SN-ตอนที่ 31 การสืบสวน (1)
อัลดิช เตะ บอสโอดินสัน ให้เขาหงายหน้าขึ้น แต่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เพราะว่าตัวเขาถูกห่อหุ้มไว้แน่นโดยผ้าใบสีน้ำตาลที่วาเลร่าดึงมาพันรอบตัวเขาไว้ แต่ปากของเขายังคงขยับได้
“นายต้องการรู้อะไร ฉันจะบอกทุกอย่าง! หากต้องการสิ่งใด ฉันก็จะให้!” บอสโอดินสัน กล่าวออกมา โดยดวงตาข้างนึงของเขาได้เบิกกว้างจนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า “ขอร้องล่ะ อย่าส่งฉันกลับไปที่นั่น ฉันไม่ต้องการที่จะพบเจอฝันร้ายนั่นอีกแล้ว!”
“ค่อยคุยกันด้วยง่ายขึ้นหน่อย” อัลดิช กล่าว ขณะที่เขาจดลงบันทึกในใจว่า [ความกลัวที่ครอบงำ] ไม่ใช่เพียงการสตั้นเป้าหมาย 10 วินาทีแบบธรรมดาอีกต่อไป เพราะเมื่อใช้มันกับผู้คนที่ไม่มีการต่อต้านทางจิตใจ มันจะกักขังพวกเขาไว้ในฝันร้ายเกือบ 8 ชั่วโมงเต็ม
ดังนั้น ไม่ว่าบอสจะไม่เต็มใจพูดแค่ไหน แต่ อัลดิช ก็ได้วางไม้เท้าของเขาไว้ที่คอของอีกฝ่าย สิ่งนี้ทำให้อีกฝ่ายตกลงสู่ความหวาดกลัว และ นึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ทันที
“องค์กรไทรเด้น บอกสิ่งที่นายรู้เกี่ยวกับพวกมันมาให้หมด” อัลดิช กล่าว จากนั้นเขาก็พูดกับนักเทคโนเช่นเดียวกัน “นาย ฟังสิ่งที่เขาพูดและนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาบันทึกเก็บไว้”
“เข้าใจแล้ว หัวหน้า” นักเทคโน กล่าว
“ฟิสก์ นั่นนายเหรอ?” บอสกล่าวพูดอย่างงุนงงและมองไปที่อีกฝ่าย “ตอนนี้นายทำงานภายใต้คำสั่งของเขางั้นหรือไม่?”
“เอ่อ ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นใคร แต่ใช่ ฉันกำลังทำงานให้เขา แต่นายรู้อะไรไหม ทางที่ดี นายควรตอบคำถามของเขาดีกว่าแทนที่จะมาเสียเวลาคุยกับฉัน” ฟิสก์ ได้ตอบกลับ
“ได้ยินคำตอบของเขาแล้วนี่” อัลดิช กล่าวขณะที่เขาเจาะไม้เท้าแนบไปที่ลำคอของบอสจนทำให้เขาหายใจไม่ออก
“เข้าใจแล้ว” บอสได้ไอออกมา “พวกเราเริ่มทำงานให้กับองค์กรไทรเด้นเมื่อปีที่แล้ว”
“ในฮาเว่น?” อัลดิช หรี่ตาลง “ฉันแน่ใจว่าฉันได้ค้นข้อมูลเกี่ยวกับพวกองค์กรไทรเด้นมาเป็นอย่างดีแล้ว และ ค่อนข้างแน่ใจว่าพวกมันไม่มีสาขาอยู่ในเมืองฮาเว่น”
“นายพูดถูกแล้ว” บอสตอบกลับ “พวกมันไม่ได้อยู่ในฮาเว่น เพียงแต่พวกเขาติดต่อกับพวกเราเพื่อให้ทำหน้าที่การปล้น โดยให้พวกเราฉกฉวยอะไรบางอย่างมาจากขบวนรถอิมูกิที่อยู่ไกลออกไปทางตอนใต้ รอบ ๆ ทางหลวง S48”
หลังจากที่คลื่นสัตว์ประหลาดระบาด ระบบทางหลวงและถนนของสหรัฐอเมริกาก็ได้รับการซ่อมแซมอย่างสมบูรณ์ และ เนื่องจากการคุกคามของสัตว์ประหลาดเหล่านี้มีจำนวนมาก ทำให้ ผืนดินอันกว้างใหญ่นั้นไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ดังนั้น จึงมีถนนสองสายที่ได้รับการพัฒนา
