ตอนที่ 7 - เทพแห่งปืนของจริง
4/5
ตอนที่ 7 - เทพแห่งปืนของจริง
แพ้ตั้งแต่นัดแรก!
ใบหน้าของตู้หยูเฟยเปลี่ยนเป็นซีดขาว เหลียวมองย้อนกลับไปทางเจียงฮ่าว มีความกังวลในดวงตาของเธอ
ถึงเจ้าหมอนี่จะคอแข็ง แต่เขาดื่มเหล้าไปแล้วสี่ขวด ไม่รู้ว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหน
“เทพปืนกินไก่ ขอแนะนำให้นายรู้จัก นี่คือวอดก้ารัสเซีย ระดับดีกรีสูงมาก” เจิ้งเหว่ยหัวเราะ
เจียงฮ่าวยิ้มมุมปาก รับแก้วมาแล้วเทเข้าปากโดยไม่พูดอะไร
“อยากจะเห็นจริงๆว่าเขาจะมีสภาพตอนตายเป็นยังไง” หญิงสาวร่างสูงหัวเราะเย็นชา คนอื่นๆก็ส่ายหัวเช่นกัน
วอดก้าขึ้นชื่อเรื่องเหล้าที่แรงที่สุดในโลก
หนึ่งแก้วถ้าดื่มไม่ระวังสามารถฆ่าคนได้ เจ้าหนูนี่ไม่ใช่กำลังมองหาความตายอยู่ใช่หรือไม่?
“เอิ๊ก!”
เจียงฮ่าวเรอ ยกแขนเสื้อเช็ดปากเขา ยิ้มเบาๆ “แข่งต่อสิ”
กลุ่มคนที่มุงดูตะลึง
เจิ้งเหว่ยหางตากระตุก หยิบขวดวอดก้าที่เพิ่งเทขึ้นดมกลิ่น เมื่อยืนยันด้วยตัวเองจนมั่นใจ ก็มองเจียงฮ่าว หัวเราะเสียงเย็น “ฉันจะรอดูว่านายจะทนได้ถึงไหน”
คราวนี้เป้าหมายไกลขึ้นกว่าเดิม มันถูกปรับไปอยู่ในตำแหน่ง 100 เมตร
อันที่จริงการยิงแบบนี้ไม่ง่ายอย่างที่ทุกคนคิด และความยากของระยะทางเท่านี้ถือว่าสูงมาก
ตู้หยูเฟยสูดหายใจเข้าลึกๆ งอเอวลงเล็กน้อย ก้นโค้งขึ้น เจิ้งเหว่ยเฝ้ามองทุกฉากนี้แลบลิ้นเลียริมฝีปาก “เหอ เหอ อีกเดี๋ยวเธอก็จะตกเป็นของฉัน ...”
ปัง!
คราวนี้ยิงโดนวง 9 แต้ม แต่สีหน้าของตู้หยูเฟยดูดีขึ้นมาก เพราะผลงานนี้ถือว่าดีมากแล้ว เรียกได้ว่าเกินมาตรฐานทีเดียว
“เทคนิคไม่เลว แต่ยังห่างไกลกับฉัน” คิมกวนหมิงส่ายหัว ยกมือขึ้นแล้วยิง --วง 10 แต้มอีกแล้ว!
“ดื่มให้หมด!” เจิ้งเหว่ยมองเจียงฮ่าวด้วยรอยยิ้มเยาะ
เจียงฮ่าวยกเหล้าขึ้นดื่มอีกแก้ว สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง ราวกับว่าเขามีภูมิต้านทานแอลกอฮอล์
...
