ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0093
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0095

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0094


บทที่ 31 ล่า, ยักษ์ (2)

* * *

หัวหน้าชั่วคราวกองอัศวินเหยี่ยวแดง ชีราฮิลล์ นึกถึงเหตุการณ์ในคืนก่อน

ภาพที่มนุษย์เตรียมตัวออกล่าตลอดทั้งคืน

และปัจจุบัน มนุษย์คนนั้น

บึ้มมมมม!

อาจเป็นคนแรกในทะเลทรายที่สร้างบาดแผลให้คราเค่นสำเร็จ

ทะเลทรายอันกว้างใหญ่ เม็ดทรายปลิวว่อน

หนวดของสัตว์ประหลาดฟาดลงจากด้านบน

เรือที่แล่นนำหน้าสุด ถูกโจมตีเข้าอย่างจัง

เกิดระเบิดครั้งใหญ่ หนวดรยางค์เสียหายหนัก

ไม่กี่อึดใจถัดมา กลิ่นดินปืนโชยผ่านจมูกไปด้านหลัง

「คึฮะฮ่าฮ่า! แผนของเจ้าได้ผล!」

คราเค่นโจมตีใส่เรือที่ไม่มีคนโดยสาร — เรือที่เต็มไปด้วยระเบิด

เป็นแผนที่ไม่มีใครทำได้นอกจากมนุษย์คนนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปเอาระเบิดที่ทรงพลังระดับนี้มาจากไหน

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีใครวางใจ

แผลนั่นไม่ได้ทำร้ายคราเค่นมากนัก

ทุกคนมั่นใจ

โฮกกกกก!

คราเค่นโมโห หนวดรยางค์อีกหนึ่งเส้นโผล่ขึ้นจากห้วงลึก

หนวดขนาดมหึมาผงาดสูงเท่าคลื่นยักษ์ และพลิ้วไหวไปมาราวกับเมฆดำ ดูน่าหวาดหวั่นเหนือพรรณนา

ทุกคนเริ่มสั่นกลัว

ยกเว้นมนุษย์ผมดำ

การ์ล·ชีราฮิลล์หันไปมองมนุษย์ อีกฝ่ายกำลังแหงนมองคราเค่นด้วยสายตาดุดันพลางปิดปากสนิท

ไม่หลงเหลือสีหน้าผ่อนคลายที่เคยเห็นจนถึงเมื่อคืน ราวกับมีวิญญาณอีกดวงสลับมาควบคุมร่างแทน

“อันตราย!”

“หมุนหางเสือ! ไม่สิ กางใบเรือเต็มพิกัด!”

โครม!

คราเค่นฟาดหนวดลง เป็นแค่พฤติกรรมในการพยุงร่างกาย

แต่ก็มากพอจะทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน คลื่นยักษ์พุ่งชนเรือ ดาดฟ้าท่วมท้นไปด้วยเม็ดทราย

ชีราฮิลล์จับราวไว้ได้ทัน

ระหว่างนั้น คังซอนฮูหยิบแตรสัญญาณขึ้นมาเป่า

หวูด—!

กลยุทธ์ที่นัดแนะไว้ล่วงหน้า

ทันทีที่เสียงแตรดัง กองเรือซึ่งแล่นเข้าหาคราเค่นเป็นเส้นตรง แบ่งทีมออกเป็นซ้ายขวาเพื่อล้อมคราเค่น

หลังจากปล่อยให้เหยื่อได้พักหายใจครู่หนึ่ง

หวูด—!

เรือหกลำรอบคราเค่นระดมยิงปืนใหญ่พร้อมกัน

บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

กองอัศวินระดมยิงปืนใหญ่กว่าร้อยนัด

แต่สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์มิได้แยแส ทำราวกับโลหะทรงกลมที่พุ่งใส่ด้วยความเร็วสูง เป็นเพียงละอองเม็ดทรายไร้ค่า

คงจะเห็นด้วยหากนั่นเป็นแค่ก้อนเหล็ก

แต่นี่คือกระสุนปืนใหญ่รุ่นพิเศษที่คังซอนฮูสร้างเองกับมือ

ปึด! ปึด! ปึด!