ถนนที่เป็น ‘เขตปลอดภัย’ ที่มีหมายเลขตั้งแต่ S1 ถึง S50 ที่สงวนไว้ใช้สำหรับถ่ายโอนเสบียงที่สำคัญ และ ถนน ‘เชิงพาณิชย์’ ที่มีหมายเลขตั้งแต่ C1 ถึง C100 ที่ทำหน้าที่เป็นการจราจรโดยทั่วไป
ทางด้านรัฐบาลของสหรัฐได้จัดการเกี่ยวกับถนน ‘เชิงพาณิชย์’ โดยมีองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมด้วย เช่น องค์กรผู้วิวัฒ เพื่อต่อสู้กับพวก วาแลน บนถนนหลัก เพื่อรักษาความปลอดภัย
ดังนั้นยิ่งเป็น ถนน ‘เขตปลอดภัย’ แล้ว ยิ่งมีการรักษาความปลอดภัย และ การเฝ้าระวัง รวมถึงการปรากฏตัวของฮีโร่มากยิ่งขึ้น
“เศษขยะอย่างสมาชิกกลุ่มโอดินสันกว่า 20 คนนี้ สามารถจี้ขบวนรถอิมูกิได้งั้นหรือไม่? คิดว่าความปลอดภัยของถนนสาย S เป็นเรื่องไร้สาระหรืออย่างไร?” อัลดิช กล่าวขณะที่เขาเริ่มกดไม้เท้าเข้าไปที่ลำคอของบอสอีกครั้งจนทำให้เขาหายใจไม่ออก
อิมูกิ เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเกาหลีซึ่งเคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดของเทคโนโลยีและการพัฒนาทางการทหาร ยกตัวอย่างเช่น ARMA ที่เป็นสินค้าเชิงพาณิชย์และได้รับการเผยแพร่อย่างแพร่หลาย โดย บริษัทอิมูกินั้นมีความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีอย่างแท้จริง ซึ่งพวกเขาได้คอยปรับแต่งเทคโนโลยีชั้นสูงให้กับลูกค้าชั้นยอดที่ได้รับเลือก
ดังนั้นขบวนรถของบริษัทอิมูกิทุกขบวนจะต้องได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่น ไม่สิ แค่การคุ้มกันอย่างหนาแน่นยังคงน้อยไป พวกเขาน่าจะมีระบบป้องกันตนเองในระดับแนวหน้า เช่น โดรนต่อสู้ คนคุ้มกัน แม้กระทั่ง ทหารรับจ้างที่คอยปกป้องสินค้าภายใน
ป้อมปืนอัตโนมัติ หรือแม้แต่ ฮีโร่ 2-3 คนที่คอยปกป้องถนนสาย S
“เขาพูดความจริง” ฟิสก์ ได้กล่าวพูดขณะที่กระบังหน้าสีแดงได้ส่องประกายแวววับ “มีการสื่อสารและการโอนเครดิตเป็นหลักฐานที่เป็นข้อพิสูจน์เรื่องนี้”
“หืม” ได้ยินเช่นนี้ อัลดิช ได้คลายแรงที่กดไม้เท้าลงไปทันที
“นาย—นายต้องเชื่อฉัน” บอสกล่าวออกมา “พวกเราไม่ได้ลงมือด้วยตัวเอง เพราะองค์กรไทรเด้นได้ส่งคนมาช่วยเรา โดยเป็นวายร้ายที่มีชื่อว่า เวนิสเชอร์ เขาเป็นคนช่วยพวกเรา อะไรก็ตามที่ยิงใส่พวกเราเข้ามาล้วนถูกทำให้หายไปทั้งหมด”
“ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเราที่จะบุกเข้าไปเพื่อเอาสิ่งที่พวกเขาต้องการและหลบหนีออกมา”
“เช่นนั้นพวกเขาต้องการอะไร?”
