ตอนที่ 11 - ปรมาจารย์กระดูกเสน่หาและหยินเฉียนหยุน
3/5
ตอนที่ 11 - ปรมาจารย์กระดูกเสน่หาและหยินเฉียนหยุน
ร่างที่มีเสน่ห์หันหลังให้เขา เธอสวมรองเท้าส้นสูงสีแดง ถุงน่องคริสตัลพันรอบขายาว กระโปรงทรงเอรัดสะโพกแน่น เอวเรียวบาง ให้ความรู้สึกเย้ายวนแบบผู้ใหญ่
มือขวาเธอถือวัตถุสีชมพูบางอย่างเอาไว้ มือซ้ายกำลังหยิบเศษก้วที่ตกแตกบนพื้น ค่อนข้างกระวนกระวายเล็กน้อย เหมือนกำลังทำตัวไม่ถูก
“อาจารย์” เจียงฮ่าวตะโกน
“อ๊าาา!” เธอกรีดร้องด้วยความตกใจ มือขวาเผลอกำแน่น และทันทีหลังจากนั้น ... วัตถุบางอย่างที่อยู่ในมือเธอก็เริ่มสั่น
‘เชี่ยเถอะ!’ ดวงตาของเจียงฮ่าวเบิกกว้างอย่างรุนแรง แววตาสะท้อนไปด้วยความเหลือเชื่อ
ลมหอบหนึ่งพัดมา ประตูสำนักงานปิดโดยอัตโนมัติ อากาศที่อยู่ในห้องเมื่อไม่มีช่องลมให้ไหลผ่าน ก็เริ่มโชยกลิ่นเดิมออกมา
ในใจของซูลี่คล้ายถูกไฟแผดเผา รีบปิดสวิตช์วัตถุในมือเธออย่างร้อนรน และซุกมันไว้ หันกลับมาด้วยอารมณ์ทั้งโกรธทั้งอาย
สายตาของเจียงฮ่าวค่อยๆเลื่อนกลับขึ้นมา หยุดลงบนใบหน้าที่กำลังจ้องมองเขา
อายุประมาณ 27 28 ปี ใบหน้าแดงเรื่อดูมีเสน่ห์ คิ้วดั่งใบหลิว ดวงตาจิ้งจอกแสนเย้ายวน ริมฝีปากเล็กดูเซ็กซี่บวกกับลิปติกสีแดงสะดุดตา สีหน้ากำลังเขินอาย
แต่ก็ยังสังเกตเห็นได้ถึงความโกรธ ท่าทีดุหน่อยๆ แต่กลับแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์อีกแบบหนึ่งของหญิงสาว ทำให้ผู้ชายที่มองเธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกมึนเมา
เธอมีรูปร่างที่ดีที่สุด ตัวไม่สูงมาก แต่ก็ไม่เตี้ยแน่นอน น่าจะซักประมาณ 165 เซนติเมตร เอวบาง สัดส่วนโดดเด่น กระโปรงรัดกับสะโพก ระเบิดเส่นห์อันน่าดึงดูดใจ!
เจียงฮ่าวหยุดจมูกของตัวเองไม่ได้ มันเริ่มขยับฟุดฟิด สูดกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ในห้อง แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจ
เธอคนนี้เกิดมาพร้อมกระดูกเสน่หา!
มีผู้หญิงน้อยนักที่จะเกิดมาพร้อมกับกระดูกเสน่หา พลังของมันรุนแรงมาก แค่ขยับมือและเท้า ก็ชวนให้ผู้ชายเกิดความหลงใหล ตกอยู่ภายใต้ความปรารถนายากจะขัดขืน
รวมๆแล้ว ผู้หญิงประเภทนี้ไม่ใช่อะไรที่ผู้ชายธรรมดาจะสยบได้
ว่ากันว่าต้าจี๋ชายาคนโปรดของกษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชางเองก็เป็นหญิงที่ครอบครองกระดูกเสน่หาเช่นกัน เวลานั้นเธอจึงกลายเป็นชายาคนโปรดของกษัตริย์โจว กล่าวได้ว่าเป็นปีศาจจิ้งจอกที่ทำให้เขาหลงใหล
เจียงฮ่าวไม่นึกฝันเลย ว่าที่ปรึกษาและอาจารย์ประจำชั้นของเขาแท้จริงแล้วจะเป็นปรมาจารย์จิ้งจอก!
เธอคือคนที่เกิดมาพร้อมกระดูกเสน่หา หากสามารถฝึกฝนให้ดี จะไม่มีชายใดในโลกสามารถต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ แม้ตอนนี้เธอจะปราศกลิ่นอายบำเพ็ญเพียรในร่างกาย แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัว ก็มากพอที่จะทำให้คนธรรมดายอมศิโรราบ
“เข้ามาทำไมไม่รู้จักเคาะประตู!”