ภาพเช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ใบหน้าของเจิ้งเหว่ยดูไม่ดีอีกต่อไป
เจ้าหมอนี่ดื่มวอดก้าไปสามขวดติดต่อกันแล้ว ตู้หยูเฟยไม่เคยยิงชนะเลยแม้แต่ตาเดียว ตอนนี้เธอแทบร้องไห้ มีหลายครั้งที่มองกลับมาทางเจียงฮ่าวด้วยความเป็นห่วง
“ฉันได้ยินมาว่ามีบางคนสามารถหลั่งเอนไซม์ในร่างกายได้มาก คนพวกนี้แทบจะมีภูมิต้านทานต่อแอลกอฮอล์ สงสัยพวกเราต้องใช้ยา” หญิงร่างสูงกระซิบข้างหูเจิ้งเหว่ย โดยที่ไม่สังเกตเลยว่าหูของเจียงฮ่าวกระตุกเล็กน้อย
รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเจิ้งเหว่ย เขาพยักหน้าอนุญาต หญิงร่างสูงรับทราบแล้วไปเตรียมเหล้าขวดใหม่มา
“คราวนี้เปลี่ยนเป็นเป้าหมายเคลื่อนที่”
คิมกวนหมิงได้ยิงก่อน เป้าหมายห่างออกไป 200 เมตร และได้ถึงวง 9 แต่สีหน้ากลับดูไม่ค่อยพอใจนัก
ตู้หยูเฟยเวลานี้หน้าซีดขาว เหงื่อเย็นหยดย้อยจากหน้าผากเธอ
ณ ขณะนี้ เจียงฮ่าวลุกขึ้นยืน เอ่ยปากว่า “ให้ฉันลอง”
ทุกคนตื่นตกใจ เจิ้งเหว่ยหัวเราะแล้วกล่าวว่า “ทำไม? เทพปืนกินไก่ของพวกเราจะลงมือแล้ว?”
“ฮ่าๆๆๆ นี่จะให้ฉันหัวเราะจนตายเลยรึไง คนที่ไม่เคยแตะปืน แค่แรงถีบนายก็ทนไม่ไหวแล้ว!” หญิงสาวตัวสูงหัวเราะไม่ต่างกัน
ตู้หยูเฟยกัดริมฝีปากเธอ มองดูขวดวอดก้าที่ว่างเปล่าบนโต๊ะ พยักหน้าแล้วถอนหายใจ “นายไหวแน่ใช่ไหม?”
เจียงฮ่าวดื่มได้มากขนาดนี้ มันก็ทำให้เธอประทับใจมากแล้ว ตอนนี้เธอไม่สามารถปล่อยให้เขาเสี่ยงชีวิตดื่มเพื่อเธอได้อีกต่อไป
ตู้หยูเฟยหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋า ตั้งใจจะโทรขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบว่าไ่ม่มีสัญญาณ
“แปลกใจหรอ?”
เจิ้งเหว่ยยิ้มชั่วร้าย ความหื่นกระหายในดวงตาไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
คนหัวรั้นอย่างเธอ ในที่สุดก็เริ่มประหม่าเป็นกับเขาบ้างแล้วสิตอนนี้
ตู้หยูเฟยหย่อนตัวลงบนที่นั่ง มือน้อยๆสั่นเทา กุมแก้วเหล้าที่ใส่วอดก้าดีกรีสูงจนความร้อนแผ่ออกมาถึงข้างนอก
“ดูถูกกันชัดๆ” คิมกวนหมิงส่ายหัว
“คนของประเทศจีนมีเยอะยิ่งกว่าเมล็ดข้าว แต่แทบไม่มีใครรู้วิธีใช้ปืน มิน่าเล่าถึงเกือบถูกล้างประเทศไปเมื่อหลายสิบปีก่อน”
เจียงฮ่าวได้ยินคำนี้ ดวงตาเขาหรี่แคบลงทันที แค่นเสียงเย็น ยกปืนขึ้นด้วยมือเดียว แขนเหยียดตรงไหล่ไม่มีงอ ดูสบายๆ เอียงศีรษะหันเพื่อเล็งเล็กน้อย
“ท่าถือปืนแบบนี้ .. เฮ้อ” คิมกวนหมิงส่ายหัว ถอนหายใจด้วยความรำคาญ
ความหวังน้อยๆในใจตู้หยูเฟยมลายหายไปอย่างสิ้นเชิง เดิมเธอนึกว่าเจียงฮ่าวจะเป็นยอดฝีมือที่ซุ่มซ่อนตัว
แต่ดูจากท่าถือปืนของเขา เห็นได้ชัดว่าเจิ้งเหว่ยและคนอื่นๆ พูดถูก เขาคงไม่เคยแตะปืนมาก่อน
“แล้วคนธรรมดาที่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสปืนมาก่อน จะชนะได้ยังไง” ตู้หยูเฟยถอนหายใจ
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้น หัวใจของเธอหมดหวัง
“เป็นไปได้ยังไง!” อย่างไรก็ตาม คิมกวนหมิงจู่ๆก็อุทานออกมา
วง 10!
พรึบ!
คนอื่นๆลุกพรวดจากเก้าอี้ แก้วของตู้หยูเฟยหยุดลงทั้งๆที่มันจ่อถึงปากแล้ว เธอจ้องมองไปทางเจียงฮ่าวด้วยความประหลาดใจ
เจ้าหมอนี่ เสือซ่อนเล็บของจริงหรือ?
“เป็นไปไม่ได้! เขาแค่บังเอิญโชคดี!” เจิ้งเหว่ยใบหน้าบึ้งตึง เขาผลักแก้วเหล้าไปให้ลูกน้องที่อยู่ข้างๆ “แกดื่มมันซะ”
ใบหน้าของลูกน้องคนนั้นซีดเซียวเล็กน้อย แต่ก็ยังพยายามยกดื่มจนหมด ก่อนหันหลัง เดินตัวเซจากไป
ใบหน้าของคิมกวนหมิงดูน่าเกลียดยิ่งกว่า เขาคำราม “ฉันจะแพ้เจ้าขยะแบบนี้ได้ยังไง! แค่โชคดี ... แกก็แค่โชคดีเท่านั้น! เพิ่มความยากขึ้นอีก ต่อไปแข่งยิงจานร่อน กระสุนคนละสิบนัด กล้ารึเปล่า!”
“ตามสบาย” เจียงฮ่าวยักไหล่อย่างเฉยเมย
“เชี่ยเถอะ เจ้าหมอนี่พอโชคดียิงโดนก็ทำเป็นเก่งเลยนะ” เจิ้งเหว่ยเหน็บแนม หันไปพูดกับตู้หยูเฟยว่า “งั้นพวกเราสองคนคงต้องสู้ตาม หนึ่งนัดต่อหนึ่งแก้ว”
ตู้หยูเฟยถูกบังคับจนใบหน้าซีดลง
แต่เธอสัญญาไปแล้ว มือทั้งสองข้างบีบแก้วแน่นยิ่งขึ้น หวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นอีกครั้ง
วิธีการแข่งยิงจานร่อนก็ง่ายๆ ด้วยกระสุนที่จำกัด ใครยิงจานร่อนได้มากที่สุดเป็นผู้ชนะ
“ฉันขอยิงก่อน” คิมกวนหมิงพร้อมแล้ว ทัศนคติของเขาจริงจังรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อจานร่อนอยู่เบื้องหน้าเขาก็เริ่มยิงออกไป
จานร่อนถูกโยนจากที่ห่างออกไป 300 เมตร ต่อให้ใช้แว่นขยายก็ยังเห็นแค่จุดเล็กๆ ฉะนั้นการยิงมันให้โดนเป็นเรื่องยากมาก
ตามด้วยเสียงกระสุนปืนลั่น คิมกวนหมิงยืดอกด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเขา
“แปดแต้ม!”
“น่าทึ่งมาก! จานร่อนอยู่ไกลถึงขนาดนั้นแต่ยังยิงได้ถึง 8 แต้ม!”
“แถมยังใช้เวลาแค่ครึ่งนาที สุดยอด!”
คนอื่นๆที่รับชมพากันปรบมือปลื้มปริ่ม ในทางกลับกัน ใบหน้าของตู้หยูเฟยหมองเป็นขี้เถ้า
การยิงระดับนี้ เธอสามารถยิงได้ไม่คะแนนมากสุดไม่เกิน 3 4 แต้มเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าการอาศัยโชคไม่มากพอที่จะประสบผล
“นี่แค่เริ่มต้น” เจียงฮ่าวส่ายหัว โยนปืนเดิมในมือทิ้งไปข้างๆ
“ยังไง? เทพปืนกินไก่อยากเปลี่ยนอาวุธหรอ?” เจิ้งเหว่ยเลิกคิ้ว
ดวงตาของเจียงฮ่าวกวาดไปรอบๆกองปืน แล้วตัดสินใจหยิบ AK47 ขึ้นมา!
“นี่นายบ้าไปแล้ว!” ตู้หยูเฟยลุกพรวด โกรธถึงขีดสุด
“ฮ่าๆๆๆๆ ฉันขำจะตายอยู่แล้ว”
“ดูนั่นสิ นายเห็นไหมว่าเขาทำอะไรลงไป ไม่น่าเชื่อจริงๆเขาเลือกปืน AK”
AK47 คือปืนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทว่าแรงถีบก็ชื่อเสียงยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน คนเล่นปืนหลายคนยังทนไม่ไหว แต่เจ้าหมอนี่กลับกล้าใช้ปืน AK ยิงจานร่อน
น่าขันจริงๆ!
“ตู้หยูเฟยเอ๋ย ตู้หยูเฟยสงสัยวันนี้เธอต้องเป็นของฉันซะแล้ว” มุมปากของเจิ้งเหว่ยผุดยิ้มพอใจ
“คนจีนช่างโง่เขลา ด้วย IQ ของพวกนายคิดได้แค่นี้หรือ?” คิมกวนหมิงหัวเราะเย็นชา
เจียงฮ่าวยกปืนขึ้นด้วยสองมือ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย
จานร่อนถูกปล่อยออกมาแล้ว ระยะทางเริ่มไกลไปเรื่อยๆ เป้าหมายค่อยๆห่างไกลออกไป พริบตานั้นม่านตาเขาพลันเบิกกว้าง จานร่อนที่ถูกโยนออกไปเบื้องหน้ากลายเป็นเชื่องช้าอย่างน่าประหลาดใจ
เจียงฮ่าวถือ AK ด้วยมือทั้งสองข้าง เอียงคอแนบสันจมูกลงกับด้ามปืน เตรียมยิงในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด
“จานร่อนจะตกลงแล้วนะ!” ตู้หยูเฟยตะโกนอย่างเร่งรีบ
“หุบปากซะ!” เจียงฮ่าวหันกลับมาตวาดสวนอย่างไม่คาดคิด เล่นเอาเธอสะอึกไป
ดวงตาลึกล้ำคู่นั้น ยามจ้องมองมา คล้ายเต็มไปด้วยแรงกดดันและความดุร้ายตามธรรมชาติ ทำให้หัวใจของตู้หยูเฟยสั่นไหวอย่างรุนแรง
หลังจากเขาหันกลับไป ตู้หยูเฟยถึงค่อยรู้สึกตัว ลอบสาปแช่งในใจ ‘คนโง่’
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง!
ทั้งสิบนัด ถูกยิงออกไปในลมหายใจเดียว!
ราวกับว่าตัวปืนถูกร่ายมนตร์ให้ไม่สั่นไหว มันถูกตรึงนิ่งไว้ระหว่างสองมือของเจียงฮ่าว ไม่ปรากฏแรงถีบใดๆเลย!
แรงดีดอันเป็นเอกลักษณ์ของ AK ได้หายไปอย่างน่าประหลาดใจ
นี่เขาใช้เทคนิคอะไรกัน?
“นั่น ... นั่นคงเป็นปืนของเล่นใช่ไหม?” มีคนยกมือขึ้นหยิกหูเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ฝันไป เอ่ยด้วยใบหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“เปล่า ... นั่นปืนจริง ว่าแต่เขายิงพลาดหมดเลยใช่ไหม” หญิงสาวร่างสูงเอ่ยต่อ
“โดนทุกนัด .... สิบ .... สิบแต้ม!” เสียงของผู้รายงานคะแนนสั่นสะท้าน
ตูม!
เสมือนดั่งสายฟ้าฟาดจากฟ้าตกลงเหนือหัวฝูงชน แต่ละคนแทบลมจับด้วยความตกใจ
ใช้ปืน AK ยิงจานร่อนที่อยู่ห่างออกไป 300 เมตรโดนทุกจานและจบในลมหายใจเดียว!?
ดวงตาอันมีเสน่ห์ของตู้หยูเฟยเปล่งประกาย มองแผ่นหลังของเจียงฮ่าวด้วยความชื่นชม คล้ายดั่งเทพธิดาที่เกิดความเลื่อมใสในตัวเทพเจ้า
คิมกวนหมิงราวกับสูญสิ้นเรี่ยวแรงทั้งหมด แข้งขาอ่อนแรง คุกเข่าลงต่อหน้าเจียงฮ่าว ก้มหัวลง “นายคือเทพเจ้าแห่งปืนจริงๆ”