ตอนที่ 2 - ทำไมยังไม่ไปนอน
2/3
ตอนที่ 2 - ทำไมยังไม่ไปนอน
" แก!"
เย่ซีหยูทั้งอายทั้งโกรธ หน้าสวยๆของเธอแดงจนเหมือนกับจะมีเลือดไหลออกมา กำหมัดแน่นและต่อยไปที่ใบหน้าของเจียงฮ่าว
ถ้าผู้หญิงคนนี้ตีโดน เจียงฮ่าวคงตายท่ามกลางห่ากระสุนไปตั้งนานแล้ว
เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย แกล้งทำเป็นตกใจนิดหน่อย
กำปั้นลูบผ่านแก้มเขา พุ่งไปข้างหลัง และเนื่องจากออกแรงมากไป เย่ซีหยูเลยโถมมาข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ขาที่พาดอยู่บนไหล่ของเจียงฮ่าวแน่นกว่าเดิม
ห้ามลืมนะว่า
ตอนนี้เธอกำลังสวมแค่เสื้อคลุมอาบน้ำ!
กึก ...
รองเท้าส้นสูงสีแดงคู่หนึ่งเดินมาที่ประตู หยุดลงอย่างกะทันหัน เสียงหนึ่ง อุทาน " เธอยังไม่นอน ... อีกเหร--"
สภาพของ เย่ซีหยูตอนนี้กำลังสวมเสื้อแค่เสื้อคลุมอาบน้ำ ขาเรียวยาว 2 ข้าง แยกออกจากการและมีข้างหนึ่งพาดอยู่บนไหล่ของเจียงฮ่าว
แสงจากไอน้ำทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่สภาพของคนสองคนที่ตัวชิดติดกัน เหมือนจะไม่ต้องบรรยายก็พอจะคาดเดาได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นถุงน่องที่ขาดอยู่บนพื้น ...
ใบหน้าของเย่ซีหยูแปรเปลี่ยนไป เธอผลักอกเจียงฮ่าว สองขาเรียวหุบเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ชี้มือไปที่ผู้บุกรุก ตะโกนอย่างโกรธเคือง " ไอ้คนพาล กล้าดียังไงมาปล้นบ้านคนอื่นเขา!"
เจียงฮ่าวหัวเราะอย่างเฉยเมย สายตาเหลือบมองเสื้อคลุมอาบน้ำครู่หนึ่ง ในใจรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
" คุณหนูเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร เหอ เหอ"
"ไอ้บ้ากาม! อย่ามาทำตีเนียนนะ" เย่ซีหยูพ่นลมหายใจเย็นชา สายตาเย็นชาถึงขีดสุด หันไปพูดกับผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามา "พี่เค่อซิน รีบแจ้งตำรวจจับโจรอันธพาลนี่เร็ว!"
พี่สาวที่ยืนอยู่หน้าประตู สวมชุดเดรสครึ่งตัวสีแดงเพลิง รัดเอวบางและหน้าอกแน่น ใต้เข่าสวมถุงน่องเซ็กซี่ลายคริสตัล มือหยกยกขึ้นป้องปากแล้วหัวเราะคิกคัก
คนนี้น่าจะอายุราวๆ 24-25 ปี ดูเป็นผู้ใหญ่สุดเซ็กซี่ ดวงตากลมดังเม็ดโอสถอันมีเสน่ห์มองมาทางพวกเขาทั้งสอง
" คนรู้จักกันทั้งนั้น อย่าโทรเรียกตำรวจให้เสียความรู้สึกเลย"
" ใครรู้จักเขา? ฉันไม่รู้จักคนพาลแบบนี้ ไอ้สาระเลวหื่นกาม!" เย่ซีหยูฮึดฮัด เหลือบมองเจียงฮ่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
ตัวก็สูงใหญ่ หน้าตาก็ไม่เลว แต่หนวดเคราสกปรก แถมยังใส่ชุดลายพรางโทรมๆอีก มองแว๊บแรกเหมือนไปขโมยมาจากหุ่นไล่กา
เจียงฮ่าวไม่สนใจสายตาถากถางของอีกฝ่าย สีหน้าของเขาตื่นเต้นนิดหน่อย รีบเดินเข้าผู้หญิงที่ประตู สวมกอดเธอโดยไม่พูดพล่ามทำเพลง " ไม่เจอกันนานเลยนะ!"
" ใช่ไม่เจอกันนานเลย ..." เฉินเค่อซินรู้สึกซาบซึ้งเล็กน้อย ริมฝีปากแดงสุดเซ็กซี่เผยอขึ้น เลื่อนมือไปตบเอวกว้างของเจียงฮ่าวเริ่มเอ่ยน้ำเสียงอึกอัก " ไม่เจอกันนาน แต่พอกลับมา นายก็คิดเอาเปรียบพี่สาวทันทีเลยหรอ?"
ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนี่ตื่นเต้นหรือว่าตั้งใจ แต่ตอนเขาพุ่งเข้ามาเธอเกือบชกหน้าเขาแล้ว
" โอ้สวรรค์ ขอโทษทีผมตื่นเต้นไปหน่อย" เจียงฮ่าวรีบแก้ตัวด้วยใบหน้าไร้เดียงสา
มองพี่สาวและน้องชาย คล้ายกำลังจีบกัน เย่ซีหยูทนไม่ไหวอีกต่อไป"พี่เค่อซิน ไอ้คนพาลนี่มันใคร? รู้จักกันจริงเหรอ?"
ดวงตาสวยๆคู่นั้น ข้างในถูกขีดเขียนด้วยสีสันของความไม่เชื่อ
ถึงงานของเฉินเค่อซินจะค่อนข้างเทาๆ แต่เธอก็ไม่น่าจะคบค้าสมาคมกับอาชญากรอย่างนี้หรอกถูกไหม?
เจียงฮ่าวไม่สนใจ เขาดึงเฉินเค่อซินเข้ามาใกล้ๆแล้วถามว่า " ลูกพี่ลูกน้องที่แสนดีของผม ทำไมถึงมีคนอื่นมาวิ่งเล่นในบ้านหลังนี้? เธอเป็นเพื่อนพี่หรอ ทำไมถึงทำร้ายคนอื่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ คงไม่ใช่คนโรคจิตหรอกนะ? "
" พูดดีๆใครโรคจิต แกนั่นแหละไอ้หน้าด้าน อยู่ๆก็พุ่งเข้ามาคิดจะทำไม่ดีไม่ร้ายฉัน!" เย่ซีหยูแทบระเบิดเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น ชี้ไม้ชี้มือตะโกนด่าทอเจียงฮ่าวด้วยความโกรธ
เธอเป็นแพทย์นิติเวช อีกทั้งยังเป็นยอดฝีมือยิวยิตสู เรียนจบจากมหาลัยดัง แต่เจ้าหมอนี่กลับมาว่าเธอโรคจิต เย่ซีหยูโกรธมาก
" ก็ดูเธอสิ อาการเหมือนภูเขาไฟที่พร้อมปะทุตลอดเวลา ฉันกลัวจริงๆว่าวันหนึ่งเธอจะจุดไฟเผาบ้านหลังนี้" เจียงฮ่าวไม่กลัวการทะเลาะวิวาทกับคนอื่น โดยเฉพาะกับผู้หญิง
เขาเคยทะเลาะกับผู้หญิงตั้งหลายครั้ง แต่สุดท้ายจบลงที่เตียง
เพราะงั้นตอนนี้เขาไม่ใช่แค่ไม่กลัว แต่กำลังตั้งตารอด้วยความคาดหวัง
เห็นว่าวิวาทะท่านี้มีแนวโน้มจะเลยเถิดไปไกล เฉินเค่อซินก็รีบเดินมาขวางทั้งสอง " เอาล่ะ เอาล่ะ ทั้งหมดเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด เสี่ยวฮ่าว คุณหนูคนนี้ชื่อว่าเย่ซีหยูเธอเป็นเพื่อนของฉันเอง จบจากมหาวิทยาลัยแพทย์ในเมืองหลวง ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 หลังจากนั้นไปเรียนต่อต่างประเทศ ตอนนี้เป็นหมอนิติเวชอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง"
ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ เย่ซีหยูเชิดคางขาวราวหิมะขึ้น แค่นเสียงใส่เจียงฮ่าว ดูภูมิใจน้อยๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งความน่ารัก
เจียงฮ่าวได้ยินแบบนั้น แต่ไม่นานเขาก็ยิ้มและส่ายหัว นึกว่าอะไรที่แท้ก็ นักศึกษาจบใหม่
"พี่เค่อซิน แล้วตกลงเจ้าเด็กนี่มันอะไรกัน!" เย่ซีหยูยังคงเดือดอยู่ ถึงตอนนี้จะดีขึ้นมากแล้วก็เถอะ
เฉินเค่อซินหัวเราะกับท่าทีของเธอ ตอบกลับไปว่า "ซีหยู อย่าดูถูกลูกพี่ลูกน้องคนนี้ของฉัน เขาเข้าโรงเรียนนายร้อยตอนอายุ 14 เป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่"
" มันเนี่ยนะ!?" เย่ซีหยูอ้าปากกว้างด้วยความประหลาดใจ เธอสำรวจดูเจียงฮ่าวดีๆอีกรอบ ก่อนส่ายหัวแล้วพูดว่า " ไม่เหมือน ไม่เหมือน มองยังไงก็ทรงนักเลงชัดๆ เขาไม่มีภาพของนักรบเลย แล้วอีกอย่าง อายุ 14 ยังไม่ถึงวัยเกณฑ์ทหาร ..."
" เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน" เฉินเค่อซินไม่อธิบายอะไรมากมาย เธอหันไปพูดว่า " เอาเป็นว่าบ้านหลังนี้เป็นของครอบครัวเขา ฉันแค่ขอยืมมาใช้"
"หาาาาา???"
ได้ยินแบบนั้น เย่ซีหยูยิ่งตะลึง
ใครจะไปทันคิดกันว่าไอ้คนไร้ยางอายที่ดูเหมือนบุกเข้ามาเพื่อก่ออาชญากรรม และเถียงกับเธอตั้งครึ่งค่อนวัน(หมายถึงน๊านนานไม่ใช่ครึ่งวันจริงๆ) ที่แท้จะเป็นเจ้าของบ้าน
พอรู้แบบนั้นมันทำให้เธออายเล็กน้อย แกล้งผิวปากฮัมเพลง ก้มลงหยิบถุงน่อง แล้วเดินหนีไปตามทางเดิน หอบเอาเสื้อผ้าตัวเองกลับห้อง
" งั้นฉันปล่อยให้พี่น้องคุยกันก่อนละกัน แต่ที่แน่ๆฉันจ่ายค่าเช่าแล้ว ถ้ายังไม่หมดสัญญา ต่อให้นายเป็นเจ้าของบ้าน ก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาในห้องฉัน"
ว่าจบ ก็ตามด้วยเสียงประตูปิดดังปัง
"เสี่ยวฮ่าว อย่าโกรธไปเลย ซีหยูก็มีนิสัยแบบนี้ ที่จริงเธอเป็นคนดีนะ" เฉินเค่อซิน ยิ้มเจื่อนให้เจียงฮ่าว
" ไม่หรอกผมไม่ได้เก็บมาใส่ใจ" เจียงฮ่าวส่ายมืออย่างแรง เขาก้มลงคว้าเสื้อลายพรางที่ขาดรุ่งริ่ง แล้วฉีกมันออกด้วยมือเดียว
ร้อนมาก!
ตั้งแต่ก่อนมาที่นี่ตัวเขามีแต่เหงื่อ ตอนนี้เย่ซีหยูหายไปแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นทำตัวสุภาพอีก
กล้ามเนื้อได้สัดส่วนบวกกับโครงกระดูกหนา ลวดลายซิกแพคที่ชัดเจนให้กลิ่นอายของผู้ชาย บวกกับไหล่กว้าง อกที่เชิดขึ้น และรอยแผลเป็นบางจุด ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ความเป็นชาย
เฉินเค่อซินไม่ได้เจอเจียงฮ่าวมาเป็นเวลานาน เมื่อเห็นภาพนี้ ดวงตาทั้งสองนิ่งงันไปครู่หนึ่ง
ริ้วแดงเล็กน้อย เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเธอ
‘หุ่นดีจัง ดีกว่าพวกอปป้าในทีวีไม่รู้กี่เท่า ไหนจะรอยแผลเป็นพวกนี้อีก’
เสน่ห์เช่นนี้เล่นเอาเธอเกือบต้านทานไม่ไหว เอื้อมมือออกไปอย่างไม่อาจควบคุม ลูบลงบนรอยแผลที่พาดผ่านหน้าอกเขา
ร่างบอบบางของเธอสั่นอย่างรุนแรง ใบหน้าสวยๆยิ่งแดงขึ้นไปอีก รีบก้มหัวลง อดลอบร้องในใจไม่ได้ว่า ' โอ้พระเจ้า ไม่อายผีสางเทวดาหรือยังไง ไม่รู้หรอว่าคนนี้น่ะ ลูกพี่ลูกน้องของเธอนะ!'
'ถึงจะเป็นญาติห่างๆ แต่ญาติห่างๆก็ยังถือว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องอยู่ดีเข้าใจไหม!'
อย่างไรก็ตาม เฉินเค่อซินก็ผ่านประสบการณ์ทุกข์ร้อนมามากมายเช่นกัน พอลองคิดดูดีๆ ก็เกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมา
"เสี่ยวฮ่าว หลายปีนี้เธอทุกข์ทรมานไม่น้อยเลยใช่ไหม?"
ผู้หญิงเกิดมาพร้อมอารมณ์อ่อนไหว เมื่อเห็นบาดแผลบนร่างของน้องชาย เฉินเค่อซินก็รู้สึกเจ็บปวดนิดหน่อย
"ผมโอเคก็แค่บาดแผลตื้นๆ ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ" เจียงฮ่าวค่อยๆจับมือเฉินเค่อซินแล้วยกมันออกจากอกเขา
อืม
เนียนนุ่มมาก
" ได้สิ งั้นฉันจะลงไปทำอาหารก่อน เดาว่าตอนนั้นเย่ซีหยูก็น่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเหมือนกัน ไว้เรามาทานอาหารด้วยกัน" เฉินเค่อซินผลักเจียงฮ่าว หมุนตัวบิดเอว ก้าวเท้าเบาๆดั่งกำลังอยู่บนดอกบัว เดินลงไปชั้นล่าง