Ep.394 - มอนสเตอร์น่าสะพรึงเบื้องล่างทะเลสาบ
2/3
Ep.394 - มอนสเตอร์น่าสะพรึงเบื้องล่างทะเลสาบ
ลึกเข้าไปในชั้น 3 ของคุกโบราณ
ในมุมหนึ่งที่ไม่เด่นสะดุดตา
ทีมของฮังอวี่ก้าวออกมา
ฮัสกี้ที่กำลังสำรวจเส้นทางเห่าทันที “ฮ่ง! ข้างในร้อนเป็นหมาอบ แต่ข้างนอกกับหนาวเป็นหมาแช่แข็ง นี่มันโลกคู่ขนานระหว่างน้ำแข็งกับไฟชัดๆ”
มืดมิด , น่าขนลุก ... และเย็นเฉียบ
นี่คือสถานการณ์ภายในชั้น 3 ของคุกโบราณ
กลุ่มคนเดินเข้ามาที่นี่ ให้ความรู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่ยุคน้ำแข็งที่หนาวสุดขั้ว คราบน้ำแข็งเริ่มปรากฏขึ้นบนร่างกายอย่างรวดเร็ว ได้รับดาเมจจากธาตุน้ำแข็งอย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติ พลังชีวิตค่อยๆลดลง ค่าคุณสมบัติว่องไวก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ฮังอวี่พูดกับทุกคนว่า “พวกเราผ่านทางลัดมาแล้ว ตอนนี้น่าจะนำหน้าคาลิมัว อย่าทิ้งกลิ่นอายไว้เบื้องหลังจะได้ไม่ถูกพบตัว”
ก่อนออกจากทางลัด
ฮังอวี่กับคนอื่นได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว อันดับแรกพวกเขาโปะตัวเองด้วยผงกำจัดกลิ่นอาย จากนั้นดื่มโพชั่นลมหายใจเต่า และโพชั่นพรางตัว แล้วใช้คัมภีร์สกิลเงาปกคลุม พยายามอย่างเต็มที่เพื่อกลบกลิ่นอายของตัวเองด้วยทุกวิถีทาง
พวกเขาเชื่อ
ถ้าทำถึงขนาดนี้ต่อให้เป็นยอดฝีมือจากเมืองธารทะเลทราย ก็เป็นการยากที่จะตรวจพบกลิ่นอายที่ตกค้าง
เพราะเซนทอร์ไม่มีพรสวรรค์ในการสะกดรอยเท่าไหร่นัก
“พลังรบของทีมจากเมืองธารทะเลทรายแข็งแกร่งชนิดอยู่ในระดับที่ผิดปกติ ด้วยพลังรบของพวกเราเพียงอย่างเดียวไม่อาจสั่นคลอนพวกมันได้” จ้าวหมิงค่อนข้างงงงวยกับแผนการของฮังอวี่ “หรือว่าจะให้พวกเราซุ่มรอ แล้วหาจังหวะเหมาะๆโจมตีพวกมัน?”
ฉูเทียนหัวแนะนำว่า “ฉันเดาว่าน่าจะต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าที่ทีมจากเมืองธารทะเลทรายจะมาถึงที่นี่ บางทีพวกเราอาจล่วงหน้าไปก่อน แล้วถือโอกาสนี้กำจัดมอนสเตอร์สัก 2-3 ตัว”
ฮังอวี่ส่ายหัวปฏิเสธข้อเสนอของทั้งสอง
พลังรบของขุนนางใหญ่เหนือยิ่งกว่าผู้นำคุกโบราณไปมาก และบรรดาเหล่ายอดฝีมือจากเมืองธารทะเลทรายตนอื่นๆก็ไม่น่าจะได้ไปกว่าชาเฮย
ในระหว่างที่พวกมันกำลังพัวพันกับมอนสเตอร์ ในระหว่างที่พวกมันกำลังรับมือกับ BOSS ในทางทฤษฎีก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะใช้จังหวะนั้นโจมตีเมืองธารทะเลทรายเช่นกัน และอาจทำให้พวกมันเสียชีวิตได้หลายตน กระนั้นมันก็ยากเกินไปหากคิดดำเนินการ
เพราะอย่างแรกเลยต้องเข้าไปประชิดพวกมันเสียก่อน ซึ่งศัตรูกลุ่มนี้ไม่ใช่มอนสเตอร์ IQ ต่ำ
ทุกตนเป็นชาวโลกฝ่ายวิญญาณที่มีประสบการณ์!
