2029 - ไม่มีความท้อแท้
2029 - ไม่มีความท้อแท้
ยุคไร้การฝึกฝนทำให้พวกเขารู้สึกไร้อำนาจมากยิ่งขึ้น พวกเขาเริ่มสงสัยว่าถ้าสิ่งนี้ดำเนินต่อไปพวกเขาจะสามารถกลายเป็นผู้สูงสุดได้หรือไม่
มันยากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทักษะเต๋าของพวกเขาเกือบจะหยุดลงโดยสมบูรณ์ ไม่สามารถเพิ่มแม้แต่เส้นผมได้
พวกเขาควรจะทำอะไร? พวกเขามาถึงสุดเส้นทางแล้ว!
“ลุงฮ่าว เส้นทางของเราดูเหมือนจะถูกตัดขาด ยากที่จะก้าวหน้าแม้แต่นิ้วเดียวไม่ว่าเราจะฝึกฝนอย่างไร แล้วหลังจากนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี!”
“พี่ใหญ่ พวกเราต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น!”
เด็กๆจากหมู่บ้านหินผาปรึกษากับสือฮ่าวด้วยความกังวลเล็กน้อย พวกเขาเข้าใจดีว่าต้องเผชิญบททดสอบอันน่าสยดสยองประเภทใดในอนาคต
สภาพแวดล้อมของโลกนี้จะโหดร้ายอย่างหาที่เปรียบมิได้ การฝึกฝนเพียงเล็กน้อยนี้จะเพียงพอได้อย่างไร?
สือฮ่าวนั่งอยู่ที่ด้านหน้าหมู่บ้าน พลิกตำราหยกอย่างเงียบๆ นี่คือคัมภีร์เต๋าอมตะที่เขานำออกมาจากซากเซียนโบราณระหว่างการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ของสามพันแคว้นในอดีต
ในจุดหมายสุดท้าย มีโลงศพโบราณอยู่มากมายภายในแต่ละอันมีคัมภีร์เต๋าอมตะถูกซ่อนไว้!
ย้อนกลับไปในตอนนั้นราชันย์สิบสมัย หนิงชวน, ผู้อมตะที่ถูกเนรเทศ สือยี่ และตัวเขาเองต่างได้รับมาคนละเล่ม
ก่อนหน้านี้สือฮ่าวก็เคยพลิกดูมันเช่นกันแต่ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา สือฮ่าวเริ่มอ่านมันอย่างถี่ถ้วนอย่างแท้จริง ทำให้เขาสามารถสัมผัสถึงวิธีการอันหลากหลายที่จะทำให้เขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะ
น่าเสียดายที่ข้อความนี้ไม่ได้บันทึกวิธีบ่มเพาะในยุคไร้การฝึกฝน
เด็กๆของหมู่บ้านหินผาก็เคยอ่านมันผ่านตาเช่นกัน สำหรับคนเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นวิธีการของโลกปัจจุบันหรือวิธีการโบราณ สือฮ่าวได้สอนพวกเขาทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้พวกเขาค้นหาเส้นทางของตัวเอง
จากนั้นเขาก็ดึงกล่องหยกออกมา น่าเสียดายที่หลังจากเปิดออกก็มีตราประทับอีกอันหนึ่ง แม้ว่าการบ่มเพาะในปัจจุบันของเขาจะมาถึงระดับผู้สูงสุดแล้วแต่มันก็ไม่เพียงพอ
จากความสงสัยของเขา น่าจะมีคัมภีร์โบราณอยู่ข้างในด้วย
ย้อนกลับไปในดินแดนเซียนโบราณนอกเหนือจากโลงศพโบราณจำนวนมากที่บรรจุคัมภีร์เต๋าอมตะแล้ว ยังมีแท่นบูชาที่จัดวางกล่องหยกนี้ซึ่งแตกต่างจากที่อื่น
สือฮ่าวถอนหายใจเบาๆและเก็บกล่องหยกไว้ที่เดิมเขาสงสัยว่ามันอาจจะมีคัมภีร์ของราชาอมตะซ่อนไว้ก็ได้!
“พี่ใหญ่ เราต้องต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นเราจะติดอยู่ในอาณาจักรเบื้องล่าง! ยุคไร้การฝึกฝนกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆตอนนี้มันรุนแรงกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อน” มู่ชิงกล่าว
เขาอายุน้อยกว่าสือฮ่าวราวๆสิบสองปี การฝึกฝนของเขามาถึงระดับสูงสุดของขอบเขตปลดปล่อยตนเองแล้วแต่เขาก็ไม่สามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรผู้สูงสุดได้
“ข้าสงสัยจริงๆว่าอัจฉริยะเหล่านั้นที่อยู่ในอาณาจักรเซียนจะสามารถกลายเป็นผู้สูงสุดได้แล้วหรือยัง?” จูหลินรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
“เป็นไปไม่ได้! แม้แต่ในดินแดนอมตะ ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะทำลายคำสาปเว้นแต่พวกเขาจะเป็นลูกของราชาอมตะหรือมีสายเลือดของราชาอมตะที่ไม่มีใครเทียบได้!” สือจงไม่เชื่อ
“นี่มันเป็นเส้นทางที่ข้าสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง ข้าไม่อยากให้พวกเจ้าทดลองเพราะว่ามันลำบากมากเกินไป!” สือฮ่าวกล่าว
เขารู้สึกกดดัน หลังจากหลายปีมานี้ สภาพแวดล้อมการบ่มเพาะในดินแดนอมตะจะแตกต่างจากที่นี่อย่างสิ้นเชิง เขาต้องรีบผงาดขึ้นให้เร็วที่สุด
แม้ว่าสภาพแวดล้อมของโลกจะเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างให้เขาหยุดฝึกฝน ถ้าเขาต้องการที่จะฝ่าฟันทะลวงโซ่ตรวนของยุคไร้การฝึกฝนเขาก็ต้องดิ้นรนเพื่อการเปลี่ยนแปลง
ในยุคที่ไร้การฝึกฝน เราต้องแสวงหาการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น จึงจะสามารถไปได้ไกลกว่านี้!
สือฮ่าวรู้แล้วว่าปัญหาอยู่ที่ใด พันธนาการของโลกลดลง ระบบเดิมทั้งหมดถูกระงับ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง หากพวกเขายังคงฝึกฝนวิธีเดิมต่อไปก็จะมีความก้าวหน้าเพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามหากใครต้องการบรรลุความเป็นอมตะ มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ไม่มีทางที่จะบรรลุความเป็นอมตะในสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย นับประสาอะไรกับยุคที่ไม่มีการบ่มเพาะเช่นนี้
“พวกเจ้าทุกคนควรฝึกฝนเหมือนเดิมต่อไป ไม่จำเป็นต้องรู้สึกกังวลใจเพียงแค่ทำต่อไปอย่างใจเย็น แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะก้าวหน้าแต่มันจะทำให้รากฐานของพวกเจ้าแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
นี่เป็นการสะสมประเภทที่หายาก พวกเจ้าทุกคนกำลังเสริมความแข็งแกร่งให้กับรากฐานของตัวเองอย่างต่อเนื่อง สร้างเส้นทางเต๋าที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง!” สือฮ่าวบอกพวกเขาว่าอย่ากังวล
“หลายปีต่อมา พวกเจ้าทุกคนจะเข้าใจว่าการสร้างรากฐานในวันนี้มีไว้สำหรับการเก็บเกี่ยวในอนาคต แม้ว่าทักษะเต๋าของพวกเจ้าจะไม่ก้าวหน้า แต่นี่เป็นรูปแบบของโชคตามธรรมชาติในตัวเอง
สำหรับความสำเร็จของพวกเจ้าในอนาคตจะยอดเยี่ยมเพียงใด มันอาจจะขึ้นอยู่กับการทรมานของยุคนี้!” สือฮ่าวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
แม้ว่าคำพูดเหล่านี้จะเป็นไปเพราะการให้กำลังใจ แต่ว่าการหยุดฝีเท้าลงเล็กน้อยก็อาจจะทำให้สามารถมองโลกได้กว้างขึ้น
สือฮ่าวเข้าสู่โลกปฐมแห่งความโกลาหลอีกครั้งเพื่อฝึกฝนเพียงลำพัง เป็นเพราะสถานที่ปกติไม่สามารถทนต่อการทดสอบของเขาได้ มีเพียงสถานที่แห่งนี้เขาจึงจะไม่สร้างความหายนะให้กับคนอื่นๆ
ผู้คนที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลังต่างงงงันและได้รับความเข้าใจบางอย่าง พวกเขาไม่วิตกกังวลอีกต่อไป แต่กลับบ่มเพาะด้วยความมุ่งมั่นไปในเส้นทางของตัวเอง
มีบางคนที่มีความเข้าใจสูงมาก พวกเขารู้สึกว่าการฝึกฝนแบบนี้ก็เป็นการลับคมชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่สำคัญ มูชิงและคนอื่นๆล้วนเป็นอัจฉริยะในการบ่มเพาะอยู่แล้วจึงเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาเปลี่ยนจากการมองโลกในแง่ร้ายกลายเป็นความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นต่อตัวเอง โดยเชื่อว่านี่เป็นกระบวนการทำความเข้าใจเต๋า
หากบุคคลภายนอกรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะถอนหายใจด้วยความประหลาดใจอย่างแน่นอน อัจฉริยะที่ดีที่สุดเหล่านี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
“ข้ารู้ว่าข้าจะก้าวหน้าในไม่ช้า แม้ว่าการฝึกฝนของข้าจะไม่ทำให้เกิดความก้าวหน้า แต่เส้นทางข้างหน้าในอนาคตมันจะกว้างขวางเป็นอย่างมาก”
“นี่ก็เป็นความรู้สึกของข้าเช่นเดียวกัน แม้ว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในร่างกายข้าจะไม่ได้เพิ่มขึ้นในขณะที่เราฝึกฝนแต่เนื้อหนังของเรากลับแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย
ตัวอย่างเช่นไขกระดูกของเราที่ได้พัฒนาเป็นประกายสีทองจางๆ ข้าเชื่อว่าหากเราฝึกฝนแบบนี้ไปอีกหลายสิบปีกระดูกทุกสัดส่วนในร่างกายของเราทั้งหมดจะกลายเป็นสีทอง”
พวกเขาเป็นคนมองโลกในแง่ดี ให้กำลังใจตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากพวกเขาเคยประสบกับความทุกข์ยากมากมายมาก่อน
พวกเขาเป็นคนที่เดินออกจากเมืองจักรพรรดิ์ดั้งเดิม เจตจำนงของพวกเขาแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใส่ใจเรื่องนี้ก็ตาม
เป็นเพราะตั้งแต่พวกเขาเกิด พวกเขาได้เห็นประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยน้ำตาและเลือดอยู่ตลอดเวลา
“เราจะแข็งแกร่งขึ้น! เราเป็นทายาทของราชาทั้งเจ็ด บรรพบุรุษของเราเป็นราชาอมตะที่แท้จริง! พวกเราก็คือทายาทของตระกูลจักรพรรดิต่างมิติ สถานะของเราไม่แตกต่างจากลูกหลานของอันหลานหรือซือถูเลย!”
หลังจากวันนี้ทัศนคติที่ท้อแท้ของคนบางคนในหมู่บ้านหินผาก็หายไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่วิตกกังวลอีกต่อไปทุกคนเริ่มมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
พวกเขาต่อสู้โดยไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อลับคมตัวเอง ดินแดนอันตรายมากมายในแปดภูมิภาคของอาณาจักรล่างถูกสำรวจโดยพวกเขา
ดินแดนสุสานตะวันตก แม้แต่ระดับที่มีศพของผู้สูงสุดก็ยังถูกตรวจสอบอย่างรอบคอบโดยพวกเขา
“มีศพของผู้อมตะที่แท้จริงเลือดของพวกมันยังคงร้อนระอุ ไม่เหมือนซากศพเลย มันแปลกจริงๆ หากพวกเราสกัดไขกระดูกของพวกมันออกมาได้มันจะกลายเป็นยาขั้นเซียน!”
พวกเขาขุดลงไปในส่วนลึกของสุสานตะวันตกและเห็นซากผู้อมตะที่แท้จริงถูกฝังอยู่ในถ้ำน้ำแข็งแม้จะอยู่ห่างไกลแต่ก็ยังทำให้ทุกคนตกตะลึง พวกเขาถอยกลับมาไม่กล้าลงมือขุดค้นต่อไป
พวกเขาไม่กล้ากระทำการโดยประมาท แม้ว่ามันจะตายไปแล้ว แต่สิ่งมีชีวิตในระดับนั้นก็ยังเป็นอันตรายถึงชีวิต
มู่ชิงและคนอื่นๆรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นซากของผู้อมตะที่แท้จริง โลหิตที่ร้อนแรงของมันน่าจะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสือฮ่าว
สือฮ่าวกำลังเข้าใจเต๋า เขายืนอยู่ในโลกปฐมแห่งความโกลาหล โดยอยู่ห่างจากแปดภูมิภาคไม่มีความฟุ้งซ่าน วิชาอรหันต์แปดกรของเขาถูกใช้ออกไปอย่างต่อเนื่อง
ญาณวิเศษทั้งหมดที่เขาศึกษามาตั้งแต่ต้นถูกทบทวนใหม่เพื่อให้ก้าวสู่ระดับสูงสุดเท่าที่จะทำได้
ญาณวิเศษอันมากมายเหล่านี้สือฮ่าวต้องการที่จะประสานรวมพวกมันทั้งหมดเข้าด้วยกัน!
ที่ท้องของเขา ทะเลแห่งการเกิดใหม่ปรากฏขึ้น นี่เป็นสถานที่ลับภายในร่างกายของเขาที่เขาสร้างได้สำเร็จเมื่อนานมาแล้ว มันผสานรวมทุกอย่างเข้าเป็นหนึ่งเดียวก่อนจะระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง
เสียงสวดคัมภีร์ดังขึ้นในใจของเขา วิธีการทุกประเภทปรากฏขึ้นที่นั่น
จิตใจของสือฮ่าวลอยขึ้นจากช่องท้องราวกับว่ามันสร้างสะพานศักดิ์สิทธิ์ที่นำไปสู่ชายฝั่ง พลังศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างที่อยู่ในร่างกายของเขากระจายออกสู่อวัยวะภายในทั้งห้า