ตอนที่ 1231+1232 อาจู
ตอนที่ 1231 อาจู
หลังจากเดินทางถึงเจ็ดวัน เจียงเหยาเกือบจะเป็นอัมพาตจากการนั่งบนรถไฟเป็นเวลานาน ในที่สุดรถไฟก็มาถึงที่หมาย – เมืองซู
หลังจากลงจากรถไฟ ลู่ชิงสีหยิบสิ่งของทั้งหมดของเจียงเหยาและพาเธอออกจากสถานีรถไฟที่มีคนพลุกพล่าน ลู่ชิงสียืนอยู่ที่ทางเข้าสถานีรถไฟและมองไปรอบ ๆ ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็พาเจียงเหยาไปหาชายหนุ่มอายุราว 25-26 ปี
ชายหนุ่มคนนั้นมีผิวสีแทน เช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ในเมืองซู เขามีโครงร่างที่ชัดเจนของชนกลุ่มน้อย เขาคาบบุหรี่ที่ปากและมีสร้อยคอทองคำหนาอยู่รอบคอ – เขาดูเหมือนคนเกียจคร้าน
“นายคืออาจูใช่ไหม” ลู่ชิงสีถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าชายคนนั้นคืออาจู สหายที่ให้ข้อมูลในเมืองซู ลู่ชิงสีและเจียงเหยาต้องพึ่งพาคำแนะนำของกลุ่มคนที่แทรกซึมเข้าไปในแก๊ง
“ใช่ ฉันเอง” อาจูยืนขึ้นทันทีที่เห็นพวกเขา เขาขยับบุหรี่จากปากไปที่มือ จากนั้นเขาก็จ้องไปที่คู่หนึ่งสาวที่จับมือกันต่อหน้าเขา เขาหัวเราะอย่างเต็มที่ “กู้ฉางซื่อใช่ไหม นี่ภรรยานายสินะ เธอสวยมาก”
เมื่อเจียงเหยาได้ยินอาจูพูดถึงเธอ เธอซ่อนตัวอยู่ข้างหลังลู่ชิงสีและยิ้มให้กับอาจูอย่างเขินอาย
มันตื้นมาก ตื้นมากจนไม่มีใครสามารถเห็นรอยยิ้มของเธอได้ถ้าไม่มองเธอใกล้ ๆ
อาจูไม่สนใจ เธอเป็นผู้หญิงและภรรยาที่เพิ่งแต่งงานใหม่ เป็นเรื่องปกติที่เธอจะอาย
“นายเป็นเพื่อนของเสี่ยวชิง เพราะงั้นก็ถือว่าเป็นเพื่อนของฉันด้วย ฉันจะไม่ปล่อยให้นายต้องอดตาย ยังดีที่หัวหน้าติงขาดคนอยู่พอดี นายมาได้ถูกเวลาจริง ๆ” อาจูกล่าว
“หัวหน้าติงระวังคนใหม่มาก ดังนั้นเขาจะจับตาดูนายช่วงหนึ่ง ทำให้ดีที่สุด ตราบใดที่หัวหน้าติงเชื่อใจนาย ฉันรับประกันว่านายจะติดตามเขาและทำเงินได้มากขึ้น เช่นเดียวกับฉัน”
อาจูรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเคล็ดลับการทำเงิน “เสี่ยวชิงบอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องของฉันให้นายฟังบ้างไหม”
“ฉันค่อนข้างเป็นที่รู้จักในบ้านเกิดของฉัน บ้านที่ฉันสร้างเมื่อปีที่แล้วนั้นงดงามที่สุดในหมู่บ้าน ตอนนี้คนทั้งหมู่บ้านต่างก็อิจฉาฉัน หลายคนที่นี่อยากติดตามฉันเพื่อหารายได้ก้อนโต แต่ฉันไม่อยากพาใครมาด้วย แต่นายแตกต่าง นายเป็นเพื่อนของเสี่ยวชิงและเสี่ยวชิงก็เป็นเพื่อนที่ดีของฉัน ดังนั้นฉันไม่รังเกียจที่พานายมาอยู่ใต้ปีกของฉัน”
“ขอบคุณ” ลู่ชิงสีกล่าวอย่างแข็งทื่อ
อาจูยิ้มและล้อเลียนเขา “เสี่ยวชิงบอกแล้วว่านายเป็นคนพูดน้อย ฉันไม่คิดว่านายจะน่าเบื่อมากขนาดนี้ ไม่เป็นไร ๆ เราเป็นเพื่อนกันแล้ว ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอก”
จากนั้นเขาก็พาลู่ชิงสีและเจียงเหยาออกจากสถานีรถไฟ เขานำหน้าพวกเขาไปสองก้าว ดังนั้นเจียงเหยาจึงสามารถเห็นได้อย่างง่ายดายว่าเท้าขวาของเขาเดินกะเผลกเล็กน้อย
ในบรรดาเอกสารที่เจียงเหยาจำได้ก่อนที่เธอจะมา เธอรู้ว่านั่นคืออาจู เขาเป็นชายอายุ 26 ปี และเขาอยู่ในแก๊งนี้มา 5 ปีแล้ว เท้าขวาของอาจูหักตั้งแต่เขายังเด็ก นั่นคือตอนที่บิดาผู้ให้กำเนิดทำร้ายเขาตอนที่เขาเมา
อาจูมีวัยเด็กที่น่าสังเวช พ่อของเขาเกียจคร้านและเล่นการพนัน ตอนที่เขาอายุ 2 ขวบ แม่ของเขาทนต่อพฤติกรรมของสามีไม่ไหว จึงทิ้งลูกและหนีไป อาจูมีลุง ป้า และย่า ย่าเป็นคนที่ปฏิบัติต่อเขาดีกว่าใครในครอบครัว อย่างไรเสีย ท่านชราแล้ว และต้องทนต่ออารมณ์ของลูกชาย ดังนั้นท่านจึงไม่สามารถปกป้องหลานชายอย่างอาจูได้
__
ตอนที่ 1232 หญิงสาวผู้มีความทะเยอทะยาน
อย่างไรก็ตาม พ่อของอาจูนั้นไร้ประโยชน์ เขาดื่มเหล้าทุกวัน เมาทุกวัน และไม่ทำการทำงานอะไรเลย กลายเป็นภาระของครอบครัว เมื่ออาจูยังเด็ก พ่อของเขาเมาและทุบตีขาของอาจูจนหัก ลุงและป้าของเขาไม่ยอมให้เงินรักษาขาเขา ย่าของเขาจึงพาอาจูไปให้คนในหมู่บ้านรักษาขาให้ น่าเสียดายที่ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี ทำให้ขาขวาของอาจูไม่สามารถกลับมาเดินปกติอย่างเดิม
อาจูไม่ได้ไปโรงเรียน เขาอยู่บ้านและทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด ลุงของเขาต้องการให้อาจูทำงานทั้งหมดของพ่อเขา
ย่าของอาจูเสียชีวิตเมื่ออาจูอายุ 20ปี จากนั้นอาจูก็ออกจากหมู่บ้านเพื่อไปหางานทำที่อ่าน เขาบังเอิญเจอกับเสี่ยติง และติดตามเขามาหลายปี
อาจูออกจากหมู่บ้านด้วยเงินติดกระเป๋าไม่กี่หยวน เขาไม่ได้บอกใครด้วยซ้ำว่าเขาจากไป ไม่มีใครในครอบครัวตามหาเขา ผ่านไปสองปีแล้ว เขาทำเงินที่เขาหาได้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่บ้านเกิดและสร้างบ้านใหม่ เขากลายเป็นคนที่ทุกคนในหมู่บ้านอิจฉา
บางทีประสบการณ์ในวัยเด็กของเขาอาจทำให้เขาลำบากและเหนื่อยเป็นพิเศษ ดังนั้นเขาจึงชอบอวดเมื่อเจอใครต่อใคร
หลังจากพาลู่ชิงสีและเจียงเหยาขึ้นแท็กซี่ เขาก็นั่งเบาะหน้าข้างคนขับและหันร่างของเขาเพื่อพูดคุยกับทั้งสองคนที่อยู่เบาะหลัง
อาจูยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ในสายงานของเรา เงินไม่ใช่ปัญหา ถ้านายทำงานอย่างหนัก เสี่ยวชิงบอกนายเกี่ยวกับฉันแล้วใช่ไหม ตอนที่ฉันอาศัยอยู่ที่บ้านของลุงกับป้า พวกเขาไม่ได้ดีกับฉันเหมือนฉันเป็นคน ฉันต้องตื่นเร็วกว่าไก่ขัน นอนทีหลังสุนัข ทำงานหนักยิ่งกว่าวัว กินน้อยยิ่งกว่านก ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังตะโกนด่าทอฉันตลอดทั้งวัน เมื่อใดก็ตามที่ฉันไม่มีความสุขพวกเขาจะตีและต่อว่าฉัน ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าทำอย่างนั้นกับฉัน พวกเขาปฏิบัติกับฉันราวกับฉันเป็นพระเจ้า หึ ไม่กล้าแม้แต่จะพูดเสียงดังเวลาที่ฉันอยู่ใกล้ ๆ ถ้าฉันบอกให้พวกเขาหัวเราะ พวกเขาจะไม่กล้าร้องไห้เลยล่ะ”
เจียงเหยากล่าวว่า “มันเป็นความผิดของพวกเขาที่ในผ่านมา เขาไม่ปฏิบัติต่อคุณอย่างดี พี่อาจู ถ้าเรามีหาเงินได้มากมายเหมือนกับพี่ ฉันต้องกลับไปที่บ้านเกิดของฉันพร้อมกับพี่ฉางซื่ออย่างภาคภูมิใจเหมือนกับที่พี่ทำ ฉันเองก็อยากให้ลุงและย่าของฉันเห็นใบหน้าที่ภูมิใจของฉันเช่นกัน”
“เฮ้ น้องสาว เธอนี่มีความทะเยอทะยานดีนี่” หัวใจของอาจูละลายเมื่อเจียงเหยาเรียกเขาว่าพี่อาจูด้วยเสียงนุ่มนวล “ไม่ต้องกังวล เธอจะหาเงินได้มากมายแน่ คนเหล่านั้นในหมู่บ้านของฉันขอร้องให้ฉันพาพวกเขาไปทำงานด้วย แต่ฉันไม่พาพวกเขาไป เธอรู้ไหมว่าทำไม เพราะตอนที่ฉันอยู่ในหมู่บ้านไม่มีใครดูแลฉันอย่างดีเลย พวกเขาต่างหัวเราะเยาะฉัน ฉันจำได้ขึ้นใจว่ามีเพียงย่าคนเดียวเท่านั้นที่ดีต่อฉัน น่าเสียดายที่ท่านเสียชีวิตไปแล้ว ท่านไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตร่วมกับฉันด้วยซ้ำ”
เสียงของอาจูฟังดูสำลักเล็กน้อยเมื่อกล่าวถึงย่าของเขา “ท่านเป็นคนดี แต่ท่านไม่เคยมีความสุขเลยแม้แต่วันเดียว”
“พี่อาจู ฉันอิจฉาพี่จริง ๆ พี่มีคุณย่าที่ดีกับพี่มาก ไม่เหมือนย่าของฉัน เธอไม่เคยสนใจฉันเลย” เจียงเหยาดูอารมณ์เสีย
จากนั้นเจียงเหยาก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเบาว่า "พี่อาจู ไม่ต้องเสียใจไปนะ คุณย่าของพี่ดีต่อพี่ ไม่ใช่เพราะท่านต้องการมีชีวิตที่สุขสบายกับพี่ ท่านสนใจพี่โดยไม่มีแรงจูงใจแอบแฝง ท่านจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอนที่เห็นว่าตอนนี้พี่ได้ดี”