คิดหมายเข้าใกล้
พูดง่ายทำยาก
ยังไม่พูดถึงเรื่องที่นอกจากฮังอวี่แล้ว คนอื่นๆไม่มีใครเลยที่ครอบครองเทคนิคล่องหนที่ดีพอ
แม้แต่ฮังอวี่ก็ยังยากที่จะเข้าประชิดตัวคาลิมัว ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะในฐานะขุนนางใหญ่ ค่าคุณสมบัติของมันต้องสูงมาก ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคตรวจสอบ อาศัยแค่ประสาทสัมผัสเพียงอย่างเดียวก็อาจสามารถรับรู้ถึงตัวตนของฮังอวี่ได้
ต่อให้มือดีมีโชคเข้าข้าง สามารถฆ่าสมาชิกของมันได้ตนหรือสองตน
แต่หลังจากนั้นทีมของฮังอวี่จะหลบหนีได้หรือไม่?
เซนทอร์มีความได้เปรียบในด้านความเร็วมากเกินไป!
ฮังอวี่กล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ผมคิดแผนมาแล้ว ตอนนี้ที่พวกเราต้องทำคือค้นหาตำแหน่งของ BOSS ใหญ่ให้ได้เสียก่อน เจ้าหมา! ถึงตานายแล้ว”
ในชั้น 3 ของคุกใต้ดินมีมอนสเตอร์น่ากลัวอยู่มากมาย
หวังเอ๋อรู้สึกได้ถึงการดำรงอยู่ที่ทรงพลังหลายตนในเวลาเดียวกัน ซึ่งมากพอแล้วที่จะทำให้ขนสุนัขทั้งตัวลุกชัน แต่ถ้าสังเกตดีๆ ก็ใช่ว่าจะหาได้ยากอะไร เจ้าหมาตรวจพบว่าในส่วนลึกสุดของคุก มีตัวตนอันน่าสยดสยองที่สุดตนหนึ่งอาศัยอยู่
“เจ้านาย เปิ่นหวังรู้สึกได้ ดูเหมือนพวกมันจะอยู่ไม่ไกล” สีหน้าของหวังเอ๋อดูหวาดกลัวมาก “เจ้าตัวนั้นเหมือนจะมีพลังรบมากกว่าผู้นำคุกโบราณหลายเท่า ต่อให้สอง ผู้นำคุกโบราณมัดรวมการ ก็เกรงว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับเจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้ ... นี่พวกเราจะสู้มันได้จริงๆหรือ”
คนอื่นๆหน้าถอดสีพอได้ยินคำนี้
กระทั่งสองผู้นำคุกโบราณ มัดรวมกันก็ยังแกร่งไม่เท่า ?
งั้นเจ้าหมอนี่ก็ร้ายกาจมากเลยล่ะสิ? ทีมของฮังอวี่ต้องพยายามแทบตายกว่าจะเอาชนะผู้นำคุกโบราณมาได้ แต่ BOSSใหญ่ ที่กล่าวถึงมันคือการดำรงอยู่ที่เกินกว่าขอบเขตจะรับไหว
“นำทางไป!”
ทุกคนเริ่มออกเดินทาง
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของทีมฮังอวี่เป็นไปอย่างเชื่องช้า
นั่นเพราะสิ่งที่อยู่ในคุกโบราณชั้น 3 ไม่ใช่แค่เรื่องมีจำนวนมากมาย แต่เกือบทุกตนยังอันตรายถึงชีวิต
ฮังอวี่ต้องอาศัยความทรงจำของจอมปราชญ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นพวกมันให้มากที่สุด ใช้เวลามากกว่า 5 ชั่วโมงจึงจะถึงที่หมาย
“ที่นี่แหละ”
ทุกห้องขังในคุกโบราณมีขนาดใหญ่มาก พื้นที่ของมันไม่ต่างจากวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องขังที่อยู่ตรงหน้านี้
เมื่อเปิดประตูเข้าไป จะพบว่าเป็นทะเลสาบขนาดเล็ก เป็นทะเลสาบที่ผิวน้ำสีดำมีแต่ความเงียบงัน มันราวกับกระจกที่ปราศจากคลื่น
ภายในพื้นที่ขนาดใหญ่นี้เต็มไปด้วยหมอกหนา หนายิ่งกว่าหอคอยหมอกของพวกมนุษย์ปลา และด้วยพลังรบกับเลเวลในตอนนี้ของฮังอวี่ ยังแทบมองไม่เห็น ทัศนวิสัยของเขาไม่เกิน 20 เมตรดท่านั้น
สำหรับทุกคนที่อยู่ที่นี่ ยกเว้นฉินมู่กับฮังอวี่ คนอื่นมองเห็นไม่เกิน 5 เมตรเท่านั้น
ฉินมู่เป็นผู้ใช้วิญญาณ ดังนั้นค่าคุณสมบัติจิตรับรู้ของเขาเลยสูงมาก ทัศนวิสัยการมองเห็นกว้างถึงประมาณ 50 เมตร
“ทุกคนรู้สึกอะไรไหม” จางเสี่ยวเฉียงอยู่ๆก็เกิดปวดหัวขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มรู้สึกอึดอัดมาก “ฉันเวียนหัวปวดตัวไปหมด อยากจะอ้วกเหมือนคนกำลังตั้งท้อง แล้วอีกอย่างเหมือนว่ากำลังมีบางอย่างที่พูดอยู่ในหูฉัน”
“เหมือนกัน”
“ฉันก็ด้วย”
“เปิ่นหวังก็รู้สึก เหมือนว่ายิ่งเข้าใกล้ข้างในมากเท่าไหร่ความรู้สึกนี้ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น ฮ่ง ... เหมือนว่าเปิ่นหวังจะถูกสาป ค่าพลังชีวิตลดลงเร็วขึ้นกว่าเดิม!”
ทุกคนเหมือนกันหมด
นอกเหนือจากการกัดเซาะจากธาตุน้ำแข็งแล้ว
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกโจมตีทางจิตวิญญาณอีกด้วย ไม่ใช่แค่ทำให้ร่างกายรู้สึกอึดอัด แต่ยังเกิดประสาทหลอนทางหู และมีการสูญเสียพลังชีวิตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม พูดถึงเรื่องนี้ ฮังอวี่กับเจียงหนานมีอาการน้อยกว่าคนอื่น
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะฮังอวี่กำลังสวมใส่ ‘สร้อยคอป้องกันจิตวิญญาณ’ ที่มีคุณภาพสีฟ้า
ขณะที่เจียงหนานในฐานะนักบวช ทำให้เธอมีค่าคุณสมบัติศักดิ์สิทธิ์และเจตจำนงสูง ซึ่งพวกมันมีผลช่วยบรรเทาเอฟเฟกต์เหล่านี้ได้
“BOSSใหญ่ของคุกโบราณอยู่ที่นี่แล้ว เวลานี้มันยังหลับใหล แต่ถึงแม้จะอยู่ในสถานะจำศีล ก็ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตที่เข้ามาใกล้”
“อย่าแตะต้องทะเลสาบเด็ดขาด ทันทีที่สัมผัสลงบนน้ำ มันจะตื่นขึ้น”
“เอาล่ะ ตอนนี้มาดื่มโพชั่นกันก่อน แล้วตามผมมาให้ดี”
ทุกคนหยิบโพชั่นที่เตรียมมาขึ้นดื่ม พวกมันมีทั้งโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิต โพชั่นเพิ่มความต้านทานจิตวิญญาณ และโพชั่นที่มีผลช่วยเพิ่มค่าเจตจำนงชั่วคราว ฯลฯ
จากนั้นเดินตามฮังอวี่เข้าไป โดยที่ไม่ได้สัมผัสน้ำในทะเลสาบอันน่าขนลุก
เดินไปตามขอบพื้นดินอย่างระมัดระวัง
บางครั้งก็สามารถมองเห็นสิ่งแปลกๆผ่านหมอกหนา มันเป็นอะไรที่มีลักษณะเหมือนหนวดปลาหมึก พวกมันยื่นขึ้นมาจากน้ำ ค่อยๆแกว่งจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง โดยรวมแล้วมีสีม่วงแดง แต่สิ่งที่น่าหวาดผวาที่สุด คือบนหนวดพวกนั้นมันเต็มไปด้วยดวงตา
แน่นอน
ดวงตาเหล่านี้กำลังปิดอยู่
มีหนวดมากมายอยู่ในทะเลสาบ และทุกครั้งที่เข้าใกล้หนวดเหล่านี้ การโจมตีทางจิตที่ทุกคนโดนจะรุนแรงขึ้น
แม้จะเตรียมโพชั่นมาแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกแทบทนไม่ไหว
หลายคนเริ่มหลั่งเหงื่อเย็น
ให้ตายเถอะ เจ้าหมอนี่กำลังจำศีลอยู่จริงๆน่ะหรอ?
แค่นอนหลับอยู่เฉยๆกลับสามารถปลดปล่อยการโจมตีทางจิตได้รุนแรงและเป็นวงกว้างขนาดนี้เชียว?
ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้ามันตื่นขึ้นมาแล้วจะทรงพลังขนาดไหน!
พื้นที่นี้มีขนาดใหญ่มาก
ใช้เวลามากกว่าครึ่งชั่วโมง
ในที่สุดฮังอวี่ก็พาคนอื่นๆมาถึงมุมตะวันออกเฉียงเหนือของห้องขังยักษ์ สถานที่แห่งนี้มีพื้นดินเยอะกว่าตำแหน่งอื่นๆเล็กน้อย อีกทั้งยังอยู่ห่างไกลจากหนวดอันน่าสยดสยอง ดังนั้นการโจมตีทางจิตจึงอ่อนลง
“พี่มหาเทพ พวกเรามาถึงที่นี่แล้วต้องทำยังไงกันต่อ?”
“อืม ทุกคนเหนื่อยกันมากแล้ว เพราะงั้นตอนนี้ขอให้ออฟไลน์แล้วกลับไปพักผ่อนกันก่อน”
ทุกคนสับสน
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?
ฮังอวี่กล่าวว่า “ที่เหลือจากนี้คือพวกเราต้องรอ แต่ถ้าอยู่ที่นี่ต่อไป ทุกวินาทีพวกเราจะถูกโจมตีด้วยธาตุน้ำแข็งกับจิตใจ ... โพชั่นใกล้จะหมดแล้ว ตอนนี้ขอให้ออฟไลน์ไปก่อน เมื่อถึงเวลาผมจะแจ้งให้ทุกคนทราบอีกครั้ง”
พูดถึงเรื่องนี้
แผนการของฮังอวี่ไม่ได้ซับซ้อน
เขารู้ว่ามอนสเตอร์ที่หลับอยู่ในทะเลสาบแก่กล้าเพียงใด
และทีมจากเมืองธารทะเลทรายก็น่าจะรู้เช่นกัน เป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะเอาชนะมอนสเตอร์ตัวนี้ในทะเลสาบ ทางเดียวที่ต้องทำคือปลุกมันให้ตื่น จากนั้นล่อออกจากห้องขังยักษ์ แล้วค่อยล้อมโจมตีจากภายนอก
ซึ่งฮังอวี่คิดจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้!
พื้นที่ที่ BOSS ที่ทรงพลังที่สุดอาศัยอยู่ ตามปกติแล้วหีบสมบัติที่นี่ต้องมีคุณภาพสูงสุด
หากเป็นในสถานการณ์ปกติ ฮังอวี่ไม่มีทางคว้ามันมาได้ และยิ่งไม่กล้าแม้แต่จะรับมัน
อย่างไรก็ตาม หากเขาใช้ทีมจากเมืองธารทะเลทรายล่อ BOSS ใหญ่ออกไปได้ ด้วยวิธีนี้โอกาสสำเร็จจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 60 - 70 เปอร์เซ็นต์!
ทุกคนทำตามทันที
การออฟไลน์ต้องใช้เวลาหลายนาที และระหว่างนี้ห้ามถูกโจมตี
จ้าวหมิงเปิดใช้งานสกิลป้องกันก่อนเป็นอันดับแรก ปกคลุมทุกคนไว้ ช่วยให้ได้รับการคุ้มครองชั่วคราวจากการโจมตีทางจิตและธาตุน้ำแข็ง เปิดประตูสู่โลกจริงอย่างราบรื่น และออกจากสถานที่แห่งนี้ไป