ซูลี่ตะโกน ดูเขินอายถึงขีดสุด เธอล็อคประตูไว้ชัดๆ แล้วเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?
เธอคิดในใจ ‘เขาไม่น่าจะเห็น หรือต่อให้เห็น เขาต้องไม่รู้จักสิ่งที่อยู่ในมือเธอเมื่อกี้แน่ๆ’ ซูลี่พยายามปลอบใจตัวเอง
“เอ่อ ...” เจียงฮ่าวชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนระงับความคิดที่ว้าวุ่นในใจ เกาหัวแล้วยิ้ม “คุณคงจะเป็นอาจารย์ซู ผมคือนักเรียนใหม่ที่มารายงานตัว ชื่อว่าเจียงฮ่าว”
“นายคือเจียงฮ่าว?” ซูลี่ผงะตกใจ
“เอ่อ ... ดูเหมือนอาจารย์จะรู้จักผมอยู่แล้ว ช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่ง!” สีหน้าของเจียงฮ่าวไม่เปลี่ยนแปลง เขาพอจะเดาใจอาจารย์ได้ เวลานี้ถ้าเขามัวแต่จดจ่ออยู่กับเรื่องน่าอับอายของเธอ เกรงว่ามีแต่จะถูกเธอรังเกียจเท่านั้น
เพื่อสร้างความประทับใจแก่อาจารย์ ตอนนี้มีเพียงสองวิธีเท่านั้น
หนึ่งคือมอบความรู้สึกดีๆให้เธอ อีกหนึ่งคือระงับใจ แล้วอดกลั้นไว้
นี่มันเหมือนความรักต้องห้าม ยากจะควบคุม มีเส้นบางๆที่ไม่ควรรีบแตะต้อง ไม่อย่างนั้นมันจะทำให้เธออับอาย!
ดังนั้นตอนนี้ เจียงฮ่าวจึงเลือกขจัดความกระหายไปสิ้น แสดงสีหน้าจริงจัง
เห็นเจียงฮ่าวเป็นแบบนั้น ซูลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เกิดความประทับใจดีๆกับเจ้าเด็กชายตัวโตคนนี้
ซูลี่ปรับอารมณ์ตัวเอง เธอพยักหน้าแล้วพูดว่า “นายรู้ใช่ไหมว่าตัวเองไม่ได้สอบเข้าแบบปกติ การแทรกตัวเข้ามาในสถาบันที่มีชื่อเสียงแถมยังเปิดภาคเรียนมาพักหนึ่งแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่นักเรียนธรรมดาจะสามารถทำได้”
เจียงฮ่าวลอบยิ้มในใจเมื่อได้ยินคำนี้ ด้วยคอนเนคชั่นของเขา หากต้องการเข้าสถาบันที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ เพียงเอ่ยปากคำเดียวก็สามารถทำได้
“นายรอฉันก่อน” ริ้วแดงบนใบหน้าของซูลี่ค่อยๆจางลง หย่อนตัวลงเก้าอี้ เก็บของให้เข้าที่ แล้วพูดว่า “ฉันรู้เรื่องของนายแล้ว ในเมื่อนายเข้าเรียนที่นี่ได้ ฉะนั้นก็ขอให้ตั้งใจเรียน อย่าพลาดโอกาสนี้”
เจียงฮ่าวพยักหน้า กล่าวว่า “เข้าใจแล้วอาจารย์ซู ผมจะจริงจัง”
“อืม” ซูลี่มองเจียงฮ่าวและยิ้ม นัยน์ตาคู่งามสะท้อนไปด้วยเสน่ห์ ร่างของเจียงฮ่าวอ่อนยวบ
“มากับฉัน ฉันจะพานายไปห้องเรียน” ซูลี่เก็บกวาดของ ใบหน้าเธอเปื้อนยิ้มอยู่เสมอ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่เวลาที่เธอมองเจ้าเด็กตัวโตคนนี้ กลับรู้สึกสบายตา
หากเป็นคนอื่นรู้เรื่องนี้เข้า ศักดิ์ศรีของเธอคงไม่เหลืออีก
แม้ซูลี่จะมีชื่อเสียงในด้านความงาม แต่เธอเป็นคนจริงจังมาก ใบหน้าสวยๆของเธอ ไม่ว่าจะเวลาอยู่กับนักเรียนหรือเพื่อนร่วมงาน มันแทบไม่ปราฏรอยยิ้มเลย
“ถึงพวกเราจะเป็นสาขาศิลปะ แต่ก็ยังต้องเรียนด้วยคอมพิวเตอร์ นายมาสาย ฉะนั้นจำเป็นต้องเรียนเพิ่มเติมเรื่องการใช้คอมวาดภาพ” ซูลี่เตือนเจียงฮ่าว หันหลังกลับมา
และเห็นดวงตาที่แน่วแน่ พยักหน้ารับอย่างจริงจัง แต่หารู้ไม่ว่าในใจเขาแอบหัวเราะ
ทหารระดับตำนานอย่างเขา ประสบการณ์หนึ่งที่พบเจอจนชินชาคือสงครามข้อมูล แฮ็กเกอร์ชั้นนำมากมายพ่ายแพ้ภายใต้เงื้อมมือเขา แล้วแบบนี้เขาต้องเรียนรู้พื้นฐานการใช้คอมอีกหรือ?
