเอง

การทดสอบในครั้งนี้จะเป็นการทดสอบว่าคุณสามารถควบคุมอันเดดที่คุณผูกมัดไว้กับตัวเองได้ดีเพียงใด กระทั่งพิสูจน์ว่าอันเดดที่คุณผูกมัดไว้เหล่านี้มีความสามารถมากพอหรือไม่

ใน เกรทวูดซ ที่น่าเปื่อยและถูกสาปสถานที่ที่ซึ่งมีวิญญาณสิงสู่และน้อยคนนักที่จะเหยียบย่ำเข้าไป คุณจะต้องตามหา ดวงตาแห่งอาซอธ ที่หายไป ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าของสิ่งนี้ได้ตกลงไปยังส่วนไหนของป่าที่เหม็นสาปนี้

ดังนั้นภารกิจต่อจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว เนโครแมนเซอร์ เอ๋ย จงบุกตะลุยความมืดมิดและความหนาวเหน็บ และ ค้นหา ดวงตาแห่งอาซอธ ที่หายไปให้เจอให้ได้

กำจัดเวลา : 1 ชั่วโมง

วัตถุประสงค์ :

- ตามหาดวงตาแห่งอาซอธ

รางวัล :

-1x ดวงตาแห่งอาซอธ

-3x ชาร์จขวดฟื้นฟู

-1x ป้ายศิลา

-พาสซีฟ [บาเรียซากศพ]

-พาสซีฟ [ลางสังหรณ์แห่งความตาย]

-สกิล [กลินกินหลุมฝังศพ]

-คัมภีร์แห่งความมืด ระดับ 3

-500 เหรียญ

-500 EXP

>>>

อัลดิช วิเคราะห์ภารกิจ ที่เหมือนกับ Elden World หากทุกอย่างเหมือนกันทั้งหมด ภารกิจทดสอบนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการ

“เมื่อเราเข้าไปแล้ว พวกเราจะไม่สามารถเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ได้ ดังนั้นทุกคนจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของฉันเข้าใจไหม?” อัลดิช ได้พูดขึ้น

“ค่ะ นายท่าน” วาเลร่า ได้ตอบกลับ

“ค่ะ หัวหน้า” ไดนาไมท์ เกิร์ล ตอบกลับ

“ครับ หัวหน้า” ฟิสก์ ก็ตอบกลับ

“เคะ” กีสต์ เองก็พยักหน้า

“ดีมาก สถานที่ที่เราจะเทเลพอร์ตไปจะเหมือนกับเกมมาก และ มันเต็มไปด้วยฉากที่มีความแฟนตาซีสูง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกนายจะรู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายหรือศัตรูแบบไหน ดังนั้นขอให้พยายามฟังคำสั่งของฉันและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดที่สุด” หลังจากที่ อัลดิช กล่าวออกมา เขาก็ก้าวเข้าไปในประตูมิติทันที

==

จากนั้น อัลดิช ก็ค้นพบว่าตัวเองถูกส่งมาที่ เกรทวูดซ เขายืนอยู่ในป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่เน่าเปื่อยและไร้ใบ แม้ว่ามันจะไม่มีใบเลย แต่พวกกิ่งไม้เหล่านั้นก็ม้วนตัวเป็นเกลียวจนก่อปมราวกับว่ามันได้กลายเป็นพุ่มใหม่บางอย่างที่ถูกสร้างขึ้น

ส่วนเบื้องหลังของ อัลดิช เป็นภูเขาที่สูงตระหง่านที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของภูมิประเทศ เพียงแต่ว่ามันไม่สามารถใช้งานได้จริง ส่วนด้านหน้าภูเขาก็มีคูน้ำที่มีหมอกหนาและมีน้ำสีซีด มันคล้ายกับบางสิ่งในเกมที่ทำหน้าที่คล้ายกับสนามพลังที่ไม่ให้พวกเขาข้ามผ่านไป

นอกจากนี้ท้องฟ้าเบื้องบนยังค่อนข้างมืดครึ้มและมีพระจันทร์เต็มดวงสีซีดส่องลงมาในปัจจุบัน

