2028 - เส้นทางบ่มเพาะสิ้นสุดแล้ว
2028 - เส้นทางบ่มเพาะสิ้นสุดแล้ว
สือฮ่าวนั่งบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ผ่อนคลายร่างกายและปลดปล่อยภาพธรรมอันยิ่งใหญ่ออกมาเหนือห้วงจักรวาล ร่างกายของเขาใหญ่โตน่าเหลือเชื่อมากเกินไปราวกับยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้สร้างโลก
รอบตัวเขา ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวหมุนวนไปรอบๆ ขณะที่เส้นผมของเขากลายเป็นสีเงินมีความเปล่งประกายที่ถูกปลดปล่อยออกมา ราวกับว่ามีแม่น้ำสีเงินไหลลงมาจักรวาลอันยิ่งใหญ่!
“โลกนี้เข้าสู่ยุคไร้การฝึกฝนอย่างแท้จริง ไม่อย่างนั้นข้าอาจจะมีโอกาสทดลองก้าวเข้าสู่ระดับเต๋าอมตะแล้ว!” สือฮ่าวรำพึงเบาๆ
เขาลืมตาขึ้นแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องออกมาทำให้จักรวาลอันยิ่งใหญ่ถูกแช่แข็งในความเย็น
ในความเป็นจริง ความเร็วในการฝึกฝนของเขานั้นก็น่าเหลือเชื่อมากเกินพอแล้ว ถ้าคนอื่นได้ยินสิ่งที่เขาพูดพวกเขาอาจคลั่งใจตายด้วยความคับแค้น!
อย่างไรก็ตาม สำหรับสือฮ่าวมันค่อนข้างช้าจริงๆ ยิ่งกว่านั้น ความเร็วประเภทนี้จะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จนไม่มีความคืบหน้าในที่สุด
นี่คือการปราบปรามของสวรรค์และปฐพี เป็นการตอบโต้ประเภทหนึ่ง
สิ่งเดียวที่โชคดีคือคมดาบแห่งเจตจำนงสวรรค์ไม่ได้รบกวนเขาอีกต่อไป คุกแห่งนี้ราวกับมีข้อจำกัดบางอย่างซึ่งมีพลังมหาศาลอย่างน่าประหลาด
คุกแห่งนี้ปิดเส้นทางทุกประเภท แต่ก็หยุดการกัดกร่อนอันน่าสะพรึงกลัวของยุคไร้ฝึกฝนได้เป็นอย่างดี
เมื่อเทียบกับสามพันแคว้น ยุคที่ไร้การฝึกฝนของอาณาจักรล่างยังค่อนข้างเบา! อาจเป็นเพราะการป้องกันของคุกแห่งนี้ที่ทำให้ทุกอย่างดำเนินได้ช้าลง แต่อย่างไรก็ตามมันจะมาถึงอย่างแน่นอนเพียงขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
“ถึงเวลาที่ข้าต้องเผชิญหน้ากับคำสาปทำลายอมตะอีกครั้งแล้ว!”
สือฮ่าวลุกขึ้นและมุ่งหน้าไปยังดินแดนปิดผนึกอีกครั้ง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การบ่มเพาะของเขาเป็นไปตามรูปแบบนี้ เขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าเพื่อต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตในคุกหลังจากนั้นก็ออกมาเผชิญหน้ากับคำสาปทำลายอมตะ
เมื่อเขาสามารถเอาชนะมันได้เขาก็จะออกมาเพื่อนั่งสมาธิในความสันโดษเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่ได้รับ
ในชั่วพริบตาอีกยี่สิบสามสิบปีก็ผ่านไปอย่างนี้ เวลาดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อการฝึกฝนของเขา
ในปีนี้ถ้าเขานับอย่างจริงจังอายุของสือฮ่าวน่าจะเกินร้อยปีแล้ว อย่างไรก็ตาม เขายังคงใช้เวลาทั้งวันโดยไม่รู้ตัวเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการฝึกฝนของตัวเอง
นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเวลา แม้จะผ่านไปหลายปี จิตใจของเขาก็ยังสดใสบริสุทธิ์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
เขาเกิดมาเพื่อฝึกฝนจริงๆ
ความเร็วในการฝึกฝนของเขานั้นน่าตกใจเกินไป เกินจินตนาการของผู้ฝึกฝนทั่วไป
เมื่ออายุได้ร้อยปีสือฮ่าวได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดของผู้สูงสุดและยืนอยู่บนยอดของอาณาจักรเต๋ามนุษย์ เขาสามารถกวาดล้างคู่ต่อสู้ในแดนมนุษย์ได้โดยไม่ต้องกลัวอะไร
เมื่อเทียบกับช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา ความเร็วในการฝึกฝนของเขาลดลงจริงๆพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเก็บได้จากจักรวาลนั้นลดน้อยถอยลงกว่าเดิมมาก!
นอกจากนี้ผลกระทบของยุคไร้การฝึกฝนยังคงดำเนินต่อไป โลกนี้เริ่มไม่เสถียรมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมาสภาพแวดล้อมเลวร้ายลงจนถึงขีดสุด
ฮู…
ภายในวังสีทองสือฮ่าวคำรามดังขึ้นอีกเขาอดทนกับความเจ็บปวดมหาศาล พลังงานโลหิตจำนวนมากหลั่งไหลผ่านรอยแยกของประตูวัง ทำให้เกิดลมและสายฟ้ากระจัดกระจายออกสู่ด้านนอก
ร่างกายอายุร้อยปีของสือฮ่าวดูเหมือนจะถูกตรวจจับจากเจตจำนงแห่งสวรรค์ได้ในที่สุด พร้อมกันนั้นคมมีดแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ก็บินลงมาจากท้องฟ้าเพื่อทำลายเต๋าของเขา
สือฮ่าวกำลังต่อต้านคำสาปทำลายอมตะ แต่เขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อคมดาบแห่งเจตจำนงของสวรรค์ได้เช่นกัน
คราวนี้มันดำเนินต่อไปเป็นเวลาหลายวัน กระดูกทั้งหมดในร่างกายของเขาถูกทุบจนแหลกละเอียดแล้วจึงค่อยสร้างขึ้นมาใหม่ ทักษะเต๋าของเขาถูกบีบอัด เต๋าของเขาละลายไปเล็กน้อย
ในสายตาของผู้อื่น นี่เป็นการสิ้นเปลืองพลังศักดิ์สิทธิ์ ทำให้การบ่มเพาะของตัวเองตกลง แต่ในความเห็นของสือฮ่าวนี่เป็นการกลั่นโลหะที่แท้จริงผ่านเปลวไฟ
เขาขัดเกลาส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปเหลือไว้แต่แก่นแท้เท่านั้น วันหนึ่งเมื่อทักษะเต๋าของเขาไม่เสื่อมลงอีกต่อไป มันจะเป็นวันที่เขาประสบผลสำเร็จกลายเป็นคนที่ไม่มีใครเทียบได้!
สือฮ่าวถอนหายใจเบาๆ เขาออกจากวังโบราณแห่งนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ทักษะเต๋าของเขาถูกจำกัดอย่างมาก เขามาถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรเต๋ามนุษย์แล้ว แต่คำสาปที่อยู่ในร่างกายของเขากับถูกทำลายลงทีละนิดเท่านั้น
สือฮ่าวเดินออกจากสถานที่แห่งนี้ วังสีทองกลายเป็นสายฝนแห่งแสงและหายวับไปเหลือแต่ซากภูเขาและอาคารที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต
วังโบราณแห่งนี้เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นโดยราชันย์แห่งดินแดนปิดผนึกไม่ใช่ของที่มีอยู่จริง
สือฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาใช้เวลาหลายทศวรรษกว่าจะถึงระดับสูงสุด และหลายทศวรรษกว่าจะค่อยๆ ขึ้นสู่จุดสูงสุดของอาณาจักรนี้ โลกนี้เริ่มโหดร้ายขึ้นเรื่อยๆตามที่คาดไว้
อย่างไรก็ตาม เขาควรจะพอใจกับสิ่งที่เขามี
ท้ายที่สุดเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงสุด ทักษะเต๋าของเขาไปถึงจุดสูงสุดของเต๋ามนุษย์แล้วนั่นคือเหตุผลที่เขายังคงต้านทานการการโจมตีของใบมีดแห่งเจตจำนงสวรรค์ได้ทุกครั้ง
ในทศวรรษที่ผ่านมา เด็กๆที่เกิดมาในโลกนี้สูญเสียความสามารถในการฝึกฝน พวกเขาสร้างรากฐานได้ยากขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะฝึกฝน
“แก่นแท้ทางจิตวิญญาณของโลกได้เหือดแห้งเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ค่อยๆห่างออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ ความขมขื่นของยุคไร้การฝึกฝนยังคงปรากฏให้เห็นในท้ายที่สุด” สือฮ่าวพูดกับตัวเอง
ตอนนี้ การฝึกฝนของเขาได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่เขาไม่ได้ไปเยี่ยมราชันย์ดินแดนปิดผนึก ไม่ได้ขอให้เขาสร้าค่ายกลที่เชื่อมต่อไปยังโลกแห่งเขื่อน
ยิ่งมีระดับการบ่มเพาะสูงขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองอ่อนด้อยมากขึ้นเท่านั้นสือฮ่าวยังคงไม่พอใจ
จุดสูงสุดของสิ่งมีชีวิตสูงสุดคือยอดของเต๋ามนุษย์ แล้วเขาจะสามารถก้าวไปอีกครึ่งก้าวได้หรือไม่? ยังมีอาณาจักรที่ซ่อนอยู่ก่อนที่จะถึงอาณาจักรอมตะหรือไม่?
หากไม่มีแล้วเหตุใดเขาจึงรู้สึกเหมือนผู้อาวุโสใหญ่ไปถึงระดับนั้นก่อนที่เขาจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะ ? แม้ว่าเขาจะยังไม่กลายเป็นผู้อมตะที่แท้จริงแต่กลับสามารถสังหารสิ่งมีชีวิตอมตะได้!
รัศมีประเภทนี้แม้แต่จินไท่จุนและผู้สูงสุดจากต่างมิติพวกนั้นก็ไม่มี นอกเหนือจากผู้อาวุโสใหญ่แล้วสือฮ่าวก็สามารถสัมผัสได้จากเซียนอมตะหวังอีกคนเท่านั้น
“ข้าต้องไปให้ถึงระดับนั้นให้ได้!”
สือฮ่าวมุ่งหน้าไปยังโลกที่พังพินาศอีกครั้ง ซึ่งเป็นที่ที่ราชันย์ดินแดนปิดผนึกจัดให้ นี่คือสนามรบของผู้สูงสุดทั้งหมดเป็นสิ่งมีชีวิตยุคก่อนประวัติศาสตร์ บางตัวเขาไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อ
เมื่อเขาลากร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยออกมาอีกครั้ง สือฮ่าวก็กลับไปที่หมู่บ้านหินผา เขาเริ่มคิดถึงเส้นทางในอนาคตของตัวเอง เขาต้องทบทวนให้ดีเพราะตอนนี้เส้นทางของเขาสิ้นสุดแล้ว
ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงของหมู่บ้านหินผาไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ประชากรของพวกเขาเพิ่มมากขึ้นดินแดนของพวกเขาจึงขยายออกไปอย่างกว้างขวาง
โชคดีที่หมู่บ้านหินผาเตรียมการไว้นานแล้ว สถานที่ที่มีมังกรเก้าตัวดึงโลงศพและมีโลกภายในโลงศพทองแดงนั้นมันเต็มไปด้วยความเขียวขจี แก่นแท้แห่งจิตวิญญาณยังคงอุดมสมบูรณ์เช่นเดิม
เด็กที่เกิดมาใหม่และผู้เฒ่าสูงอายุซึ่งกำลังจะจากไปถูกส่งเข้าสู่สถานที่แห่งนั้น ให้พวกเขาเพลิดเพลินกับแก่นแท้อันมากมายมหาศาล
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในโลงศพและดูเหมือนจะไม่เป็นมงคล แต่ในความเป็นจริงมันช่วยให้คนรุ่นหลังของหมู่บ้านหินผาสามารถสร้างรากฐานและต่อต้านผลกระทบของยุคไร้การฝึกฝนได้จริงๆ
คนอื่นๆในหมู่บ้านที่เหยียบย่างบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะมานานในที่สุดก็สัมผัสได้ถึงความโชคร้ายของคนรุ่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะสามารถบ่มเพาะในโลงทองแดงแต่ความเร็วในการฝึกฝนของพวกเขายังคงช้าลงจริงๆ
สิ่งที่ดีที่สุดก็คือพวกเขาได้รับประโยชน์มากมายจากดินแดนสุสานตะวันตก ในที่แห่งนั้นพวกเขาได้สกัดแก่นแท้ของร่างที่อยู่ใต้ดินรวมทั้งยังต่อสู้อาบเลือดเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ตอนนี้พวกเขาเปิดอาณาจักรใต้ดินออกมาหลายชั้นแล้วเพียงแต่ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับศพของผู้สูงสุดมากมายพวกเขาก็ได้แต่ถอยกลับ
แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการบ่มเพาะของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็เทียบไม่ได้กับความเร็วของเมื่อก่อนเลย อย่างไรก็ตามรากฐานเต๋าของพวกเขานั้นแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ
หลายปีที่ผ่านมามู่ชิง, สือจง, จูหลิน มังกรแดงและคนอื่นๆได้ฝึกฝนตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งแต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถทะลวงออกจากอาณาจักรปลดปล่อยตนเองเข้าสู่อาณาจักรผู้สูงสุดได้
คำสาปห้าร้อยปี นอกเหนือจากสือฮ่าวก็เป็นไปไม่ได้อีกแล้วสำหรับคนอื่นที่จะทะลวงผ่าน