“อันนี้ ฉันไม่รู้”
อัลดิช จ้องมองไปที่อีกฝ่ายทันที
“ฉันไม่รู้จริงๆ” บอสได้ตอบกลับด้วยความตื่นตระหนก “พวกเขาไม่แม้แต่จะบอกพวกเราถึงสิ่งของภายในนั้น อันที่จริง พวกเราก็แค่กลุ่มอันธพาล แต่เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะพวกเราก็ได้รับค่าตอบแทนมาเป็นเครดิตด้วย”
“แล้วเหตุใดพวกเขาถึงเลือกให้กลุ่มพวกนายทำงาน?” อัลดิช กล่าวถาม
“เอ่อ ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่กลุ่มที่มีสถานะที่แข็งแกร่งที่สุดในฮาเว่น แต่พวกเราก็น่าเชื่อถือไม่เหมือนกับพวก โบลท์เฮด และ เฟนดิช ที่บ้าคลั่ง ดังนั้น ฉันจึงคิดว่านั่นคือเหตุผลที่องค์กรไทรเด้นเลือกให้พวกเราทำงานนี้ เพราะหลังจากปล้นเสร็จพวกเราก็ไปส่งของให้ที่ไนท์คลับ”
อัลดิช ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
อันที่จริง มันเป็นความจริงที่ว่า องค์กรไทรเด้น ไม่ได้มีสาขาในฮาเว่น เพราะสาขาอเมริกาเหนือของพวกเขานั้นดำเนินการส่วนใหญ่อยู่ใน นีโอ-นิวยอร์ก ซึ่งเป็นเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบระดับ 1 ที่ใหญ่ที่สุดในรัฐ ไม่ใช่เมืองระดับ 3 อย่างฮาเว่น
สิ่งนี้มันทำให้เขาได้รู้ว่าถ้าพวกเขาต้องการที่จะได้รับบางสิ่งบางอย่างนอกสถานที่พวกเขาจะจ้างหน่วยงานในพื้นที่ให้จัดการแทน
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกที่องค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่จะจ้างพวกเร่ร่อนอย่างพวก โอดินสัน หรือก็ตามที่บอสกล่าว เช่น โบลท์เฮด และ เฟนดิช สำหรับการทำงานสกปรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่อิทธิพลของพวกเขาถูกจำกัด
เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเร่ร่อน ก็ไม่มีสัญชาติที่แท้จริง และ คนส่วนใหญ่ไม่สามารถติดตามได้ และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ สามารถใช้งานพวกเขาแล้วทิ้งได้แม้ว่าจะล้มเหลวก็ตาม
แต่ทำไมพวกมันถึงต้องมาที่ฮาเว่น? มีสิ่งของใดกันที่พวกมันต้องการจากบริษัทอิมูกิ?
ของสิ่งนั้นคืออะไรกัน?
“มีข้อมูลอื่นนอกจากนี้ไหม?” อัลดิช กล่าวถาม ฟิสก์
“ขอโทษด้วยหัวหน้า” ฟิสก์ กล่าว “ผมได้รับการติดต่อจากผู้ชายที่ชื่อ 'มิสเตอร์เอ็กซ์' ที่เตรียมแผนการปล้นครั้งนี้ แต่หลังจากปล้นเสร็จ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว”
“แค่นี้?” อัลดิช สั่นศีรษะ “ดูเหมือนว่ากลุ่มโอดินสัน จะอยู่ในระดับต่ำเกินกว่าที่จะรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และ ดูเหมือนว่าข้อมูลขององค์กรไทรเด้นก็คงจะสิ้นสุดแค่นี้”
“แล้วเกี่ยวกับไนท์คลับ?”
อัลดิช ได้ยกไม้เท้าขึ้นและจี้ไปที่คอของบอสอีกครั้ง เพียงแต่ว่าบอสรีบตะโกนออกมา
“เดี๋ยวก่อน ยังมีอีกเรื่อง”
“อะไร?” อัลดิชกล่าวถามออกมาในทันที
“ผู้ชายคนนั้น 'มิสเตอร์เอ็กซ์' คือคนสื่อสารระหว่างเรากับองค์กรไทรเด้น อีกทั้งเขายังบอกอีกว่าให้ฉันไปที่เมืองฮาเว่นบ่อย ๆ เท่าที่จะทำได้”
“เพราะอะไร?” อัลดิช กล่าวถาม
“เขา-เขาต้องการให้ฉันขายยาของเราให้ โดยเฉพาะของดีราคาแพงอย่าง X ให้กับรายชื่อตัวแทนจำหน่ายที่เขาอนุมัติ” บอสตอบกลับ “พวกดีลเลอร์เหล่านั้นไม่ใช่พวกเร่ร่อนอย่างพวกเรา อีกอย่างจะต้องรู้ว่าพวกเขาเก่งในเรื่องการทำเรื่องแย่ ๆ ในเมือง ข้างไนท์คลับ หรือบาร์มากกว่าพวกเราเสียอีก”
“แล้วไงต่อ?” อัลดิช กล่าวถาม
“นอกจากนี้ พวกเขายังจ่ายให้พวกเรามากกว่าราคาขายเพื่อให้ได้ X มา เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่นั่นคือเหตุผลที่ทำให้กลุ่มโอดินสันของพวกเราเติบโตขึ้นโดยรอบเมืองฮาเว่นอย่างรวดเร็ว” บอสได้ตอบกลับ
นี่มันค่อนข้างน่าสนใจ
“ฟิสก์ เปิดรายชื่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุมัติขึ้นมาหน่อยสิ” อัลดิช ได้พูดขึ้น
“ครับ” ฟิสก์ ได้เปลี่ยนหน้าจอแล็ปท็อป และ กลั่นกรองรายชื่อกว่า 20 รายชื่อ ที่ อัลดิช ไม่รู้ ยกเว้นเพียงชื่อเพียงคนเดียว
เดวิส เชน.
