Ep.399 - ล้อมสังหาร
2/3
Ep.399 - ล้อมสังหาร
แค่ทีเดียว!
สร้างดาเมจสูงประมาณ 200 หน่วย!
ฮังอวี่เสียเลือดในพริบตา
ขว้างสายฟ้ามาพร้อมเอฟเฟกต์ทำให้เป็นอัมพาต เวลานี้สายฟ้าห่อหุ้มทั่วตัวเขา ฮังอวี่ตกอยู่ในสถานะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
นี่น่ะหรือคือพลังรบของขุนนางใหญ่? แม้คาลิมัวจะใช้ความสามารถของจ้าวสงคราม เพื่อรวมพละกำลังและพลังโจมตีจากสมาชิกทีมคนอื่นๆอยู่ก็จริง แต่อย่าลืมนะว่า ฮังอวี่ก็กำลังใช้ม้วนคัมภีร์สีฟ้าอยู่เช่นกัน
หากไม่ใช่เพราะภูมิคุ้มกันดาเมจที่อยู่ในตัว การโจมตีครั้งนี้อาจสังหารฮังอวี่ได้ในวินาทีเดียว
เขาปลดปล่อยปราณสงครามคลั่งออกมา
สายฟ้าและสถานะอัมพาตหายไปทันที
ฮังอวี่เปิดใช้งานสกิลบลิงค์ หายตัวไปจากตำแหน่งที่ถูกตอกตรึง
เขาไม่กล้าประมาท เปิดใช้งานสถานะอื่นๆอย่างต่อเนื่อง สกิลเสริมระบำเงาที่มาพร้อมอุปกรณ์ ตามด้วยสกิลจู่โจมมุมอับเริ่มทำงาน พริบตาเดียวตัวเขาหายวับไปจากสายตา
“ไอ้ทุเรศ!” คาลิมัวไม่เคยประสบความสูญเสียครั้งใหญ่เช่นนี้มาก่อน มันไม่รอให้สมาชิกตนอื่น ฟื้นตัวจากเขตแดนมืดมิดไร้อนันต์ แยกฃออกมาคนเดียว พุ่งฉิวดั่งดาวตก ไล่ตามทิศทางที่ฮังอวี่หนีไป
ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใคร มันจะไม่ยอมปล่อยให้มีชีวิตอยู่!
ฮังอวี่ว่องไวมากก็จริง แต่คาลิมัวว่องไวยิ่งกว่า
ร่างทั้งสองเคลื่อนตัวผ่านทางเดินคุกชั้นสามด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง
แม้คาลิมัวจะเป็นนักรบระยะประชิด แต่มันก็มีลูกเล่นสำหรับใช้โจมตีระยะไกลไม่มากก็น้อย
ฮังอวี่ถูกไล่ล่าตลอดทาง สภาพเขาดูย่ำแย่มาก
อย่างไรก็ตาม ถึงพลังรบของทั้งคู่จะมีช่องว่างขนาดใหญ่
ทว่าหากคาลิมัวหมายสังหารด้วยความสามารถตนเพียงลำพัง มันไม่ง่ายขนาดนั้น
แล้วอีกอย่าง เพราะทั้งคู่ว่องไวเกินไป จึงทิ้งคนอื่นไว้เบื้องไหลไกลลิบ เมื่อรู้สึกตัวพวกมันก็พบว่า
หือ? ท่านขุนนางใหญ่ไปไหนเสียแล้ว?
นี่สิโอกาสดี! ฮังอวี่แทนที่จะหวั่นไหวกับโทสะของคาลิมัว เขากลับรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ดีมาก บางทีอาจใช้ประโยชน์จากความโกรธของอีกฝ่าย ล่อให้เข้าสู่กับดักได้
หากสังหารคาลิมัวลงได้ล่ะก็ ... แค่คิดก็น่าเย้ายวนใจแล้ว!
ผลงานนี้หากสำเร็จ สำหรับฮังอวี่ มันยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าการได้ฆ่ามอนสเตอร์ระดับทรราชย์เสียอีก!
โดยธรรมชาติแล้ว คาลิมัวไม่รู้ว่าฮังอวี่กำลังคิดอะไรอยู่
ความคิดเดียวที่มันมี ณ ขณะนี้ คือการทุบตีไอ้ลูกหมาและหั่นศพเป็นชิ้นๆ!
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คาลิมัวกลับพบปัญหา
นั่นคือเวลาโจมตีฝ่ายตรงข้าม ถึงโดนตัวแต่คล้ายล้มเหลวในการทำดาเมจ
ด้วยเอฟเฟกต์ของคัมภีร์สีฟ้าราชาปีศาจขุมนรกคุ้มภัย ทำให้ลบการโจมตีส่วนใหญ่ออกไปได้
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมฮังอวี่ถึงสามารถหนีได้เป็นเวลานาน
ยังไงก็ตาม คาลิมัวก็รู้เช่นกัน ว่าเอฟเฟกต์นี้ ไม่มีทางคงอยู่ได้นาน!
แสงบนตัวฮังอวี่ค่อยๆจางลง คล้ายสังเกตเห็นได้ถึงสิ่งนี้ คาลิมัวตระหนักว่าตราบใดที่ภูมิคุ้มกันของอีกฝ่ายหายไป มันมั่นใจว่าสามารถสังหารศัตรูได้ในสามกระบวนท่า!
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดได้แบบนั้น
ฮังอวี่กลับหยุดฝีเท้าลง เลิกหลบหนีอีกต่อไป
ตรงกันข้ามกับคาลิมัว เวลานี้มันถูกปกคลุมด้วยแสงสกิลที่เปล่งประกายราวกับเปลวเพลิง แต่ในจังหวะที่มันกำลังจะพุ่งตัวหนี สายฟ้าสองสามลูกและลูกไฟอีกหลายลูก รวมไปถึงหอกน้ำแข็ง พลันโถมกระหน่ำเข้ามาจากทุกทิศทาง
แม้มันจะมีพลังป้องกันอันแก่กล้า ทำให้ไม่ได้รับดาเมจมากนัก แต่ก็สามารถถูกบังคับหยุดได้สำเร็จ
“ซุ่มโจมตี!?”
ในที่สุดคาลิมัวก็ได้สติ เดิมมันคิดได้อยู่แล้ว ว่าการที่ศัตรูโผล่มาเพียงคนเดียว มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
ถึงแม้คาลิมัวครอบครองมรดกมากมาย และนั่นรวมไปถึงสกิลมรดกขั้น 4 ที่สมบูรณ์ ทว่ามรดกของจ้าวสงครามนั้นจะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่ออยู่รวมกันเป็นหมู่คณะ เฉพาะเวลาต่อสู้แบบกลุ่ม มันถึงจะสำแดงพลังออกมาได้ถึงขีดสุด
แต่ตอนนี้คาลิมัวแยกตัวออกจากทีม เอฟเฟกต์ของมรดกจึงไม่สามารถสำแดงผลได้อย่างเต็มที่
หลายคนปลดปล่อยคัมภีร์สกิลเสร็จ ก็รีบวิ่งออกมาทันที
หวังเอ๋อแยกร่างปิดล้อมมันจากทางด้านหลัง
จ้าวหมิงเปิดใช้งานเกราะเหล็กศักดิ์สิทธิ์ วิ่งเข้ามาด้านหน้า
ฉูเทียนหัวเปิดใช้งานการโจมตีด้วยกระบี่จากระยะกลาง ฉินมู่รีบร่ายมนตร์วาจาต้องห้ามใส่ศัตรู
เจียงหนานใช้สองสกิลอย่างไว ฟื้นฟูพลังชีวิตของฮังอวี่ให้กลับมาเป็นปกติ
“คาลิมัว!”
“เตรียมตัวรับความตาย!”
ถึงจุดนี้ คาลิมัวค่อยสังเกตเห็นรูปร่างหน้าตาของฮังอวี่
เผ่าพันธุ์นี้กับรูปปั้นขุนนางแห่งเมืองหุบเขาเดียวดาย มีลักษณะใกล้เคียงกันมาก
ใบหน้าของขุนนางเมืองธารทะเลทรายน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม “เจ้า ... เจ้ามาจากเมืองหุบเขาเดียวดาย!”
ฮังอวี่ไม่ต่อความยาวสาวความยืด โอกาสนี้มีค่ามาก และเวลามีน้อยสำหรับพวกเขา ยอดฝีมือตนอื่นๆจากเมืองธารทะเลทรายจะมาถึงในไม่ช้า พวกเขาเปิดฉากปิดล้อมโจมตีทันที
ณ เวลานี้ จะต้องสังหารคาลิมัวให้จงได้!
ชีวิตของมันมีค่ายิ่งกว่ามอนสเตอร์ตนใดในคุกโบราณ!
นี่ไม่เพียงแต่จะทำให้พลังของคาลิมัวอ่อนแอลง แต่ยังนำมาซึ่งระเบิดลูกใหญ่ตกใส่เมืองธารทะเลทราย
สงครามยังไม่ทันเริ่ม นี่เป็นอกาสดีที่จะได้รับโชค!
เพียงแต่ว่าคาลิมัวนั้นแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ต่อให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันสู้ก็ยังยาก
เพราะคาลิมัวไม่ใช่มอนสเตอร์ระดับทรราชย์ที่ไร้ความนึกคิด มันสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการต่อสู้ได้ตามสถานการณ์ และเลือกได้ว่าจะต้องโจมตีนักบวช ผู้ใช้วิญญาณ หรือจอมเวทย์ก่อน ซึ่งที่กล่าวมาไม่มีใครสู้ คาลิมัวได้
กระทั่งฮังอวี่กับจ้าวหมิง พวกเขายังแทบไม่สามารถทานทนต่อการโจมตีของศัตรูได้
ฮังอวี่อาศัยจังหวะที่เอฟเฟกต์จากคัมภีร์สีฟ้ายังไม่หมด เข้าพัวพันกับคาลิมัวดั่งพลาสเตอร์หนังสุนัข หลายต่อหลายครั้งที่สามารถทำลายการโจมตีของคาลิมัวจากด้านหลัง และพลังชีวิตของคาลิมัวก็สูญเสียไปอย่างรวดเร็ว
ถึงอย่างไรคาลิมัวไม่ใช่มอนสเตอร์!
แม้มันจะมีสติปัญญา สามารถดื่มโพชั่น ใช้คัมภีร์ และอาศัยประโยชน์จากไอเท็มอื่นๆได้
แต่เมื่อเทียบกับมอนสเตอร์ระดับทรราชย์แล้ว พลังชีวิตของคาลิมัวนั้นช่างเปราะบาง
การโจมตีส่วนใหญ่ของคาลิมัวถูกขัดขวางโดยพลาสเตอร์หนังสุนัขฮังอวี่ แม้บางครั้งมันจะสลัดหลุด ฮังอวี่ไปได้ แต่ก็ถูกขัดขวางโดยจ้าวหมิง หรือถ้ายังหลุดไปได้อีก อย่างน้อยที่สุดยังมีแนวป้องกันอย่างฉูเทียนหัว
ภูมิประเทศที่ทีมของฮังอวี่เลือกซุ่มโจมตีนั้นเป็นมุมแคบ
คาลิมัวที่ได้เปรียบด้านความเร็วไม่สามารถสำแดงพลังออกมาได้อย่างเต็มที่
หลายครั้งที่โจมตีพลาด หลายครั้งที่ทำไม่สำเร็จ
พลังชีวิตของคาลิมัวลดลงอย่างรวดเร็ว
หากเป็นแบบนี้ต่อไป มันต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
และทุกคนที่อยู่ในสนามรบเมื่อเห็นแบบนี้ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเขาก็ยิ่งลุกโชน
“เจ้าหมา ขวางทางไว้ อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้!”
“ทุกคนพยายามอีกนิด!”
พลังชีวิตของคาลิมัวลดลงเรื่อยๆ
แต่เมื่อฮังอวี่และทุกคนเริ่มรู้สึกว่ามีความหวัง
คาลิมัวกลับเยาะเย้ยออกมา “อาศัยเพียงพวกเจ้า คิดหรือว่าจะฆ่าข้าได้?”
ระหว่างกล่าวคำ
มันหยิบม้วนคัมภีร์สีฟ้าออกมา ป้อนพลังจิตลงไป เปิดใช้งานสกิล
คัมภีร์สกิลขั้นกลาง - ฟื้นฟูไร้สิ้นสุด!
พลังชีวิตของคาลิมัวเริ่มฟื้นฟูครั้งละ 100 - 200 ต่อวินาที หลังจากเสียเปรียบจนพลังชีวิตลดลงเหลือแค่ 1 ใน 5 แต่ใช้เวลาเพียงครู่เดียว พลังชีวิตทั้งหมดของมันก็ถูกเติมเต็ม!
ชั้นแสงแห่งการรักษานี้ยังคงอยู่ คาดว่าอาจกินเวลานานกว่าหนึ่งหรือสองนาที
และภายในช่วงเวลานี้ ทุกความเสียหายใดๆที่ได้รับ ล้วนถูกฟื้นฟูด้วยอัตราเร็วอันน่าทึ่ง ภายใต้สถานการณ์นี้ ยังไงมันก็ไม่มีทางตาย!