[เพื่อการช่วยเหลือในภารกิจทดสอบ การควบคุมยูนิตของคุณได้รับการปรับปรุง]

[ได้รับ การขานเรียก ระดับ 1]

[+5 ยูนิตที่ควบคุมได้]

[ยูนิตที่ควบคุม : 13/13 > 13/18]

อัลดิช พยักหน้าทันที

ในตอนเริ่มต้นของภารกิจทดลองต่อเนื่อง สกิลติดตัว [การขานเรียก] จะมีระดับด้วยกันไปจนถึงระดับ 10 ซึ่งโดยแต่ละระดับจะ +5 ยูนิตที่ควบคุม หรือก็คือ ในภารกิจทดสอบครั้งที่ 10 จะ +50 ยูนิต ที่ควบคุมให้กับเขา

“นี่มันน่าตื่นตาตื่นใจดีแท้” ฟิสก์ กล่าวพูดขณะที่ปรับกระบังหน้าและมองไปรอบ ๆ “ภายในป่าเช่นนี้จะสัตว์ประหลาดเช่นมังกรออกมาหรือไม่?”

“หึ่ม ถ้าเกิดมีมังกรออกมาจริง มันก็คงเผาเจ้าให้ตายได้ด้วยการจ้องมองไปแล้ว” วาเลร่า กล่าวพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“โอ้ แสดงว่ามีมังกรอยู่จริงงั้นหรือไม่?” ฟิสก์ กล่าวออกมา “แม้ว่าฉันจะไม่ได้ทุ่มหน้าตักให้กับเกม VR ทั้งหมด แต่สำหรับตอนนี้ ฉันยินดีที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งเพื่อเพิ่มความเร้าใจของตนเอง”

“แล้วพวกเราจะต้องเอาชนะตัวอะไรงั้นเหรอหัวหน้า?”

“ออร์ค? ก็อบลิน?”

“ในกรณีของนายไม่จำเป็นจะต้องทำอะไร นาย อดัม เอเลเน่ และ แกสต์ จะรั้งอยู่ที่นี่” อัลดิช กล่าวออกมา

“หะ?” ฟิสก์ กล่าวอย่างไม่เข้าใจ และ มองไปที่ อดัม กับ เอเลเน่ “ผมรู้สึกขอบคุณที่คุณเป็นห่วงพวกเรานะหัวหน้า แต่…”

“นั่นก็เพราะในหมู่พวกนายไม่มีใครแข็งแกร่งมากพอที่จะตามพวกเราทัน” อัลดิช ตอบกลับ “ ในกรณีของ แกสต์ เขาจะอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องพวกนาย ดังนั้น อย่าได้ก้าวออกจากอาณาเขตวิญญาณไปเด็ดขาด]

“ให้ตายสิ ฉันใช้โทรศัพท์กับสถานที่บ้า ๆ นี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ” ฟิสก์ กล่าวพูดขณะที่จ้องมองไปที่โทรศัพท์ที่ถูกปิดอย่างเศร้าสร้อย

ซึ่ง แกสต์ ก็มองไปที่ โทรศัพท์ และ ส่ายหัว

“เอาล่ะ พวกเราจะแยกกันตรงนี้” อัลดิช กล่าว “สาระสำคัญของเป้าหมายของเรานั้นง่ายมาก พวกเรามีเวลา 1 ชั่วโมงในการค้นหาวัตถุที่เรียกว่า ดวงตาแห่งอาซอธ หากมันเป็นอย่างที่ฉันคิด ฉันก็รู้แน่ชัดว่าดวงตาอันนี้อยู่ที่ไหน เพียงแต่ว่าจำเป็นจะต้องเฝ้าระวังศัตรูที่ต้องเผชิญด้วย”

“แต่ตอนนี้พวกเราจะทำงานแยกกัน นั่นก็เพราะฉันมีเป้าหมายในการเคลียร์ภารกิจลับของที่นี่ด้วย”

อัลดิช เริ่มวางกลยุทธ์ในทันที ดวงตาแห่งอาซอธ ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของป่า และ เข้าถึงได้ไม่ยาก สิ่งที่ต้องทำก็มีแค่การเดินตรงไปข้างหน้าผ่านป่าและจะพบถ้ำ และ ที่นั่น คุณจะได้พบกับ ไจแอนท์สไลม์ ที่ถือครอง ดวงตาแห่งอาซอธ อยู่

เมื่อ ไจแอนท์สไลม์ ตาย มันก็จะดรอปส่วนหัวของ ชุดไอเท็ม [เกรฟริปเปอร์]

โดยรวมแล้วภารกิจนี้ค่อนข้างง่ายและใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที

แต่ทำไมพวกเขาถึงให้เวลาจำกัดมาตั้ง 1 ชั่วโมง?

นั่นก็เพราะภายในด่านนี้ยังมีพวกภารกิจลับที่ซ่อนอยู่อีก

ซึ่ง อัลดิช ก็รู้ดีว่าทุกสิ่งอย่างเหล่านี้อยู่ที่ไหน

อย่างแรก มันมี ค่ายโทรลล์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของป่า พวกมันได้ปกป้องหีบสมบัติ 2 กล่อง ที่บรรจุไอเทม ชุดเกราะ และ ส่วนเอว ของ ชุดไอเทม [เกรฟริปเปอร์] จากนั้น ไปทางทิศตะวันออกที่เป็นหนองน้ำ ที่นั่นจะเต็มไปด้วยปูโคลนยักษ์ที่หลับใหลอยู่ พวกมันได้ปกป้องหีบสมบัติที่มีชิ้นส่วนของ แขน และ ขา ของ ชุดเช็ตไอเทม [เกรฟริปเปอร์]

“วาเลร่า และ ไดนาไมท์ เกิร์ล พวกเธอทั้ง 2 คนจับคู่กันและมุ่งไปข้างหน้า และ จะพบกับถ้ำที่ปลายของป่านี้ ที่นั่น…”

“พวกเราจะต้องเผชิญหน้ากับไจแอนท์สไลม์!” วาเลร่า กล่าวออกมา “แต่นายท่าน ถ้าไม่มีเวทย์มนตร์ประเภทเยือกแข็งเพื่อทำให้ร่างกายของสไลม์นั้นเปราะบาง ข้าก็ไม่มีทางทำลายมันได้”

“สไลม์นั้นเปราะบางต่อพวกธาตุไฟมากกว่าความหนาวเย็น ดังนั้น ไดนาไมท์ เกิร์ล สามารถช่วยเธอได้” อัลดิช ตอบกลับ

“ก็อย่างที่ฉันได้พูดไป เมื่อพูดถึงการต่อสู้ ฉันจะสู้อย่างจริงจังเสมอ” ไดนาไมท์ เกิร์ล ได้ตอบกลับ

“หึ่ม ข้าจะถือว่านั่นเป็นความตั้งใจที่ดีของเจ้าก็แล้วกัน” จากนั้น วาเลร่า ก็เริ่มเดินเข้าไปในป่า “มาเร็ว ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้พิสูจน์ความสามารถของเจ้าว่าคู่ควรที่จะรับใช้นายท่านหรือไม่”

“แต่เพียงเพราะว่าเขาเชื่อมั่นในความสามารถของเจ้า ไม่ได้หมายความว่าเขาจะรู้สึกอะไรกับเจ้า…”

วาเลร่า ยังคงพูดจาโผงผางต่อไป และ จากไปพร้อมกับ ไดนาไมท์ เกิร์ล

“ตอนนี้ ฉันจะให้พวกนายทุกคนไปโจมตีค่ายโทรลล์” อัลดิช กล่าวพร้อมกับโบกมือและสั่งการอย่างเหมาะสม

กลุ่มนี้ประกอบไปด้วย อันเดด ทั้งหมดที่มาจากป่าวาแลน รวมทั้ง โครงกระดูกโจร หลังจากที่มันมีเลเวล 10 แล้ว มันก็ได้รับโบนัสสกิลที่เรียกว่า [เน่าเปื่อย] ที่ผสมผสานเข้ากับพลังการทำลายที่ขัดขวางการฟื้นฟู

ซึ่งมันค่อนข้างเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการต่อต้านการฟื้นฟูของพวกโทรลล์