“ปัจจุบันงานศิลปะมากมายมีความเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ฉะนั้นเธอต้องตั้งใจเรียน เพราะโอกาสที่จะถูกจ้างให้สร้างงานศิลปะผ่านคอมนั้นสูงมาก ...” ซูลี่สอนอย่างจริงจัง ทำหน้าที่อาจารย์ที่ดี แต่หารู้ไม่ว่าคนไม่ดีที่กำลังเดินตามหลัง ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ สายตาของเจียงฮ่าวไม่เคยเลื่อนมองขึ้นสูงกว่าเอวของเธอเลย
“มีสาวๆในสาขาศิลปะมากมาย โดยเฉพาะชั้นเรียนของเราเป็นสถานที่รวมตัวของสาวงาม หวังว่านายจะไม่พลาดเรื่องการเรียนเพราะสาวงามนะ เข้าใจใช่ไหม?”
“อาจารย์ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะตั้งใจเรียน อนาคตคือสิ่งที่ขับเคลื่อนด้วยการเรียนรู้!” เจียงฮ่าวพยักหน้าอย่างเด็ดขาด
“อืม ได้ยินแบบนั้นฉันก็โล่งใจ” ซูลี่รู้สึกค่อนข้างแปลก สิ่งที่นักเรียนคนนี้แสดงออกมา มันดูแตกต่างจากเด็กในตระกูลร่ำรวยที่เธอเคยเจอ
‘เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะเป็นเด็กยากจนที่บังเอิญมีญาติเป็นข้าราชการระดับสูง เลยถูกฝากมาที่นี่ อืม ค่อนข้างเป็นไปได้ทีเดียว’
ซูลี่ลอบมองเจียงฮ่าว สำรวจเสื้อผ้าเขา แล้วลอบพยักหน้า
ข้างในห้องเรียนเอะอะเสียงดัง แต่ทันทีที่ซูลี่ก้าวเข้ามา ทุกเสียงเงียบลงทันที
ซูลี่พาเจียงฮ่าวขึ้นมา เอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดัง “นี่คือนักเรียนใหม่ในชั้นเรียนของเรา เขามาช้าด้วยเหตุผลพิเศษบางอย่าง แต่ฉันหวังว่าทุกคนจะเข้ากันได้”
เพื่อไม่ให้นักเรียนจินตนาการไปต่างๆนาๆ ทางสถาบันจึงมีการสร้างไฟล์ปลอมสำหรับเจียงฮ่าว
เมื่อนักเรียนที่อยู่ถัดไปสังเกตเห็นเจียงฮ่าว พวกเขาก็ระเบิดเสียงดังขึ้นทันที “เชี่ยเถอะ นั่นมันคนโรคจิตที่ปั่นจักรยานเด็กสี่ล้อไม่ใช่หรอ!”
“เขามาอยู่ที่นี่ได้ไง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”
สาวๆทำหน้าเหมือนเห็นผี ท่าทีของพวกเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ
แม้เจียงฮ่าวจะดูหล่อเหลา แต่เสื้อผ้าราคาถูกและความประทับใจแรกที่เขามอบให้กับทุกคน มันได้ทำลายภาพลักษณ์ของเขาแบบไม่มีชิ้นดี
“นี่ ...” ซูลี่ขมวดคิ้ว เอ่ยถามว่า “มีเพื่อนร่วมชั้นคนไหนยินดีจะแบ่งปันหนังสือกับนักเรียนใหม่บ้าง?”
คนอื่นๆพอได้ยิน แต่ละคนทำท่าเหมือนเห็นขโมย ฉกหนังสือกลับแล้วกอดไว้ทันที มีเพียงร่างๆหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหน้าแสดงท่าทีเฉื่อยชา
‘ผู้ชายคนนี้ ... มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!’
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เธอจงใจสลัดเขาให้พ้นทาง หญิงสาวก็เริ่มหน้าแดง
ซูลี่พยักหน้าเล็กน้อย มองไปยังสาวงามเบื้องหน้าเธอ กล่าวว่า “หยินเฉียนหยุน เธอพอจะแบ่งหนังสือของกับเขาได้ไหม? ไว้หลังเลิกเรียนค่อยพาเขาไปซื้อหนังสือของตัวเอง”
“อะไรนะ! ให้แบ่งหนังสือกับหยินเฉียนหยุน?”
หัวใจของเจียงฮ่าวสั่นสะท้าน เมื่อเลื่อนสายตาไป เขาก็ต้องตกใจ