คาลิมัวเลือกคู่ต่อสู้เป็นร่างแยกของเจ้าหมา
ด้วยพลังชีวิตอันน้อยนิดของร่างแยก ทำให้มันสามารถหลุดจากวงล้อมไปได้
อย่างไรก็ตาม เวลานี้คาลิมัวยืนนิ่ง หยิบคัมภีร์ออกมาอีกม้วน เป็นคัมภีร์สีฟ้าอีกหนึ่ง
มันเริ่มป้อนพลังจิตลงไป
คัมภีร์สกิลสีฟ้าขั้นกลาง - ค่ายกลพัวพันสังหารมังกรลม!
พายุทอร์นาโดหลายลูกที่เกิดจากใบมีดสายลมก่อตัวขึ้นรอบกายคาลิมัว มันเอื้อมมือไปข้างหน้า ใบมีดสายลมหลายสายพุ่งไปตามทางเดินที่จากมาในพริบตา
สีหน้าของฮังอวี่และคนอื่นๆแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก ขณะนี้คาลิมัวยกหอกขึ้นอีกครั้ง พร้อมเปิดศึกไล่สังหารอีกรอบ
ในเวลาเดียวกัน
จากตำแหน่งไกลออกไปมีเสียงวิ่งเข้ามา
บ่งบอกว่ายอดฝีมือตนอื่นๆของเมืองธารทะเลทรายทราบตำแหน่งและกำลังจะมาถึงในเร็วๆนี้
ฮังอวี่เห็นภาพนี้เขารู้สึกเสียดายมาก
แต่ก็ต้องตัดสินใจ ตะโกนทันทีว่า “ใช้โพชั่นมนตรา! พวกเราถอนตัว!”
เจ้าหมาและมดยักษ์ถูกเรียกกลับเข้าไปในมิติสัตว์วิญญาณ ทั้งหกที่เหลือต่างได้รับโพชั่นมนตรา ‘อินทรีจ้าวสายลม’ ที่ฮังอวี่เตรียมไว้ให้
ขณะที่พวกเขาดื่มโพชั่นนี้ ทุกคนก็กลายร่างเป็นนกอินทรียักษ์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานสีฟ้าอย่างรวดเร็ว
อินทรีจ้าวสายลมเป็นมอนสเตอร์ประเภทกึ่งธาตุ
มันมีคุณสมบัติต้านทานความเสียหายจากธาตุลมสูง
และเนื่องจากเป็นมอนสเตอร์ธาตุลม ดังนั้นอินทรีจ้าวสายลมจึงว่องไวมาก
บวกกับการที่เป็นถึงมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่น ดังนั้นพลังชีวิตไม่ต่ำต้อย ต่อให้เป็น คาลิมัวก็ถูกทิ้งห่างได้ในเวลาไม่กี่วินาที
โพชั่นมนตรานี้จัดทำขึ้นเป็นพิเศษโดยฮังอวี่เพื่อเตรียมไว้สำหรับการหลบหนี
ประมาณสิบนาที อินทรีทั้ง 6 ก็พุ่งออกจากคุกโบราณ
คาลิมัวและยอดฝีมือจากเมืองธารทะเลทราย แม้จะไล่ตามอย่างไม่ลดละ แต่ก็สายเกินไป อินทรีทั้งหกพอหลุดพ้นปากทางเข้า ก็โฉบขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว หลบพ้นจากระยะโจมตี ไม่เหลือโอกาสให้ไล่ทันอีก
การเผชิญหน้ากันเล็กๆในซากปรักหักพังจบลงเพียงเท่านี้
แม้จะล้มเหลวในการสังหารคาลิมัวในนาทีสุดท้าย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ฮังอวี่เสียดายมาก
แต่ฮังอวี่ก็รู้อย่างชัดเจน ว่าคนอย่างคาลิมัว เป็นไปได้หรือว่าจะไม่มีไม้ตายก้นหีบเก็บไว้? การปะทะกันเพียงช่วงสั้นๆ คิดสังหารมันเรียกได้ว่าพูดง่ายแต่ทำยาก
ช่างเถอะ
คราวนี้กอบโกยได้มากพอแล้ว
ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ
ต่อไปคาลิมัวจะพบว่าหีบสมบัติล่างทะเลสาบถูกขโมย มันคงโกรธจนคลั่ง และหลังจากนั้นเมืองธารทะเลทรายก็จะยกกองกำลังเข้าทำลายเมืองหุบเขาเดียวดายในไม่ช้า
ดังนั้นต้องใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่เหลือนี้ เตรียมตัวให้พร้อมที่สุด!