“มันจะมี โทรลล์ 5 ตัว และ หัวหน้าเผ่าโทรลล์ 1 ตัว เมื่อพวกนายไปถึงที่นั่น ให้ทำการปิดล้อมค่ายเอาไว้และอย่าเพิ่งเข้าไป ฉันจะเข้ามาบัญชาการ การต่อสู้เอง หลังจากที่ฉันทำในส่วนของฉันเสร็จแล้ว เอาล่ะ ไปกันเถอะ”

พวกอันเดดของอัลดิชและโครงกระดูกโจร ได้มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือและหายตัวไปอย่างรวดเร็วในป่าทึบ

ส่วน อัลดิช ได้ขึ้นไปบนหลังของ อัลลอยด์อีเกิ้ล และ ทำให้มันบินขึ้นไปในอากาศ

“ตอนนี้ นายจะไปทำภารกิจบางอย่างกับฉัน” อัลดิช กล่าวขณะที่เขามองไปที่ กีสต์ื

“เคะ? (แค่พวกเรางั้นเหรอ?)”

“ใช่ ฉันจะพานายไปทำงานสกปรกที่บึง ไปกันเถอะ” อัลดิช ได้ให้ อัลลอยด์อีเกิ้ล ยื่นขาออกมา และ ให้ กีสต์ เอื้อมมือ ไปจับมัน

จากนั้น อัลลอยด์อีเกิ้ล ก็บินขึ้นไปในอากาศสูงขึ้นด้วยปีกที่หนักหน่วง แต่เห็นได้ชัดว่า มันรู้สึกหนักเล็กน้อย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับน้ำหนักของ กีสต์ แต่ อัลลอยด์อีเกิ้ล ก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและทะยานขึ้นไปในอากาศ

ในไม่ช้า อัลดิช ก็บินอยู่เหนือพื้นผิวของหนองน้ำสีเขียวขุ่นและปนสีน้ำตาลเล็กน้อย จากนั้นเขาก็มองเห็นวงกลมสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ซึ่งมันเป็นหย่อม ๆ ที่ดูโดดเด่นราวกับเกราะขนาดเล็ก แต่แท้จริงแล้วที่นั่นก็คือกลุ่มโคลนที่เป็นที่อยู่อาศัยของปูโคลนยักษ์

ที่ใจกลางนั่นมี ปูโคลนยักษ์ทั้งหมด 6 ตัว ที่มีลำตัวหนาเป็นพิเศษ อีกทั้งในพื้นที่ตรงกลางของพวกมันยังมีแสงพิเศษที่ส่องสว่างออกมา นี่ก็คือ หีบสมบัติที่ซ่อนอยู่ ใครก็ตามที่พยายามจะไปคว้าหีบใบนั้นจะต้องถูกปูโคลนยักษ์ทั้ง 6 ตัวทำร้าย

“ฉันจะไปส่งนายที่นั่น” อัลดิช กล่าว

“เคะ (นี่ฉันต้องลงมือคนเดียวงั้นเหรอ?” กีสต์ ถาม

อัลดิช ได้ตอบกลับ “นายมีพลังการฟื้นฟูที่ยอดเยี่ยม และ พวกปูพวกนั้นก็อ่อนแอต่อพวกพิษ ดังนั้น ก๊าซพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาทของนายจะทำให้พวกมันหยุดการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เหตุผลที่ ฉันให้นายมาด้วย ก็เพราะว่านายเหมาะสมที่สุดที่จะจัดการกับพวกปูนี้”

“เคะ (เข้าใจแล้ว)”

“ตกลง เช่นนั้นก็ลงมือกันเลย” อัลดิช กล่าว พร้อมกับเคาะหลังอัลลอยด์อีเกิ้ลก่อนที่จะบินขึ้นไปเหนือตำแหน่งนั้นและปล่อยกีสต์ลงไป

“เคะ!” กีสต์ ได้ร่วงหล่นลงมาอย่างรวดเร็วราวกับกระสุนปืนใหญ่และชนเข้ากับหนองน้ำที่เต็มไปด้วยโคลนเหล่านี้ในทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด