ตอนที่ 9 - รถ
1/5
ตอนที่ 9 - รถ
ใจเย็นไว้ ใจเย็นไว้ ใจเย็นๆ!
เจียงฮ่าวสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามใช้ความคิดสะกดน้องชายผู้ดื้อรั้นของเขาให้สงบลง
เจียงฮ่าวมองตู้หยูเฟยแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเธอเป็นเมดสาวของฉันแล้ว งั้นก็ฟังฉันให้ดี หลังจากนี้ไปให้เปลี่ยนการแต่งตัว สาวสวยไม่ควรแต่งหน้าจัด”
ตู้หยูเฟยพอได้ยินเจียงฮ่าวยอเธอ ดวงตาหยีเป็นรอยยิ้ม พยักหน้าซ้ำๆ “ได้เลย ฉันจะทำตามที่นายสั่ง”
“หือ? พูดใหม่ซิ”
“เจ้าค่ะ ... นายท่าน” ตู้หยูเฟยก้มศีรษะลงเล็กน้อย กล่าวอย่างเอียงอาย
เจียงฮ่าวพบว่าความรู้สึกนี้มันดีจริงๆ โดยเฉพาะเวลาถูกเรียกว่า ‘นายท่าน’ ฟังแล้วกระดูกอ่อนยวบ
“เอาล่ะ นี่เบอร์มือถือฉัน ขอตัวก่อนนะ”
เจียงฮ่าวหยิบปากกาจากด้านข้าง ตวัดๆตัวเลขบนกระดาษแล้วยื่นให้เธอ ในเวลาเดียวกันรับนามบัตรของเธอมา ก่อนโบกมือแล้วลงจากรถ “อ้อ ถ้ามีอันตรายอะไรอย่าลืมติดต่อฉัน เจิ้งเหว่ยไม่น่าจะยอมจบง่ายๆ อุบัติเหตุเมื่อกี้ก็เป็นฝีมือเขา”
“ฉันรู้!” ตู้หยูเฟยพยักหน้ากัดฟัน แต่เมื่อเห็นว่าเจียงฮ่าวลงจากรถ ทันใดนั้นเธอก็เอ่ยถามคล้ายไม่เต็มใจ “นายท่าน จะไปจริงๆหรอ?”
“ทำไม? หรือเธออยากอุ่นเตียงให้ฉัน? ฮ่า ฮ่า” เจียงฮ่าวหัวเราะสองครั้ง ปิดประตูรถดังปัง และเดินจากไป
เฝ้ามองแผ่นหลังที่เดินหายไปในความมืด ตู้หยูเฟยกัดริมฝีปาก พึมพำเสียงกระซิบ “นั่นก็ฟังดูเข้าท่าอยู่น้า~”
...
เจียงฮ่าวเดินกลับที่พักของเขา เจอร่างที่คุ้นเคยยืนอยู่หน้าประตู คนๆนี้สวมเสื้อคลุมสีขาวกับกระโปรงตัวเล็ก ถุงน่องไหมคริสตัลพันรอบขา
เย่ซีหยูยืนพิงประตู จ้องมองตัวเขาด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร
“สาวน้อยคนนี้ ..” มุมปากเจียงฮ่าวยกยิ้มขี้เล่น
เย่ซีหยูแค่นเสียงฮึเบาๆ มองเจียงฮ่าวที่กำลังเดินเข้ามา
เธอดักรอที่นี่ จงใจรอให้เจียงฮ่าวกลับมา
แม้เธอจะไม่ชอบเจียงฮ่าวมากนัก แต่ด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพ เธอต้องการทำให้สิ่งต่าง ๆ ชัดเจนก่อน และสำหรับตัวเจียงฮ่าว บอกตามตรงเธอค่อนข้างอยากรู้เรื่องราวของเขา
เจ้าของบ้านหนุ่มที่มีบ้านหลังใหญ่แบบนี้ แต่เสื้อผ้ากับโทรศัพท์มือถือของเขาดูเชยมาก อย่างไรก็ตาม ทักษะการขับรถกลับยอดเยี่ยม ทั้งยังสามารถใช้กระบวนท่าของพวกอันธพาลเพื่อป้องกันตัวเองจากการโจมตี ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าคนๆนี้ไม่ธรรมดา
โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ยิ่งต้องหาเหตุผลมาสอบสวนให้ชัดเจน
เจียงฮ่าวเดินเข้าหาสาวงามแบบไม่ละสายตา มองไปยังเสื้อคลุมสีขาวนอกกาย มันให้ความรู้สึกเย้ายวนราวกับถูกสะกดจิต
เมื่อเลื่อนสายตาลง หยุดตรงขาหยกงามของอีกฝ่าย เจียงฮ่าวหัวเราะ “เหอ เหอ ฉันเดาว่าเนื้อนิ่มๆตรงนั้นคงไม่ใช่ที่ๆใครๆก็จับต้องได้”
เย่ซีหยูไม่สนใจ เอ่ยถามเข้าประเด็น “ในหัวมีแต่เรื่องแบบนี้รึไง? แต่เสียใจด้วยนะฉันรู้ว่านายกำลังพยายามเบี่ยงประเด็น”
เจียงฮ่าวได้ยินตอนแรกเขาตกใจ แต่แล้วก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย “เธอรู้ได้ยังไง หรือว่าเคยใช้วิธีนี้มาก่อน?”
“ไสหัวไปเลย!” เย่ซีหยูถลึงมองเขาด้วยดวงตาคู่งาม จากนั้นก้าวถอยหลังด้วยความรังเกียจ “นายคิดว่าฉันไม่เห็นหรอ? เมื่อคืนฉันอยู่ที่นั่น เห็นนายกับสาวไนต์คลับขี้เมาบนรถ น่าขยะแขยงจริงๆ ฉันอยากให้นายตายๆไปซะ โลกที่โสมมใบนี้จะได้สกปรกน้อยลง!”
เจียงฮ่าวส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ เดินเข้าไปข้างใน “ถ้าหมายถึงเรื่องสาวคนนั้นฉันไม่ได้ทำอะไรเธอเลย ส่วนเรื่องขับรถ เธอไปคุยกับเพื่อนร่วมงานในกรมตำนวจดูก็ได้ อยากรู้เหมือนกันว่าพวกเขาจะจับฉันข้อหาอะไร”
“ฮึ่ม! นายเอารถไปขับโดยไม่มีใบขับขี่ แล้วอีกอย่างบนตัวนายมีกลิ่นเหล้า เมาแล้วขับ! แค่นี้ก็สองข้อหาแล้ว!” เย่ซีหยูหยิบบัตรบางอย่างออกมาจากเสื้อคลุมสีขาว มันคือใบขับขี่ของเจียงฮ่าว
เจียงฮ่าวล้วงเข้าไปในกระเป๋าของเขา เกือบตกใจจนเป็นลม กลายเป็นว่าตอนออกจากบ้านเขาลืมพกมันไป โชคดีที่เอกสารอื่นๆที่ตั้งอยู่ใกล้ๆถูกซ่อนไว้แล้ว ไม่งั้นถ้าผู้หญิงคนนี้เห็นเข้าคงไม่ดี
“อยากได้คืนไหม? ถ้าอยากได้คืนนายต้องมีคำอธิบายดีๆให้ฉัน!” เย่ซีหยูเห็นว่าจับจุดอ่อนเจียงฮ่าวได้ เธอกล่าวด้วยท่าทีได้อกได้ใจ
เจียงฮ่าวผายมือ กล่าวว่า “ถ้าเธออยากได้ก็เก็บมันไว้เถอะ ฉันไม่มีรถอยู่แล้ว จะมีใบขับขี่หรือไม่มีก็ไม่ต่างกัน”
ว่าจบ เขาเดินผ่านคนงามโดยไม่สนใจ ก้าวเข้าบ้าน ปล่อยให้เย่ซีหยูขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น
ขายาวคู่หนึ่งก้าวเข้ามาในห้องเขาพร้อมกลิ่นหอมของดอกกุหลาบ ฝ่ามือขาวราวหิมะตบเบาๆบนใบหน้าของเจียงฮ่าว “เด็กดื้อ ได้เวลาตื่นนอนแล้ว นายต้องกินข้าวก่อนไปเรียนนะ”
“อืม ...” เจียงฮ่าวกำลังฝันหวานขณะหลับ จู่ๆก็ได้กลิ่นน้ำหอมผู้หญิง ลงมือตามสัญชาตญาณ ดึงเฉินเค่อซินเข้ากอดทันที ร่างกายช่วงบนทั้งหมดของเขาเผยออกมาจากผ้านวม แนบหัวลงบนหน้าอกหญิงสาว
“ว๊าย!” เฉินเค่อซินอุทาน ยกมือข้างหนึ่งขึ้นป้องปาก ใบหน้าสวยๆแดงก่ำ ผลักเจียงฮ่าวออกไปด้วยท่าทีเหมือนโกรธ ใช้นิ้วชี้ดันหน้าผากเขา “ทำตัวเจ้าชู้แต่เช้าเลยนะ อย่าลืมสิว่าฉันเป็นพี่สาวนาย!”
“อื๋อ!?” เจียงฮ่าวผู้ถูกผลักให้ตื่นขึ้นจากความฝันยกมือขึ้นเกาหัว กล่าวว่า “นี่ฉันทำอะไรลงไป?”
ดวงตาของเฉินเค่อซินเหลือบมองกล้ามของเจียงฮ่าว ดีดตัวลุกขึ้นทันที บิดเอวเดินจากไป “อาหารเช้าพร้อมแล้ว นายรีบลงมาเร็วเข้า เดี๋ยวจะสาย”
“เข้าใจแล้ว”
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จภายใต้การจับจ้องด้วยสายตาที่ว่างเปล่าของเย่ซีหยู เจียงฮ่าวก็เริ่มหาที่ตั้งของสถาบัน อดถอนหายใจไม่ได้ “ไม่มีรถนี่มันไม่สะดวกเอาซะเลย เมื่อไหร่ฉันจะมีรถใช้กับเขาบ้าง?”
ได้ยินแบบนั้น แววตาของเย่ซีหยูทอประกายขบขัน เธอเหลือบมองเจียงฮ่าว
คนที่ไม่มีเงินอย่างนาย จะซื้อรถกับเขาได้ยังไงกัน?
“มีอะไรหรอเย่คนสวย หรืออยากซื้อรถปรนเปรอฉัน?” เจียงฮ่าวยกมือลูบคาง ยิ้มลามก
“ไสหัวไปเล ...” เย่ซีหยูกำลังจะพูดคำติดปาก แต่แล้วก็หยุดไปกะทันหัน เผยรอยยิ้มที่หาได้ยาก เหล่มองเจียงฮ่าวด้วยดวงตาที่มีเสน่ห์ แล้วกล่าวว่า “ฉันจะซื้อรถให้นายก็ได้ แต่ไม่รู้นะว่านายจะกล้าขับมันไหม?”
“เหอ เหอ เธอพูดแบบนั้นได้ยังไง? ฉันคือเทพนักขับ เข้าใจไหม? ไม่ว่าจะเป็นรถวู่หลิงของประเทศเรา รถปอร์เช่หลายร้อยแรงม้า เครื่องบินบนท้องฟ้า เรือดำน้ำในมหาสมุทร หรือแม้แต่รถถังบนบก ไม่มีคันไหนที่ฉันขับไม่ได้” เจียงฮ่าวกล่าวอย่างจริงจัง
“อุ๊ก! คำคุยโวโอ้อวดของนายมันทำให้ฉันปวดท้อง!” เย่ซีหยูทำท่าอาเจียนเหมือนจะอ้วก ยกมือตบโต๊ะแล้วพูดว่า “ถ้านายกล้าพูดแบบนั้นจริงๆ เดี๋ยวถ้าฉันเอารถมาให้ นายต้องขับมันและห้ามปฏิเสธ!”
“คำพูดของบุรุษเหมือนม้าเร็วที่วิ่งไปแล้วไม่ย้อนกลับมา ต่อให้เป็นรถที่อันตรายที่สุด ฉันก็ยังขับมันได้!” เจียงฮ่าวยิ้ม ได้ทะเลาะกับสาวสวยตั้งแต่เช้าตรู่ ช่างเป็นความสุขที่หาได้ยากในชีวิต
เฉินเค่อซินมองดูคู่รักเถียงกันอย่างมีความสุข เธอส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “ซีหยู เธอจะไปหารถมาจากไหน?”
“อย่ากังวลไปเลย ฉันหามาได้แน่ ฮี่ ฮี่” เย่ซีหยูยิ้มอย่างมีความสุข กระทืบเท้าขึ้นไปชั้นบน แล้วกลับลงมาพร้อมธนบัตรสีแดงสองสามใบในมือ วิ่งออกจากประตูไป ทิ้งพี่สาวน้องชายที่กำลังแสดงสีหน้าตกตะลึงเอาไว้
“หรือว่านั่นจะเป็น ... ค่าเช่ารถให้ฉันใช่ไหม?” เจียงฮ่าวเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ จากนั้นส่ายหัวเบาๆ ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “เฮ้อ ผู้ชายที่มีเสน่ห์ก็แบบนี้ ลำบากใจจริงๆ”
ดวงตางดงามของเฉินเค่อซินสะท้อนแววตลกขบขัน เธอรู้ว่าเพื่อนสาวคนนี้ไม่ใช่เด็กที่จะรับมือง่ายๆ
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของเย่ซีหยูก็ดังขึ้นจากนอกประตู “พี่เค่อซินออกมาช่วยกันหน่อยเร็ว ส่วนเจ้าอันธพาล นายห้ามออกมา อยู่ข้างในนั่นแหละ เดี๋ยวฉันจะทำเซอร์ไพรส์นายทีหลัง!”
“ต้องช่วยด้วยหรือ?” เจียงฮ่าวรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ส่วนเฉินเค่อซินเธอยืนขึ้นเตรียมจะออกไป
เจียงฮ่าวคว้ามือเธอ กล่าวว่า “พี่สาวแสนดี ถ้าออกไปแล้วช่วยบอกผมหน่อย ว่าที่เอามานั่นสามล้อหรือสี่ล้อ”
เขาเริ่มใจคอไม่ดี กลัวว่าเย่คนสวยจะแกล้งเขาให้ขับรถสามล้อ
“ได้สิ” เฉินเค่อซินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เดินออกมาหยุดหน้าประตู
และเมื่อเธอได้เห็นมัน ทั้งเนื้อทั้งตัวก็เริ่มสั่นระริก มือขาวราวหิมะข้างหนึ่งยกขึ้นป้องปาก ส่วนอีกข้างกุมท้อง
“เชี่ยเถอะ เป็นรถสามล้อจริงๆใช่ไหม?” ใบหน้าของเจียงฮ่าวซีดขาว แทบอยากจะกลืนคำพูดเขาลงคอ ถ้าสาวน้อยคนนั้นเอารถสามล้อมาให้เขาจริงๆ นั่นไม่เท่ากับว่าเขาต้องขับไปมันโรงเรียนด้วยความอัปยศหรอกหรือ?
เฉินเค่อซินหัวเราะอยู่หน้าประตูพักหนึ่ง ก่อนหันกลับมายิ้มหวานให้เจียงฮ่าว “นายมั่นใจได้ มันเป็นรถสี่ล้อ”
“งั้นหรอ?” เจียงฮ่าวนิ่งงันไปพักหนึ่ง ก่อนถอนหายใจโล่งอก
จะยังไงก็เถอะ ขอแค่มีสี่ล้อ เท่านี้ก็ไม่มีปัญหา
“มา มา มา รับมันไว้!”
เย่ซีหยูอ้าปากหอบพ่นกลิ่นหอม ยกจักรยานเด็กสี่ล้อเข้ามาในบ้าน
เจียงฮ่าวตะลึงงัน แข้งขาอ่อนแรง ทรุดลงกับเก้าอี้ ใบหน้าซีดเผือด