เมื่อกระสุนหลายสิบนัดฝังเข้าไปในตัวคราเค่น คังซอนฮูเหยียดนิ้วข้างที่สวมแหวน

ซู่ว!

อักษรรูนถูกยิงจากมือทันที สลักลงบนร่างคราเค่น

ซ่า!

ท่ามกลางเสียงของบางสิ่งกำลังเดือด กระสุนปืนใหญ่ที่ฝังอยู่ในตัวคราเค่นระเบิดออกพร้อมกัน

เป็นผลมาจากการแปรธาตุ อักษรรูน และสมบัติทองคำ ซึ่งแม้แต่ลิลี่ก็ยังไม่เข้าใจหลักการ

โฮกกก!

หนวดยักษ์ของคราเค่นดีดดิ้นทันที คล้ายกับมันเริ่มหวาดกลัวภัยคุกคามที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน มีหนวดรยางค์ผงาดขึ้นจากห้วงลึกเพิ่มเติม

หนวดสี่เส้นกำลังกวัดแกว่งอย่างดุร้าย

เป็นภาพที่แค่เห็นก็ชวนให้แข้งขาอ่อนแรง

「ทุกคนลงมือได้! ถึงเวลาโจรสลัดเฉิดฉายแล้ว! พวกเราจะกลายเป็นตำนานโจรสลัด! การปล้นครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น! มัวทำอะไรกันอยู่? รีบขยับก้นเร็วเข้า!!」

ทันทีที่โจรสลัดในตะเกียงตะโกนพลางแกว่งดาบโค้ง

หนวดยักษ์ของคราเค่นกระหน่ำฟาดใส่ผืนทราย

เปรี้ยง!

โครม!

หางเสือของเรือบางลำที่กำลังหักหลบไปทางซ้าย แตกเป็นเสี่ยงๆ ในพริบตา

ถึงจะไม่จม แต่ก็ต่อสู้ไม่ได้แล้ว

ชีราฮิลล์เริ่มเครียด

สุดท้ายก็แทบทำอะไรคราเค่นไม่ได้เลย

แผนการนี้บ้าบิ่นเกินไป

“ในเมื่อการโจมตีชุดแรกประสบความสำเร็จ พวกเราควรถอยกลับไปตั้งค่ายพักผ่อน เพื่อเตรียมตัวทำศึกใหญ่ในยกถัดไป!”

นี่เป็นกลยุทธ์พื้นฐานของการรบในทะเลทราย ในหลายครั้งชัยชนะเกิดจากแนวทางนี้

“นายเคยใช้วิธีนี้เอาชนะคราเค่นหรือ?”

“…”

“ถ้าทำแบบเดิม ก็จะได้ผลลัพธ์แบบเดิม”

มนุษย์เลื่อนมือขึ้นมาปิดตา

ตามด้วยพ่นคำ

“ธาม-ทัตซา Tham-tatha”

อิ๊ก—!

เป็นเสียงนกอินทรีร้อง

คล้ายกับตอบสนองต่อรูนของมนุษย์

มนุษย์หลับตาลงพลางเพ่งสมาธิ จากนั้นก็พูดเสียงเบา

“ยัง…”

“รอก่อน…”

ชีราฮิลล์ตั้งคำถามกับพฤติกรรมของมนุษย์

“ให้รออะไร?”

“คราเค่นมีแปดหนวด”

“แล้ว?”

“มันใช้หนวดสี่เส้นโจมตี แล้วที่เหลือล่ะ?”

“…”

ชีราฮิลล์ตอบไม่ได้

เพราะเขาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับคราเค่นเลย

มนุษย์ลืมตาขึ้น นกอินทรีบินไปไกลจนลับสายตา

“มันยังใช้อีกสี่เส้นปกป้องหัวใจ”

“ถ้าอย่างนั้น…”

“ต้องกดดันให้หนักกว่านี้”

จนกว่าจะใช้หนวดทุกเส้นโจมตีเรา

นั่นคือช่วงเวลาที่จุดอ่อนเผยออกมา

พูดจบ มนุษย์กระโดดข้ามรั้วลงไปยังดาดฟ้าชั้นล่างสุด

ในมือกำลังถือกระดานโต้คลื่นที่มนุษย์ปลาชอบใช้

หลังจากผูกเชือกไว้กับเอว เขากระโดดลงไปโต้คลื่นทราย

มนุษย์ร่อนส่ายไปส่ายมาเพื่อหลบการฟาดของหนวด

ไม่นานก็ไปถึงเรือไร้คนลำหน้าสุดที่เต็มไปด้วยระเบิด

จากนั้นก็บังคับหางเสือเพื่อเรือให้แล่นตรงไปทางห้วงลึก

ราวกับจะดึงสติเหล่าเบดูอินที่กำลังสั่นกลัว มนุษย์อาสานำหน้าวิ่งเข้าใส่ศัตรู

แน่นอนว่าคราเค่นไม่อยู่เฉย

เหตุผลที่ยักษ์ไม่กล้าบุ่มบ่ามโจมตี เพราะมันยังขยาดกับระเบิดระลอกแรก โดยกลัวว่าหากโจมตีส่งเดชจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บอีกครั้ง

แต่คราวนี้ต่างออกไป

เห็นได้ชัดว่ามนุษย์โดยสารมากับเรือด้วย จึงควรลงมือเพื่อฆ่าอีกฝ่าย

อย่างน้อยคราเค่นก็คิดแบบนั้น

บึ้มบึ้ม!

เรือลำที่มนุษย์กำลังโดยสาร ทำการยิงขู่คราเค่นที่เริ่มขยับตัว

เปรี้ยง—!

หนวดมหึมาฟาดใส่เรือลำที่มนุษย์โดยสารเต็มแรงจนแหลกละเอียด

และ

บึ้มมมมม——!

เกิดระเบิดรุนแรงอีกครั้ง หนวดคราเค่นดีดดิ้นด้วยความเจ็บปวด

แวมไพร์วิ่งผ่านดาดฟ้าเรือโจรสลัด เชือกตรงเอวมนุษย์ยังคงผูกอยู่กับเรือลำนี้

“ดึง!”

「มัวเหม่ออะไรกันอยู่? บอกให้ดึงไม่ได้ยินรึไง! อืดอาดยืดยาดชะมัด!!」

เหล่ากะลาสีที่ลังเลกับคำสั่งลิลี่ รีบช่วยกันกระชากเชือกกลับมา

“ออกแรงอีก! ดึง!”

กะลาสีต่างทึ่งเมื่อได้เห็นลิลี่แสดงความกล้าหาญ โดยไม่แยแสสถานะขุนนางของตน

ในท้ายที่สุด มนุษย์ถูกดึงกลับขึ้นเรือโจรสลัด

ร่างมนุษย์ถูกห่อด้วยผ้าคลุมสีขาว เป็นเหตุผลที่เขาไม่มีรอยไหม้จากแรงระเบิดแม้แต่จุดเดียว

“ฟู่ว…”

มนุษย์ยืนซวนเซเล็กน้อย ลิลี่สังเกตเห็นสายโลหะในมือคังซอนฮู

มันเชื่อมกับหนวดของคราเค่นเส้นที่ฟาดใส่เรือ

“เทอร์มา tterma”

เปรี้ยะ——!