ช่างเทคนิคและวิศวกรของ แบล็ควอเตอร์ ที่ อัลดิช แบล็กเมล์อีกฝ่ายที่กระทำการขายยาให้กับนักเรียน โดย อัลดิช รู้ว่า เดวิส นั้น ขายขาในเมืองฮาเว่น ให้กับ นักเรียน ระดับ A และ B ที่ออกไปใช้วันหยุดในเมืองฮาเว่น
โดยอัลดิช เริ่มตระหนักได้ว่า องค์กรไทรเด้น ได้เริ่มแทรกแซงหน่วยงานต่าง ๆ ไม่เพียงแต่พวกเร่ร่อนเท่านั้น แม้แต่ ในแบล็ควอเตอร์ หรือ ในหมู่นักเรียนบางคน
ซึ่ง องค์กรไทรเด้น ได้ขายยาให้กับพวกนักเรียนของแบล็ควอเตอร์ทางอ้อม ซึ่งเป็นห่วงโซ่อุปทานที่ประกอบไปด้วยกลุ่มโอดินสัน ในการส่งผ่านยาพวกนั้นผ่านตัวแทนจำหน่าย
ว่าแต่เพราะอะไรกัน? สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกสงสัยมาก
“นำข้อมูลจากโทรศัพท์ของโกสต์ขึ้นมาดู” อัลดิช กล่าว “ค้นหาชื่อไนท์คลับที่เกี่ยวข้อง”
“เอ่อ ข้อมูลมันค่อนข้างเยอะมากเลย” ฟิสก์กล่าวพูดออกมา “ไม่ว่าจะเป็นข้อความ แชทกลุ่ม รูปภาพ หรือ การแท็กตำแหน่ง ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี”
“มีการติดต่อกับ เดวิส เชน บ้างไหม?” อัลดิช กล่าวถาม
“ครับ ดูเหมือนว่า เด็กที่ชื่อ ‘โกสต์’ คนนี้จะเป็นคนขี้ยา เพราะภายในข้อมูลระบุไว้ว่า เขาได้ซื้อยาจาก เดวิส เชน ทุกสัปดาห์” ฟิสก์ ได้ตอบกลับ
“มีอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกไหม?” อัลดิช ได้กล่าวถามบอส
“เอ่อ…มะ—ไม่มีแล้ว!” บอสได้ตอบกลับ “ฉันก็แค่คนของกลุ่มอันธพาลที่ขายพวกของเถื่อนผิดกฏหมาย เกี่ยวกับข้อมูลความต้องการหรือจุดประสงค์อื่น ๆ ของพวกเขาฉันไม่รู้!”
“เข้าใจแล้ว” อัลดิช มองไปที่ ใบหน้าของ บอส ที่แสดงสีหน้าออกมาอย่างหวาดกลัว เขาค้นพบว่าชายคนนี้ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เพราะสิ่งที่เขายุ่งเกี่ยวกับองค์กรไทรเด้น ก็เป็นแค่เหยื่อล่อที่อีกฝ่ายจ้างวานและขโมยของจากพวกอิมูกิเท่านั้น
“อืม ดูเหมือนว่า นายจะหมดประโยชน์แล้วนะ เช่นนั้นก็ไปลงนรกได้แล้ว”
“เดี๋ยว—” บอสพยายามจะพูดแต่ทว่าไม้เท้าของ อัลดิช ได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว จนเขานั้นตกตาย
[+8 EXP]
[ได้รับ 1x วิญญาณโอดินสัน (บอส)]
[ได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มเติมจาก (บอส)]
[+4 EXP]
[แถบ EXP : 88/650 > 100/650]
[ระดับปัจจุบัน : 9]
อัลดลิช เตะศพของบอสไปหา อดัม,เอเลเน่ และ อัลฟ่าสไตรเกอร์ เพื่อสนองความหิวกระหายของพวกเขา และ ในขณะเดียวกัน เขาก็นั่งอยู่ทางด้านหลังของ ฟิสก์
“แสดงข้อความตอบโต้ทั้งหมดของโกสต์ที่เกี่ยวข้องกับไนท์คลับ” อัลดิช กล่าว
“แน่ใจนะหัวหน้า? นี่มันค่อนข้างเยอะมากทีเดียว” ฟิสก์ ตอบกลับ
“ฉันมีเวลาเหลือเฟือ” อัลดิช ตอบกลับ เพราะปาร์ตี้ล่าของ วาเลร่า ทำงานได้เป็นอย่างดี จนในไม่ช้า เขาก็จะเลเวล 10 แล้ว หลังจากที่ เลเวล 10 เขาก็จะเข้าถึง ภารกิจทดสอบอันแรกได้ หลังจากนั้นเขาก็จะได้รับพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
“ที่เหลือก็แค่รอเวลาเท่านั้น!”