กระแสไฟฟ้าแรงสูงช็อตใส่หนวดก่อนที่สายโลหะจะขาด รุนแรงถึงขนาดทะลวงเข้าไปในระบบประสาทของหนวด

แม้จะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ก็เป็นการคุกคามที่ร้ายแรงสำหรับคราเค่น

หนวดอีกหนึ่งเส้นถูกยกขึ้นจากห้วงลึก

คราเค่นกำลังร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด

ตลอดช่วงชีวิตอันยาวนานของยักษ์ตนนี้ ไม่มีสิ่งใดเคยคุกคามมันได้นอกจากนิรันดร์ชน

นั่นคือเหตุผลที่ยักษ์ฉงน

มันไม่รู้จักมนุษย์ที่กำลังสร้างอันตรายให้ตน

มันไม่กล้าโจมตีเรือส่งเดช เพราะทุกครั้งจะเกิดระเบิดจนตัวเองบาดเจ็บ

“ทุกคนโหมบุก!”

「บุกเข้าไป!」

“อย่าปล่อยให้มันมีเวลาคิด!”

「พวกเจ้าก็ไม่ต้องคิดอะไร! แผนของโจรสลัดคือการไม่มีแผน! คึฮะฮ่าฮ่า!」

เฉกเช่นที่เราไม่รู้จักคราเค่น คราเค่นก็ไม่รู้จักเรา

เมื่อเป็นเช่นนั้น มันจะทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อขจัดภัยคุกคาม

นั่นคือโอกาส

เหล่าเบดูอินต่างเงยหน้า

ทันใดนั้น ร่างกายของคราเค่นค่อยๆ ถูกยกขึ้น

หมึกยักษ์กลับหัว

ปลาหมึกเป็นแค่ส่วนหนึ่งของร่างกาย ‘ยักษ์’ ที่ชื่อคราเค่น

แค่ส่วนหัวของมัน

โฮกกกกก!

ฝ่ามือขนาดมหึมาผงาดขึ้นจากห้วงลึกและตบใส่มหาสมุทรทราย ไม่นานหัวไหล่ก็ตามขึ้นมา

คราเค่นเลิกคิดมาก

มันหงุดหงิดที่ความกลัวและความอับอายกำลังครอบงำจิตใจ

เหล่าเบดูอินต่างพากันยืนตัวแข็ง

พวกตนกำลังสู้กับอยู่ตัวอะไร?

นั่นเพราะพวกเขากำลังเห็นเต็มสองตา

「เจ้าพวกสมองทึบ! รีบขยับก้นเดี๋ยวนี้! ยังเป็นกะลาสีกันอยู่ไหม? 」

คำสั่งของเอ็ดเวิร์ดเปล่าประโยชน์

คราเค่นยกกำปั้นขึ้น

คังซอนฮูยืนเอาแต่นิ่งพลางมองไปยังกำปั้นที่ค่อยๆ พุ่งลงมา

เขาสติแตกไปแล้ว?

ลิลี่รีบหันหลังกลับ

สิ่งที่อยู่ในสายตาคือหอกพิฆาตสัตว์ร้ายที่เชื่อมติดกับตัวเรือ

“หันหัวเรือ! ไม่ว่ายังไงก็ต้องปกป้องเจ้านั่นไว้!!”

คังซอนฮูยิ้มเมื่อได้ยินลิลี่ตะโกน

“เธอเป็นห่วงอาวุธ?”

“มันเป็นอาวุธชนิดเดียวที่กำจัดคราเค่นได้…”

ขณะพูด ลิลี่มองกลับมายังคังซอนฮู

ตั้งแต่เมื่อไรกันที่เธอคิดถึงเรื่องอื่นมากกว่าชะตากรรมของตัวเอง?

คังซอนฮูยิ้มอย่างภูมิใจเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวลิลี่

จากนั้นก็หันไปมองกำปั้นคราเค่นที่ค่อยๆ ลดระดับลงมา

“ลิลี่”

“…”

“รู้ไหมว่าในอดีต ฉันเอาชนะยักษ์ได้ยังไง”

“…ใครจะไปรู้ เจ้าไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น”

“ฉันไม่ได้สู้คนเดียว”

ฟ้าว!

เสียงของบางสิ่งแหวกอากาศดังขึ้น

ลิลี่เพิ่งตระหนักว่า คังซอนฮูไม่ได้ยืนเฉยๆ

แต่กำลังเชื่อใจใครบางคน

แต่ไหนแต่ไร แผนการคราวนี้ได้นับรวมความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายเข้าไปด้วย

“ฉันบอกเธอแล้วว่าเขาจะมา”

ตึง—!

ใครบางคนร่อนลงบนเรือ

ทุกคนบนเรือ รวมถึงเหล่าเบดูอิน หยุดพฤติกรรมและหันไปมองร่างที่ค่อยๆ ยืนขึ้น

ชุดเกราะสีเงินสะท้อนแดดจ้าของทะเลทราย

ปีกโลหะที่ชำรุด แต่ยังพอใช้การได้

ชีราฮิลล์ทำคางสั่น

“ท…ท่านอัศวิน”

อัศวินแห่งท้องฟ้าจ้องหน้าคังซอนฮู

คังซอนฮูมองเข้าไปในตาอีกฝ่ายพลางผงกศีรษะ

ซู่ว!

เงาดำแผ่ปกคลุมลำเรือ

กำปั้นคราเค่นกำลังสร้างลมปะทะที่หนักหน่วง

อัศวินแห่งท้องฟ้ายังคงเอาแต่จ้องหน้าคังซอนฮู

ในใจเอาแต่ครุ่นคิดเกี่ยวกับความกล้าหาญอันบ้าบิ่นของมนุษย์ตรงหน้า

อัศวินยังไม่เข้าใจ

ความกล้าหาญกับความบ้าบิ่น แท้จริงแล้วคือสิ่งเดียวกัน?

อัศวินแห่งท้องฟ้าอยากทดสอบดูสักครั้ง

เขาย่อตัวลง งอเข่าเล็กน้อยพร้อมกับดึงไหล่ข้างหนึ่งไปด้านหลัง

หมัดตรงเอวกำแน่น

“มาแล้ว!”

วินาทีที่กำปั้นคราเค่นเข้ามาใกล้

อัศวินแห่งท้องฟ้าชกสวนกลับไป

—!

เปรี้ยง———!!

แรงปะทะทำเอาเรือโจรสลัดจมลงไปในทรายครึ่งลำ

“ว๊ากกก!”

เบดูอินหลายคนเกือบตกเรือ แต่สุดท้ายก็จับราวไว้ได้ทัน

เรือที่ถูกกดจนจม อาศัยแรงพยุงของทราย เด้งกลับขึ้นมาบนผิวทรายอีกครั้งในลักษณะลื่นไถลไปตามผิวกำปั้น

ร่างกายกว่าครึ่งของอัศวินแห่งท้องฟ้าถูกทำลาย โลหะสีเงินที่เคยเป็นชุดเกราะกระจัดกระจายไปทุกทิศ

อัศวินแห่งท้องฟ้าอยู่ในท่าคุกเข่าหนึ่งข้าง

กำปั้นคราเค่นที่ได้รับความเสียหายหนัก ถูกส่งลอยกลับขึ้นไปบนฟ้า

ท่ามกลางเสียงร้องอันเจ็บปวด คราเค่นสูญเสียการทรงตัวเล็กน้อย

“สุดยอด…”

มีเพียงคังซอนฮูที่อุทานด้วยเสียงผ่อนคลาย

“เจ๋งชะมัด”

แต่ชายหนุ่มรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เวลามัวดีใจ กำปั้นอีกฝ่ายแค่เสียหาย ยังมีอีกแปดหนวดที่อาละวาดอย่างบ้าคลั่ง

ทุกจุดที่หนวดฟาดลงไปจะเกิดรอยแผลใหญ่ นำไปสู่สึนามิทรายขนาดมหึมา ลำพังแค่เรื่องนี้ก็สร้างภัยพิบัติได้มากมายแล้ว

“สละเรือ!”

“กระโดดลงไป!”

“พ่อแก้วแม่แก้วช่วยด้วย…!”

เหล่ากะลาสีที่สละเรือรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด และหนีไปด้วยกระดานโต้คลื่นหรือไม่ก็เรือเล็ก

คังซอนฮูปีนขึ้นหลังเรลิกซิน่าพลางมองอัศวินที่มีสภาพยับเยิน

“กรร…”

มองหัวจรดเท้า

“ท่านอัศวิน”

อัศวินไม่ตอบ

อาจจะตายไปแล้วก็ได้

สภาพยับเยินจนชวนให้คิดแบบนั้น

ครึ่งหนึ่งของร่างกายท่อนบน รวมถึงหัวไหล่หนึ่งข้าง หายไปโดยสมบูรณ์

ละอองพลังเวทที่พยายามควบแน่นก็อยู่ในสภาพไม่คงที่

“ฉันต้องการพลังจากอัศวิน”

“…ข้าไม่มีพลังเหลือแล้ว ทำไมถึงยังคาดหวังจากข้า”

“เพราะเชื่อใจยังไงล่ะ”

“แต่ข้าไม่มีดาบ”

ท่ามกลางสติที่ค่อยๆ เลือนราง อัศวินหวนนึกถึงมังกรที่เคยอาศัยบนเกาะเดียวกัน

เขายังไม่ลืมภาพของมังกร ที่ตนเห็นในช่วงปีสุดท้ายขณะอาศัยอยู่ร่วมกัน

เยื่อหุ้มปีกฉีกขาด ผิวหนังซีดเซียวจนกลายเป็นสีเทา

จุดจบของตัวตนอันรุ่งโรจน์ในยุคทอง มักลงเอยเช่นนี้เสมอ

ขณะเดียวกัน อัศวินรู้สึกผ่อนคลาย

“…กิโฮเต้น่ะ”

ทันใดนั้น มนุษย์พูดชื่อที่คาดไม่ถึงออกมา

“กิโฮเต้ได้ปีกสมัยรุ่งโรจน์กลับคืนมา และบินขึ้นไปบนฟ้าแล้ว”

อัศวินทราบดี ท้องฟ้ามีความหมายอย่างไรกับกิโฮเต้

“เขาได้รับอิสรภาพ และมีหน้าที่ในการพาเหล่ามังกรกลับมา”

กิโฮเต้คนนั้นน่ะหรือ?

มังกรผู้ซีดเซียวจนกลายเป็นสีเทา และทำได้เพียงรอเวลาที่จะถูกลืมเลือน

สามารถโบยบินไปบนฟ้าได้อย่างอิสระ?

มนุษย์คนนี้รู้ได้ยังไง?

“…แต่ว่า”

ความตกตะลึงที่ผุดขึ้นชั่วขณะ จมกลับลงไปในทะเลแห่งจิตใจอีกครั้ง

“ข้าไม่มีดาบ”

ทันใดนั้น เอ็ดเวิร์ดโผล่ออกจากตะเกียงตามอำเภอใจ

「เจ้าทึ่มเอ้ย! ให้เรียกคนอย่างเจ้าว่าไอ้โง่ ข้ายังสงสารคนโง่!!」

สีหน้ายับยู่ยี่ประหนึ่งกระดาษถูกขยำ มือข้างที่ถือดาบกำลังสั่นเท่าราวกับอยากฟาดฟันเต็มแก่

「เด็กชายที่เจ้าพยายามจะช่วยน่ะ! ความปรารถนาของเด็กคนนั้นให้กำเนิดข้า! 」

“เด็กตายไปแล้ว ข้าช่วยไว้ไม่ได้”

「ไอ้เด็กนั่นไม่เคยขอให้เจ้าช่วย!」

อัศวินแห่งท้องฟ้าเงยหน้ามองภูตตะเกียง

「คิดว่าเด็กคนนั้นวิ่งไปหาคราเค่นเพราะเชื่อใจเจ้าหรือไง? คิดว่าเขาอยากมีชีวิตรอด? ผิดแล้ว! เด็กคนนั้นวิ่งไปทางคราเค่นเพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเองต่างหาก! เขาอยากเห็นเมืองที่อยู่ข้างล่าง!!」

เอ็ดเวิร์ดนึกทบทวนอดีต

ก่อนที่ตนจะถือกำเนิด เขายังไม่ลืมความฝันของเด็กชายผู้มีหน้าที่ทำความสะอาดเรือโจรสลัด

「เด็กคนนั้นโง่เขลาถึงขนาดไม่รู้ว่า ความฝันของตัวเองไม่มีวันเป็นจริง…」

“…”

อัศวินแห่งท้องฟ้านึกทบทวนใบหน้าเด็กชายที่ตนอยากปกป้อง

เมื่อมองย้อนกลับไป ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้เผยสีหน้าหวาดกลัว

「เด็กชายตัวเล็กๆ เลือกที่จะทำตัวกล้าหาญจนถึงที่สุด! แต่เจ้ากลับเผ่นหนีเยี่ยงคนขลาดและเอาแต่เก็บตัวเงียบบนภูเขา!! 」

「สำหรับเด็กคนนั้น ความฝันสำคัญยิ่งกว่าชีวิต! เขายอมสละชีวิตเพื่อให้เข้าใกล้ความฝัน! ศักดิ์ศรีของเจ้ายิ่งใหญ่กว่าชีวิตของเด็กคนนั้นอีกรึไง? ทำไมถึงทิ้งมันไปไม่ได้? เจ้าสมองกลวง! จะเอาแต่คุกเข่าไปจนตายก็เชิญ!! 」

จากนั้นก็หันมาพูดกับคังซอนฮู

「ข้ายอมตายด้วยเหตุผลเดียวกับที่ข้าเกิดมา! เหมือนกับเด็กคนนั้นที่ไล่ตามความฝันจนตาย! นี่คือวิถีของโจรสลัด! เจ้าคิดจะทำยังไงต่อ? เจ้ามนุษย์!」

คังซอนฮูยิ้มพลางพยักหน้า

ตามด้วยก้มมองอัศวินแห่งท้องฟ้าสักพัก

ท่าทีเช่นนี้คือการดูหมิ่น?

ผิดแล้ว เป็นความเชื่อใจต่างหาก

“ไปเลย! เรลิกซิน่า!”

“กรร!”

「การปล้นแห่งตำนานเริ่มขึ้นแล้ว!!」

คังซอนฮูกระโดดข้ามราวกั้นลงไปยังผืนทราย

มุ่งหน้าตรงไปยังห้วงลึกที่คราเค่นอยู่

ลิลี่เฝ้ามองแผ่นหลังคังซอนฮูโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็คุกเข่าเผชิญหน้ากับอัศวินแห่งท้องฟ้า

“ข้าช่วยได้แค่นี้”

ลิลี่บรรจงซ่อมแซมอักษรรูนส่วนที่เสียหายบนหน้าผากอัศวิน

จากนั้นก็ขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือชั้นสอง

“ขึ้นลำหอกพิฆาตสัตว์ร้าย!!”

“จะให้ยิงไปไหน?”

“เป้าจะต้องเปิดออกแน่นอน! เขาจะสร้างโอกาสนั้นขึ้นมา!!”

แวมไพร์เชื่อใจคังซอนฮู

อัศวินแห่งท้องฟ้าครุ่นคิด เหตุใดมนุษย์ถึงเชื่อใจตน ทั้งที่ตนยังไม่เชื่อใจตัวเอง?

สิ่งใดกำลังสั่นคลอนจิตใจของตนอยู่?

คำพูดของภูตตะเกียง? สายตาของมนุษย์คนนั้น?

เขาสำรวจหัวใจตัวเองอย่างเงียบงัน

สามเหลี่ยมกำลังหมุนด้วยความเร็ว

เขาเอาแต่จ้องมองฉากนั้น เพื่อดูว่ามุมแหลมของสามเหลี่ยมทิ้งรอยแผลแบบใด

จนกระทั่ง

ฉีบ!

อัศวินแห่งท้องฟ้าเหยียดแขนไปข้างหน้าพร้อมกับกางฝ่ามือ

เขาเฝ้ารอส่วนหนึ่งของตัวเอง ที่เคยถูกทิ้งเมื่อในอดีต

รูนลิฟวิงเมทัลบนหน้าผากกำลังส่องแสงอ่อนโยน

* * *

คังซอนฮูสัมผัสถึงการหมุนของ ‘เข็มชี้ทองคำ’ ในอ้อมอก จึงหยิบออกมาเปิดดู

เข็มชี้กำลังสั่น

สมบัติทองคำชิ้นถัดไปซึ่งควรจะหลับใหลอยู่ในห้วงลึก ตอนนี้กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร่ง

คังซอนฮูฉีกยิ้มกว้าง ทั้งคนทั้งม้ามุ่งหน้าเข้าหาห้วงลึก

แหวนถูกสวมลงบนนิ้ว

* * *

ลิฟวิงเมทัล

สิ่งที่เคยประกอบเข้าด้วยกันจนกลายเป็นลิฟวิงเมทัล จะถูกดูดเข้าหากันไม่ว่าจะอยู่ห่างแค่ไหน

ไม่สนว่าจะมีทรายขวางทางอยู่ หรือแม้กระทั่งร่างกายของยักษ์

ลิลี่เห็น

วัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งขึ้นจากห้วงลึกในจุดห่างไกล กำลังส่องแสงเจิดจ้า

เคร้ง!

มันบินใส่ฝ่ามือของอัศวินแห่งท้องฟ้าด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง

ชิ้นส่วนชุดเกราะทยอยเติมเต็มบาดแผลของอัศวิน

อัศวินลุกขึ้นพร้อมกับดาบที่ตนเคยทิ้ง

จากนั้นก็ตั้งท่า

ลิลี่เคยเห็นภาพนี้

ท่าเริ่มต้นของวิชาดาบที่นักพิพากษาสืบทอดต่อกันมา

ทันใดนั้น

ครืนนนนนน——!

ใกล้กับคราเค่น โกเล็มทรายผงาดขึ้น

หมับ!

มือของโกเล็มทรายคว้าคอคราเค่นและบีบแน่น คราเค่นพยายามขัดขืนพลางแกว่งหนวดส่งเดช

แม้ร่างโกเล็มทรายจะกระจัดกระจาย แต่ท้ายที่สุดก็ตรึงคราเค่นเอาไว้ได้

“เตรียมยิง! โอกาสมีแค่ครั้งเดียว!!”

ครึกครึกครึกครึก! ตึง—!

เสียงรอกหมุนดังขึ้น หอกพิฆาตสัตว์ร้ายค่อยๆ เล็งเป้าไปทางคราเค่น

กึกกึกกึกกึก!

สายดีดถูกง้างจนตึง

ตึง!

หอกถูกขึ้นลำ

หอกส่องแสงสีแดงทันที พลางส่งเสียงร้องโหยหวนคล้ายภูตผี

“โอกาสมีแค่ครั้งเดียว! ทุกคนเพ่งสมาธิให้ดี!!”

หมับ!

โกเล็มทรายเค้นพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อตรึงคราเค่นให้อยู่นิ่ง

อัศวินแห่งท้องฟ้าพุ่งเข้าหาคราเค่นประหนึ่งดาวตก

“ยิง!!”

“ย๊ากกกก!”

หอกพิฆาตสัตว์ร้ายพุ่งผ่านฝุ่นทรายตรงไปยังหัวใจยักษ์

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (3/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด